ทหารรับจ้างแต่ละคนต่างก็ถือภาพเหมือนเอาไว้ในมือ เวลานี้พวกเขากำลังออกค้นหามู่เฟิง มู่ขวงและไป๋จื่อเยว่
มู่เฟิงสังเกตเห็นทหารรับจ้างกลุ่มนั้นจากระยะไกล ท่าทางที่เหมือนกับกำลังตามหาใครบางคนของพวกเขาทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกหวาดระแวงขึ้นมาทันที ไม่นานเขาก็พลันตระหนักได้ว่าเสื้อผ้าและชุดเกราะหนังของกลุ่มคนนี้เหมือนกับชุดของกลุ่มทหารรับจ้างเพลิงโชนที่เขาสังหารไปก่อนหน้านั้น นอกจากนี้บนอกเสื้อของพวกเขายังมีสัญลักษณ์เปลวเพลิงอยู่ด้วย
“เฮ้ๆ รีบดูนั่น เ้าหนุ่มตรงนั้นหน้าตาเหมือนหรือไม่?”
ทหารรับจ้างผู้หนึ่งกางภาพเหมือนออกมา ขณะเหลือบมองไปทางมู่เฟิงและหลิ่วอีเสวี่ยที่อยู่ระยะไกล
“ใช่แล้ว เป็เ้าเด็กนั่น เป็มันที่สังหารหัวหน้า รีบไปรายงานหัวหน้าใหญ่เร็วเข้า”
ทหารรับจ้างผู้หนึ่งที่เคยไล่ตามมู่เฟิงบนูเาะโออกมาเสียงดัง ทันใดนั้นทหารรับจ้างที่เหลืออีกสิบกว่าคนก็ถืออาวุธวิ่งเข้าไปล้อมมู่เฟิงเอาไว้อย่างรวดเร็ว
“ดูเหมือนว่าเ้ากำลังจะประสบปัญหานะ”
หลิ่วอีเสวี่ยที่อยู่ด้านข้างกล่าวขึ้นอย่างใจเย็น นางมองออกในทันทีว่าอีกฝ่ายกำลังพุ่งเป้ามาที่มู่เฟิง
มู่เฟิงหรี่ตาลง ภายในใจของเด็กหนุ่มเต็มไปด้วยความกังวล แน่นอนว่าเขาไม่ได้เป็กังวลเื่ของตัวเอง แต่เขากำลังเป็ห่วงมู่ขวงและไป๋จื่อเยว่ เพราะพวกเขานัดพบกันที่เมืองแห่งนี้โดยไม่รู้เลยว่ากำลังถูกกลุ่มทหารรับจ้างเพลิงโชนหมายหัว
หลังจากทหารรับจ้างกลุ่มนี้เข้ามาล้อมพวกเขาเอาไว้ ทหารรับจ้างผู้หนึ่งก็กล่าวเย้ยหยันขึ้นว่า “เ้าหนุ่ม ใช้ได้เลยนี่ พวกข้ายังคิดว่าเ้าตายในหุบเขาอัคคีไปแล้วเสียอีก”
“เลิกพูดจาเหลวไหลเสียที น้องชายสองคนของข้าอยู่ที่ใด?”
มู่เฟิงถามอย่างเ็า
ชายผู้นั้นกลอกตาก่อนจะแสยะยิ้มออกมา “พวกมันถูกพวกข้าจับตัวได้แล้ว ตอนนี้ก็เหลือเพียงเ้าเท่านั้น หากเ้ายังรู้ความก็ยอมตามพวกข้าไปอย่างเชื่อฟังเถอะ แล้วพวกข้าจะยอมปล่อยตัวพวกมันทั้งคู่ไป”
มู่เฟิงหัวเราะออกมาทันทีหลังจากได้ยินดังนั้น “เ้าคิดว่าข้าจะเชื่อเื่ไร้สาระของพวกเ้างั้นหรือ? การที่เ้านำภาพเหมือนของพวกข้าสามคนออกมาค้นหาแบบนี้ มันก็ชัดเจนแล้วว่าพวกเ้ายังจับใครไม่ได้ด้วยซ้ำ และยิ่งได้ฟังเ้าพูดเช่นนี้ ข้าก็ยิ่งแน่ใจ”
ทหารรับจ้างตรงหน้ากำลังโกหกเขา
“หึ ตอนนี้ไม่ว่าเ้าจะยอมให้จับแต่โดยดีหรือไม่ผลลัพธ์ก็เหมือนกันนั้นแหละ พี่น้องทั้งหลายจับตัวเขาไว้ หัวหน้าใหญ่จะต้องตกรางวัลให้พวกเราอย่างงามแน่นอน”
สีหน้าของทหารรับจ้างผู้นั้นพลันเปลี่ยนเป็เ็า จากนั้นอีกฝ่ายก็ะโออกมาดังลั่นว่า “จัดการเขา!”
บรรดาทหารรับจ้างทั้งหมดต่างก็พุ่งกระโจนเข้าหามู่เฟิงอย่างรวดเร็ว เด็กหนุ่มไม่รอช้ารีบทะยานร่างเข้าหาอีกฝ่ายอย่างไม่ลังเลเช่นกัน เขาสะบัดดรรชนีนิ้วทั้งสองเข้าหาฝ่ายตรงข้ามในทันที
ฉึก! ฉึก!
โดยที่ทหารรับจ้างสองคนไม่ทันตั้งตัว ดรรชนีนิ้วของมู่เฟิงก็แทงทะลุกะโหลกของพวกเขาไปเสียแล้ว เพียงเด็กหนุ่มเริ่มเคลื่อนไหวก็สามารถปลิดชีพของฝ่ายตรงข้ามได้อย่างรวดเร็ว
ในเวลาเดียวกันนั้น คมดาบสามเล่มก็ทะลวงผ่านอากาศมาทางมู่เฟิงพร้อมกัน ทว่าเด็กหนุ่มก็สามารถเคลื่อนกายหลบหลีกได้อย่างว่องไว และทันใดนั้นหมัดที่ถูกห่อหุ้มไว้ด้วยลำแสงสีขาวก็พุ่งออกมาพร้อมกับกระดูกแขนที่ส่งเสียงดังลั่นสิบสองครั้ง ซึ่งหมัดนี้ก็พุ่งกระแทกเข้าที่ศีรษะของทหารรับจ้างผู้หนึ่งอย่างจัง
เปรี้ยง...!
หมัดสีขาวพุ่งกระแทกศีรษะของทหารรับจ้างผู้หนึ่งอย่างรุนแรง ส่งผลให้ศีรษะของทหารรับจ้างผู้นั้นะเิเป็จุณในทันที
ส่วนหลิ่วอีเสวี่ยที่ยืนอยู่ด้านข้างเพียงถือกระบี่เล่มยาวเอาไว้ในมือโดยไม่ได้เคลื่อนไหวทำสิ่งใด คนเหล่านี้เป็เพียงผู้ฝึกยุทธ์ระดับจื่อฝู่เท่านั้น ด้วยระดับวรยุทธ์ของหลิ่วอีเสวี่ยแล้ว นางไม่จำเป็ต้องเปลืองแรงลงมือกับทหารรับจ้างเหล่านี้แม้แต่น้อย
เพียงแต่สิ่งที่ทำให้หญิงสาวรู้สึกคาดไม่ถึงก็คือความสามารถของมู่เฟิง เห็นได้ชัดว่ามู่เฟิงมีวรยุทธ์ระดับจื่อฝู่ขั้นสี่เท่านั้น แต่อานุภาพพลังที่เขาะเิออกมากับไม่ด้อยไปกว่าผู้ฝึกยุทธ์ระดับจื่อฝู่ขั้นหกเลย ยิ่งไปกว่านั้นทักษะร่างกายของเขายังคล่องแคล่วว่องไวและยืดหยุ่นมาก
พรึ่บ!
ฉับพลันนั้นทหารรับจ้างที่เป็ผู้สั่งการก็กวาดปราณดาบสีทองออกมาสายหนึ่ง มันพุ่งทะลวงผ่านอากาศมาทางมู่เฟิงอย่างรวดเร็ว เด็กหนุ่มรีบเบี่ยงตัวไปด้านข้างเพื่อหลบหลีกปราณดาบที่กวาดมาทางเขา แต่เนื่องจากระยะห่างที่ใกล้กันเกินไปทำให้ปราณดาบเล่มนั้นเฉียดผ่านในรัศมีที่เป็อันตรายอย่างยิ่ง เส้นผมของเขาถูกคมดาบตัดขาดหายไปหลายเส้น
เนื่องจากทหารรับจ้างผู้นี้มีวรยุทธ์ระดับจื่อฝู่ขั้นหก ดังนั้นปราณดาบเมื่อครู่ของอีกฝ่ายจึงดุดันเป็อย่างมาก มู่เฟิงดึงดาบออกมาจากด้านหลังและโจมตีกลับอย่างรุนแรง การโจมตีนี้ทำให้อีกฝ่ายตกตะลึงจนต้องถอยออกไป และในขณะเดียวกันนั้น เด็กหนุ่มก็รวบรวมพลังปราณไว้ที่มืออีกข้าง ก่อนจะตวัดลำแสงดรรชนีสีทองไปทางอีกฝ่ายในทันที
ทหารรับจ้างผู้นั้นยกดาบขึ้นมาต้านการโจมตี ลำแสงดรรชนีจึงสะท้อนเข้ากับหน้าดาบ บีบให้อีกฝ่ายต้องถอยออกไปอีกสองก้าว
พรึ่บ...!
ฉับพลันนั้นมู่เฟิงก็ก้าวถอยหลังออกมาอย่างรวดเร็ว และในวินาทีถัดมาเขาก็พุ่งทะยานตัวออกไปอีกครั้งพร้อมกับดาบในมือ เอวของเขาบิดพลิ้วอยู่กลางอากาศ จากนั้นเงาดาบก็ฟันลงมายังร่างของทหารรับจ้างผู้นั้นอย่างต่อเนื่อง
วิชาดาบคลั่ง!
ทหารรับจ้างผู้นั้นพยายามใช้ดาบในมือต้านทานการโจมตี ส่งผลให้เกิดเสียงโลหะกระทบกันดังไม่ขาดสาย
แม้ว่าวิชาดาบคลั่งของมู่เฟิงจะเป็เพียงทักษะดาบระดับธาตุทองขั้นต่ำ และไม่มีการโจมตีของพลังปราณ แต่คุณสมบัติพิเศษของวิชาดาบนี้ก็คือการโจมตีที่รวดเร็วอย่างยิ่ง
เงาดาบหลายสายฟาดฟันลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทหารรับจ้างผู้นั้นต้องก้าวถอยพร้อมกับพยายามต้านทานเอาไว้ด้วย แต่ท้ายที่สุดเขาก็ไม่อาจต้านทานได้อีกต่อไป
ฉึก!
“อ๊าก…!”
เืสีแดงสดพุ่งกระฉูดออกมา ในที่สุดทหารรับจ้างผู้นั้นก็พลาดท่าจนถูกดาบของมู่เฟิงฟันเข้าที่หัวไหล่ แขนของเขาหลุดกระเด็นออกจากร่างในทันที
หลังจากมู่เฟิงฟันแขนของอีกฝ่ายจนขาดออกจากร่างแล้ว เด็กหนุ่มก็ตวัดดาบออกมาอีกครั้ง ปราณดาบสีแดงตัดผ่านลำคอของอีกฝ่ายในทันที ศีรษะของชายผู้นั้นลอยกระเด็นขึ้นกลางอากาศ
เมื่อได้เห็นฉากนี้ก็ไม่มีทหารรับจ้างคนใดกล้าบุกเข้าโจมตีมู่เฟิงอีก
เนื่องจากคนที่มู่เฟิงเพิ่งลงมือสังหารไปเมื่อครู่คือคนที่มีระดับวรยุทธ์สูงสุดในบรรดาพวกเขาแล้ว ส่วนคนอื่นที่เหลือต่างก็มีวรยุทธ์เพียงระดับทงม่ายขั้นเก้าเท่านั้น ดังนั้นพวกเขาย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเด็กหนุ่มอย่างแน่นอน
มู่เฟิงยืนถือดาบไว้ในมือ เวลานี้ฝ่ายตรงข้ามต่างก็หวาดกลัวเขาจนไม่มีใครกล้าก้าวมาข้างหน้า ในขณะเดียวกันนั้น ผู้คนมากมายจากในเมืองก็เริ่มออกมาจับกลุ่มคอยมองสถานการณ์จากรอบนอก
“กลุ่มคนพวกนั้นไม่ใช่คนของกลุ่มทหารรับจ้างเพลิงโชนหรอกหรือ?”
“ถูกต้องแล้ว พวกเขาเป็คนของกลุ่มทหารรับจ้างเพลิงโชน คิดไม่ถึงว่าจะยังมีคนกล้าล่วงเกินพวกเขา”
“เด็กหนุ่มผู้นั้นหาญกล้ายิ่งนัก”
ผู้คนรอบข้างต่างก็วิพากษ์วิจารณ์กันถึงเื่นี้ แม้ว่ามู่เฟิงจะสังหารคนของกลุ่มทหารรับจ้างเพลิงโชนไปหลายคน จนทำให้คนอื่นที่เหลือไม่กล้าเข้าไปโจมตีเขาโดยตรง แต่ถึงอย่างไรเมืองแห่งนี้ก็ถือเป็ค่ายใหญ่ของกลุ่มทหารรับจ้างเพลิงโชน
ในเวลาเดียวกันนั้น บนตรอกซอยขนาดเล็กภายในเมืองได้มีเหล่าทหารรับจ้างกลุ่มใหญ่จำนวนกว่าร้อยคนกำลังเดินออกมาอย่างฮึกเหิม
ด้านหน้าของพวกเขามีชายร่างใหญ่ในชุดคลุมสีเหลืองเป็ผู้นำกลุ่ม
ชายร่างใหญ่ผู้นี้มีความสูงกว่าหกฟุต เส้นผมสีแดง ใบหน้าของเขามีส่วนคล้ายกับกู้เทียนชื่อที่มู่เฟิงสังหารไปก่อนหน้านี้อยู่หลายส่วน
“คนที่มันสังหารบุตรชายข้าอยู่ที่ใด?”
เมื่อชายผู้นั้นมาถึง เขาก็ตวาดออกมาด้วยเสียงอันเย็นะเื
คนผู้นี้ก็คือกู้เฉิงกัง บิดาของกู้เทียนชื่อ
“หัวหน้าใหญ่ มันคือเด็กหนุ่มผู้นั้นขอรับ เมื่อครู่มันก็สังหารพี่น้องของเราอีกหลายคนเลยขอรับ”
ทหารรับจ้างผู้หนึ่งชี้ไปทางมู่เฟิง ขณะกล่าวขึ้นด้วยความเคียดแค้น
กู้เฉิงกังมองไปยังมู่เฟิงด้วยสายตาเ็า ก่อนจะกล่าวขึ้นด้วยเสียงอันเย็นะเืว่า “เป็เ้าที่บังอาจสังหารบุตรชายของข้างั้นรึ”
“นั่นเป็เพราะเขา้าจะสังหารข้าก่อน จะมากล่าวโทษข้าไม่ได้”
มู่เฟิงยอมรับด้วยท่าทางเฉยเมย
“กล้ามาก ล้อมมันไว้ให้ข้า”
ใบหน้าของกู้เฉิงกังเดือดดาลจนถึงขีดสุด เขาออกคำสั่งในทันที ไม่นานผู้คนนับร้อยก็เข้ามาโอบล้อมมู่เฟิงและหลิ่วอีเสวี่ยเอาไว้อย่างรวดเร็ว
ไกลออกไปภายในเมืองนั้น เด็กหนุ่มสองคนที่แต่งกายด้วยผ้าขี้ริ้วและเต็มไปด้วยฝุ่นโคลนเหมือนขอทานกำลังเฝ้ามองสถานการณ์ด้วยความเป็กังวล
“แย่แล้ว พี่เฟิงกำลังถูกล้อม”
แน่นอนว่าเด็กหนุ่มสองคนนี้ก็คือมู่ขวงและไป๋จื่อเยว่
ก่อนหน้านี้หลังจากที่เด็กหนุ่มทั้งสองมาถึงเมืองหุบเขาอัคคีเพื่อรอมู่เฟิงตามคำสั่ง พวกเขาก็พบว่ากลุ่มทหารรับจ้างเพลิงโชนกำลังตามล่าตัวพวกเขาสามคนอยู่ เด็กหนุ่มทั้งสองจึงแสร้งทำเป็ขอทานและรอมู่เฟิงอยู่ในเมือง
พวกเขาสองคนหันมามองหน้ากัน จากนั้นก็วิ่งฝ่าฝูงชนเข้าไปยืนข้างซ้ายและข้างขวาของมู่เฟิงในทันที
“เสี่ยวขวง จื่อเยว่”
มู่เฟิงจำคนทั้งสองได้อย่างรวดเร็ว เขากล่าวเรียกอีกฝ่ายด้วยความยินดีระคนประหลาดใจกับสภาพของอีกฝ่าย
“พี่เฟิง ครั้งนี้พี่จะทิ้งพวกเราอีกไม่ได้นะ ไม่ว่าพี่จะพูดอย่างไรก็ตาม ในเมื่อเราเป็พี่น้องกัน หากต้องตายเราก็จะตายไปด้วยกัน”
มู่ขวงจ้องมองฝูงชนตรงหน้า แววตาของเขาดูมุ่งมั่นแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจอันเด็ดเดี่ยว
“ถูกต้อง ร่วมเป็ร่วมตาย”
ไป๋จื่อเยว่กล่าวเสริม
เมื่อมู่เฟิงเห็นเด็กหนุ่มทั้งสองวิ่งเข้ามาหาเขาโดยไม่หวาดกลัวต่อความตาย ภายในหัวใจของเขาก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมา เมื่อมีพี่น้องที่ดีเช่นนี้เขาจะยัง้าสิ่งใดอีก?
“ไม่ต้องห่วง คราวนี้พวกเราจะไม่เป็อะไร ใช่หรือไม่ขอรับผู้าุโ”