ทันทีที่ได้ยินเสียงพูดของแม่ เด็กน้อยก็หยุดสอดส่ายสายตาไปมา ั์ตาดำขลับเหมือนเม็ดองุ่นของเธอจ้องนิ่งไปที่ใบหน้าของวรรณารีและเผยยิ้มออกมาอย่างไร้เดียงสา
“แม่สัญญาว่าจะเลี้ยงดูหนูให้ดีที่สุดด้วยสองมือของแม่เอง” น้ำตาคนเป็แม่คลอเบ้า
“อือ...” เด็กหญิงครางเบา ๆ เหมือนแมว
“เติบใหญ่ให้มีบุญใหญ่บุญสูงนะนังหนู”
วรรณารีเงยหน้าขึ้นมองพร้อมกับประนมมือไหว้ “วรรณขอบคุณป้ามาก ๆ นะคะ ถ้าไม่มีป้าเราสองแม่ลูกคงไม่มีชีวิตรอด”
“จะมาขอบจงขอบใจอะไรฉัน ฉันแค่อดสูใจในชีวิตของหล่อนเท่านั้นแหละ” สายตอบเสียงห้วน “หล่อนกับลูกนอนพักก่อน ฉันจะไปหาอะไรง่าย ๆ มาให้กิน” พร้อมกับเดินออกจากห้องไปคล้ายไม่ยี่หระเสียอย่างนั้น
วรรณารีอมยิ้มระหว่างมองตามหญิงสูงวัยไป สายในสายตาคนภายนอกคือยายสายบ้า แต่คนบ้าคนนี้แหละที่ช่วยฉุดเธอขึ้นมาให้เป็เธออย่างทุกวันนี้ได้
-----
“วรรณ!”
่เวลาเดียวกัน พีรายุได้สะดุ้งตื่นขึ้นมาและะโเรียกชื่อวรรณารีเสียงดัง
จินดาราที่นอนอยู่ด้านข้างผวาลุกขึ้น “พีคะ เป็อะไร ฝันร้ายหรือเปล่า”
พีรายุมองตาขวางใส่หญิงสาวที่ขึ้นชื่อว่าเมียในตอนนี้ เขาผลักเธอให้ออกห่างจากตัวอย่างรังเกียจ “ไปให้พ้น! เธอมาอยู่ในห้องฉันได้ยังไง ออกไปเดี๋ยวนี้ แล้ววรรณไปไหน” เขาหันรีหันขวางอยู่บนเตียง
จินดาราที่ตาลีตาเหลือกลงมายืนข้างเตียงกำลังจ้องมองเขาอย่างใ
“ยังจะมายืนบื้ออยู่อีก! ฉันถามว่าวรรณไปไหน” ชายหนุ่มตะเบ็งเสียงด่า
“เอ่อ...วรรณ...วรรณกำลังทำกับข้าวข้างนอก เธอให้ฉันมาดูแลเช็ดตัวคุณก่อน” พูดจบจินดาราก็กุลีกุจอหันไปเทน้ำใส่แก้ว ระหว่างที่พีรายุเผลอ เธอได้แอบหยิบขวดแก้วขนาดเล็กออกมาจากลิ้นชักข้างเตียงแล้วหยดน้ำยาใส ๆ ลงในแก้วน้ำสามหยด
“วรรณอยู่ข้างนอกแน่นะ” พีรายุถามจินดาราด้วยสีหน้าไม่ไว้ใจ
“ใช่สิคะ ฉันจะโกหกคุณทำไม ตื่นมาใหม่ ๆ แบบนี้น่าจะคอแห้ง คุณดื่มน้ำก่อนนะคะ เดี๋ยวฉันจะไปตามวรรณมาให้”
พีรายุเอื้อมมือมารับและดื่มน้ำลงไปจนหมดแก้ว ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที แววตาเขาได้เปลี่ยนไปในทิศทางตรงกันข้าม เขามองตรงมายังจินดาราและยิ้มให้อย่างลุ่มหลง
ชายหนุ่มเอื้อมมือไปรั้งตัวจินดาราเข้ามาจนชิดและพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน “ทำไมยืนแบบนั้นล่ะครับที่รัก มานอนกับผมบนเตียงเถอะ” เขาเอ่ยเสียงกระเส่า รั้งร่างงามของเธอมานอนเคียงกันพลางตะโบมกอดจูบลูบไล้อย่างเสน่หา
ตลอดทั้งคืน จินดาราตอบสนองความ้าของชายหนุ่มในทุกท่วงท่า แต่สีหน้าของเธอนั้นกลับไม่มีความสุขเหมือนท่าทีที่แสดงออกมาเลยสักนิด
“ผมไม่อยากจากคุณไปเลย” พีรายุยังคงนัวเนียอยู่กับจินดาราใน่เช้าของวันต่อมา
“ไม่ได้นะคะ วันนี้ที่บริษัทมีเซ็นสัญญาใหญ่ เงินเป็สิบล้านเลยนะ ไปเถอะค่ะ เย็นนี้จินจะเตรียมอาหารอร่อย ๆ ให้คุณกิน”
พีรายุหอมแก้มเธออีกหลายฟอดก่อนตัดใจเดินขึ้นรถออกจากบ้านไป
เมื่อคล้อยหลังเขา จินดารารีบขับรถออกจากบ้านตามไปติด ๆ แต่จุดหมายของเธออยู่ที่บ้านสภาพกลางเก่ากลางใหม่ตรงเขตชานเมือง
เธอกัดริมฝีปากมองเข้าไปในบ้านนั้นอย่างลังเลก่อนตัดใจเดินลงจากรถและก้าวเดินไปหาเ้าของบ้านซึ่งเป็ชายวัยฉกรรจ์สวมชุดขาวคล้ายผู้ปฏิบัติธรรมที่ตอนนี้ยืนรออยู่หน้าบ้านแล้ว
จินดาราเดินตรงเข้ามาหาเขาด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด ทั้งคู่พากันเดินเข้าบ้านไปและปิดประตูเงียบ แล้วอีกสามชั่วโมงให้หลัง จินดาราก็ได้เดินออกมาด้วยสภาพที่เสื้อผ้ายับย่น สีหน้าและแววตาเธอตอนนี้เย็นเยียบเหมือนกำลังไม่พอใจอะไรบางอย่างอยู่