ณ ห้วงทะเลสี่มหาสมุทรพื้นที่โดยรอบล้วนเต็มไปด้วยผืนน้ำสีครามเข้มทอประกายระยิบระยับราวกับภาพวาดอันงดงามที่ยากจะพรรณนาได้ หน้าเรือนหลังสีขาวพิสุทธิ์มีสมบัติวิเศษระดับต้นกำเนิดที่ยามนี้ได้แปรเปลี่ยนเป็ดอกเบญจมาศสีขาวประกายรุ้งอันบริสุทธิ์ ยามเมื่อลมพัดผ่านกลีบดอกไม้ที่เบ่งบานก็จะพลิ้วไหวราวกับนางระบำอันอ่อนช้อยอีกทั้งยังอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมรัญจวนชวนให้รู้สึกเคลิบเคลิ้มสงบสุขราวกับอยู่ในสรวง์ ใจกลางดอกเบญจมาศพิสุทธิ์ดอกนี้มีร่างกายของทารกเพศชายหน้าตาน่ารักน่าชังอยู่ผู้หนึ่ง แม้ภายนอกจะดูเป็เพียงทารกในวัยไม่ถึงสองปีก็จริงทว่าหากพิจารณาให้ถี่ถ้วนแล้ว รากฐานพลังบ่มเพาะในเขตขั้นจักรพรรดิิญญาด้วย่อายุเพียงเท่านี้ ทอดสายตาไปทั่วทั้งมหาพิภพยังไม่เคยปรากฎให้เห็นคงไม่เกินจริงไปนัก
เหล่าบรรดาเทพาทั้งสามและเซียนโอสถทั้งเก้าต่างเฝ้ารอคอยการตื่นขึ้นของเด็กน้อยผู้ที่ได้รับโอสถหมื่นชีวันอนันต์มหรรณพ หนึ่งในโอสถที่มีความวิเศษเหนือล้ำเป็อันดับต้น ๆ ในมหาพิภพ มากไปกว่านั้นคล้ายกับว่าเปลวเพลิงสีทองประกายรุ้งนั่นได้ดูดซับจิติญญาที่กระจัดกระจายให้หวนคืนกลับมาทีละส่วนได้ไม่น้อย ยิ่งร่างทารกนี้ได้รับการส่งเสริมด้วยโอสถวิเศษอื่นที่มีฤทธิ์วิเศษพิศดารแล้วจิติญญาแห่งปราณธาตุก็ได้รับการฟื้นฟูเช่นกัน คาดว่าอีกไม่นานอีกฝ่ายย่อมตื่นขึ้นมาในเร็ววันอย่างแน่นอน
“เด็กคนนี้ใช้เวลาเกือบสองปีในการสร้างสุดยอดกายเนื้อได้สำเร็จ ราชทินนามจักรพรรดิิญญาที่มีรากฐานบ่มเพาะหนักแน่นกว่าเขตขั้นเดียวด้วยวัยเพียงเท่านี้ ตัวตนอันเป็สุดยอดผู้แกร่งกล้าได้กำเนิดขึ้นในมหาพิภพแล้ว เมื่อใดที่เขาข้ามผ่านพลังิญญาระดับที่101 อันเป็เขตขั้นอัครพรหมยุทธ์ิญญาในสักวัน รายชื่อของเขาย่อมติดทำเนียบสิบสุดยอดรุ่นเยาว์ของดินแดนพิภพระดับสูงได้อย่างไม่ยากนัก...” เสวี่ยจิงกล่าวถึงความเป็ไปได้ให้รับรู้
“ร่างกายของเขาจะไม่แบกรับภาระมากเกินไปหรือไม่กับการขุมพลังอันมหาศาลั้แ่อายุน้อยเช่นนี้??” ม่อเหยียนถามด้วยความสงสัย สิ่งที่ใช้หลอมสร้างปรุงโอสถหมื่นชีวันอนันต์มหรรณพเม็ดนี้ล้วนเป็สุดยอดสมุนไพรหายากทั้งสิ้น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพลังปราณต้นกำเนิดอันบริสุทธิ์ของเทพโอสถาและพลังปราณฟ้าดินบริสุทธิ์ที่ถูกชักนำเข้าสู่ร่างกาย หากสิ่งเหล่านี้เกินกว่าที่จะรับได้แล้วย่อมทำลายผู้มากกว่าให้คุณอย่างแท้จริง
“ข้าได้คาดการณ์ถึงสิ่งนี้แล้วเช่นกัน หลังจากที่เขาฟื้นตื่นขึ้นขุมพลังทั้งหมดในเม็ดโอสถจะค่อย ๆ ซึมซับเข้าสู่ไขกระดูกทั่วร่างกายด้วยความเร็วคงที่หาใช่เป็การเร่งต้นกล้าให้เติบโตแต่อย่างใด เขาจะแข็งแกร่งขึ้นอย่างมั่นคงด้วยความสมดุล เพียงแต่จากเดิมการเลื่อนขั้นระดับพลังิญญาของเขาอาจต้องอาศัยปัจจัยอื่นมากมาย ไม่ว่าจะเป็เม็ดโอสถหรือการดูดซับพลังลมปราณฟ้าดินเข้าสู่ร่างกาย แน่นอนว่าระยะเวลาเหล่านี้จะถูกขมวดให้สั้นลงเป็อย่างมากจนคาดไม่ถึงเลยทีเดียว”
“มากไปกว่านั้นร่างกายนี้จะช่วยส่งเสริมพร์ที่มีอยู่ของเขาให้โดดเด่นมากยิ่งขึ้นไม่รู้กี่เท่า แม้ดูเหมือนว่าเป็สิ่งที่เกิดขึ้นจากการดูดซับโอสถหมื่นชีวันอนันต์มหรรณพนี้เข้าไปก็จริง ทว่าหากเขาไร้ซึ่งความพยายามแล้วไม่ว่าโอสถนั้นจะเลิศล้ำมากเพียงใดก็ไม่อาจส่งเสริมได้ทั้งสิ้น อย่างไรแล้วหลังจากนี้ย่อมเป็ตัวเขาเองที่ขีดเขียนเส้นทางเดินของตน ข้าเพียงช่วยเหลือในสิ่งที่ควรกระทำแต่เพียงเท่านั้น” เสวี่ยจิงเอ่ยเสริมขึ้นตามความรู้สึกให้สหายทั้งสองได้รับรู้
“เขากำลังจะกำเนิดขึ้นมาแล้ว...” ห่าวหรานระบายยิ้มออกมาด้วยความยินดี
การสนทนาพูดคุยของสามเทพาจบลงเพียงเท่านี้ ฉับพลันนั้นร่างทารกที่อยู่ภายในดอกเบญจมาศวิเศษได้ทอแสงเปล่งประกายสว่างพร้อมกับกระแสพลังปราณกล้าแกร่งอลังการได้ปะทุแตกออกไปโดยรอบสร้างแรงสั่นะเือย่างต่อเนื่องรุนแรงไม่น้อย เป็ดั่งสัญญาณให้ทั่วทั้งมหาทวีปได้รับรู้ว่าตัวตนระดับสุดยอดฝีมือได้ถือกำเนิดขึ้นแล้วในยามนี้ แสงสีอันหลากหลายย่อมบ่งบอกได้ถึงปราณธาตุที่อยู่ได้สาดส่องออกมาจนฟ้าดินแปรเปลี่ยนสีสัน กระแสพลังปราณฟ้าดินจากทั่วทุกสารทิศได้ถูกชักนำหลั่งไหลด้วยความบริสุทธิ์ที่ยิ่งยวด
กลีบดอกสีขาวพิสุทธิ์ค่อย ๆ เลือนหายสลายเข้าสู่ร่างกายของทารกนี้ทีละกลีบ แน่นอนว่าแต่ละกลีบนั้นย่อมอาบย้อมไปด้วยสุดยอดขุมพลังที่มากมายมหาศาลจนเกิดเป็เสาแสงหลากสีประกายรุ้งที่งดงามยิ่ง เวลานั้นบรรดาเซียนโอสถทั้งเก้าต่างลอบชื่นชมอยู่ในใจและรู้สึกยินดีอย่างถึงที่สุด หลังจากการหลอมสร้างปรุงโอสถพวกเขาทั้งเก้ายังคงปักหลักอยู่ ณ สถานที่แห่งนี้เพื่อพูดคุยสนทนาแลกเปลี่ยน แน่นอนว่าการกระทำของท่านอาจารย์ที่้าช่วยเหลือคืนชีพให้แก่รุ่นเยาว์ผู้หนึ่งที่มาจากดินแดนพิภพด้านล่างนั้นใกล้จะสำเร็จแล้วในที่สุด
ครืน!!
ยิ่งเวลาผันผ่านไปเท่าใด กลีบดอกสีขาวพิสุทธิ์ของเบญจมาศยิ่งสลายเข้าสู่ร่างกายมากขึ้นเท่านั้น แสงสีหลากสีสันอันเกิดจากปราณธาตุต่างพวยพุ่งด้วยความดุกร้าวแข็งแกร่งพร้อมเข้าทำลายทุกสิ่งอย่างที่อยู่ในรัศมีการรับรู้ ทว่าเทพาม่อเหยียนได้ตวัดมือไปเพียงครั้งจึงบังเกิดเป็ม่านพลังป้องกันที่จำกัดการโจมตีเหล่านี้ไม่ให้สร้างเสียหายแก่สิ่งมีชีวิตและสิ่งที่อยู่โดยรอบ ก่อนที่เปลวเพลิงสีแดงประกายทองจะพวยพุ่งออกมาประสานไปกับเปลวเพลิงสีทองประกายรุ้ง ก่อนที่เปลวเพลิงทั้งสองนี้จะผสานกลายเป็เปลวเพลิงสีแดงทองประกายรุ้งที่มีกลิ่นอายอหังการเป็อย่างมาก
ยามนี้กลีบดอกสีขาวพิสุทธิ์ของดอกเบญจมาศนี้ได้สูญสลายไปสิ้นแล้ว เปลวเพลิงสีแดงทองประกายรุ้งได้ผนึกตัวขึ้นเป็เสาแสงที่อาบย้อมห้วงอากาศ บังเกิดเป็แรงสั่นะเืที่รุนแรงไปมากกว่าทุกครั้ง จากนั้นแว่วยินเสียงคำรามของัที่ผสานไปกับเสียงอันไพเราะของเฟิ่งหวง ปรากฎการณ์นี้ดำรงอยู่เพียงไม่กี่จิบชาเท่านั้นก่อนจะสงบลงในที่สุด
เวลานั้นสายตาของทุกคนในที่นี่ล้วนจับจ้องไปยังร่างของทารกที่ลอยอยู่ตรงเบื้องหน้าที่ยังคงหลับสนิท ใบหน้าที่งดงามแต่เด็กนั้นได้สร้างความเอ็นดูแก่ผู้ที่พบเห็นไม่น้อย ผิวพรรณล้วนขาวผ่องเป็ประกายดูน่าััยิ่ง กลิ่นอายอันอหังการก่อนหน้ายามนี้ได้สูญสลายไปสิ้นแล้ว ทว่ายังคงหลงเหลือกระแสพลังลมปราณสายหนึ่งไหลเวียนปกป้องร่างกายที่หากเปรียบเทียบไปแล้วคงเปรียบได้กับราชทินนามจักรพรรดิิญญาผู้หนึ่ง เพียงแต่ว่าเขตขั้นพลังิญญานี้กลับปรากฎขึ้นกับเด็กทารกที่มีอายุไม่ถึงสองปีเพียงเท่านั้น เทพาทั้งสามรวมไปถึงเซียนโอสถทั้งเก้าต่างระบายรอยยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจ ก่อนที่พลังปราณอ่อนหยุนสายหนึ่งของเสวี่ยจิงจะรองรับร่างของเด็กทารกน้อยลอยลิ่วเข้าสู่อ้อมอกด้วยความอ่อนโยน ก่อนที่จะถ่ายเทพลังปราณเข้าโอบล้อมร่างเล็กเพื่อตรวจสอบอีกครั้ง
“ภายในร่างกายของเขายามนี้ประกอบไปด้วยสี่ปราณธาตุที่ได้รับการยกระดับหวนคืนถึงขั้นต้นกำเนิดประกอบด้วยปราณสุริยธาตุ ปราณทิวาธาตุ ปราณธาตุน้ำและปราณธาตุพิษ แน่นอนว่าิญญายุทธ์อันเกิดจากปราณธาตุทั้งสี่ล้วนได้รับการยกระดับฝีมือความพิศดารและขุมพลังไปด้วยเช่นกัน กลางทะเลมหาสมุทรลมปราณยังปรากฏเป็สายโลหิตของเผ่าพันธ์พญาัทองอัมพรพิสุทธิ์มหา์ากับสายโลหิตของเผ่าพันธุ์พญาหงส์แดงอัคคีสุริยะมหา์าที่กำลังหลอมรวมกันอย่างช้า ๆ ไม่รู้ว่ามหาพิภพกำลังให้กำเนิดตัวตนเช่นใดกันช่างน่าสนใจเสียจริง” เสวี่ยจิงเอ่ยขึ้นหลังจากแผ่พลังปราณััเข้าไปในร่างกายของทารกน้อย
“ยิ่งไปกว่านั้นดูเหมือนว่าเส้นชีพจร ไขกระดูกรวมไปถึงทุกส่วนในร่างกายล้วนถูกยกระดับเข้าสู่เขตขั้นที่เหนือชั้นกว่าราชทินนามจักรพรรดิิญญาหลายเท่าหากเปรียบเทียบแล้วคงไม่ต่างไปจากราชทินนามเทวะิญญาขั้นกลางเสียด้วยซ้ำ ด้วยสิ่งเหล่านี้ย่อมส่งผลให้เขานั้นถูกนับเป็อีกหนึ่งรุ่นเยาว์ที่แข็งแกร่งแล้ว ส่วนสายโลหิตทั้งสองเผ่าพันธ์นั้นคาดว่าคงยกระดับย้อนกลับไปถึงขั้นต้นกำเนิดได้อย่างไม่ยากนัก ทุกส่วนในร่างกายล้วนถูกแฝงไปด้วยคุณวิเศษเฉพาะของโอสถหมื่นชีวันอนันต์มหรรณพและถูกปลดปล่อยออกมาทีละน้อยเพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัวไปทีละส่วนกล่าวว่าขั้นตอนเหล่านี้ช่างสมบูรณ์ยิ่ง หากเขาโตขึ้นเพียงพอจนได้รับความทรงจำเดิมของเขาแล้ว ความสามารถพิเศษของเขาที่เคยมีจะกลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม ไม่สิ มากขึ้นกว่าเดิมไม่รู้กี่ร้อยพันเท่าเสียแล้วกระมัง...” ท่ามกลางคำกล่าวที่ยืดยาวปานนี้ได้ส่งผลให้เทพาทั้งสองรวมไปถึงเซียนโอสถทั้งเก้าอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาด้วยความตกตะลึง ด้วยสิ่งที่พวกเขาได้สดับฟังอยู่นั้นย่อมหมายถึงคุณสมบัติที่สุดยอดผู้แกร่งกล้าพึงเสียด้วยซ้ำ เด็กหนุ่มคนนี้ช่างเต็มไปด้วยโชคชะตาลิขิต์ที่โดดเด่นเสียจริง
“แต่เดิมสายโลหิตของเด็กน้อยคนนี้ก็มีความพิเศษที่ไม่ธรรมดาสามัญหากได้รับสิ่งของบำรุงวิเศษและได้รับการสั่งสอนจากเ้าที่เป็ถึงเทพาาแล้วย่อมเป็ผลดีแก่เด็กคนนี้เป็อย่างมาก อย่างไรเขาก็มีสายเืขององค์ไท่จื่อที่เป็ลูกศิษย์ของเ้าเช่นกัน...”
“ข้าไม่ติดขัดในข้อใดทั้งสิ้น อย่างน้อยข้ายังมีพวกเ้าทั้งสองที่คอยช่วยดูแลทารกน้อยคนนี้ใช่หรือไม่เล่า คิดไปแล้วช่างเป็เด็กน้อยที่น่าอิจฉาเสียจริง ทอดสายตาไปทั่วทั้งมหาพิภพแล้วใครจะคาดคิดว่ามีเด็กผู้หนึ่งที่ได้รับการเลี้ยงดูสั่งสอนจากเทพาทั้งสามเช่นนี้ ไม่รู้ว่าในวันข้างหน้าตัวตนของเขานั้นจะเป็ผู้ที่ยิ่งใหญ่ไปได้มากถึงเพียงใด” ม่อเหยียนกล่าวหยอกเย้าอย่างเสียไม่ได้
“แล้วเ้าจะตั้งชื่อเขาว่าอย่างไร?” ห่าวหรานถามขึ้นด้วยความสงสัย
“รอให้เขาฟื้นคืนความทรงจำกลับมาเสียก่อนแต่ข้าคิดว่าเขาคงกลับไปใช้นามเดิมก่อนหน้านี้เป็แน่ อย่างไรตอนนี้เรียกเขาว่าเสี่ยวเปาตัวน้อย...” เสวี่ยจิงตัดสินใจได้ในที่สุด สำหรับที่มาของชื่อเรียกชั่วคราวนี้นั่นคือผิวพรรณของอีกฝ่ายที่ดูขาวบริสุทธิ์เนียนนุ่มไม่ต่างไปจากซาลาเปาลูกน้อย ๆ สักเท่าไหร่นัก ช่างเป็เด็กน้อยที่น่าเอ็นดูเสียจริง
“จักรพรรดินีจิ้งจอกเหมันต์เก้าหาง...” สิ้นเสียงของเทพาาม่อเหยียน ได้ปรากฎรอยแยกม่านมิติเหนือท้องฟ้าก่อนที่จะมีร่างมหึมาทะยานลงมา รูปลักษณ์ที่ปรากฏนั้นเป็จิ้งจอกสีขาวพิสุทธิ์เก้าหางที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายความเย็นเยือกแห่งเหมันต์พร้อมกับสะเก็ดหิมะที่โปรยปรายลงมาไม่ขาดสาย ข้างกายนั้นเป็จิ้งจอกตัวน้อยสีขาวอมชมพูชวนให้รู้สึกเอ็นดูอยู่ไม่น้อยที่ลอยวนเวียนอยู่ด้านข้าง
ทันทีที่เงาร่างทั้งสองปราดลงมาก็แปลงกายอยู่ในรูปลักษณ์เป็หนึ่งมนุษย์สตรีนางหนึ่ง สวมใส่อาภรณ์สีขาวลวดลายแปลกตาไม่น้อย ทุกย่างก้าวเดินนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นอายของปราณธาตุเหมันต์ที่มีความแข็งแกร่งยิ่งสมกับฐานะของผู้ปกครองดินแดนทางฝั่งเหนือ มือเรียวงามของนางได้จับจูงเด็กน้อยผู้หนึ่งในรูปลักษณ์ไม่เกินห้าถึงหกขวบปี ใบหน้านั้นจะกล่าวว่างามล่มเมืองไม่ต่างไปจากมารดาคงไม่เกินจริงไปนัก เมื่อมาถึงด้านหน้าทั้งสองจึงประสานมือทำความเคารพด้วยมารยาทที่พึงกระทำ
“ฟังว่าน้ำนมของเผ่าพันธ์จิ้งจอกเหมันต์เก้าหางเป็สุดยอดน้ำนมบำรุงร่างกายที่มีฤทธิ์วิเศษยิ่ง อีกทั้งเ้าพึ่งให้กำเนิดจิ้งจอกน้อยตัวนี้ได้ไม่นาน อย่างน้อยมีเ้าที่เป็มารดาคอยเลี้ยงดูอุ้มชูเด็กคนนี้คงจะเหมาะสมกว่าพวกข้าที่เป็บุรุษทั้งสามอย่างแน่นอน รบกวนเ้าด้วยแล้วกัน...”
“ข้ายินดีเ้าค่ะ” จักรพรรดินีจิ้งจอกเหมันต์เก้าหางขานรับพร้อมกับอุ้มทารกตัวน้อยเข้ามาด้วยความเอ็นดู เด็กคนนี้ได้รับความเมตตาสูงสุดจากเทพาทั้งสามเป็อย่างยิ่ง นางย่อมทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด
“หลังจากนี้ต้องรบกวนฟานเอ๋อร์ช่วยมารดาเลี้ยงน้องน้อยผู้นี้แล้วได้หรือไม่??”
“ข้าจะช่วยท่านแม่เลี้ยงน้องเองขอรับท่านลุง” ฟานหลิงรับคำด้วยความยินดี น้องน้อยในอ้อมกอดของมารดานั่นน่ารักเป็อย่างยิ่ง น่ากอดมาก
“ขอบใจเ้ามาก ฟานเอ๋อร์ของลุงช่างเป็เด็กที่กตัญญูเสียจริง ตัวเล็กเพียงเท่านี้ก็รู้ความเสียแล้ว” ม่อเหยียนกล่าวขึ้นพร้อมกับลูบศีรษะของเด็กชายตัวน้อย ก่อนที่จะจะให้จักรพรรดินีจิ้งจอกเหมันต์เก้าหางพาทารกน้อยไปพักผ่อนเสียที
เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นลงไปด้วยความเรียบร้อย บรรดาเซียนโอสถทั้งเก้าต่างเข้ามาล่ำลาคุกเข่าคารวะเทพโอสถาผู้เป็อาจารย์ การพบเจอในครั้งนี้ไม่รู้ว่าเมื่อใดจะได้พบเจอกันอีกครั้งก่อนจะแยกย้ายกลับไปยังสำนักหรือดินแดนที่ตนประจำการอยู่ ทางฝั่งของเทพาทั้งสามต่างแยกย้ายกลับที่พำนักของตนด้วยเช่นกัน ระหว่างนั้นเสวี่ยจิงได้แจ้งแก่สหายให้ทั้งสองรับรู้ว่าตนต้องออกเดินทางไปยังสถานที่หนึ่งเพื่อฟื้นฟูขุมพลังให้กลับมาสมบูรณ์ดังเดิมอีกครั้งซึ่งอาจใช้เวลาหลายปีเลยทีเดียว นอกจากนั้นยังต้องเตรียมความพร้อมเพื่อถ่ายทอดเคล็ดวิชาโอสถให้แก่เด็กน้อยอีกด้วย ระหว่างนี้จะเป็ห่าวหรานและม่อเหยียนจะต้องรับหน้าที่ฝึกสอนไปก่อนเพื่อที่จะถ่ายทอดองศ์ความรู้ทั้งหมดให้ได้มากที่สุดเช่นกัน...