ลู่เต้าเดินตามเสียงมาถึงดินแดนรกร้างที่แห้งแล้ง ไร้ซึ่งพืชพันธุ์ มีเพียงโขดหินเรียงราย เป็ดินแดนที่ไม่เอื้อต่อการมีชีวิตสักนิด
ทว่าท่ามกลางสภาพแวดล้อมอันโหดร้ายเช่นนี้ กลับมีต้นไทรโบราณต้นหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่ กิ่งก้านสาขาแผ่กว้าง ร่มรื่น ต้นสูงราวห้าจั้ง โคนต้นใหญ่โตพอให้คนโอบสี่คน รากอากาศที่หยั่งลึกลงมาพันรัดซากสัตว์น้อยใหญ่นานาชนิด รากที่แข็งแกร่งชอนไชไปทั่วผืนดินที่แตกระแหง เบื้องล่างกระจัดกระจายไปด้วยกระดูกขาวโพลน เมื่อสังเกตดูใกล้ๆ พบว่านอกจากกระดูกสัตว์ป่าแล้ว ยังมีกระดูกมนุษย์ปะปนอยู่ไม่น้อยด้วย!
ขณะเดียวกันกระบี่อสูรก็สั่นสะท้านรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ลู่เต้ากำลังจะก้าวเท้าเข้าไปตรวจสอบ ทันใดนั้นไป๋เสียก็ร้องเตือนเสียงดัง “ระวังใต้เท้า!”
ลู่เต้ารู้สึกได้ถึงััแปลกประหลาดที่เท้า รีบก้มลงมองก็พบว่ามีรากต้นไม้เลื้อยคล้ายหนวดพันรัดข้อเท้าเอาไว้
“กระบี่อสูร!” ลู่เต้าออกคำสั่ง กระบี่อสูรที่อยู่ด้านหลังก็พุ่งเข้ามาอยู่ในมือในทันที ใบหน้าเคร่งขรึม กวัดแกว่งกระบี่อสูรอย่างแรง แสงกระบี่สีเงินวาววับ รากต้นไม้ถูกตัดขาดเป็สองท่อน เศษไม้เล็กๆ กระเด็นกระดอนไปทั่ว
ส่วนที่ถูกตัดขาดของรากต้นไม้หดกลับอย่างรวดเร็วราวกับอสูรร้ายที่ได้รับาเ็ ลู่เต้ารู้สึกว่าเขาได้ยินเสียงร้องโหยหวนอย่างแ่เบาออกมาจากลำต้น
รากต้นไม้อื่นๆ ที่เหลือยังคงพยายามโจมตี ลู่เต้าจึงกวัดแกว่งกระบี่อสูรไล่มันออกไป ไม่นานนักรากต้นไม้มากมายก็หดหายไปในดินราวกับงูเหลือมนับไม่ถ้วน
“นี่...นี่มันอะไรกัน” ลู่เต้าก้มลงหยิบรากต้นไม้ที่ถูกตัดขาดแต่ยังคงดิ้นดุ๊กดิ๊กราวกับไส้เดือน เขาพบว่ามีปราณปีศาจอ่อนๆ เล็ดลอดออกมาจากรอยตัด นอกจากรากต้นไม้ในมือแล้ว ส่วนที่อยู่บนพื้นก็เป็เช่นเดียวกัน
ทันใดนั้นกระบี่อสูรก็สั่นไหวอย่างตื่นเต้น พู่ห้อยกระบี่บนด้ามกระบี่แกว่งไปมาดุจหางสุนัข จากนั้นก็หลุดออกจากมือลู่เต้า ลอยอยู่เหนือรากต้นไม้ ราวกับสุนัขที่หิวโซกำลังสูดกลืนปราณปีศาจเข้าไปในกระบี่จนหมดสิ้น
“นี่คือต้นไม้กินคน เป็พืชปีศาจชนิดหนึ่ง ตามบันทึกโบราณกล่าวว่ามันเกิดจากิญญาร้ายเข้าสิงสถิตในต้นไม้โบราณ ดูดซับพลังปราณจากฟ้าดินจนกลายร่างเป็ปีศาจ รากและรากอากาศของมันจะโจมตีสิ่งมีชีวิตทุกอย่างราวกับหนวด” ไป๋เสียปรากฏตัวข้างกายลู่เต้า เหลือบมองพื้นแล้วอธิบาย “สถานที่แห่งนี้ไร้ซึ่งพืชพันธุ์ คงเป็เพราะมันแน่ๆ”
“กระดูกเ่าั้ก็เป็ฝีมือมันงั้นเหรอ” ลู่เต้าถามอย่างประหลาดใจ
ไป๋เสียมองกระดูกมนุษย์บนรากอากาศ ทันใดนั้นลู่เต้าก็ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลืออย่างแ่เบา “ชะ...ช่วยด้วย!”
ครั้งนี้ลู่เต้าได้ยินชัดเจนว่าเสียงมาจากไหน เขาเงยหน้าขึ้นมองก็พบว่ามีชายหญิงคู่หนึ่งถูกรากอากาศมัดไว้แ่า ปากถูกปิดเอาไว้
ชายคนนั้นกัดหนวดจนขาดสะบั้น แม้จะตกอยู่ในอันตราย แต่ก็ยังยิ้มร่าขอความช่วยเหลือจากลู่เต้า “สหาย ไม่ทราบว่าพอจะช่วยพวกข้าทั้งสองได้หรือไม่ ค่าตอบแทนตามแต่ท่านจะเรียกขอรับ!”
สิ้นเสียงของชายคนนั้น กระบี่อสูรอันคมกริบก็ตัดหนวดที่พันธนาการทั้งสองออก ช่วยชีวิตพวกเขาจากรากอากาศของต้นไม้กินคน
ทันทีที่ทั้งสองตกลงถึงพื้น ลู่เต้าก็เอ่ยเตือน “ที่นี่อันตราย รีบออกไปเร็วเข้า” ชายคนนั้นไม่กล้ารีรอ พยักหน้าขอบคุณ ลากน้องสาววิ่งไปทางด้านหลังลู่เต้า ในขณะที่น้องสาวเดินผ่าน ลู่เต้าจึงเหลือบมองโดยไม่รู้ตัว พบว่าเป็หญิงสาวสวมหน้ากากเงินปิดบังใบหน้าครึ่งซีก
ต้นไม้กินคนไม่เพียงเสียเหยื่อไป แถมยังเสียหนวดไปอีกหลายเส้น มันจึงทนไม่ไหวเผยโฉมหน้าที่แท้จริงออกมา ใบหน้ามนุษย์ที่ประกอบขึ้นจากโพรงต้นไม้ปรากฏขึ้นบนลำต้น ดวงตากลมโตที่บิดเบี้ยวส่งเสียงคำรามราวกับลมพัดผ่านช่องแคบ
รากและรากอากาศทั้งหมดพุ่งเข้าหาลู่เต้าราวเกลียวคลื่น เขาใรีบเรียกกระบี่อสูรกลับมาป้องกันทันที ทว่าการโจมตีของต้นไม้กินคนรุนแรงและต่อเนื่อง ไม่ว่าเขาจะต้านทานอย่างไร หนวดเ่าั้ก็ดูเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุด ตัดเท่าไรก็ไม่มีวันหมด
ไม่นานนักลู่เต้าก็เหงื่อไหลท่วมตัว หายใจจนตัวโยน ขณะที่เขากำลังเตรียมรับมือกับการโจมตีระลอกต่อไปของต้นไม้กินคน รากต้นไม้ที่ซ่อนตัวอยู่ใต้กองหินก็อาศัยจังหวะที่ลู่เต้ากำลังอ่อนแรง พุ่งเข้าโจมตีจากมุมอับสายตาราวกับลูกศร พุ่งตรงไปที่หน้าผาก
ทันใดนั้นลู่เต้าก็รู้สึกถึงแรงลมพัดผ่านจากด้านหลัง หางตาของเขายังมองไม่เห็นเป้าหมายด้วยซ้ำ แต่นายพรานอย่างเขากลับฝึกฝนสัญชาตญาณอันเฉียบแหลมจากการต่อสู้กับสัตว์ร้ายมานับครั้งไม่ถ้วน เขายกกระบี่อสูรขึ้นมาปัดป้องโดยสัญชาตญาณทัน.f
เคร้ง!
เมื่อกระบี่ปะทะกับหนวดจนประกายไฟกระเด็น แม้รากต้นไม้จะไม่ได้แทงทะลุเข้ามา แต่แรงสะท้อนกลับทำให้เกิดรอยแผลบนใบหน้า เืไหลรินไม่หยุด แสบร้อนไปทั่วใบหน้า เท้าทั้งสองข้างถอยหลังไปบนกองหินจนฝุ่นตลบ
ลู่เต้ารู้สึกชาไปทั้งมือ เส้นเืหลังมือปูดโปนชัดเจน มือที่ถือกระบี่สั่นเทา เขารู้ดีว่าหากไม่รับการโจมตีของต้นไม้กินคนเมื่อครู่ทัน เขาคงรักษาศีรษะไว้ไม่ได้เป็แน่ แต่หากโดนแบบเดียวกันอีกครั้ง ด้วยสภาพร่างกายเช่นนี้ เขาเองก็ไม่มั่นใจว่าจะรับมือได้
การโจมตีของต้นไม้กินคนยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ มันอาศัยจังหวะที่ลู่เต้ากำลังอ่อนแรงพุ่งเข้าโจมตีอีกครั้ง หนวดนับพันพุ่งเข้าใส่ลู่เต้าดุจอสรพิษมากมายที่กรูกันออกมา
พี่น้องคู่นั้นซ่อนตัวอยู่หลังก้อนหินใหญ่ที่ห่างออกไปไม่ไกลนัก ชายหนุ่มเห็นท่าไม่ดี จึงรีบปิดตาน้องสาวเอาไว้ เพื่อไม่ให้เธอเห็นภาพอันโหดร้าย
หญิงสาวพยายามดิ้นรนให้หลุดจากการควบคุมของพี่ชาย หนวดนับไม่ถ้วนพุ่งมาถึงเบื้องหน้าลู่เต้าในชั่วพริบตา
“แย่แล้ว!” ดวงตาใสกระจ่างของลู่เต้าสะท้อนภาพรากต้นไม้มากมาย หากรับมือไม่ไหว เขาต้องถูกแทงจนพรุนไปทั้งร่างแน่
ทันใดนั้นการเคลื่อนไหวของรากต้นไม้ก็ช้าลง จนกระทั่งหยุดนิ่ง
“หึ” เสียงของไป๋เสียดังขึ้นในหูลู่เต้าอย่างไม่สบอารมณ์ “สุดท้ายข้าก็ต้องลงมือเองสินะ”
ไป๋เสียเข้าสิงร่างลู่เต้า ดวงตาแปรเปลี่ยนเป็คมปลาบ ต่างจากท่าทางในอดีตโดยสิ้นเชิง แม้ต้องเผชิญหน้ากับรากต้นไม้มากมายที่กำลังพุ่งเข้ามา แต่สีหน้าของเขายังคงสงบนิ่ง
ไป๋เสียชูนิ้วร่ายอาคม กำแพงแสงสีเขียวมรกตปรากฏขึ้นป้องกันหนวดทั้งหมดเอาไว้ ภายใต้เกราะป้องกันที่แข็งแกร่ง เขาย่อมไร้รอยขีดข่วน ในทางกลับกัน รากต้นไม้บางส่วนกลับแตกหักกระเด็นออกไปด้วยแรงกระแทกที่รุนแรงเกินไป
ชายหนุ่มที่เห็นดังนั้น ก็ส่งเสียงให้กำลังใจทันที ส่วนน้องสาวก็ดิ้นหลุดจากการควบคุมของพี่ชาย มองดูภาพที่ไป๋เสียหยุดรากต้นไม้ เธอเอ่ยอย่างประหลาดใจ “เขา...ร้ายกาจนัก”
ทันใดนั้นต้นไม้กินคนก็เปลี่ยนกลยุทธ์ มันควบคุมหนวดให้พันรัดร่างไป๋เสียอย่างแ่าราวกับงูหลามกำลังรัดเหยื่อด้วยร่างกายอันแข็งแกร่ง เพียงแต่ครั้งนี้แรงกดดันที่เกราะป้องกันได้รับนั้นมากมายเป็เท่าตัว
เมื่อหนวดรัดแน่น ส่งเสียงดังเอี๊ยด เกราะป้องกันก็เริ่มปรากฏรอยร้าวเล็กๆ
ไป๋เสียกำกระบี่อสูรเอาไว้ในมืออย่างไม่หวั่นไหว เอ่ยอย่างใจเย็น “ดูให้ดีเ้าหนู...”
ปราณิญญาถูกหลอมรวมเข้ากับกระบี่อสูร ตัวกระบี่เปล่งประกายสีฟ้ามรกตราวกับเปลวไฟปีศาจ
เขาสะบัดกระบี่อสูรเบาๆ พลางกล่าวเสียงเบา “ผ่าิญญา!”
ฉัวะ!
ภายนอกรากต้นไม้ จิตสังหารอันรุนแรงแผ่กระจายออกไปในพริบตา กวาดล้างหนวดที่อยู่โดยรอบจนหมดสิ้น จิตสังหารพุ่งไปตามรากต้นไม้ด้วยท่าทีที่ไม่อาจต้านทาน ต้นไม้กินคนรีบรวบรวมกิ่งใบพยายามป้องกัน
จิตสังหารอันรุนแรงทะลวงผ่านการป้องกันของต้นไม้กินคนไปอย่างไร้ซึ่งการขัดขวาง ต้นไม้กินคนหันหลังกลับไปมองด้วยความใ ก็พบว่าจิตสังหารได้ทิ้งรอยกระบี่เอาไว้บนูเาเื้ั ตามมาด้วยเสียงะเิดังสนั่น
รอยร้าวค่อยๆ ปรากฏขึ้นบนลำต้น กิ่งใบของต้นไม้กินคนถูกตัดขาด ลำต้นถูกผ่าเป็สองซีกจากบนลงล่างพร้อมกับเสียงร้องโหยหวน
“กระบี่ต้องใช้แบบนี้” ไป๋เสียกล่าวด้วยรอยยิ้มแต้
