1.2
เื่ที่ทำให้เกิดอารมณ์เศร้า
“ไอ้แตงโมนั่งเป็ใบ้รับประทานไปเลย ฉันพูดอะไรผิดหรือเปล่า?”
“เปล่าๆ แค่คิดเื่งานวันที่สิบสี่อะ จะบ้าตาย ไหนจะแสดงละคร ไหนจะส่งงาน ปวดหัวอะ อยากฆ่าไอ้ประธานงี่เง่ากับพวกคณะกรรมการนักเรียนจริงๆ คิดได้ไงให้จัดงานนี้ขึ้นมา ทั้งที่เดือนหน้าพวกเราต้องสอบเข้ามหา’ลัยแล้ว เอ่อ...โทษที แกก็เป็คณะกรรมนักเรียนคนหนึ่งนี่หว่า~”
แตงไทยเห็นออกแนวโว้กว้ากโวยวายอย่างนี้ แต่ยัยนี่ก็จัดเป็พวกที่สวยและป๊อปหนึ่งในห้าของโรงเรียนเชียวนา เมื่อปีก่อนก็ทำหน้าที่เป็เลขาคณะกรรมการนักเรียน ปีนี้ก็เป็หนึ่งในคณะกรรมการนักเรียนอีก สวยเก่งรวยเลิศซะไม่มีเพื่อนฉัน
“ฉันก็อยากจะฆ่าไอ้หมอนั่นขึ้นมาแล้วเหมือนกัน มีอย่างที่ไหนให้ฉันเล่นเป็นางเอก ให้ตายเถอะโรบิน! >0<”
“จริงเหรอ แล้วเล่นเื่อะไรล่ะ ^^”
“อะไรของแกแตงโม เป็ผู้จัดหาคนแสดงทั้งทีแต่กลับไม่รู้ว่าแสดงเื่อะไรเนี่ยนะ! -_-^”
“หึๆ ^.^ ก็หาอย่างเดียวนี่หว่า ใครตกลงเล่นก็เอารายชื่อมาแล้วให้พวกคณะกรรมการคัดนักแสดงเองนี่ เอ่อน่า~ ฉันมีหน้าที่หาก็หาเท่านั้น เื่อื่นฉันไม่สน ช่วยไม่ได้นี่อยากเอางานมาให้ทำ ก็ทำแล้วไง”
“เออๆ ดูมัน พูดง่ายเนอะไอ้นี่ =_=”
“เออน่า~ ว่าแต่แกเถอะ ดีออกได้เป็นางเอก”
“ดีกะผีน่ะสิ ให้เล่นเื่อะไรไม่เล่น ดันเล่นเื่โฉมนางอสูรกับเ้าชายรูปงาม มันบ้าเปล่าฟะ สวยๆ อย่างฉันต้องเล่นเป็นางอสูร เซ็ง อยากฆ่าคน! >0<”
“แต่ฉันว่าแกคงเล่นได้ดีนะ เพราะตอนนี้แกน่ะแปลงร่างเป็นางอสูรไปเรียบร้อยแล้วว่ะเพื่อน อย่ามองหน้าฉันอย่างนั้นน่าาา~ หรือแกอยากให้หมวดวิทย์ฯ จัดอย่างอื่น ไม่เอาหรอกนะเฟ้ย แกลองคิดดูนะ ฟิสิกส์แกจะเอาอะไรมาแสดงเกี่ยวกับความรัก กฎแรงโน้มถ่วงโลกที่ให้แอปเปิลตกใส่หัวคนแล้วเกิดรักกันเหรอ -_-; หรือชีวะ... แสดงให้ดูถึงการแตกหน่อของพวกปรสิตที่มีตัวผู้ตัวเมียรักกัน อยู่ในตัวเดียวกัน...ยี้~>[]< แล้วแกลองนึกภาพพวกปรสิตที่หัวอีกข้างผูกโบสีแดงกับหัวอีกข้างผูกเนกไทสีฟ้า แล้วตรงกลางกำลังแบ่งเซลล์ออกมาเป็ตัวผู้กับตัวเมียเล็กๆ ที่ผูกโบกับเนกไทอีกทีสิ ให้ตายฉันก็ไม่ร่วมกิจกรรมนี้เด็ดขาด~>0<”
ฉันทำท่าทางอิเดียดสุดๆ ประกอบพร้อมกับมองแตงไทยเพื่อนยาก ที่ตอนนี้หน้าตาแปลงร่างจากนางอสูรกลับมาเป็นางฟ้าเหมือนเดิมแล้ว และก็ทำท่าคิดเหมือนกัน
”เออ! =_= ฉันว่าอย่างนี้ก็ดีกว่า แถมยังดีกว่าเขียนพรรณนาความรักอีก ยอมเป็นางอสูรที่สวยที่สุดดีกว่าเนอะ แต่ที่หนักใจนี่สิ รู้เปล่าพระเอกเป็ใคร?”
”ใครล่ะ? อย่าบอกว่าเป็พี่บอลขาาา~ สุดหล่อห้องเจ็ดที่แกแอบปลื้มอยู่”
ที่เรียกพี่บอลขานี่เรียกตามน้องมอสี่มอห้าที่ะโเรียกพี่บอลขาาา~ อยู่ข้างสนามบอลทุกว้านทุกวันอะนะ -.-
“ไม่ใช่ แกรู้มั้ยว่าใคร... เด็กห้องหนึ่งคลาสพิเศษ เป็คุณชายชื่อ มาคัสอะไรเนี่ยแหละ -O-”
“หา! O[]o ห้องหนึ่งข้าร่วมด้วยเหรอ ตายแน่แกเอ๊ย~ เด็กห้องนั้นเหลือขอแล้วก็หยิ่งทุกคน!”
ห้องนี่ดีอย่างเดียวคือที่บ้านทุกคนรวย เลยเข้ามาเรียนเพื่อให้จบๆ ไป และทุกคนเป็พวกไม่ชอบคบใครที่ด้อยกว่า เช่นเื่ฐานะ หน้าตาทางสังคม ห้องหนึ่งจัดเป็คลาสพิเศษที่สุดในจำนวนสิบห้องด้วยกัน เพราะด้านฐานะ มีครูพิเศษสอนเฉพาะอีกต่างหาก
สรุปโดยรวมแล้วฉันรังเกียจพวกห้องหนึ่งที่สุดนั่นแหละ -.,-
โรงเรียนเอกชนเซนต์ทรอมินันท์ของเราแบ่งเป็ระดับชั้น ดังนี้...
อนุบาล ประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น มัธยมศึกษาตอนปลาย และมหาวิทยาลัย สำหรับมอต้นและมอปลายมีพื้นที่ติดกัน ใช้โรงอาหารกับหอประชุมร่วมกัน และห้องหนึ่งทุกห้องของทุกระดับชั้นเป็คลาสพิเศษสำหรับลูกเศรษฐี นักการเมือง ลูกของดาราดังหรือเป็ดาราอะไรประมาณนี้แหละ คือพวกเรียนแบบปกติไม่ได้ หรือไม่มีที่เรียน หรือพวก
ี้เีเรียนแต่อยากเรียนจบอย่างสบายๆ โดยมีฐานะทางการเงินส่งเสริม
“นั่นแหละ แล้วคนนี้รู้สึกจะมาเรียนบ้างไม่มาเรียนบ้าง ที่ฉันอยากจะบ้าน่ะ แกรู้มั้ยเพราะอะไร! บทละครน่ะถูกเปลี่ยนใหม่ก็เพราะคนใช้คุณชายนั่นแหละ ทีแรกพวกคณะกรรมการนักเรียนจะเอาเื่ โฉมงามกับเ้าชายอสูร แต่คนใช้นายคุณชายนั่นบอกให้เปลี่ยนเื่เป็โฉมนางอสูรกับเ้าชายรูปงาม รู้มั้ยเพราะอะไร!!
‘ถ้าจะให้คุณชายเป็พระเอก ก็ต้องเล่นเื่นี้ตามที่บอก เพราะผมยอมรับไม่ได้ที่จะให้หน้าตาของคุณชายเป็อสูรร้าย’
แล้วยังเอาบทที่อาจารย์ดำรงค์กับอาจารย์สุนันท์เขียนไปแก้ใหม่อีกด้วย บอกว่าจะให้พวกมืออาชีพทำ แถมทิ้งท้ายก่อนไปด้วยว่า...
‘ถ้าไม่เพราะท่าน ผอ. มาขอร้องคุณชาย จ้างสักร้อยล้านคุณชายก็ไม่เล่นหรอก เสียเวลาทำงานทำการหมด’
หยิ่งซะไม่มีล่ะแกเอ๊ยยยย -0-* นี่ขนาดลูกน้องนะเนี่ย แล้วถ้าเป็เ้านายจะขนาดไหน?!”
“โห~ เล่นกันงี้เลยเหรอ อยากเห็นตัวเป็ๆ แฮะ เอาน่า อย่างมากก็ดีแค่รวยอย่างเดียวแหละ”
ฉันนั่งฟังแตงไทยบ่น เื่ที่ต้องแสดงละครออกมาอย่างยาวเหยียด สงสัยจะอัดอั้นอย่างแรงเพื่อนฉัน ถึงได้ใส่อารมณ์โมโหออกมาซะเยอะเลย -.-
บ้านฉันกับบ้านแตงไทยเราเป็เพื่อนกันมาั้แ่คุณป๋ากับคุณแม่แล้ว บ้านฉันถึงรวยก็ไม่รวยเท่าบ้านของแตงไทยหรอก แต่ก็พอมีอันจะกิน มีเก็บ แล้วก็เหลือใช้บ้าง ส่วนคุณป๋าก็เป็แค่เ้าสัว มีกิจการค้าข้าวส่งออกธรรมดา ส่วนคุณแม่ก็เป็แม่เลี้ยง ปลูกดอกไม้กับไร่องุ่นทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือนู่น ส่วนภาคใต้ก็มีฟาร์มไข่มุก
ที่เลี้ยงส่งออกด้วย อ้อ แล้วกิจการที่บรรพบุรุษของเราทางฝั่งคุณป๋าที่ทำมาั้แ่อดีตก็คือ รับจ้างเชิดสิงโตค่ะ ทุกวันนี้ฉันก็ยังเป็หนึ่งในคณะเชิดสิงโตด้วยนะ >0<
ถึงเด็กผู้หญิงในห้องเกือบทุกคนจะตกวิชาพละกันหมด แต่ก็มีฉันคนหนึ่งล่ะที่ได้เกรดสี่ประจำ เพราะสายเืส่วนหนึ่งของฉันเป็นักกายกรรมที่มาจากเมืองจีน นามสกุลฉันเลยเป็จีนแบบเต็มๆ ส่วนแตงไทยเป็ลูกสาวท่านรัฐมนตรีพิรัญกับคุณหญิงอรภิณณ์ สุริวงศ์ทรา
ฉันเองยังแปลกใจเลยที่แตงไทยไม่ไปเรียนห้องหนึ่ง เคยถามว่าทำไมไม่เรียนก็ได้รับคำตอบกวนพระบาทกลับมาว่า...
‘ฉันน่ะอัจฉริยะ ไม่จำเป็ต้องเรียนห้องหนึ่งหรอก’
นั่นแหละนะ ั้แ่นั้นเป็ต้นมาก็ไม่เคยถามอีก กลัวเจอคำตอบกวนโทสะอีกรอบอะ -.,-
”ว่าแต่แกจะกลับบ้านได้ยัง มืดแล้วเนี่ย วันนี้บอกให้ลุงชุ่มเอารถมารับ ป่านนี้มาแล้วมั้ง แกจะไปกับฉันเปล่าล่ะ? เดี๋ยวแวะไปส่งที่บ้านหรือจะไปนอนบ้านฉัน?”
“ไม่ล่ะเพื่อน เดี๋ยวพี่น็อตมารับ ฉันต้องไปบ้านในไชน่าทาวน์อีก ไปซ้อมเชิดสิงโต แล้วอีกอย่างฉันไม่อยากเป็เป้าสายตาคนเยอะๆ เพราะรถไฮโซของแกหรอก”
“ทำอย่างกับบ้านแกไม่มีงั้นแหละ อีกอย่างฉันว่านะ ฉันไปส่งแกยังดีกว่าอีก ฉันรู้นะถึงจะพูดว่าเป็แค่พี่ชายน้องสาว แต่การกระทำบางอย่างมันก็เกินคำว่าพี่ชายน้องสาวด้วยซ้ำ เห็นแล้วก็อดสงสารไม่ได้ว่ะ”
“แกก็รู้ว่าฉันเป็ลูกคนเดียว ส่วนพี่น็อตก็เป็ลูกศิษย์หมายเลขหนึ่งของคุณป๋าที่ท่านให้ความไว้วางใจ อีกอย่างก็เล่นสิงโตคู่กันมานานจนเข้าขากัน ก็เป็ธรรมดาที่จะสนิทกัน แล้วฉันก็ตัดใจไปแล้วด้วย”
“เออๆ หลอกคนอื่นได้ แต่หลอกใจตัวเองไม่ได้นะเฟ้ย -o- ฉันรู้จักแกมานานกว่าพี่น็อตอีก และก็มีข้อความที่แกเขียนเมื่อกี้เป็สิ่งยืนยันอีกด้วย เฮ้อ~ ไปดีกว่า แกเองก็อย่าลืมว่ายังมีฉันเป็เพื่อนอีกคนนะ ฉันอยู่ข้างแกเสมอ”
“เออ ฉันรู้น่าาา~ บายเพื่อน”
ฉันมองรถแตงไทยที่วิ่งออกไปจนลับตา
19 : 30 น.
ทุ่มครึ่งแล้วพี่น็อตยังไม่มาเลย พี่น็อตคนที่ฉันชอบมาตลอดสามปี ฉันกับเขารู้จักกันมานานเกือบสิบปีได้ เพราะพี่น็อตเป็ลูกศิษย์เอกของคุณป๋าที่คณะเชิดสิงโตัของบ้านฉันเอง
ความรู้สึกของฉันเริ่มเปลี่ยนจากความรักที่มีให้พี่ชายไปก็เมื่อสามปีก่อน จากความรักที่มีให้แบบพี่ชายกลับเปลี่ยนแปลงไปเป็ความรักแบบผู้หญิงคนหนึ่งมีให้ผู้ชายคนหนึ่งขึ้นมา แต่ก็ได้เป็แค่คนที่แอบรักเท่านั้น เพราะพี่น็อตเขามีคนที่รักแล้ว แฟนเขาก็น่ารักซะด้วย และเพราะความใกล้ชิดสนิทสนมกันทำให้เวลาที่พี่น็อตมีปัญหาหรือไม่สบายใจอะไร ก็มาปรึกษาฉันเสมอ แทบทุกเื่ไม่เว้นแม้เื่ของหัวใจ
ทุกครั้งที่ให้คำปรึกษาฉันเ็ป บางครั้งฉันอยากยุให้เข้าเลิกกันด้วยซ้ำ แต่ด้วยความรักที่มีต่อเขา ฉันก็ทำได้แค่บอกให้คุยกันดีๆ คิดถึงสิ่งที่ทำหรือ่เวลาดีๆ ที่ใช้ร่วมกัน หรือคิดถึงความสุขเวลาที่อยู่ด้วยกัน เพราะฉันอยากให้เขามีความสุขกับคนที่รัก แค่นั้นฉันก็มีความสุขแล้ว
มีความสุขกับการดูแลเอาใจใส่เล็กๆ น้อยๆ ที่พี่น็อตมีให้ฉันเสมอ แม้จะไม่เท่ากับการดูแลแฟนเขาก็ตาม T-T
เฮ้อ~ รัก คือการเสียสละ... เออใช่! ทีนี้เราก็มีอะไรเขียนส่งวิไรเดย์ (day = วัน ) แล้ววว >0<
แล้วฉันก็ปิ๊งไอเดียว่าจะเขียนพรรณนาเกี่ยวกับความรักใหม่ส่งอาจารย์ได้ซะที ^^
+++++++++++++++++++++++++++++++
ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยนะคะ
+++++++++++++++++++++++++++++++