“รู้แล้วครับผมรู้ความเหมาะสมครับ ผมยังไม่ไปหาเขาชั่วคราว” อย่างน้อยก็ไม่ไปหาเขาอย่างโจ่งแจ้งกู้หลานอันกล่าวเสริมในใจเงียบ ๆ หันหลังแล้วเดินจากไปหวังเว่ยผงกหัวไปทางอันนาและซู่หยางแล้วรีบตามออกไป
“เ้าลูกคนนี้ ชอบทำให้คนอื่นเป็ห่วงอยู่เรื่อย” อันนามองตามหลังกู้หลานอันแล้วบ่น “โชคดีที่เขาอยู่ในวงการบันเทิงแค่ปีเดียวไม่อย่างนั้นคงเหลวแหลกแน่นอน”
“ไม่แน่หรอก” ซู่หยางพูดต่อ “ถึงแม้หลานอันจะทำเื่บางอย่างด้วยความเอาแต่ใจไปหน่อยแต่ทักษะการแสดงเขาดี อุปนิสัยก็ดี แล้วบวกกับที่เขามีทรัพยากรถ้าเกิดเขาเอาจริงขึ้นมา ในเวลาที่เหมาะสม จะกลายเป็ซุปเปอร์สตาร์ดาวมฤตยูดวงหนึ่งก็ไม่ใช่ปัญหา”
“เป็ไปได้เหรอ? ” อันนาหรี่ตาและยิ้มด้วยความปลาบปลื้ม
“ทัศนะในการมองคนของผมไม่เคยพลาด” ซู่หยางพูดด้วยความมั่นใจแล้วลุกขึ้นยืนดั่งขุนนางก้มตัวลงไปเก้าสิบองศาแล้วยื่นมือออกไปหาอันนาแล้วพูดว่า “ราชินีอัน หลานอันไปแล้วพวกเราก็ควรเริ่มทำงานกันได้แล้วคุณเตรียมตัวพร้อมรึยัง? ”
“ฉันยังต้องเตรียมตัวอีกเหรอ? ” อันนาถามกลับอย่างหยิ่งผยอง ยื่นมือไปแตะมือของซู่หยาง
“พี่อัน...” เมื่อตามกู้หลานอันทันขึ้นลิฟท์แล้ว หวังเว่ยกำลังจะเปิดปากพูด ก็ถูกกู้หลานอันตัดบทว่า “บอกแล้วว่าผมอายุน้อยกว่า ไม่ต้องเรียกพี่ เรียกชื่อผมก็ได้”
“ได้” หวังเว่ยตอบรับรีบเปลี่ยนคำเรียกแล้วพูดว่า “หลานอันรถตู้กับโชเฟอร์จัดมาแล้ว ที่ ๆ คุณจะไปไกลรึเปล่า จะให้ขับรถไปที่นั่นไหม? ”
“ใช่ คุณโทรศัพท์บอกให้เขามาที่นี่ได้เลย” กู้หลานอันตอบ
ลงจากลิฟท์ มองหวังเว่ยโทรศัพท์ กู้หลานอันก้มหน้าหยิบมือถือออกมากำลังจะโทรศัพท์นัดคนมาเจอก็ได้ยินเสียงผู้หญิง “หลานอัน บังเอิญจังเลย”
กู้หลานอันเงยหน้า พอเห็นหน้าคนที่เดินมาเขายกมุมปากขึ้นอย่างขบขันนี่ไม่ใช่คนที่ยังอยู่ที่ประตูตอนเขาออกจากลิฟท์เหรอทำไมเขาแค่ก้มหน้าไปครู่เดียวก็มาถึงตรงนี้แล้ว? ความเร็วในการวิ่งนี้ทำได้อย่างไร
เมื่อเห็นกู้หลานอันยิ้ม สวีย่านึกว่าเขาดีใจที่เห็นตัวเองก้มหน้าใบหน้าขวยเขิน ย่นตาอย่างภูมิใจเสน่ห์ของเธอมีแค่ไม่กี่คนที่จะสามารถต้านทานได้
“ทำไมป่านนี้คุณยังอยู่ในบริษัทอีกล่ะ? ยังไม่ได้เริ่มทำงานเหรอคะ? ” หลังจากรอกู้หลานอันที่ไม่พูดอะไรเลยมาครึ่งค่อนวันได้สวีย่าเงยหน้าถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“ยังไม่ได้ทำ วันมะรืนถึงจะเข้าร่วมพิธีเปิดกล้อง” กู้หลานอันตอบอย่างเรียบ ๆ
“พิธีเปิดกล้อง นี่คุณจะถ่ายละครเลยเหรอคะ? สะดวกบอกฉันไหมคะว่าเป็ละครประเภทไหน? ” เห็นกู้หลานอันก้มหน้าจ้องแต่หน้าจอมือถือในหน้าการป้อนรหัสผ่านไม่ส่งสายตามามองเธอเลยสักนิด สวีย่าเงยหน้ากัดฟันถาม
“<< ความฝันที่ล่องลอย >>” กู้หลานอันพูดจบวางมือบนแป้นตัวเลขเงยหน้าพูดกับสวีย่า “ผมมีธุระต่อ ไปก่อนนะ” แล้วก้าวขาจากไป มือกดลงไปในแป้นตัวเลขเวลาเดียวกันกับตอนที่พูด
“ลาก่อนค่ะ” สวีย่าโบกมือตามหลังของเขาไปน้ำเสียงร่าเริงแจ่มใส แต่สีหน้ากลับเ็า
“ความฝันที่ล่องลอยเหรอ? ” พูดด้วยเสียงกระซิบ สวีย่าเอื้อมมือไปหาผู้ช่วยฯ ที่อยู่ด้านหลังเธอผู้ช่วยฯ เข้าใจภายในวินาทีเดียวแล้วยื่นโทรศัพท์มือถือให้เธอเดินไปอีกฝั่งที่ปลอดคนแล้วกดโทรออก พอได้ยินเสียงรับสายพูดเสียงอ้อนกับอีกฝั่งของสายว่า “พ่อทูนหัวเย็นนี้คุณยุ่งมั้ยคะ? หนูอยากเชิญคุณทานอาหารเย็น”
“คืนนี้มีงานเลี้ยง ต้องไปสักหน่อย ไม่สามารถไปทานเป็เพื่อนเธอได้มีอะไรรึเปล่า? ” สายโทรศัพท์อีกฝั่งพูด
“อืม เมื่อเร็ว ๆ นี้มีละครเื่หนึ่ง บทนางเอกเหมาะกับหนูมากขบวนนักแสดงหนูก็ชอบ แต่ว่าเขาวางตัวนางเอกไว้แล้ว หนูอยากให้พ่อทูนหัวช่วยหนู...”( ตัดบทสนทนาที่ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการทั้งหลายออก )
เมื่อได้คำพูดที่แน่นอนของพ่อทูนหัวว่า บทนางเอก<< ความฝันที่ล่องลอย >>จะเป็ตัวเองสวีย่าถึงวางสายโทรศัพท์แล้วโยนมือถือไปทางผู้ช่วย มองผู้ช่วยรับไว้ได้อย่างหวุดหวิดพูดด้วยเสียงเ็าว่า “ระวังหน่อยถ้าเสียเธอได้ใช้คืนแน่”
“ฉัน...” ใบหน้าของผู้ช่วยฯ เต็มไปด้วยความเสียใจกำลังจะพูดอาซาผู้จัดการที่อยู่อีกด้านทำท่าทางหยุดยั้งไว้มาทางเธอเธอถึงได้อดทนกลืนเสียงแล้วถอยไปอีกด้าน อาซามองผู้ช่วยฯ แล้วได้แต่ส่ายหัวพูดกับสวีย่าว่า “เสี่ยวย่า เธอจะแสดง << ความฝันที่ล่องลอย >>? งั้นเื่ก่อนหน้า << หญิงสาวตัวน้อย >> จะทำยังไง? เธอไม่แสดงแล้วเหรอ? เธอเซ็นสัญญาไปแล้วถ้าหากผิดสัญญาต้องจ่ายค่าชดเชยในการผิดสัญญานะ”
“จ่ายก็จ่ายสิ มันจะแค่ไหนกันเชียว เงินแค่นั้นมันจะไปมีความหมายอะไร? รอให้ฉันเป็พระชายาของคุณชายแห่งเหิงอันกรุ๊ปก่อนเถอะที่มีน่ะเงินทั้งนั้น” สวีย่าตอบอย่างไม่ใส่ใจ
โทรศัพท์โทรติดมานานมากแล้วแต่ไม่มีคนรับสายกู้หลานอันรอจนใจร้อนกำลังจะวางสายก็มีคนรับพอดี ได้ยินเสียงข้างในที่ลอดผ่านสายมาเขารีบ่ชิงการพูดโทรศัพท์ให้กระชับที่สุดและไม่ได้ฟังว่าอีกฝั่งจะพูดอะไรก็พูดว่า “ผมคือกู้หลานอัน ผมมีข้อมูลมาให้คุณ นัดสถานที่เจอกันหน่อย” ฟังทางโน้นพูดชื่อที่อยู่แล้วกู้หลานอันก็วางสายโทรศัพท์
เมื่อขึ้นนั่งบนรถที่หวังเว่ยเรียกมาถึงร้านกาแฟที่นัดไว้ หลี่เจีย( คนที่กู้หลานอันนัดไว้) นั่งรอเขาอยู่ก่อนแล้ว กู้หลานอันสวมแว่นกันแดดมองทะลุผ่านหน้าต่างรถพลางจ้องคนที่นั่งอย่างเรียบร้อยกำลังดื่มน้ำส้มอยู่มุมร้านคนที่ติดตามตัวเองเมื่อชาติที่แล้ว ผลักให้ตัวเองลงสู่ขุมนรกของวงการบันเทิงมองเห็นคลิปวิดีโอในมือถือจิตใจฮึกเหิมและองอาจห้าวหาญของปาปารัสซี่อันดับหนึ่งของประเทศจีน เทียบกันแล้วหลี่เจียตอนนี้ดูอายุน้อยอ่อนวัยตกอับมากกว่ามากมายกู้หลานอันยิ้มอย่างเ็า คนคนนี้แหละ เพื่อเงินเขียนให้ฟู่ซีที่เดิมทีก็คุยโตโอ้อวดอยู่แล้วให้ดูเป็คนคุยโตโอ้อวดมากขึ้นไปอีกจนทำให้ฟู่ซีหมดสิ้นทุกอย่างภายในพริบตา
“หลานอัน อยากให้ผมเข้าไปด้วยไหม? ” หวังเว่ยที่อยู่ข้างกายถาม
“ไม่ต้อง อีกแป๊บเดียวผมก็กลับมาแล้ว คุณรออยู่ที่รถนี่แหละ” กู้หลานอันพูดจบก็เปิดประตูรถเดินตรงเข้าร้านไป
หลี่เจียเลือกสถานที่ที่เงียบสงบ บวกกับเวลาตอนนี้ยังเช้าอยู่มีคนแค่ไม่กี่คน ที่มีก็เป็ผู้สูงอายุที่มานั่งอ่านหนังสือไม่ต้องกังวลปัญหาว่าจะถูกแฟนคลับจำหน้าได้หลังกู้หลานอันนั่งลงแล้วก็ถอดแว่นกันแดดออก มองหลี่เจียคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขาที่ใบหน้าดูอารมณ์ดีถือแก้วน้ำส้มไว้เขายิ้มเบา ๆ แล้วพูดว่า “ผมมาสาย ทำให้คุณต้องรอนานเลย”
“ไม่หรอก ผมก็เพิ่งมาถึง” ได้ยินกู้หลานอันพูดแบบนี้หลี่เจียได้รับความเป็กันเองก็ใ รีบลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า “เชิญคุณนั่งก่อน อยากดื่มอะไรหน่อยไหม ผมจะไปสั่งให้”
“ไม่ต้องสิ้นเปลือง” กู้หลานอันนั่งลงตามที่เขาทำมือให้นั่งแล้วพูดว่า “ผมมาเพื่อมาบอกข้อมูลคุณเื่หนึ่งพอพูดจบผมก็จะไป ผมยังมีธุระต่อ”
“เชิญคุณพูดเลย” หลี่เจียหยิบสมุดบันทึกที่พกติดตัวออกมานั่งตัวตรง
“ในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ เพลงง่าย ๆ ที่ฟู่ซีรองแชมป์รายการพรุ่งนี้ฉันจะเป็ซุปเปอร์สตาร์ร้องนั้นเดิมทีเป็เพลงของแชมป์อย่างกู้หลานอัน เขาใช้เงินซื้อเพลงนั้นไป ; รางวัลรองชนะเลิศของเขาใช้เงินซื้อมา เขาเป็พวกไม่รู้คีย์ร้องได้ดีอยู่แค่เพลงเดียวนั่นแหละ” กู้หลานอันพูดเบา ๆ
“อืม” หลี่เจียจดลงไปด้วยความตื่นเต้นมองหน้ากู้หลานอันแล้วสอบถามว่า “คุณมาพูดเื่พวกนี้กับผมคืออยากให้ผมเปิดโปงสองเื่นี้ออกไปเหรอ? ”
“งั้นจะอะไรอีกล่ะ? ” กู้หลานอันเลิกคิ้ว
“ขอบคุณสำหรับความหวังดีนะ แต่ว่า...ผมไม่กล้า” หลี่เจียสีหน้ายุ่งเหยิง ถึงแม้ว่าเขามาเพราะอยากได้ข้อมูลเด็ดที่จะสามารถทำให้เขาปีนขึ้นสูงได้แต่ถ้าข้อมูลนี้ถูกเปิดโปงออกไปก็เป็ไปได้ว่าเขาจะไม่สามารถปีนขึ้นสูงได้และอาจจะทำให้เขาเจ็บหนักกว่าเดิม “ไม่พูดถึงว่าข่าวใหญ่นี้จะพัวพันกับกฎเกณฑ์ที่ซ่อนแฝงอยู่ภายในของวงการบันเทิงการจะเปิดโปงคนอย่างฟู่ซี ซึ่งแม้จะเป็ดาราหน้าใหม่ของวงการแต่ว่าบ้านเขาฐานะร่ำรวยมีอิทธิพลมาก สามารถบีบคอผมให้ตายได้อย่างง่ายดายผมที่เป็แค่นักข่าวคนหนึ่งที่ไม่มีชื่อเสียงโด่งดังอะไรในวงการไม่กล้าทำให้ใครขุ่นเคืองง่าย ๆ หรอก”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้