เซี่ยโม่ยิ้มอ่อน “อาจารย์ ฉันเองก็ตัดชุดใหม่เพิ่มอีกสองชุดเหมือนกันค่ะ เปิดเทอมเมื่อไรค่อยเอาออกมาใส่ ตอนนี้อาจารย์เป็ส่วนหนึ่งของครอบครัวฉันแล้ว คุณตาคุณยายต่างมีชุดใหม่ แล้วอาจารย์จะไม่มีได้ยังไงคะ”
ครั้นซ่งมู่ไป๋ที่กำลังขับรถได้ยินว่าเด็กสาวตัดเสื้อตัวในให้เขาชุดเดียว แต่กลับตัดให้ชายชราถึงสองชุด คิ้วพลันขมวดเข้าหากัน ก่อนจะเอ่ยอย่างเอาแต่ใจ “ฉันก็เรียกคุณตาคุณยาย ถือเป็ส่วนหนึ่งของครอบครัวเธอเหมือนกันนะ”
เซี่ยโม่นึกขึ้นได้ว่า เป็เพราะชายหนุ่มโหยหาความอบอุ่นของครอบครัวถึงได้มาใกล้ชิดสนิทสนมกับเธอและคุณตาคุณยาย เธอเลยพยักหน้าพลางเอ่ยว่า “แน่นอนค่ะ ฉันก็ตัดชุดกับเสื้อตัวในให้พี่เหมือนกัน”
“ทำไมเธอตัดให้คุณปู่จ้าวสองชุด แต่ตัดให้ฉันแค่ชุดเดียวล่ะ”
ที่ผ่านมาภาพลักษณ์ของซ่งมู่ไป๋ในใจเซี่ยโม่คือผู้ชายที่กล้าหาญ จริงจัง เด็ดเดี่ยว เหมือนต้นไม้ใหญ่ที่ไม่ว่าเมื่อไรก็จะไม่มีวันล้ม ยืนหยัดตั้งมั่นอยู่ตรงนั้นเสมอ ไม่ว่าเธอจะเจอปัญหาอะไร ชายหนุ่มก็จะคอยปกป้องเธอตลอด
นึกไม่ถึงเลยว่าชายหนุ่มจะมีมุมนิสัยเด็กแบบนี้ด้วย
แต่พอคิดได้ว่าอีกฝ่ายโตกว่าเธอแค่ไม่กี่ปี ในเมื่อยัง้าความอบอุ่นของครอบครัว ก็ไม่แปลกหากจะมีนิสัยเด็กๆ เช่นนี้
ใจเธอพลันอ่อนยวบ รีบเอ่ยออกไปทันทีว่า “พี่ซ่ง งั้นเดี๋ยวฉันทำเสื้อตัวในให้พี่สองชุด ไม่ลำเอียงแน่นอนค่ะ”
ซ่งมู่ไป๋ยกยิ้มมุมปากอย่างชอบใจ แต่จู่ๆ ก็คิดอะไรขึ้นมาได้ ชุดของเขาจะต้องพิเศษกว่าของคนอื่น ต้องมีแค่ชุดเดียวในโลกเท่านั้น คิดได้ดังนั้นจึงเอ่ยหยั่งเชิงออกไป “โม่โม่ ชุดของฉัน ฉันอยากได้ที่ไม่เหมือนใครจะได้ไหม”
เซี่ยโม่พยักหน้า “ได้ค่ะ ฉันคิดว่าของคุณตา คุณยาย กับอาจารย์จะให้ตัดเป็เสื้อถังจวง[1] ส่วนของพี่กับฉันแล้วก็น้องชายจะตัดเป็ชุดลำลองสบายๆ ดีไหมคะ”
เธอคิดจะนำเื่นี้ไปปรึกษากับภรรยาของผู้ใหญ่บ้าน ให้อีกฝ่ายตัดชุดตามที่คิดไว้
ความจริงแล้วมีวิธีที่ง่ายกว่านี้ นั่นคือหยิบชุดออกมาจากในโกดังสินค้าเลย แต่เธอกลัวว่าการตัดเย็บจะทำให้ผู้คนสงสัย เช่นนั้นจึงต้องทิ้งวิธีที่ว่าไป
“ดี” ซ่งมู่ไป๋พยักหน้า ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนได้ดื่มน้ำเย็นในวันที่อากาศร้อนจัด รู้สึกชื่นใจดีเหลือเกิน
เสียงหัวเราะและเสียงพูดคุยของทั้งสามคนดังไปตลอดทาง เวลาจึงล่วงเลยผ่านไปไว
พลบค่ำรถก็แล่นมาถึงหน้าบ้านอู๋ ทันทีที่รถจอดสนิท เด็กๆ ในหมู่บ้านก็วิ่งกรูกันเข้ามาเหมือนเดิม เซี่ยโม่กลัวพวกเด็กจะทำรถพังหรือปีนขึ้นไปจนรถเกิดรอยหรือเสียหาย
เธอล้วงมือเข้าไปในกระเป๋า เป้าหมายคือหยิบลูกอมรสผลไม้จากในโกดังสินค้ามายื่นให้เด็กๆ พลางเอ่ยว่า “พวกเธอช่วยดูรถให้ด้วยนะ อย่าปีนขึ้นไปล่ะ ตกลงมาจะาเ็ได้ แล้วก็อย่าเอาก้อนหินหรือกิ่งไม้มาขีดรถ รถคันนี้แพงมาก หากมีรอยหรือเสียหาย ต่อให้เอาตัวพวกเธอไปขายก็ชดใช้ไม่ไหว”
เธอเชื่อว่าการขู่เล็กๆ น้อยๆ นี้ต้องได้ผลอย่างแน่นอน
“พี่โม่โม่ วางใจเถอะครับ พวกเราจะช่วยดูแลให้อย่างดีเลย” เด็กที่ดูโตสุดในกลุ่มเอ่ยรับรอง
เธอจำเด็กคนนี้ได้ คือลูกชายของผู้ใหญ่บ้าน เด็กทุกคนเชื่อล้วนฟังเด็กคนนี้กันทั้งนั้น
“งั้นพี่ยกเื่นี้ให้เรารับผิดชอบ” เธอให้ลูกอมเพิ่ม “พี่ให้ อย่าลืมแบ่งให้ทุกคนด้วยล่ะ”
เอ่ยจบเธอเดินเข้าไปในบ้าน หลังจากล็อกรถแล้วซ่งมู่ไป๋ก็ขนของตามเข้าไป รวมถึงรถจักรยานด้วย
ครั้นเดินเข้ามาในบ้าน เธอได้ยินเสียงหัวเราะอย่างดีอกดีใจ ที่แท้พี่ซ่งกำลังเล่าเื่ที่คุณปู่จ้าวเอาสมุนไพรไปขายให้คุณตาคุณยายฟังนี่เอง โดยมีอาจารย์ร่วมผสมโรงด้วย เล่าให้ฟังเป็ช่องเป็ฉากว่าขายได้ราคาสูงอย่างนั้นอย่างนี้
ขณะที่กำลังจะเดินเข้าไปร่วมวง เธอรู้สึกเหมือนมีตัวอะไรมาวิ่งอยู่แถวขากางเกง พอก้มมองพบว่าเป็เสี่ยวเฮยนั่นเอง
“พี่ครับ เสี่ยวเฮยไม่ยอมกินอะไรเลย เอาแต่จะหาพี่อย่างเดียว พอหาพี่ไม่เจอก็จะวิ่งออกไปตามหาข้างนอก ผมเลยต้องปิดประตูไม่ให้มันออกไป” เฉินเฟิงบ่นให้ผู้เป็พี่สาวฟัง
สงสัยเสี่ยวเฮยคงอยากกินนม
เมื่อเช้าเธอรีบออกจากบ้านเลยลืมเตรียมนมให้เสี่ยวเฮย แล้วยังลืมเตรียมให้น้องชายด้วย
“เฉินเฟิง ตามพี่มานี่มา” เซี่ยโม่อุ้มเ้าลูกหมาป่าขึ้นมาพร้อมเรียกน้องชาย
เธอเดินนำออกไปข้างนอกบ้าน เลือกไปตรงมุมที่ไม่มีคน หยิบนมออกมาหนึ่งกล่องเจาะหลอดเรียบร้อยแล้วจึงยื่นส่งให้น้องชาย “เราดื่มกล่องนี้ นมมีแคลเซียมสูง พอโตเราจะได้ตัวใหญ่แข็งแรง แล้วก็อย่าเอาเื่นี้ไปบอกใครล่ะ”
เซี่ยเฉินเฟิงตัวน้อยพยักหน้าหงึกหงัก พร้อมกับยกนิ้วชี้มาแตะที่ริมฝีปาก จากนั้นก็เริ่มดูดนม คงเป็เพราะความหอมของนม แววตาของเด็กชายจึงเต็มไปด้วยความปลื้มปริ่ม
เด็กชายไม่รู้หรอกว่าพี่สาวไปเอามาจากไหน รู้แต่ว่าเขามีความสุขมากเพราะได้รับความรักจากพี่สาว
และเพราะกลิ่นนมอีกเช่นกัน เสี่ยวเฮยเลยะโเหยงพยายามจะแย่งนมจากเซี่ยเฉินเฟิง
เธอลูบหัวมันพลางเอ่ย “แกทำอะไรน่ะ ของแกอยู่นี่ต่างหาก”
เซี่ยโม่หยิบนมหนึ่งถุงกับถ้วยหนึ่งใบออกมาจากในโกดังสินค้า มือฉีกเปิดถุงแล้วเทนมใส่ถ้วย
แววตาเสี่ยวเฮยเป็ประกาย พุ่งเข้าไปกินนมในถ้วยทันที
ท่าทางของมันชัดเจนว่าหิวมาก ด้วยกลัวว่าจะไม่พอกิน เธอเลยหยิบออกมาอีกถุงแล้วฉีกเทลงไปเพิ่ม
เสี่ยวเฮยที่ปากเลอะไปด้วยน้ำนมเงยหน้าขึ้นมามองเธออย่างขอบคุณ ก่อนจะก้มลงไปกินต่อ
เวลาเดียวกันนี้เองเซี่ยเฉินเฟิงก็ดื่มนมหมดกล่อง จากนั้นก็ยื่นกล่องนมคืนให้เธอ “พี่ครับ จะทำยังไงกับกล่องนมนี้ดีครับ”
เธอรับมาโยนใส่ในโกดังสินค้า “ต่อไปถ้าดื่มเสร็จแล้วก็เอากล่องมาให้พี่นะ อย่าโยนทิ้งมั่วซั่วเด็ดขาด แล้วก็ต้องดื่มนมทุกวันด้วย ถ้าพี่ลืม เราก็อย่าลืมทวงพี่ล่ะ”
“ครับพี่”
แม้จะรับปากแล้ว แต่น้องชายไม่ยอมเข้าบ้านเสียที จากนั้นก็กระซิบกระซาบถาม “พี่ครับ พี่เอาของมากมายออกมาแบบนี้ ร่างกายพี่จะไม่เป็อะไรเหรอครับ”
น้องชายกำลังเป็ห่วงเธออยู่หรือ?
เซี่ยโม่ที่มีสีหน้าซาบซึ้งก่อนจะพูดปลอบน้องชาย “พี่ไม่เป็ไร ไม่ว่าจะหยิบอะไรออกมาก็ไม่ส่งผลใดต่อร่างกายพี่ทั้งสิ้น เราวางใจได้”
เซี่ยเฉินเฟิงตัวน้อยถึงค่อยมีสีหน้าโล่งใจ
เสี่ยวเฮยที่กินนมจนอิ่มแล้วก็หันมาออดอ้อนเธอ มันยืนด้วยสองขาหลัง ส่วนสองขาหน้าตะกายขาเธอยกใหญ่
เธอหยิบผ้าออกมาเช็ดปากให้มัน เล่นกับมันอยู่ครู่หนึ่ง พอเห็นว่าถึงเวลากินข้าวแล้วจึงเดินเข้าไปในห้องครัว แล้วหยิบเนื้อออกมาจากกระเป๋าผ้า
พอเหล่าจ้าวเห็นก็รีบเดินตามมา เลียริมฝีปากพลางเอ่ย “คือ โม่โม่ เย็นนี้ทำหมูน้ำแดงอีกได้ไหม ฉันอยากกินอีก”
เธอพยักหน้า “ได้สิคะ เดี๋ยวฉันทำให้นะคะ”
“แต่เธอบอกจะต้มหมูให้เ้าหนุ่มนั่นไม่ใช่เหรอ เขาจะไม่โกรธใช่ไหม” ชายชราเพิ่งนึกขึ้นได้จึงเอ่ยถาม สีหน้าของเขาดูไม่ค่อยสบายใจนัก
นับั้แ่กลับชาติมาเกิดใหม่ ความจำเธอก็ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม เธอจำได้ว่าตอนพูดเื่นี้กับพี่ซ่ง อาจารย์หลับอยู่ไม่ใช่หรือ
เช่นนั้นรู้ได้อย่างไร?
แล้วเธอก็พบว่าอาจารย์ช่างน่าสนใจเหลือเกิน ลับหลังเรียกพี่ซ่งว่าเ้าหนุ่มนั่น
ส่วนพี่ซ่งลับหลังก็เรียกอาจารย์ว่าเหล่าจ้าว ต่างไม่มีใครยอมใครเลย
เธอตอบอย่างไม่คิดอะไรมาก “ไม่เห็นเป็อะไรเลยค่ะ ทำทั้งหมูต้มกับหมูน้ำแดงก็ได้ ใครอยากกินจานไหนก็กิน”
ชายชรายิ้มกว้างเมื่อได้ฟัง “ดี แบบนี้ดี”
-----------------------------------
[1] ถังจวง คือ เสื้อคอจีน มีลักษณะเด่นที่คอเสื้อตั้ง โดยเปิดคอเสื้อด้านหน้าตรงกลางไว้ แขนเสื้อและคอเสื้อเป็ผ้าชิ้นเดียวกัน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้