“นางเป็ลูกเนรคุณ ไม่รู้จักดีชั่ว!” กลับถึงบ้านหลิน ตามจางซื่อเข้าไปในห้อง หลินฟาไฉขว้างถ้วยน้ำชา
เศษกระเบื้องกระจายบนพื้น หลินฟาไฉขว้างออกไปแล้วนึกเสียดาย นี่เป็กระเบื้องละเอียด เป็เงิน!
จางซื่อให้เหลียนจือเก็บกวาด เดินไปนั่งข้างเขาอย่างนุ่มนวล ใช้มือลูบหน้าอก
“เหล่าเหยีย ในเมื่อข้ามาอยู่กับท่านแล้วก็มอบใจให้ท่าน ท่านไม่รังเกียจบุปผาโรยราเช่นข้า ทั้งยังรับลูกสาวข้าเป็ลูกสาวแท้ๆ ของตัวเอง ข้าซาบซึ้งใจยิ่งนัก ท่านเป็ผู้มีพระคุณของข้า”
คำพูดนุ่มนวลของนางน่าฟังมาก หลินฟาไฉโมโหน้อยลงเมื่อถูกนางกล่อมเช่นนี้
“ข้ากำลังด่านังลูกเวรนั่น เกี่ยวกับเ้าที่ใดเล่า” หลินฟาไฉจับมือจางซื่อ มือนี้ทั้งขาวทั้งลื่น ไม่เหมือนมือสวี่ซื่อที่หยาบเป็ท่อนฟืน จับแล้วเหมือนจะบาดมือตัวเอง
ที่สำคัญคือร่างกายที่อยู่ใต้เสื้อผ้า มองใต้ตะเกียงแล้วขาวกระจ่าง ตรงที่ใดควรนูนก็นูน ตรงที่ใดควรบางก็บาง ไม่เหมือนคนเคยมีลูกหรือมีม้าวิ่งเป็ประจำสักนิด ยังคงรัดแน่นจนิญญาแทบหลุดจากร่าง
ไม่เหมือนสวี่ซื่อที่ตรงนั้นไม่ใช่แค่กว้างจนให้ม้าวิ่งได้ แต่ยังล่องเรือได้แบบไม่มีปัญหากระไร ไม่น่าสนใจสักนิด
หลินฟาไฉแค่คิดก็ร้อนรุ่ม มือเริ่มอยู่ไม่สุข ลูบไปทั่วร่างจางซื่อ
จางซื่อตีมือเขาทิ้ง หันไปทางอื่นหน้าแดงก่ำ พูดอย่างเขินอายว่า “เหล่าเหยีย นี่ยังกลางวันนะเ้าคะ…”
หลินฟาไฉถึงยอมหยุดมือ อย่างไรเสียเขาก็อายุมากแล้ว มีหลายครั้งที่ใจอยากแต่ร่างกายไม่เอื้อ
“เหล่าเหยีย ท่านก็รู้ว่าเงินจำนวนนี้ตายตัว สินเดิมของข้าก็ไม่ได้มาก ต้องอาศัยจากทางโน้นให้เอา…สองสามปีก็ได้มากสุดแค่สามร้อยตำลึง ไท่ไท่บ้านโน้นคำนวณละเอียดยิ่งนัก รู้ว่าหากข้ามาอยู่กับท่านสักสองสามปี มีลูกชายอีกสักคน ถึงเวลาจะได้กลับไปที่คฤหาสน์ไม่ได้อีก และถึงข้าจะกลับไป เหล่าเหยียคนก่อนคงไม่้าคนที่แปดเปื้อนเช่นข้าอยู่ดี นางไม่มีทางจ่ายเงินให้พวกเราตลอด ดังนั้นพวกเราต้องเชื่อมสัมพันธ์กับบ้านเจียงให้ดี หวั่นชิวเป็ลูกสาวท่าน ข้าคิดอยู่แล้วว่าบ้านเจียงไม่มีทางปล่อยตัวนาง วันนี้ไปเพื่อแสดงท่าทีว่าท่านเสียใจและไม่ได้ตั้งใจทำเื่ในอดีตก็เท่านั้น… ไว้เชื่อมสัมพันธ์สำเร็จ ทั้งสองบ้านไปมาหาสู่กัน ครอบครัวเราย่อมได้ผลประโยชน์ไม่น้อย”
นางลูบท้องตัวเองเมื่อพูดจบ “หากข้ามีลูกชายอีกคน…เหล่าเหยีย ท่านว่าพวกเราควรวางแผนอนาคตเพื่อลูกหรือไม่?”
ต้องยอมรับว่าจางซื่อมีความสามารถ กล้าเอาเื่ที่ยังไม่มีแม้แต่เค้าลางมาพูด
แต่ใช้ได้ผลกับหลินฟาไฉ
เขาฝันว่าอยากมีลูกชายมานานแล้ว แต่ลูกสามคนที่สวี่ซื่อคลอดออกมามีแต่ลูกสาว
ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ให้หลินซย่าจื้อแต่งสามีเข้าบ้าน
“จากที่ข้าดูในบรรดาลูกสาว สามีของหวั่นชิวดูมีอนาคตที่สุด ที่สำคัญคืออยู่หมู่บ้านเดียวกัน ท่านอย่าได้ดูถูกชายฉกรรจ์ผู้นั้นเด็ดขาด ไม่พูดถึงอย่างอื่น ลำพังแค่ฝีมือในการล่าสัตว์ของเขาก็เยี่ยมยอด ไม่ว่าจะเป็ผู้คุ้มกันหรือเป็องครักษ์ให้ตระกูลใหญ่ก็ได้เงินเดือนเยอะทั้งสิ้น อีกเื่ เหล่าซานบ้านพวกเขาเรียนอยู่ที่สำนักศึกษาชิงซงมิใช่หรือ สำนักศึกษาชิงซงไม่ใช่สอบเข้าง่ายๆ นะ คนที่สอบได้ซิ่วไฉกับจวี่เหรินจากอำเภอเราในแต่ละปีมีมาจากสำนักศึกษาชิงซงเกินครึ่ง ไม่แน่ว่าเหล่าซานบ้านพวกเขาจะอนาคตไกลเช่นกัน เหล่าเหยีย เราจะเลอะเลือนอีกไม่ได้เด็ดขาด ท่านเชื่อข้าเถิด ข้ากำลังปูทางให้ลูกชายในอนาคตของพวกเรา หรือต่อให้ข้าไม่มีลูกชาย การผูกสัมพันธ์กับหวั่นชิวก็เป็การวางแผนเผื่อตอนพวกเราแก่เช่นกัน”
“แต่เ้าก็เห็นว่าเจียงหงหย่วนไม่สนกระไรทั้งสิ้น กล้าลงมือกับทุกคน” หลินฟาไฉกลัดกลุ้ม เห็นชัดว่าเขาฟังคำกล่อมของจางซื่อ
มีไม่กี่คนที่รู้ว่าหลินหวั่นชิวไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ ของเขา หากคนอื่นไม่รู้ จนถึงวันตายนางก็ยังเป็ลูกสาวเขา
แต่เจียงหงหย่วนเป็เสี้ยนหนาม หาช่องลงมือไม่ได้
จางซื่อยิ้ม นางช่วยนวดไหล่ให้หลินฟาไฉ สบายจนหลินฟาไฉหลับตา
“เื่นี้ต้องค่อยเป็ค่อยไป พวกเราไม่ต้องเอาใจเจียงหงหย่วน แค่ทำดีกับหวั่นชิวเป็พอ ให้หวั่นชิวยอมรับและให้อภัยบ้านหลิน เหล็กกล้ามิอาจทานความยืดหยุ่น ขอแค่หวั่นชิวกุมหัวใจเจียงหงหย่วน สุดท้ายเขาก็ต้องยอมฟังนาง เหมือนที่ท่านฟังคำเกลี้ยกล่อมของข้าเ้าค่ะ”
“อืม เ้าพูดถูก ทำตามที่เ้าว่า ครอบครัวควรมีภรรยามีคุณธรรมและความสามารถเช่นเ้าจึงจะรุ่งเรือง คนโบราณกล่าวไว้ถูกต้องยิ่งนัก ภรรยาที่พร้อมด้วยคุณธรรม สามีที่ทำงานข้างนอกจักวางใจได้”
ความหมายแฝงคือ สวี่ซื่อไม่ใช่ภรรยาดี
“หมกตัวอยู่ในห้องตอนกลางวัน ทำกระไร หมักปุ๋ยหรือไร?”
หลินฟาไฉกำลังบ่นสวี่ซื่อในใจ เสียงด่าของสวี่ซื่อก็ดังผ่านหน้าต่างเข้ามา ไฟโทสะที่เขากดไว้ปะทุขึ้นมาทันที ลุกขึ้นเดินออกไป
จางซื่อตามไปเช่นกัน
นางดึงหลินฟาไฉ ชิงขอโทษสวี่ซื่อด้วยรอยยิ้มตัดหน้าเขา “พี่ใหญ่ ข้าผิดเองเ้าค่ะ ข้าเป็คนชวนเหล่าเหยียคุย ข้ารู้สึกว่าบ้านเรามีที่นาไม่ค่อยพอ ที่บ้านมีคนต้องกินต้องใช้หลายคน มีลูกสาวต้องแต่งงานสองคน อยากนำเงินส่วนตัวออกมาซื้อที่นาเพิ่ม รายรับในบ้านจะได้มากขึ้น”
หลินฟาไฉย่อมซาบซึ้งใจมากที่นางพูดเช่นนี้ เขาดึงมือจางซื่อ “ฮุ่ยเหนียง เ้าช่างมีน้ำใจเหลือเกิน รู้จักนึกถึงครอบครัวนี้ วางใจเถิด ข้าจะไม่ให้เ้าโดนรังแกเป็แน่”
พูดจบก็ทำตาขวางใส่สวี่ซื่อ สวี่ซื่อพูดกระไรไม่ได้เช่นกัน ต้องกล้ำกลืนความโมโห จะด่าก็ไม่ใช่ ไม่ด่าก็ไม่ใช่
นางจะพูดกระไรได้เล่า?
ขัดขวางไม่ให้อีกฝ่ายนำเงินออกมาซื้อที่หรือ?
“ท่านแม่ หากท่านไม่มีกระไรทำก็อยู่ในห้องจะได้อุ่นๆ ปักผ้าเย็บผ้ากระไรไปเถิด ไม่ต้องสนใจเื่ในบ้าน” หลินซย่าจื้อได้ยินจางซื่อพูดเช่นนี้ก็ดีใจเช่นกัน เพราะวันหน้าที่ดินบ้านหลินต้องตกเป็ของจินเป่า! “แม่รอง ท่านแม่ข้าเป็คนพูดจาโผงผาง เป็เช่นนี้มาตลอดหลายปี ท่านอย่าเก็บไปใส่ใจเลย”
จางซื่อยิ้มบางๆ “ครอบครัวเดียวกันทั้งนั้น ไม่คิดเล็กคิดน้อยขนาดนั้น ไว้ปีใหม่แล้วข้าจะนำเงินไปซื้อยายเฒ่าทำงานใช้แรงมากับสาวใช้เพิ่ม ให้บ่าวใช้จัดการงานในบ้านไป เ้ากับฮั่วเอ๋อร์จะได้สบายหน่อย”
หลินฮั่วกับหลินซย่าจื้อยิ่งดีใจขึ้นไปอีก พากันเรียกแม่รองย่ารองอย่างสนิทสนม
จางซื่อใช้น้ำใจเล็กๆ น้อยๆ มาซื้อใจทุกคนในบ้านหลิน เื่นี้ราบรื่นกว่าที่นางคิดไว้มาก
แค่กุมใจบ้านหลินให้อยู่หมัด อย่าเป็ตัวถ่วง นางจึงจะตีตัวเข้าใกล้หลินหวั่นชิวได้
หยกแขวน…
นายท่านให้เวลาไม่มาก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้