มู่ชิงอู่และซ่างกวนไล่ตามไปที่ขอบหน้าผา ทันใดนั้นก็เห็นเงาดำในป่าูเาทางตอนเหนือ
ราวกับหมู่เมฆดำ
เกิดอะไรขึ้น?
ทั้งสองที่ไม่รู้เื่รู้ราวอะไร เห็นร่างของท่านอ๋องค่อยๆ ไกลออกไป ก็ยังคงลังเล ไม่แน่ใจว่าควรจะตามไปหรือไม่?
โดยไม่คาดคิด ในขณะที่พวกเขากำลังลังเล จู่ๆ เมฆสีดำรูปวงรีขนาดใหญ่ทางทิศเหนือก็เปลี่ยนไป มันค่อยๆ ขยายแถวกลายเป็แถบยาวเส้นหนึ่ง และมีสัญญาณที่ชัดเจนว่าจะแผ่กระจายไปทางทิศเหนือ
เกิดอะไรขึ้น?
เป็ไปได้หรือไม่ที่พิษมันจะเปลี่ยนรูปร่างได้ แต่ต่อให้มันจะเปลี่ยนรูปร่างเพราะลม อย่างไรมันก็เป็ไปไม่ได้เลยที่จะรวดเร็วและเป็ระเบียบขนาดนี้?
อีกอย่าง ลมยังพัดมาจากทางเหนือ
แปลกเหลือเกิน
“แม่ทัพใหญ่ นี่…นี่เป็พิษจริงๆ หรือ?” ซ่างกวนที่คิดว่าไม่ว่าจะดูอย่างไรก็มีบางอย่างไม่ถูกต้อง
มู่ชิงอู่จ้องมองไปที่หมอกสีดำอย่างแน่วแน่ และเห็นว่าหมอกสีดำกำลังไหลไปจริงๆ มองจากระยะไกลภายใต้แสงอาทิตย์แล้ว มันก็ดูเหมือนผ้าสีดำที่ลอยอยู่กลางอากาศที่ลอยไปทางทิศเหนือ และความเร็วก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ!
ไม่ว่าจะเป็คนโง่ขนาดไหนก็มองออก นี่ไม่ใช่พิษแน่นอน!
“ตามไป!”
มู่ชิงอู่ที่พูดพลางเหาะลงไปและไล่ตามไปทันที ซ่างกวนเองก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย ตามหลังไปติดๆ
ในเวลานี้ หลงเฟยเยี่ยอยู่ใกล้กับฝูงยุงอย่างมาก
เขาร่อนลงบนต้นไม้ข้างๆ เห็นได้อย่างชัดเจนว่ายุงพิษดูเหมือนจะกำลังแย่งชิงอะไรบางอย่างในอากาศ พวกมันต่างก็ตะเกียกตะกายเพื่อบินไปข้างหน้าในขณะที่ต่อสู้กัน
หากไล่ตามทิศทางนี้ จะไล่ตามหานอวิ๋นซีทันใช่หรือไม่?
หลงเฟยเยี่ยไม่ได้ไล่ตามไปข้างหน้า แต่ไล่ตามอยู่หลังกลุ่มยุงพิษ เขารู้ว่าตราบใดที่เขาไล่ตามยุงกลุ่มนี้ คงไม่พลาดอย่างแน่นอน ด้วยยุงพวกนี้มีประสาทรับกลิ่นที่ไวกว่ามนุษย์มาก
ความเร็วของฝูงยุงพิษนั้นไม่ได้เร็วมากนักและตามทันได้ไม่ยาก
ห่างไปจากฝูงยุงพิษประมาณหนึ่งลี้ นักฆ่าหญิงในชุดเขียวพาหานอวิ๋นซีไปด้วยความเร็วเต็มกำลัง ซึ่งอยู่ออกไปค่อนข้างไกล ด้วยฝูงยุงพิษนั้นไม่มีเสียง พวกเขาจึงไม่สังเกตเห็นอะไรแปลกๆ ข้างหลัง
ประการแรก นางต้องหลบหนีอย่างสุดกำลังเพื่อความปลอดภัย ประการที่สอง พระเ้ารู้ดีว่าสตรีผู้นี้จะพาไปฐานทัพใหญ่ของพวกนางในเทียนหนิง และตราบใดที่นางจัดการเื่นี้เสร็จ นางก็จะสามารถกลับไปได้ อีกทั้งนางเองก็เป็สายสืบที่ละเอียดอ่อนและมีความรับผิดชอบสูง หากออกมานานเกินไป อาจทำให้เกิดความระแวงสงสัยได้
ความเร็วของนักฆ่าหญิงในชุดเขียวนั้นเร็วอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน อย่างไรก็ตาม ไม่ไกลจากด้านหลังของนางนัก มีเงาสีแดงร่างหนึ่งเหมือนลูกธนูคมกริบพุ่งผ่านหญ้าตามมาติดๆ
ไม่รู้ว่าวิ่งมานานขนาดไหนแล้ว ทว่าจู่ๆ เงาสีแดงก็หยุดกะทันหันและร่างนั้นก็หลบไปซ่อนหลังลำต้นของต้นไม้ใหญ่
คนผู้นี้ นอกจากกู้ชีฉ่าวแล้วจะเป็ใครได้อีก?
เมื่อพวกของนักฆ่าหญิงในชุดเขียวออกไปไกล เขาจึงจะยืนขึ้น เงยหน้าขึ้นและสูดอากาศ จากนั้นก็ยื่นมือออกไปและยืนต้านทิศทางลมอยู่ครู่หนึ่ง
เขาเอามือลง และสูดกลิ่นที่ฝ่ามือของเขาเบาๆ จากนั้นก็ผงะไปครู่หนึ่งแล้วยิ้มออกมา
“สาวน้อยยาพิษ...เ้าช่างมีความสามารถมากจริงๆ!”
ดวงตาที่เรียวยาวเป็เส้นโค้ง หากให้พูดว่าดูดีขนาดไหน ก็ต้องบอกว่าดูดีอย่างมาก เขาหันกลับไปมอง แลบลิ้นอย่างสนุกสนานแล้วก็หันกลับมา จากนั้นก็ไล่ตามไปอย่างรวดเร็ว
ยุงพิษและพวกของนักฆ่าหญิงในชุดเขียวอยู่ห่างกันเพียงูเาสองลูกเท่านั้น ยุงพิษที่ไล่ตามไปพลาง แย่งชิงผงยาในอากาศไปพลาง แน่นอนว่าความเร็วไม่ได้เร็วมากนัก นอกจากนี้ความเร็วของนักฆ่าหญิงในชุดเขียวยังเร็วมาก ต่อให้ถึงเช้าวันรุ่งขึ้น ยุงพิษก็ยังตามแหล่งที่มาของผงยาในมือของหานอวิ๋นซีไม่ทัน
ระหว่างพวกเขา ยังห่างกันด้วยูเาหนึ่งลูก
และในเวลานี้ มู่ชิงอู่กับซ่างกวนตามหลงเฟยเยี่ยมาทันแล้ว
“ท่านอ๋อง เกิดอะไรขึ้นหรือ?” มู่ชิงอู่ถามอย่างจริงจัง เขาเดาได้คลุมเครือแต่ก็ไม่แน่ใจ
ทันทีที่หลงเฟยเยี่ยอธิบายสถานการณ์ มู่ชิงอู่และซ่างกวนก็ตกตะลึง
“พูดเช่นนี้ แสดงว่านักฆ่าก็อยู่ข้างหน้า ทำไมท่านอ๋องถึงไม่ไล่ตามไปล่ะพ่ะย่ะค่ะ?” ซ่างกวนที่ตื่นเต้นอย่างมาก
“ข้าอยากรู้มากกว่าว่าพวกเขา้าพาหานอวิ๋นซีไปที่ไหน”
หลงเฟยเยี่ยที่ให้ความสนใจอย่างมาก ทว่าก็ไม่ใจร้อนแต่อย่างใด หากเขา้าไล่ตาม ตอนนี้คงจะช่วยหานอวิ๋นซีได้แล้วกระมัง? ถ้าเขาไม่ไล่ตาม เขาจะจับปลาตัวใหญ่ได้ยาวเป็แถว
ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา มู่ชิงอู่และซ่างกวนก็เข้าใจทันที แต่ในไม่ช้าซ่างกวนก็งงงวยอีกครั้ง หากท่านอ๋องเป็ห่วงหวังเฟยจริงๆ ปฏิกิริยาแรกก็น่าจะต้องช่วยชีวิตนางไม่ใช่หรือ?
แต่ตอนนี้ วิธีการของเขาคือการใช้หวังเฟยเป็เหยื่อล่อเพื่อตรงไปยังที่ซ่อนของโจรอย่างไม่ต้องสงสัย บางทีนักฆ่าอาจจะฆ่าตัวประกันก็ได้!
เมื่อมองไปยังใบหน้าที่เ็าและแน่วแน่ของฉินอ๋องแล้ว ซ่างกวนก็มั่นใจว่า เื่เมื่อวานของมู่ชิงอู่ผิดพลาดอย่างแน่นอน
เสียสละหานอวิ๋นซีหนึ่งคนและเปิดโปงกลุ่มนักฆ่า สำหรับท่านอ๋องแล้วเท่ากับการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว เื่ทั้งสองจบได้อย่างสวยงาม หานอวิ๋นซีเสียสละเพื่อหน้าที่และจวนฉินอ๋องก็จะได้หน้า
ฉินอ๋องพูดขนาดนี้ มู่ชิงอู่และซ่างกวนก็ไม่กล้าที่จะเร่งรัด ดังนั้นพวกเขาจึงได้แต่เดินตามหลังอย่างใกล้ชิด
พวกของนักฆ่าหญิงในชุดเขียวอยู่ข้างหน้า กู้ชีฉ่าวอยู่ข้างหลัง ฝูงยุงพิษเองก็อยู่ถัดไปข้างหลัง และหลงเฟยเยี่ยอยู่ท้ายสุด การไล่ตามนี้เหมือนตั๊กแตนจับจักจั่น นกขมิ้นที่อยู่ข้างหลัง[1] สุดท้ายแล้วใครจะเป็นกขมิ้นตัวสุดท้ายกัน?
เวลาที่ไหลผ่านไป และดูเหมือนว่าจะผ่านไปหลายวันแล้ว ระยะทางเองก็เข้าใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ละอองของผงยาไล่ยุงในอากาศก็มากขึ้นเรื่อยๆ ความเร็วของฝูงยุงพิษก็ค่อยๆ ช้าลง
ใน่เช้าตรู่ของวันนี้ หานอวิ๋นซีก็หยุดปล่อยผงยาไล่ยุง
หลังจากผ่านไปหลายวัน นักฆ่าหญิงในชุดเขียวก็เงียบไปตลอดทาง แต่หานอวิ๋นซีรู้สึกได้ว่าจุดหมายปลายทางของพวกเขากำลังจะมาถึงในไม่ช้า
นางดึงดูดยุงพิษฝูงใหญ่ด้านหลังมาขนาดนั้นขนาดนั้น เป็ไปได้หรือไม่ที่จะไม่มีใครสังเกตเห็นความแปลกประหลาดในป่าบนูเาเลย?
กล่าวอีกนัยหนึ่ง หลังจากฝูงยุงพิษกระจายออกไปเมื่อวานนี้ คนที่ค้นหาบนูเาทั้งหมดก็ถอนตัวออกไป และไม่มีใครอยู่สักคน ดังนั้นเลยไม่มีใครพบฝูงยุงพิษที่รวมตัวกันอีกครั้งในถิ่นแห้งแล้งเช่นนี้?
แม้ว่ามู่ชิงอู่และซ่างกวนจะประมาทเลินเล่อ แต่หลงเฟยเยี่ยคงไม่ยอมแพ้เร็วขนาดนั้น เขาควรจะคิดได้ว่านางใช้ฝูงยุงพิษสิ!
แม้ว่าเขาจะคิดไม่ถึง อย่างน้อยด้วยนิสัยใจคอของเขา มันก็เป็ไปไม่ได้ที่จะถอยเมื่อเจออุปสรรค จริงหรือไม่?
หรือชายผู้นั้นไม่มาจริงๆ?
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าชายผู้นั้นจะไม่มาจริงๆ แต่ฝูงยุงพิษจำนวนมากในป่าบนูเาก็คงสลายไปนานแล้ว มู่ชิงอู่กับซ่างกวนเองก็น่าจะส่งคนขึ้นมาค้นหาบนูเาอีกครั้งสิ!
ดูจากเวลาแล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็น่าจะเจอกับฝูงยุงพิษที่เคลื่อนไหวไปไม่ใช่หรือ?
หลายวันขนาดนี้ ทำไมข้างหลังถึงไม่มีการเคลื่อนไหวเลยแม้แต่น้อยล่ะ?
เป็ไปได้หรือไม่ว่า...มู่ชิงอู่และคนอื่นๆ จะเลิกไล่ตามแล้ว?
การลักพาตัวฉินหวังเฟยเป็เื่ใหญ่ จะมีใครที่สามารถทำให้มู่ชิงอู่และซ่างกวนเลิกติดตามได้กันล่ะ? มีเพียงหลงเฟยเยี่ยคนเดียวเท่านั้น
เขาไม่มาด้วยตัวเอง เขาไม่แม้แต่จะสนใจนางแล้ว เลยถือโอกาสนี้เพื่อให้นางตายอย่างนั้นหรือ?
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ดวงตาที่เปล่งประกายแต่เดิมของหานอวิ๋นซีก็ค่อยๆ มืดลง นางชะงักไปเป็เวลานานก่อนที่จะกระตุกมุมปากและแสดงรอยยิ้มดูถูกตัวเองออกมา
หลงเฟยเยี่ยจะมาที่นี่ทำไมกัน? แล้วเขาจะช่วยนางไปทำไม?
ในวันที่อากาศหนาวเย็นเช่นนี้ เขาคงนั่งข้างกองไฟในห้องอุ่นๆ รออย่างอดทนให้กลุ่มนักฆ่าบุกเข้ามาที่ประตูด้วยตัวเอง
หรือปล่อยให้นักฆ่าฆ่าตัวประกันไปเลย
ไท่เฮาสั่งให้อภิเษก ฮ่องเต้ก็บังคับให้อภิเษก หากไม่มีเหตุผลที่ดีเขาคงไม่สามารถหย่าร้างได้ ต่อให้นางจะตาย จวนฉินอ๋องก็ต้องมีเหตุผลดีๆ ที่จะอธิบายให้ผู้คนเข้าใจ
เวลานี้ ไม่ใช่โอกาสที่ดีที่สุดหรอกหรือ?
ในขณะเดียวกัน อยู่ๆ นักฆ่าหญิงในชุดเขียวก็ล้มลงกับพื้นอย่างไม่ทันตั้งตัว เท้าของหานอวิ๋นซีก็เหยียบลงบนพื้นอย่างแรง เท้าขวาที่ยังไม่ทันจะหายดีก็ถูกกระแทกเข้าอย่างจัง จู่ๆ ข้อเท้าก็เจ็บจนทำให้เส้นประสาทของนางตึงขึ้น
ในความเ็ปนี้ ริมฝีปากของหนาอวิ๋นซีกลายเป็เสียงหัวเราะเบาๆ ชายผู้นั้นแค่นวดเท้าให้นางไม่กี่ครั้ง นางจะไปลืมตัวตนที่น่าอายของตนเองได้อย่างไรกัน คิดว่าตัวเองสำคัญจริงๆ อย่างนั้นหรือ?
ขึ้นหนาซานอะไรกัน เก็บหนานซานหงอะไรกัน?
“เ้าหัวเราะอะไร?” นักฆ่าหญิงในชุดเขียวถามอย่างระแวดระวัง
หานอวิ๋นซีเหลือบมองนาง พร้อมกับรอยยิ้มที่เปลี่ยนเป็เ็า และไม่ตอบอะไรใดๆ
รอยยิ้มของสตรีผู้นี้เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความโเี้ที่แม้แต่ชายหนุ่มก็เทียบไม่ได้ ทำให้นักฆ่าหญิงในชุดเขียวหวาดกลัวขึ้นมาอย่างไร้เหตุผล นางคว้าคอเสื้อหานอวิ๋นซี “เ้าหัวเราะอะไร?”
ในที่สุด นักฆ่าหญิงในชุดเขียวที่เงียบมาหลายวันก็อ้าปากพูด
หานอวิ๋นซีมองนางอย่างเ็า รอยยิ้มบนริมฝีปากก็น่ากลัวขึ้นไปอีก และไม่พูดอะไรอีกตามเคย
นักฆ่าหญิงในชุดเขียวกระวนกระวายยิ่งกว่าเดิม จับคอเสื้อนางแล้วผลักอย่างแรง “พูดมาสิ เ้าหัวเราะอะไร?”
ใครจะรู้ว่าในขณะเดียวกัน มีน้ำเสียงทุ้มต่ำเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลังโดยไม่คาดคิด “ชิงอี เ้ามันก็แค่สตรีผู้โง่เขลา เ้ากำลังถูกคนตามอยู่!”
นักฆ่าหญิงในชุดเขียวตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็หันหน้าไปมอง และเห็นชายร่างสูงกำยำในชุดดำปรากฏอยู่ข้างหลังที่ไม่รู้ว่ามาั้แ่เมื่อไร เสื้อคลุมสีดำตัวกว้างของเขาปลิวไปตามแรงลม บนใบหน้าของเขาสวมหน้ากากปีศาจเขี้ยว เผยให้เห็นแค่ปากเท่านั้น ดวงตาของเขาก็ดุร้ายมากพอที่จะทำให้เมินเฉยต่อหน้ากากที่น่ากลัวและเพ่งความสนใจไปที่ดวงตาของเขาเท่านั้น
“ท่านหัวหน้า!” นักฆ่าหญิงในชุดเขียวโพล่งออกมา
ท่านหัวหน้า!
หานอวิ๋นซีถึงกับตกตะลึงไป นางรู้ว่าชายสวมหน้ากากสีดำที่อยู่ตรงหน้านางต้องเป็หัวหน้าของผู้ทรยศในเป่ยลี่อย่างแน่นอน และยังเป็ผู้วางยาพิษระดับปรมาจารย์ที่นางสงสัยมาตลอดด้วย
ทันใดนั้น ชายสวมหน้ากากสีดำก็เดินเข้ามา มีความลึกลับพร้อมกับดวงตาที่คุกคาม จ้องมองตรงมาที่หานอวิ๋นซี หานอวิ๋นซีใและ้าที่จะถอยหนีโดยไม่รู้ตัว ทว่าเพิ่งจะตระหนักได้ว่าตนเองถูกนักฆ่าหญิงในชุดเขียวขวางเอาไว้ โดยไม่สามารถขยับได้
“ยาไล่ยุงเป็ของเ้าหรือไม่?” ชายในชุดดำถาม เสียงของเขาทุ้มต่ำจนฟังดูเหมือนมาจากส่วนลึกของนรก
หานอวิ๋นซีตัวสั่นอย่างช่วยไม่ได้ เพียงแต่แม้ว่าจะกลัว นางกลับกังวลกับสิ่งที่เขาเพิ่งพูดไปเมื่อครู่มากกว่า เขาบอกว่านักฆ่าหญิงในชุดเขียวกำลังถูกคนไล่ตามอยู่อย่างนั้นหรือ?
เป็ไปได้หรือไม่ว่าจะมีคนมาตามฝูงยุงพิษมาจริงๆ?
เป็ใครกันนะ?
เมื่อเห็นว่าหานอวิ๋นซีไม่ตอบ ชายสวมหน้ากากสีดำก็บีบคางของนางทันที ออกแรงโดยที่ไม่ได้รู้สึกสงสารนางแม้แต่น้อย หานอวิ๋นซีรู้สึกว่ากรามของนางกำลังจะแตก
“ตอบคำถามข้ามา!” น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร นักฆ่าหญิงในชุดเขียวที่อยู่ข้างๆ เองก็หวาดกลัวไปด้วย
ใครจะไปรู้ว่าหานอวิ๋นซีที่ถูกบีบคางอย่างรุนแรง จะพูดกลับมาอย่างเ็าว่า “ถ้าใช่ แล้วจะทำไมล่ะ?”
มือของชายสวมหน้ากากสีดำที่เห็นได้ชัดว่าแข็งทื่อไปเล็กน้อย แต่เผยให้เห็นแค่ครู่เดียวเท่านั้นและกลับมาเป็ดังเดิม พร้อมกับความโกรธเกรี้ยว แต่ไม่คาดคิดว่าหานอวิ๋นซีจะพูดอย่างเ็าอีกครั้งงว่า “การแข่งขันระหว่างเ้ากับหลงเฟยเยี่ยขึ้นอยู่กับความสามารถของเ้า ลักพาตัวผู้หญิงอ่อนแอมาขู่เช่นนี้ เ้าไม่อายบ้างหรือ?”
“บังอาจนัก!” นักฆ่าหญิงในชุดเขียวะโอย่างโกรธเกรี้ยว ตามด้วยฝ่ามือที่ตบลงมา ไม่เคยมีใครกล้าทำตัวอวดดีกับหัวหน้าเช่นนี้มาก่อน
อย่างไรก็ตาม ชายสวมหน้ากากสีดำกลับผลักนักฆ่าหญิงในชุดเขียวออกอย่างไม่ใส่ใจ และพูดอย่างเ็าว่า “ไร้ประโยชน์ เ้าไสหัวออกไปได้แล้ว”
ขณะที่พูด เขาก็ดึงหานอวิ๋นซีออกจากมือของนักฆ่าหญิงในชุดเขียว และโอบนางเข้ามาในอ้อมแขนของตนเอง ใบหน้าของหานอวิ๋นซีกระแทกหน้าอกเขาอย่างแรง มันเ็ปมากจนนางอยากจะร้องไห้
อ้อมกอดนี้เต็มไปด้วยความเป็ชายที่ยโสโอหัง และไม่คุ้นเคยจนน่ากลัว หานอวิ๋นซีเงยหน้าขึ้นด้วยความโกรธและตะคอกอย่างเกรี้ยวกราด “ปล่อยข้านะ!”
ชายสวมหน้ากากสีดำยิ้มอย่างเ็า “หานอวิ๋นซี เ้าพลาดแล้ว ข้าไม่ได้ตั้งใจจะขู่หลงเฟยเยี่ยด้วยการลักพาตัวเ้าหรอก ข้าแค่อยากได้เ้าก็เท่านั้น!”
แค่อยากได้นาง?
ไม่รู้ว่าในประโยคนี้เขาหมายถึงอะไรกันแน่ แต่จากดวงตาที่มืดมิดของเขาเหมือนยามราตรี หานอวิ๋นซีเห็นได้ชัดว่ามีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะ
นางกลัวจริงๆ!
----------------------------
[1] ตั๊กแตนจับจักจั่น นกขมิ้นที่อยู่ข้างหลัง หมายถึง ผู้ที่ไร้วิสัยทัศน์ มักเล็งผลระยะสั้นโดยไม่ระวังว่าจะมีผลร้ายในระยะยาวรออยู่
