โจวเฉิงรู้สึกเสียดายอยู่นาน
คนอย่างเขาไม่ชอบทำสิ่งที่ไร้ประโยชน์ หากจะมีปัญหากับผู้หญิงสักคน โจวเฉิงจะไม่ใช้ลูกไม้สกปรกเล็กๆ น้อยๆ อย่างแน่นอน—เขาคิดว่ามันน่ารำคาญยิ่งนัก การเล่นงานอีกฝ่ายอย่างผิวเผินนั้นช่างน่าเบื่อเสียจริงๆ เขา้ามอบความเ็ปรวดร้าวให้เซี่ยจื่ออวี้ด้วยการโจมตีครั้งเดียว
โจวเฉิงไม่เคยพบเซี่ยจื่ออวี้ แต่เขากลับพบว่าผู้หญิงคนนี้น่าสนใจทีเดียว
‘น่าสนใจ’ ย่อมมีความหมายในเชิงลบอย่างแน่นอน เซี่ยจื่ออวี้ประเสริฐสู้ภรรยาของเขาไม่ได้แม้แต่น้อย โจวเฉิงไม่เข้าใจว่าทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงจับจ้องเสี่ยวหลานไม่ปล่อยไปเสียที
ตอนอยู่ในชนบททัศนคติคับแคบยังพอทน ทว่าเมื่อเข้ามาเรียนในปักกิ่งแล้ว จะมีการงานจริงจังที่สามารถทำได้สักเท่าไรกันเชียว?
เพราะเซี่ยจื่ออวี้ไม่เคยทำงานการอย่างจริงจังนั่นเอง!
ถ้าจะบอกว่าผู้หญิงคนนี้ไม่มีความสามารถแม้แต่น้อย ก็ดูเหมือนจะไม่ใช่ ่นี้ดูเหมือนเธอจะจัดตั้งชั้นเรียนกวดวิชา ดังนั้นในสมองน่าจะมีอะไรอยู่บ้าง เซี่ยจื่ออวี้พยายามชิงหวังเจี้ยนหัวไปอย่างเอาเป็เอาตาย จากมุมมองนี้โจวเฉิงยังต้องสำนึกบุญคุณที่เธอเสียสละตนเองช่วยเหลือ ทว่าโจวเฉิงก็กำลังครุ่นคิดเื่หนึ่งเช่นกัน หวังเจี้ยนหัวในความทรงจำของเขามีรูปกายภายนอกน่าชมพอสมควร อยู่ในชนบทย่อมโดดเด่นเป็แน่ แต่เมื่อเข้าปักกิ่งแล้ว ทำไมเซี่ยจื่ออวี้ยังคงหลงใหลในตัวหวังเจี้ยนหัวอย่างหัวปักหัวปำเล่า?
เพราะผู้ชายที่แย่งมานั้นล้ำค่ากว่า
หรือเพราะว่าหวังเจี้ยนหัวมีจุดเด่นอื่นที่น่าดึงดูดใจเซี่ยจื่ออวี้?
โจวเฉิงจำเป็ต้องวิเคราะห์ด้วยเหตุผลข้อหลัง ภรรยาของเขาไร้เดียงสา ตอนที่คบหากับหวังเจี้ยนหัวนั้น คงไม่รู้ว่าหวังเจี้ยนหัวคือ ‘คุณชายตกยาก’ อย่างแน่นอน ส่วนเซี่ยจื่ออวี้เ้าเล่ห์เพทุบาย เขามั่นใจว่าที่เธอลงแรงแย่งหวังเจี้ยนหัวไปเพราะรับรู้สถานภาพของบ้านหวัง
สิ่งที่โจวเฉิงไม่เข้าใจคือเซี่ยจื่ออวี้เอาความมั่นใจมาจากไหนว่าหวังก่วงผิงจะหวนคืนสู่สถานะเดิม!
หรือเป็ไปได้ว่า เซี่ยจื่ออวี้แค่วางเดิมพันกับโอกาสอันแสนน้อยนิดนั่น?
การแก้แค้นใครสักคน ต้องทำลายสิ่งที่เธอให้ความสำคัญมากที่สุดจนป่นปี้เท่านั้น เซี่ยจื่ออวี้ให้ความสำคัญต่อหวังเจี้ยนหัวมากกว่าตัวเอง ดังนั้นเดิมทีโจวเฉิง้าทำให้เซี่ยจื่ออวี้เสียแรงเปล่า แต่หากหวังก่วงผิงมิอาจกลับมาดำรงตำแหน่งเดิม เซี่ยจื่ออวี้จะผิดหวังขนาดไหน?
สถานการณ์ในตอนนี้ค่อนข้างเหนือความคาดหมายของโจวเฉิง คนตระกูลโจวไม่สามารถแทรกแซงเื่หวังก่วงผิงกลับเมืองได้!
เป็ไปไม่ได้ที่จะคืนตำแหน่งซึ่งลุงของโจวเฉิงรับผิดชอบอยู่ให้แก่หวังก่วงผิง นั่นคือตำแหน่งที่ลุงของโจวเฉิงมีคุณสมบัติเหมาะสมและใช้ความสามารถของตนไขว่คว้ามา มิอาจแปะป้ายส่วนบุคคลให้ตำแหน่งใดได้ทั้งนั้น หวังก่วงผิงไม่อยู่ตั้งหลายปียังเก็บไว้ให้เขาได้อีกหรือ? แต่ตระกูลโจวก็อ่อนไหวที่สุดในเวลานี้เหมือนกัน ถ้าไม่ให้หวังก่วงผิงกลับเมือง คนอื่นจะคิดว่าตระกูลโจวเผด็จการ คิดว่าลุงของโจวเฉิงเกรงกลัวหวังก่วงผิง... แรกเริ่มเดิมทีลุงของโจวเฉิงก็อ่อนไหวมากแล้ว โจวเฉิงจะจุดไฟเผาทั้งตระกูลโจวเพียงเพราะ้าแก้แค้นเซี่ยจื่ออวี้ไม่ได้
ทว่าจะปล่อยให้เซี่ยจื่ออวี้สมดั่งใจหวัง สมปรารถนาทุกความ้า โจวเฉิงก็ไม่สามารถทนได้จริงๆ
ไม่สามารถขัดขวางหวังก่วงผิงกลับเมืองได้ ทว่าการเตรียมตำแหน่งหลังหวังก่วงผิงกลับเมืองนั้นยังพอมีช่องทางให้จัดการ
สำหรับงานที่รัฐจัดสรรให้ใหม่อีกครั้ง ยังถูกแบ่งว่ามีหรือไม่มีอำนาจแท้จริงที่ด้วย สิ่งนี้เป็เื่ที่ค่อนข้างควบคุมยาก แต่ถ้ายืมแรงจากผู้อื่นก็ถือว่ายังมีหวัง โจวเฉิงตัดสินใจกับตนเอง และไม่ได้แพร่งพรายเื่นี้ให้เซี่ยเสี่ยวหลานรับรู้เลย คนที่มีแค้นต้องชำระทว่าไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้บริสุทธิ์คือเซี่ยเสี่ยวหลาน ทว่าวิธีการของโจวเฉิงมีความแตกต่างจากเซี่ยเสี่ยวหลานเล็กน้อย
หวังเจี้ยนหัวก็ไม่ได้บริสุทธิ์สมบูรณ์เสียด้วย ใครใช้ให้เขาสายตาพร่ามัวเลือกเซี่ยจื่ออวี้กันเล่า!
แต่งภรรยาผิดคนอับจนสามชั่วอายุคน ถ้าเซี่ยเสี่ยวหลานไม่ได้แก้แค้นกลับคืนด้วยตัวเองไปแล้ว โจวเฉิงจะจับครอบครัวของเซี่ยจื่ออวี้ทั้งสามคนมาตีมือให้หักเสีย ตอนนี้เขาแค่สร้างความติดขัดให้หวังก่วงผิง เซี่ยจื่ออวี้จะสมปรารถนาในสิ่งที่ขอ แต่ในอนาคตอย่าได้ผิดหวังเกินไปแล้วกัน
----------------------------------------
“เจี้ยนหัว ฉันติดต่อเพื่อนเก่าสองสามคนเกี่ยวกับเื่ของพ่อเธอแล้ว ยากเย็นมากกว่าจะส่งเอกสารให้เบื้องบนสำเร็จ ตอนนี้มีคำตอบรับรองเรียบร้อย เขามีคุณสมบัติสอดคล้องกับการกลับเข้าเมือง ในที่สุดครอบครัวพวกเธอก็จะอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตาแล้ว ลูกอย่างเธอก็ลำบากเหมือนกันนะ อยู่ในชนบทแบบนั้นยังสอบเข้ามหาวิทยาลัยกลับมาปักกิ่งได้อีก”
“ขอบคุณคุณลุงจางมากนะครับ ความช่วยเหลือต่อทั้งครอบครัวของผมจากคุณ ผมจะไม่มีวันลืม!”
ชายหนุ่มแข็งแกร่งคนหนึ่งอย่างหวังเจี้ยนหัว ขณะนี้ซาบซึ้งใจเสียขอบตาแดง จากการไร้คนมอบความช่วยเหลือให้ ในที่สุดก็ได้รับคำตอบที่ชัดเจนเสียที ั้แ่หวังเจี้ยนหัวสอบเข้าปักกิ่งจนกระทั่งวันนี้ เขาใช้เวลามากถึงหนึ่งปีเต็ม มิตรภาพเก่าก่อนขาดการติดต่อไปย่อมห่างเหิน นอกจากขยันเทียวไปเทียวมา หวังเจี้ยนหัวยังลงเงินไปทั้งหมดร่วมหมื่นอีกด้วย
เมื่อก่อนเงินส่วนนี้ไม่ได้หนักหนาอะไร ทว่าสำหรับตอนนี้ เป็จำนวนที่หวังเจี้ยนหัวไม่มี
ภายในเงินหนึ่งหมื่นหยวนก้อนนี้ เซี่ยจื่ออวี้มีส่วนร่วมเล็กๆ เงินที่เหลือมาจากหวังเจี้ยนหัวไปทำงานพิเศษ และมาจากรุ่นพี่หลิ่วให้เขายืม—แม้บอกว่าเป็รุ่นพี่ชั้นปีสูงในวิทยาลัยฝึกหัดครู อันที่จริงอายุน้อยกว่าหวังเจี้ยนหัวสองปี หวังเจี้ยนหัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยตอนอายุมากถึงได้เป็รุ่นน้อง
สำหรับความช่วยเหลือที่รุ่นพี่หลิ่วมอบให้เขา หวังเจี้ยนหัวไม่กล้าลืม
เขาทำได้เพียงค่อยๆ ชดใช้หนี้บุญคุณนี้ แต่การตอบรับความรู้สึกของรุ่นพี่หลิ่วนั้นเป็ไปไม่ได้ เขามีจื่ออวี้แล้ว
แน่นอนว่าจื่ออวี้ก็แสนดีเช่นกัน ่นี้เขาวุ่นกับการติดต่อกับสหายเก่า โอกาสพบเซี่ยจื่ออวี้ลดน้อยลงมาก ตอนนี้ได้รับข่าวคราวที่ยืนยันแล้ว เขาย่อมต้องแบ่งปันข่าวนี้กับเซี่ยจื่ออวี้
เมื่อเซี่ยจื่ออวี้ทราบข่าว ก็ดีใจยิ่งกว่ารับนักเรียนเรียนเสริมเต็มสองห้องอีกรอบเสียอีก
“ดีเหลือเกิน เจี้ยนหัว นี่มันดีเหลือเกิน!”
ความตื่นเต้นของเซี่ยจื่ออวี้มิอาจปกปิดได้ หวังเจี้ยนหัวรู้สึกซาบซึ้งมากเช่นกัน จื่ออวี้คำนึงถึงเขาทั้งหัวใจ ห่วงใยบิดามารดาของเขาอย่างแท้จริง ตอนนี้ถึงได้ดีใจเหลือล้น!
“มันยอดเยี่ยมมากจริงๆ ลุงจางบอกว่าในสองสามวันนี้จะมีประกาศอย่างเป็ทางการ จื่ออวี้ ฉันอยากไปไร่เพื่อรับพวกเขากลับมาด้วยตัวฉันเอง!”
หวังเจี้ยนหัวอยากจะไปฮาร์บิน
ตอนนี้ในหัวของเขาเต็มไปด้วยเื่บิดามารดาได้กลับเมือง ขอเพียงออกจากไร่ที่มีความเป็อยู่ลำบากตรากตรำนั่น บิดาของเขาจะกลับปักกิ่งมาทำงานอะไรก็ได้ทั้งสิ้น ตอนทั้งสองคนพบกันก่อนหน้านี้ เซี่ยจื่ออวี้บอกเขาว่าเซี่ยฉางเจิงาเ็ เธอรับบิดามารดามาปักกิ่งแล้ว ทว่าเวลานี้หวังเจี้ยนหัวกลับจำไม่ได้โดยสิ้นเชิง ว่าที่พ่อแม่ของภรรยาไม่สำคัญเท่าบิดามารดาบังเกิดเกล้า เซี่ยจื่ออวี้ไม่เตือนเขาในตอนนี้เช่นกัน ในใจของเธอ หวังก่วงผิงได้โอกาสกลับเมืองคืนสู่ตำแหน่ง ความสำคัญอยู่เหนือเซี่ยฉางเจิงที่แขนด้วนอย่างแน่นอน!
ทั้งที่ชั้นเรียนกวดวิชายังมีธุระอีกเป็กอง แต่เซี่ยจื่ออวี้ก็ไม่สนใจแล้ว
ในเวลาแบบนี้ เธอจะไม่ไปแสดงตัวตนต่อหน้าบิดามารดาหวังเจี้ยนหัวได้อย่างไร?
“เจี้ยนหัว ฉันอยากไปไร่กับเธอด้วย อยากบอกข่าวดีนี้กับคุณลุงคุณป้าพร้อมเธอ... ได้ไหม?”
ตอนนี้อยู่ใน่ปิดภาคเรียนฤดูร้อน หวังเจี้ยนหัวคาดการณ์ว่าตนเองสามารถเดินทางไปกลับเสร็จสิ้นก่อนเปิดภาคเรียน ดังนั้นเซี่ยจื่ออวี้ไปได้แน่นอน หวังเจี้ยนหัวพยักหน้ารับด้วยความตื่นเต้น “ฉันจะไปซื้อตั๋วรถไฟของพวกเราสองคน!”
หวังเจี้ยนหัวกล่าวอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย เซี่ยจื่ออวี้ก็รู้สึกโล่งใจ
ตอนบ้านหวังเสียขวัญ เธอเลือกหวังเจี้ยนหัว นั่นเพราะมีญาณหยั่งรู้
ตอนนี้บ้านหวังใกล้เป็อิสระแล้ว เซี่ยจื่ออวี้ก็กลัวว่าพ่อแม่หวังเจี้ยนหัวจะมีความคิดเห็นที่ไม่เหมือนกัน คิดว่าเธอไม่คู่ควรกับหวังเจี้ยนหัว
พบกันครั้งก่อน หร่านซูอวี้โปรดปรานเธอมาก จับมือเธอสนทนาภาษาใจไม่น้อย ส่วนหวังก่วงผิงมีท่าทางไม่ได้พึงพอใจเธอนัก... เซี่ยจื่ออวี้ทั้งกลัวว่าเมื่อเวลาเลื่อนเลยมานานเกินควร หวังก่วงผิงกับหร่านซูอวี้จะสูญเสียโอกาสกลับเมืองสู่ตำแหน่งเดิมไปโดยสิ้นเชิง ทั้งคิดว่าตอนนี้สามีภรรยาบ้านหวังกลับเมืองได้อย่างราบรื่น จะพลิกหน้าไม่รู้จักกันหรือไม่?
ไม่ว่าจะเป็อย่างไร เธอไม่มีทางทิ้งหวังเจี้ยนหัวเป็อันขาด!
เซี่ยจื่ออวี้เคียงข้างหวังเจี้ยนหัวขึ้นรถไฟเที่ยวไปฮาร์บิน คราวนี้คือฤดูร้อน ต่อให้เปลี่ยนสายรถอีก ถนนหนทางก็เดินทางง่ายกว่ามาก ไร่ในฤดูร้อนมีสีเขียวชอุ่ม กลายเป็ขั้วตรงข้ามอย่างเด่นชัดกับความหนาวเหน็บแสนเงียบงันของฤดูหนาวในครานั้น จิตใจของมนุษย์ก็แตกต่างเช่นกัน ตอนหวังเจี้ยนหัวกับเซี่ยจื่ออวี้ถึงไร่ เอกสารกลับเข้าเมืองของหวังก่วงผิงกับหร่านซูอวี้ถูกส่งถึงไร่แล้วเช่นกัน
ผู้คนที่เคยแล้งน้ำใจต่อหวังก่วงผิงและหร่านซูอวี้ ตอนนี้เรียกได้ว่าอดีตโอหังปัจจุบันเคารพนบนอบ
หวังก่วงผิงยังคงสวมเสื้อผ้าเก่า ทว่ากายเนื้อกลับมีกลิ่นอายที่ยืนยันไม่ได้ ตอนเซี่ยจื่ออวี้เรียก ‘คุณลุง’ ท่าทีของหวังก่วงผิงเ็ากว่าตอนพบหน้าครั้งแรกเสียอีก