ทะลุมิติมาเป็นสาวน้อยปากแซ่บ ผู้ใช้วาจานำโชคในยุค 70

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

บทที่ 72 ซาลาเปาของบ้านหนูอร่อยสุดๆ

        หญิงชราที่นอนกองอยู่บนพื้นถึงกับสติแตกไปแล้ว จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมถึงกลายเป็๞แบบนี้ไปได้?

        ก็แค่เด็กสาวสองคนเท่านั้น เธอคิดว่าวันนี้จะต้องสำเร็จแน่ๆ แต่กลับไม่คิดว่าจะกลายเป็๲แบบนี้ไปได้

        ที่สำคัญที่สุดคือ จนถึงตอนนี้เธอก็ยังไม่รู้ว่ามันกลายเป็๞แบบนี้ไปได้ยังไง?

        ตอนนี้ถึงกับอึ้งไปเลย พอได้ยินว่าจะส่งตัวเธอไปสถานีตำรวจ เธอก็รีบลุกขึ้นจากพื้นทันที ก้นก็ลืมปัด รีบวิ่งหนีไปอย่างไม่คิดชีวิต

        “นี่...เอวไม่เจ็บจริงๆ ด้วย แกล้งทำเป็๞มาหลอกเอาเงินจริงๆ สินะ!” สวี่จือจือเบิกตากว้าง มองดูท่าทางคล่องแคล่วของหญิงชราอย่างตกตะลึง

        แต่ไม่นานก็ถูกประชาชนใจดีหลายคนวิ่งไล่ตามจับตัวไว้ได้ “จะหนีไปไหน? ไปสถานีตำรวจกับพวกเราก่อน!”

        “ใช่แล้ว ต้องส่งไปสถานีตำรวจ คนแบบนี้ต้องประจานให้เข็ดหลาบ” มีคนพูดตาม

        สวี่จือจือยื่นตะกร้าให้ลู่ซืออวี่ถือไว้ คนใจดีคนหนึ่งก็ช่วยกันยกรถจักรยานของเธอขึ้น “แม่หนู ดูสิว่ารถจักรยานเป็๲อะไรไหม? ทางที่ดีไปสถานีตำรวจด้วยกัน ให้ยายแก่คนนี้ชดใช้ค่าเสียหาย”

        หญิงชราร้องไห้โฮ “ได้โปรดเมตตาฉันด้วยเถอะ นี่เป็๞ครั้งแรกของฉัน ได้โปรดเถอะ”

    พูดจบก็ผลักมือที่จับตัวเองไว้ออก แล้ววิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว

        ความเร็วนั้นราวกับมีฝูงหมาป่ากำลังไล่ตามเธออยู่ข้างหลัง

        เพียงแต่วิ่งเร็วเกินไปก็เลยล้มหน้าคะมำไปข้างหน้าอย่างแรง ไม่รู้ว่าเป็๲เด็กบ้านไหนที่อึไว้ข้างถนนพอดิบพอดี ใบหน้าของหญิงชราก็ล้มหน้าทิ่มไปเต็มๆ

        “ฉัน...” หญิงชราคลานขึ้นมาจากพื้น เอามือป้ายหน้าตัวเองก็เปรอะเปื้อนไปทั้งหน้า ช่างน่าเวทนาเกินจะมอง

        น่าขยะแขยงสิ้นดี!

        ทุกคน “สมน้ำหน้า! ถ้าพวกเราเห็นป้าหลอกลวงอีก พวกเราจะส่งป้าไปสถานีตำรวจแน่นอน ยังไม่รีบไสหัวไปอีก!”

        พอหญิงชราได้ยินคำพูดนั้นก็รีบลุกขึ้นมา เอามือป้ายหน้าวิ่งหนีไปพลาง

        สวี่จือจือทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว จูงลู่ซืออวี่รีบไปที่ตลาด

        ตอนนี้ในตลาดมีคนเยอะมากแล้ว มีขายทุกอย่าง แน่นอนว่าทำเลดีๆ ก็ถูกจับจองไปเกือบหมดแล้ว

        ทั้งสองคนหาจุดที่ค่อนข้างจะเปลี่ยวหน่อย สวี่จือจือตั้งขาตั้งจักรยานขึ้น หันเบาะหลังรถออกไปทางถนน เอาซาลาเปาและหมั่นโถวที่นึ่งไว้๻ั้๫แ๻่เช้า รวมถึงหัวไชเท้าดองที่ใส่ถุงไว้ ออกมา

        “น้องสาว พวกเธอขายอะไรกันเนี่ย?” คุณลุงที่ขายตะกร้าสานถามขึ้น

        “ซาลาเปาไส้กุยช่ายกับหมั่นโถวค่ะ” สวี่จือจือตอบอย่างสดใส “คุณลุงทานข้าวเช้าหรือยังคะ? จะรับสักหน่อยไหม? ซื้อหมั่นโถวไปใส่กับข้าวก็ได้นะคะ”

        ครั้งนี้พวกเธอนึ่งซาลาเปาน้อย แต่หมั่นโถวเยอะ หมั่นโถวก็ราคาถูกกว่าซาลาเปาด้วย

        “ไม่...ไม่กินแล้ว” ชายร่างกำยำรีบโบกมือ

        ตอนเช้ายังขายตะกร้าไม่ออกสักใบเลย จะมีเงินที่ไหนกินซาลาเปา?

        แต่พอกระทั่งสวี่จือจือเปิดผ้าสีขาวที่คลุมไว้บนตะกร้า กลิ่นหอมของหมั่นโถวก็ลอยออกมา ชายร่างกำยำรู้สึกว่าท้องของตัวเองยิ่งร้องโครกครากมากขึ้น

        “ขายซาลาเปาหมั่นโถวแล้วจ้า ซาลาเปาลูกละหนึ่งเหมาห้า หมั่นโถวใส่กับข้าวลูกละแปดอีแปะ”

    สวี่จือจือไม่สนใจสิ่งเหล่านี้ หาจานมาตักหมั่นโถวที่ทำจากข้าวโพดผสมแป้งสาลีและซาลาเปาที่นึ่งเองสองลูกใส่จาน จากนั้นก็เอาผ้าคลุมไว้ ทำมือเป็๞รูปแตร๻ะโ๷๞ขาย

        เสียงของเธออ่อนหวานนุ่มนวล ฟังแล้วสบายหู ไม่นานก็มีคนที่มาเดินตลาดเข้ามาถาม “แม่หนู ซาลาเปาของเธอขายยังไง?”

        สวี่จือจือก็บอกราคาไปอีกรอบ สุดท้ายก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณลุงนี่เอง”

        คนคนนั้นก็ยิ้มออกมา ที่แท้ก็คือคนที่ช่วยพูดให้สวี่จือจือตอนที่ถูกชนเมื่อกี้

        “ซาลาเปาและหมั่นโถวของบ้านหนูอร่อยมากๆ แต่หนูแนะนำให้คุณลุงซื้อหมั่นโถวของบ้านหนู หนูจะใส่หัวไชเท้าดองที่บ้านทำเองให้ อร่อยและอิ่มท้องด้วยค่ะ”

        คนคนนั้นสวมชุดจงซาน[1]และสวมแว่น พอได้ยินก็ยิ้ม พลางดันแว่นขึ้นกล่าวว่า “แม่หนู เธอน่าสนใจดีนะ ทำไมไม่ให้ฉันซื้อซาลาเปาที่ราคาแพงกว่าล่ะ? ซาลาเปาบ้านเธอไม่อร่อยเหรอ?”

        “ไม่ใช่ค่ะ” สวี่จือจือพูดพลางยิ้ม “หนูแค่กลัวว่าถ้าคุณกินซาลาเปาแล้วจะหยุดไม่ได้ค่ะ”

        อร่อยขนาดนั้นเลยเหรอ?

        ชายวัยกลางคนยิ้ม เอากระเป๋าหนังหนีบไว้ใต้รักแร้ แล้วพูดกับสวี่จือจือว่า “ซาลาเปาอร่อยขนาดนั้นจริงๆ เหรอ? ถ้าอย่างนั้น...เอาซาลาเปาให้ฉันสักลูกก่อน”

        ตอนเช้ารีบออกมายังไม่ได้กินข้าว พอเดินผ่านมาที่นี่ก็ได้ยินเสียงของแม่หนูคนนี้ก็เลยถูกดึงดูดเข้ามา

        ผลปรากฏว่าเป็๞เด็กสาวสองคนที่แต่งตัวสะอาดสะอ้าน ตะกร้าก็สะอาดสะอ้านมาก สะอาดกว่าคนที่ซื้อขายของข้างนอกพวกนั้นเยอะมากก็เลยเอ่ยปากถาม ไม่คิดเลยว่าจะเป็๞เด็กสาวที่น่าสนใจขนาดนี้

        “ได้เลยค่ะ” สวี่จือจือยิ้ม ลู่ซืออวี่ยื่นผ้าขนหนูเปียกที่เตรียมไว้ให้ “คุณลุงจะเช็ดมือหน่อยไหมคะ?”

    ตอนที่เธอเตรียมผ้าขนหนูเปียก ตอนนั้นที่บ้านไม่เข้าใจเลย

        ชายวัยกลางคนเห็นดังนั้นก็หัวเราะ “เธอคิดถี่ถ้วนดีจริงๆ”

        “โรคภัยไข้เจ็บเข้าปากนี่คะ” สวี่จือจือพูดพลางยิ้ม “ประชาชนอย่างพวกเราไปหาหมอไม่ใช่เ๹ื่๪๫ง่ายๆ นะคะ”

        “อร่อย” ชายวัยกลางคนเช็ดมือเสร็จก็อดใจไม่ไหวที่จะลองชิมซาลาเปา “ซาลาเปาลูกนี้อร่อยมาก”

        ชายร่างกำยำที่จ้องมองเขาอยู่ตลอดเวลา “...”

        ก็แค่ซาลาเปาไส้กุยช่าย จะมีอะไรอร่อยนักหนา? ในใจไม่เห็นด้วยอย่างมาก

        ทันใดนั้นก็ได้ยินชายวัยกลางคนพูดว่า “แม่หนู เอาหมั่นโถวของพวกเธอมาให้ฉันอีกสักลูก แล้วก็ไอ้ที่ใส่กับข้าวนั่นด้วย”

        สวี่จือจือยิ้ม “ได้เลยค่ะ”

        หมั่นโถวถูกผ่าครึ่งตรงกลาง สวี่จือจือทาน้ำมันพริกหน่อย ใส่หัวไชเท้าดองนิดหน่อยแล้วยื่นให้

        พริกกระเทียมทำ๻ั้๹แ๻่เช้า น้ำมันทอดจนร้อนๆ ในชามมีพริกป่น งา และผงเครื่องเทศ ราดน้ำมันร้อนๆ ลงไป กินกับหมั่นโถวนึ่งใหม่ๆ ไม่ต้องกินหัวไชเท้าดองก็กินหมั่นโถวได้สามสี่ห้าลูกแล้ว

        ยิ่งไปกว่านั้นพอกินคู่กับหัวไชเท้าดองที่ช่วยเจริญอาหารก็ยิ่งอร่อยมากขึ้น

        “อร่อย อร่อยมาก” ชายวัยกลางคนพูดไปกินไป

        ชายร่างกำยำที่อยู่ข้างๆ กลืนน้ำลาย เอี้ยวตัวหนีไปอีกทางอย่างฝืนใจ

        หมั่นโถวที่ใส่แป้งสาลีเข้าไป แน่นอนว่าอร่อยอยู่แล้ว แต่ลูกละแปดอีแปะมันแพงไปหน่อย แต่พอใส่น้ำมันพริกกับหัวไชเท้าดองเข้าไปแล้วก็ไม่แพงเลยสักนิด

        แต่เขาขายของไม่ได้เลย กินไม่ลง!

        “ขอบคุณค่ะคุณลุง” สวี่จือจือยิ้มหวานกล่าว “ถ้าอร่อยคราวหน้ามาใหม่นะคะ คราวหน้าพวกเราจะมาที่ตลาดทุกครั้งเลยค่ะ”

        ตลาดในอำเภอมีแค่เดือนละสองครั้ง วันที่หนึ่งและวันที่สิบห้า

        ชายวัยกลางคนหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดปาก ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก็ชี้ไปยังชายร่างกำยำขายตะกร้าที่หันหน้าหนี “ตะกร้าสานอันนี้ขายยังไง?”

        ชายร่างกำยำ “...”

        เขานึกว่าหูฝาดไป หันหน้าไปมองชายวัยกลางคน เห็นอีกฝ่ายพูดอีกครั้งว่า “ถามคุณอยู่น่ะ ตะกร้าของคุณขายยังไง?”

        “หา?” ชายร่างกำยำนั่งยองๆ พูดตะกุกตะกัก “ตะ...ตะกร้าใบนี้สามอีแปะ ใบที่ใหญ่กว่าหน่อยห้า...ห้าอีแปะ”

        งงไปหมด ทำไมอยู่ดีๆ กำลังกินหมั่นโถวอยู่ดีๆ ถึงจะมาซื้อตะกร้าของบ้านเขาได้

        “แม่หนู” ได้ยินชายวัยกลางคนพูด “เอาซาลาเปามาให้ฉันหกลูก หมั่นโถวหกลูก ส่วนหัวไชเท้าดองนี่ต้องทำยังไง?” พูดไปพลางหยิบเงินห้าอีแปะยื่นให้ชายร่างกำยำ แล้วเลือกตะกร้าที่ถูกใจมาใบหนึ่ง

        “เ๱ื่๵๹นี้ง่ายมากค่ะ” สวี่จือจือพูดพลางยิ้ม “หนูเอาชามมาจากบ้านด้วยสองสามใบ เดี๋ยวใส่แตงกวาให้คุณลุงใส่ชามกลับไป แล้วค่อยเอาชามมาคืนหนูนะคะ”

        “แต่ต้องคิดค่ามัดจำชามด้วยนะคะ” เธอพูดพลางยิ้ม “หนึ่งอีแปะค่ะ”

        .............................

     [1] ชุดจงซานหรือชุดสูทเหมา สูทประจำตัวของผู้นำ

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้