คุกเกาะเทพั
มารทั้งหมดจ้องหวังเค่อเป็ตาเดียว
พวกมันล้วนตะลึงในจิติญญาอันห้าวหาญของหวังเค่อ
ถงอันอันมองดูหวังเค่อด้วยใบหน้าบิดเบี้ยวเหยเก
ไม่อาจกล่าววาจาออกอยู่นาน
“ไม่ใช่สิ
หวังเค่อะโลงไปในสระหมื่นอสรพิษจริงๆ ? แล้วทำไมมันถึงไม่เป็อะไรเลย?”
เทพพนันอุดรยังคงเอ่ยออกมาอย่างไม่อาจตัดใจ
“ใช่ ใครๆ
ก็รู้ว่าสระหมื่นอสรพิษมีงูพิษร้ายแรงอย่างที่สุด
เมื่อถูกสะกดพลังฝีมือแล้วร่วงเข้าสู่ภายในย่อมต้องถูกฉกกัดทำร้าย? หวังเค่อไฉนไม่เป็อะไรเลย?” ถงอันอันขมวดคิ้ว
มองดูหวังเค่อ
“หือ?” จูหงอีเองก็หน้าตามึนงง
“เซิ่งจื่อเองก็ไม่เห็นเป็อะไรนี่?”
หวังเค่อขมวดคิ้วมุ่น
“เซิ่งจื่อ? มันมีกายาอันพิเศษจำเพาะ หมื่นพิษไม่กล้ำกราย!” จูหงอีเอ่ยเสียงหนัก
“เซิ่งจื่อหมื่นพิษไม่กล้ำกราย?”
หวังเค่อพึมพำอย่างเหนือความคาดหมาย
“ใช่ แล้วเ้าล่ะ?” จูหงอีซักไซ้
“ข้า…!” หวังเค่อใบ้กิน
จะอธิบายยังไงดี? ถ้าข้าบอกว่าตัวเองก็มีร่างกายพิเศษ
เกิดพวกเ้ามาตรวจร่างกายข้าทีหลังจะทำยังไง?
“หวังเค่อ
เ้าตระเตรียมพรักพร้อมะโลงสู่สระหมื่นอสรพิษ
ดังนั้นจัดหาวัตถุวิเศษป้องกันพิษอันใดไว้ล่วงหน้าสินะ?” เทพพนันอุดรถามขึ้นด้วยเสียงต่ำ
หวังเค่อขณะจะคล้อยตาม
สัญชาตญาณกลับร้องเตือนกะทันหัน
เ้าผีพนันอุดรนี่ไม่ใช่ตัวดี
กะวางยาข้าอีกแล้วสินะ? ถ้าข้ายอมรับออกไป มิเท่ากับว่าข้ารู้ล่วงหน้าว่าต้องะโลงสระ? รู้ล่วงหน้าว่าเซิ่งจื่อจะตกลงไป? หมายความว่าข้าวางแผนล่วงหน้าที่จะสังหารเซิ่งจื่อ?
แม่งเอ๊ย!
ผีพนันนี่มันเมล็ดพันธุ์แห่งความเลวจริงๆ!
เทพพนันอุดรและถงอันอัน
รวมทั้งคนอื่นๆ ต่างก็ตั้งตารอคอยคำตอบ
ไม่ว่าหวังเค่อตอบอย่างไร
มันล้วนไม่อาจพ้นข้อครหา จากนั้นไม่นานคงไม่พ้นถูกชำระโทษ
แต่หวังเค่อใช่ท่องยุทธภพมานานนมโดยเปล่าประโยชน์หรือ
เื่ป้ายสีเช่นนี้มีหรือจะกลัว?
“เซิ่งจื่อ
มีคนกล่าวหาว่าข้าไม่ควรช่วยท่าน! พวกมันว่าตอนที่ท่านถูกหมื่นอสรพิษรุมกัด
ใครโดดลงไปช่วยท่านหมายความว่าคนๆ นั้นวางแผนร้าย! เซิ่งจื่อ
ท่านว่าข้าควรจะตอบพวกมันยังไงดี!” หวังเค่อบีบเค้นสีหน้ารวดร้าวใจออกมา
ถงอันอันและเทพพนันอุดรเบิกตากว้าง
ข้ายังไม่ทันใส่ร้ายเ้า เ้ากลับสาดโคลนกลับมาหาพวกข้าแล้ว? เ้าไม่รู้จักคำว่ามาก่อนได้ก่อนหรือไง?
“หวังเค่อ
เ้ากล้าปรักปรำพวกเรา?!” ถงอันอันถลึงตาด้วยความโกรธา
“เอ๋? ข้าพูดกับเทพพนันอุดรต่างหาก
เป็มันที่ถามข้าออกมาเมื่อครู่ ทำไมท่านถึง…?” หวังเค่อมองดูถงอันอันด้วยสีหน้างุนงงสงสัย
ถงอันอันสีหน้าแปรเปลี่ยนกลับกลาย
ตนเองเสนอหน้าออกรับแทนทำไมเนี่ย?
“โฮ~โฮ~~!
เ้าตำหนักจู พวกมัน พวกมันเป็คนเลว พวกมันอยากให้ข้าตาย!
ข้าจะไปบอกมารอริยะ ข้าจะไปฟ้องมารอริยะ! หวังเค่อช่วยชีวิตข้า
พวกมันกลับห้ามเอาไว้ เป็พวกมันที่้าทำร้ายข้า ข้าจะไปฟ้องมารอริยะ!!”
เซิ่งจื่อจู่ๆ ก็ร้องไห้โฮออกมา
“เอาละ เอาล่ะ
เซิ่งจื่อไม่ต้องร้อง ไม่ต้องห่วง ข้าจะสอบสวนทันที
ไม่ให้คนที่มันทำร้ายท่านลอยนวลเด็ดขาด!” จูหงอีปลอบ
“มันนั่นล่ะ เป็มันที่ไม่ยอมให้หวังเค่อลงไปช่วยข้าเมื่อกี้!”
เซิ่งจื่อชี้ใส่เทพพนันอุดรพลางด่าทอ
เทพพนันอุดรคุกเข่าทันควัน
ไม่ว่าใครก็ฟังออกว่าหวังเค่อปรักปรำข้า
เซิ่งจื่อเ้าเป็ทารกไม่รู้ความจะฟังออกได้ยังไง? เซิ่งจื่อทารกน้อย แค่มันโป้ปดเ้า
เ้าก็เชื่อ?
“ข้าไม่รู้เื่ ข้าไม่รู้เื่!
ข้าไม่ได้ห้ามหวังเค่อช่วยเซิ่งจื่อเสียหน่อย! ขอท่านเ้าตำหนักพิจารณาด้วย!”
เทพพนันอุดรร้องขอความเมตตาจากจูหงอี
จูหงอีขมวดคิ้วเล็กน้อย
มันเองก็มองออกว่าหวังเค่อเบี่ยงประเด็นวกกลับไปฉกใส่เทพพนันอุดร ทว่า
ตอนนี้เซิ่งจื่อพิโรธโกรธกริ้ว จะให้ออกหน้าขัดเซิ่งจื่อตอนนี้ก็ไม่สะดวก
“ใครก็ได้
จับเทพพนันอุดรเอาไว้ ข้าจะสอบสวนมันเอง!” ถงอันอันะโ
“เ้าตำหนัก!”
เทพพนันอุดรร่ำร้องบ้าง
ถงอันอันคิดตัดสัมพันธ์หรือ?
ถงอันอันจำต้องทำ
เื่นี้ไม่อาจปล่อยให้ขยายใหญ่โตได้ หากกลายเป็เื่ใหญ่โตแล้วดันสาวกลับมาถึงข้าจะทำยังไง? ดังนั้นต้องหาแพะมาให้เร็วที่สุด
เมื่อครู่ที่ไม่ทันระวังสอดปากเสนอหน้าออกรับไป
ดังนั้นตอนนี้มันต้องขีดเส้นเื่ความสัมพันธ์ระหว่างมันกับเทพพนันอุดรให้ชัดเจน
จับเทพพนันอุดรไว้ก่อน
รอให้เซิ่งจื่อสงบใจลง จากนั้นมันค่อยกลับมาสอบสวนทวนความ จนกระทั่งค้นพบ
“ความจริง” ถือโอกาสโบ้ยความผิดให้ “แพะรับบาป” สักตัว พอแพะตัวนั้นฆ่าตัวตายไป
ก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับข้า
เทพพนันอุดรเองก็เดาออกถึงความคิดของถงอันอันดังนั้นร้องประท้วงออกมา
แต่ก็ไม่กล้าขัดขืน
“ไม่ต้องลำบากเ้าสอบสวนด้วยตัวเองหรอก
เ้า ก่อนฟ้าสางเ้าไปไหนมา?” จูหงอีจ้องมองเทพพนันอุดร
ถามเสียงเคร่ง
“ข้า? ก่อนหน้านี้ข้า…!”
สีหน้าของเทพพนันอุดรแข็งค้าง
“พูด!” จูหงอีจ้องเขม็ง
“ขะ
ก่อนฟ้าสางข้าไปยังตึกของท่านผู้ดูแล ข้าไม่ได้อยู่ที่คุกใหญ่ ข้าไม่เกี่ยว!”
เทพพนันอุดรตอบอย่างร้อนรน
ถงอันอันเบิกตาโพลง เ้าทำอะไร? ตอนนี้มาลากข้าลงน้ำครำไปด้วย
แล้วใครจะลากเ้าขึ้นฝั่ง?
“เ้าตำหนักโปรดพิจารณา เทพพนันอุดรมาที่ตึกของข้าเพื่อรายงานเื่ราวต่อข้า!”
ถงอันอันเอ่ยขึ้นทันที
“อ้อ? กลางดึกกลางดื่น
เ้าไปรายงานเื่อะไร?” จูหงอีใบหน้าเย็นยะเยียบ
ชัดเจนว่านี่มีบางอย่าง!
เื่ราวปกติทั่วไปไหนเลยจะต้องไปรายงานกลางดึก? รายงานวันพรุ่งนี้ก็ได้นี่? เดิมทีจูหงอีไม่ระแวงสงสัยเทพพนันอุดร แต่จากคำถามนี้ก็พบปัญหาทันที
ถงอันอันแทบอดเท้าไม่เตะใส่เทพพนันอุดรไม่ไหว
โง่แล้วยังขยัน ไอ้ตัวไม่ได้เื่ ลากข้าลงไปด้วยทำไมกัน?
หากไม่มีคำอธิบายที่ฟังขึ้น
วันนี้คงได้หัวหลุดจากบ่าแน่
“เทพพนันอุดรมาหารือว่าดวงจันทร์ใกล้เต็มดวงแล้ว
พี่หวังยังไม่ได้ผ่านพิธีศีลจุ่มจำแลงมาร ดังนั้นยังไม่มีไอมาร
สองวันจากนี้ย่อมไม่อาจทานทนได้ จงอยากให้ข้าช่วยหาคนเป็มาให้มันได้สร้างบาปกินคน!
ข้า ข้าเลยตกลงไป!” ถงอันอันอธิบาย
ตอนนี้
ได้แต่ต้องใช้ข้ออ้างที่เตรียมไว้นี่ล่ะ ไม่งั้น หากหวังเค่อพูดจาเพ้อเจ้อ
ไม่โป๊ะแตกหรอกเรอะ?
“อ้อ?” จูหงอีมองมาทางหวังเค่อ
หวังเค่อผงกศีรษะด้วยสีหน้าพิกล
“มีเื่เช่นนี้ แต่พวกมันเอาตัวนักโทษฝ่ายธรรมะมาและขอให้ข้าดูดโลหิตพลังปฐมของพวกมัน
ให้ดูดมันให้ตาย!”
“นักโทษฝ่ายธรรมะ?” จูหงอีตาจ้องเขม็ง
“อะไร?” หวังเค่อแตกตื่น
จูหงอีกลับหันไปมองทางถงอันอัน
“มารอริยะมีคำสั่ง นักโทษบนเกาะไม่อาจกิน! เพียงอนุญาตให้ดูดเืเพาะเลี้ยงไว้
ให้พวกเ้ารับผิดชอบ โดยมีเซิ่งจื่อกำกับดูแล! เฮอะ
เ้าเหิมเกริมกล้าปิดบังเบื้องสูง หรือไม่กลัวทัณฑ์ของมารอริยะ?”
“ไม่ ไม่
นักโทษฝ่ายธรรมะพวกนั้น พวกมันอดอาหารฆ่าตัวตาย พวกมันอยากตาย!
ข้าเห็นเป็แบบนั้นถึงได้ช่วยพี่หวัง ข้าไม่มีความคิดปกปิดเบื้องสูง
พวกมันคิดอดอาหารตายจริงๆ!” เทพพนันอุดรแก้ตัวเป็การใหญ่
“อดอาหารฆ่าตัวตาย?” จูหงอีขมวดคิ้ว
เนื่องเพราะนักโทษที่อดอาหารฆ่าตัวตายได้รับอนุญาตให้ถูกกินได้
หากเป็เช่นนั้น นี่ก็ไม่ถือว่าผิดกฎ
“พี่หวัง
บอกท่านเ้าตำหนักไปสิ นักโทษผู้นั้นมันร้องขอความตายจากใจจริง
ข้าช่วยเหลือท่านเอาตัวมันมา อย่างน้อยท่านก็เป็พยานได้!”
เทพพนันอุดรเอ่ยอย่างร้อนรน
หวังเค่อเงียบงันไปครู่ใหญ่
“หวังเค่อ? มันพูดจริงหรือไม่?” จูหงอีเอ่ยเสียงเคร่งขรึม
“ไม่นี่
นักโทษนั่นไม่ได้อดอาหารเสียหน่อย!” หวังเค่อเอ่ย
เทพพนันอุดรจ้องหน้าหวังเค่อ
ไอ้เด็กนี่ เ้าเอาเปรียบข้า ยังจะใส่ร้ายข้าอีก?
“ไม่อดได้ยังไง? ไม่ว่าใครก็เห็น
มันคือศิษย์พี่รองของพรรคเทพหมาป่า์ที่อดอาหารฆ่าตัวตายมาหลายวันแล้ว
ตั้งหลายวันแล้ว หวังเค่อ อย่าคิดว่ามันตายไปแล้ว เ้าจะใส่ร้ายคนยังไงก็ได้!”
เทพพนันอุดรถลึงตา
“ไม่ ไม่ตาย มันยังไม่ตาย!”
หวังเค่ออธิบาย
เทพพนันอุดร “…!”
จูหงอีมองเทพพนันอุดรด้วยสายตาเย็นเยือก
“เ้าแน่ใจนะว่า ศิษย์พี่รองพรรคเทพหมาป่า์ อดอาหารฆ่าตัวตายมาหลายวันแล้ว?”
“ข้า ข้ามั่นใจ!” เทพพนันอุดรกลืนน้ำลาย
แต่ไม่ทราบเพราะเหตุใด มันพลันสังหรณ์ร้ายขึ้นมา
ท่ามกลางความระแวงสงสัยของจูหงอี
มารตนหนึ่งก็ไปเปิดประตู
บนประตูมีค่ายกลลงไว้
ยากจะเปิดออกจากทางด้านใน แต่สามารถเปิดออกจากด้านนอกได้
ไม่นาน ประตูถ้ำก็เปิดออก
ทุกคนก้าวเข้าไปใกล้พลางเพ่งดู
แต่พวกมันมองเห็นนักโทษมากมายรุมล้อมศิษย์พี่รองที่ถูกมัดติดกับเสาอยู่
สองมือของศิษย์พี่รอง กุมศิลาิญญาดูดซับพลังเพื่อเยียวยาาแฟื้นฟูพลังปฐม
ส่วนปากของมันมีศิษย์น้องที่กำลังป้อนน่องไก่ มันกำลังเคี้ยวเอาๆ อย่างกระหายหิว
กลายเป็ว่าจากอุโมงค์ที่หวังเค่อขุดไว้ก่อนหน้านี้
บรรดานักโทษต่างมุดเข้ามาจากคุกข้างๆ
ศิษย์พี่รองกำลังเคี้ยวไก่อย่างออกรสพลางดูดซับพลังจากศิลาิญญาไปด้วย
“เ้าเรียกนี่ว่าอดอาหารฆ่าตัวตาย?
เ้ากำลังดูถูกสติปัญญาของพวกข้าอยู่ใช่มั้ย?” จูหงอีสองตาสาดประกายฆ่าฟัน
“ไม่ใช่ ไม่ใช่
ก่อนหน้านี้ไม่ใช่แบบนี้ มันอดอาหารฆ่าตัวตายจริงๆ เป็ความจริง เป็ความจริง
พวกเ้าเชื่อข้าเถอะ!” เทพพนันอุดรร่ำร้องด้วยความหวาดหวั่น
คลื่นลูกเก่าไม่ทันไป
ลูกใหม่กระหน่ำซัด เื่คดีฆาตกรรมเซิ่งจื่อยังไม่ทันสะสาง
คดีฆาตกรรมนักโทษก็ตามมา? พวกมันล้วนเป็สิ่งของที่มารอริยะนำมาส่งไว้
ไม่อาจกินนักโทษที่ยังมีชีวิตได้ คิดทรยศต่อมารอริยะหรือ?
“ตูมมม!”
ถงอันอันลงมืออำมหิต
หนึ่งฝ่ามือสะบัด ทันใดนั้น เทพพนันอุดรถูกตบจนหน้าหัน เืทะลักฟันร่วงกราว
“ไอ้บัดซบ กล้าหลอกข้า?
บอกว่านักโทษอดอาหารฆ่าตัวตาย? หากมิใช่ท่านเ้าตำหนักสืบสวน
ข้าก็คงถูกเ้าหลอกใช้! เช่นนี้แล้ว เื่วางแผนฆ่าเซิ่งจื่อ
เ้าเองก็ต้องมีส่วนด้วย ข้าหากไม่จัดการเ้าวันนี้ คงไม่อาจสู้หน้าท่านมารอริยะและเ้าตำหนักที่ไว้วางใจข้าได้!
พูด ทำไมต้องทำร้ายเซิ่งจื่อ!” ถงอันอันคำรามลั่น
ตอนนี้คือเวลาตัดสัมพันธ์ให้ขาดสะบั้น
เทพพนันอุดร รับไปเต็มๆ ซะ
“ข้าไม่ได้ทำ!”
เทพพนันอุดรเอ่ยเสียงแหบพร่า
“ไม่บอกหรือ? ได้ เ้าหลงลืมทัณฑ์ลัทธิมารเราไปแล้ว เด็กๆ
เอามันไปรับทัณฑ์ทรมานลัทธิเรารอบหนึ่งจนกว่ามันจะสารภาพ!” ถงอันอันเอ่ยเสียงเหี้ยม
“ขอรับ!”
กลุ่มมารผู้คุมลากตัวเทพพนันอุดรไปยังเครื่องทรมานไกลออกไป
“อ๊ากก~~~~~!”
ในคุกก้องสะท้อนด้วยเสียงคร่ำครวญของเทพพนันอุดร
เสียงหวีดร้องนี้สร้างความหวาดกลัวแก่เซิ่งจื่อจนตัวสั่น
จูหงอีเอ่ยเสียงหนัก “เอาละ
รอเซิ่งจื่อไปก่อนแล้วค่อยสอบสวนต่อ! อย่าได้สร้างความใแก่เซิ่งจื่อ!”
“ขอรับ ขอรับ อย่าห่วงไปเลย
ท่านเ้าตำหนัก ข้าจะสอบสวนให้กระจ่าง ให้คำอธิบายแก่ท่าน ให้คำตอบแก่เซิ่งจื่อ
รวมทั้งพี่หวังด้วย!” ถงอันอันพลันหลั่งเหงื่อเย็นเยียบ
จูหงอีมองดูถงอันอันด้วยสายตาอันซับซ้อน
จากนั้นกวาดตามองมารโดยรอบ สุดท้ายอนุญาตถงอันอันให้ทำการสอบสวน
“เซิ่งจื่อ ที่นี่ไม่ปลอดภัย
ท่านกลับไปกับข้าก่อนเถอะ ่นี้ท่านต้องอยู่กับข้าอย่าไปไหน!”
จูหงอีเอ่ยปลอบประโลม
“ข้า ไม่เอา
ข้าจะอยู่กับหวังเค่อ! ถ้า ถ้ามีคนมาทำร้ายข้าอีกจะทำยังไง?” เซิ่งจื่อเอ่ยอย่างหวาดหวั่น
“ไม่ต้องห่วง
ไม่มีใครทำอันตรายท่านได้ หวังเค่ออ่อนแอ ไม่สามารถปกป้องท่านได้ ตามข้ามา
จะไม่มีใครทำอะไรท่านได้อีก ยังมี ท่านกลับไปพักกับข้าก่อนชั่วคราว
ตอนบ่ายหวังเค่อจะตามไป!” จูหงอีตะล่อม
“ตอนบ่าย?” เซิ่งจื่อทวนคำสีหน้าว่างเปล่า
จูหงอีปรายตามองหวังเค่อ
สีหน้าเครียดขรึม “มาที่ตำหนักข้าตอนบ่าย ชิงเอ๋อร์ตื่นแล้ว นาง้าพบเ้า!”
ชิงเอ๋อร์ตื่นแล้ว? เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยตื่นแล้ว?
ประเสริฐ ข้ารอดตายแล้ว
หวังเค่อตอบอย่างตื่นเต้น “ขอรับ
ข้าจะไปตอนบ่าย!”
จูหงอีหันหน้าไปมองถงอันอัน
“ผู้ดูแลถง!”
“ขอรับ อยู่นี่แล้ว…!”
ถงอันอันขานรับอย่างนอบน้อม เหงื่อกาฬไหลโกรก
“คิดสังหารเซิ่งจื่อ ฮ่าฮ่า
เื่นี้ไม่ใช่ความผิดเล็กน้อย!” จูหงอีแค่นหัวเราะ
“เ้าตำหนัก ข้าไม่ได้ทำ
ท่านเ้าตำหนัก ข้าจะหาต้นตอให้เจอให้ได้!” ถงอันอันรีบพูดออกมาด้วยความหวาดหวั่น
“ได้ ข้าจะรอคำตอบของเ้า!”
จูหงอีบิดริมฝีปากเหยียด
“ขอรับ
ข้าต้องมีคำตอบที่ดีแก่ท่านแน่นอน!” ถงอันอันค้อมศีรษะคารวะซ้ำแล้วซ้ำอีก
จูหงอีส่งสายตาเปี่ยมความหมายแก่ถงอันอัน
จากนั้นพาเซิ่งจื่อจากไป
“น้อมส่งท่านเ้าตำหนัก!”
ถงอันอันโค้งคารวะต่ำ
“น้องส่งท่านเ้าตำหนัก!”
มารทั้งหลายล้วนค้อมศีรษะต่ำคารวะส่ง
จูหงอีไม่แยแสโดยรอบ ทว่ากวาดตามอง
พลันพบเห็นจูเยี่ยนเดินเข้ามา
“ท่านอา ท่านอาทวด!”
จูเยี่ยนยังขจัดเืพิษไม่หมด หากยังคงยิ้มรับจูหงอี
แต่ทันทีที่จูหงอีมองเห็นเหลนทวดของมันคนนี้ก็พลันบังเกิดโทสะพุ่งขึ้นโดยไม่มีสาเหตุ
ไม่พูดเื่ก่อนหน้านี้ แต่มาอยู่เกาะเทพัก็นานแล้ว
ทำไมบนร่างยังมีเืพิษเปรอะเลอะเทอะ? หน้าตาก็ข้างหนึ่งดำข้างหนึ่งม่วง
ไฉนกลายเป็ซกมกเยี่ยงนี้?
“ดูหวังเค่อแล้วดูราศีของเ้าสิ!
ขายหน้านัก เฮอะ! ” จูหงอีแค่นเสียง
จูหงอีเมินจูเยี่ยนก่อนจากไป
ทิ้งจูเยี่ยนไว้กับใบหน้าหม่นทะมื่น ทำไมเอาข้าไปเปรียบกับหวังเค่อ? เืพิษบนร่างข้าก็เพราะเ้าหวังเค่อไม่ใช่หรือยังไง?
ท่านไม่ใช่อยากฆ่ามันนักหรอกหรือ? แล้วทำไมต้องยกย่องมันด้วย?
ทำไม? ทำไมกัน?
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้