แม้ว่าวัตถุดิบเ่าั้จะเป็วัตถุดิบหายากและมีราคาแพง แต่สิ่งที่สำคัญกว่าเงินตราก็คือชีวิตบิดาของหงฟ่าน และอีกไม่กี่ลมหายใจข้างหน้าเขาก็จะไปตามหาวัตถุดิบเ่าั้อย่างเร่งรีบ
ในระหว่างที่รอ ถังเหล่ยได้ทราบสถานะและประวัติความเป็มาของแม่ทัพใหญ่ หงเทียนเิ หงเทียนเิคือหนึ่งในองค์ชายที่มีชื่อเสียงในจักรวรรดิซือฉีและมีฉายาว่าาาสิงโตแดง
เมื่อหลายปีก่อนจักรพรรดิซือฉีล้มป่วยและสิ้นพระชนม์ ในเวลาต่อมาจักรพรรดิองค์ใหม่ไม่สามารถครองใจผู้คนได้ จึงส่งผลให้เชื้อพระวงศ์ของจักรวรรดิซือฉีเกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย จักรวรรดิซือฉีจึงตกสู่ความวุ่นวาย เหล่าองค์ชายล้วนสถาปนาตัวเองเป็าาบางคนเรียกตัวเองว่าจักรพรรดิด้วยซ้ำ
ก่อนหน้านี้าาสิงโตแดงหงเทียนเิรักษาการณ์อยู่ที่ชายแดนของจักรวรรดิซือฉี เดิมทีการต่อสู้ภายในเมืองหลวงไม่ได้ส่งผลกระทบกับเขาโดยตรง จนกระทั่งมาถึงตอนที่หยวนผิงก่อฏ
หยวนผิงเป็หนึ่งในขุนพลใหญ่ของหงเทียนเิ หยวนผิงได้รับการช่วยเหลืออย่างลับๆ จากใครบางคน ทำให้เขาสามารถทะลวงระดับกลายเป็ปรมาจารย์ยุทธ์ ใน่เวลาเดียวกันนั้นหงเทียนเิก็บังเอิญล้มป่วยอย่างฉับพลัน หยวนผิงจึงก่อฏภายในกองทัพ
หลังจากเหตุการณ์นั้นหงเทียนเิก็หนีตายมาอยู่ที่นี่ ในความเป็จริงหากสุขภาพของหงเทียนเิยังแข็งแรงอยู่ เขาก็สามารถระดมผู้คนและบรรดาหัวเมืองในบริเวณใกล้เคียงเพื่อยึดอำนาจคืนได้อย่างง่ายดาย
น่าเสียดายที่ตอนนี้หงเทียนเิป่วยหนัก เ้าเมืองต่างๆ จึงไม่แสดงท่าทีอะไรและรอดูสถานการณ์ไปก่อน
หลังจากที่ถังเหล่ยได้ฟังเื่ราวก็เดาได้ว่าเหอชิงต้องทำผิดกฎของจักรวรรดิเทียนอวี่ด้วยการส่งคนมาสร้างความวุ่นวายในจักรวรรดิซือฉีอย่างแน่นอน เพราะาาตงห้ามขุนนางของเขาขยายขั้วอำนาจของตัวเองออกนอกจักรวรรดิ เพื่อปิดช่องทางไม่ให้ขุนนางทรยศตัวเอง
ทันใดนั้นทหารก็นำยาที่หงเทียนเิรับประทานเป็ประจำเข้ามา ถังเหล่ยจึงรีบเข้าไปตรวจสอบ หลังจากตรวจสอบได้ไม่นานก็มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้า
“ยาเหล่านี้มีปัญหาหรือ?” หงฮูหยินถามด้วยความร้อนใจ
ถังเหล่ยไม่อยากเชื่อแม้แต่สัญชาตญาณตัวเอง เขาวางยาลงและกล่าวออกมาอย่างจริงจัง
“ยาเหล่านี้ใครเป็คนจัดให้ท่านแม่ทัพ?”
“ท่านไป๋! ท่านไป๋คือคนสนิทของท่านแม่ทัพ เขาสามารถปรุงยาระดับสามได้ เขาจึงเป็คนรับผิดชอบเื่ยา” หงฮูหยินกล่าวออกมาพร้อมกับจ้องมองถังเหล่ยด้วยความงุนงง
“ท่านไป๋ไม่ใช่คนสนิทของท่านแม่ทัพมานานแล้ว! มีพิษเจือจางอยู่ในยาเหล่านี้ เขา้าให้ท่านแม่ทัพตาย” ถังเหล่ยกล่าวอย่างราบเรียบ
“จะเป็ไปได้อย่างไร?” นางตกตะลึงกับคำกล่าวของถังเหล่ย นี่คือความจริงที่นางไม่สามารถรับได้
“หว่านเอ๋อร์ไปเชิญท่านไป๋มา!” หงเทียนเิกล่าวอย่างเ็า
ไม่นานท่านไป๋ก็ถูกทหารนำตัวมา ทันทีที่เขาเห็นถังเหล่ยสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที
“ท่านแม่ทัพเรียกข้ามามีเื่อันใดหรือ?” ท่านไป๋กล่าวด้วยความเคารพ
ทันทีที่ท่านไป๋กล่าวจบ หงฮูหยินก็โบกสะบัดแส้เส้นหนึ่งพุ่งเข้าไปมัดตัวท่านไป๋เอาไว้ บนแส้มีหนามแหลม ทันทีที่หนามทิ่มแทงเข้าไปภายในร่างกายก็จะส่งผลให้ิญญายุทธ์ภายในร่างของคนผู้นั้นหายไปในทันที
แส้ที่สร้างจากศิลาสะกดิญญา!
“ถังเหล่ย เชิญ!” หงเทียนเิกล่าวในขณะที่หงฮูหยินประคองเขาลุกขึ้นนั่ง
“นี่มันเื่อะไรกัน?” ท่านไป๋ยังไม่รู้ว่าเกิดเื่อะไรขึ้น
ท่านไป๋บ่มเพาะมาถึงระดับผู้ทรงยุทธ์แล้ว แต่ในขณะนี้เขากลายเป็เพียงคนธรรมดา หงเทียนเิกับหงฮูหยินไม่ได้กล่าวอะไร เป็ถังเหล่ยที่ต้องเปิดโปงท่านไป๋ต่อหน้าทุกคน ถังเหล่ยเดินเข้าหาท่านไป๋ช้าๆ และกล่าวถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ข้าจะถามเ้าเพียงไม่กี่คำ หวังว่าเ้าจะพูดความจริง ไม่เช่นนั้น...”
ถังเหล่ยใช้มือแตะที่หัวไหล่อีกฝ่าย ท่านไป๋รู้สึกราวกับถูกูเาทั้งลูกกดทับ ในเวลาเดียวกันเขาก็ตระหนักได้ทันทีว่ากระดูกหัวไหล่ของเขาแตกละเอียดไปแล้ว ท่านไป๋คุกเข่าโดยไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ และกล่าวด้วยความหวาดกลัว
“เ้าคิดจะทำอะไร เด็กน้อยคนนี้มาจากที่ใดกัน?”
“ใครเป็คนสั่งให้เ้าทำเช่นนี้ เ้ารับใช้ผู้ใด?”
คำถามของถังเหล่ยทำให้ท่านไป๋แสดงสีหน้าสับสนออกมา ท่านไป๋มองถังเหล่ยด้วยความหวาดกลัว และกล่าวออกมา
“เ้ากำลังใส่ร้ายข้า เ้าต่างหากที่เป็ไส้ศึก!”
ท่านไป๋ะโออกมาอย่างบ้าคลั่งเมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังตกที่นั่งลำบาก ถังเหล่ยถอยไปด้านหลังเล็กน้อยและกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงดุร้าย
“ไม่ต้องะโ! เ้ารู้ว่าข้าหมายความว่าอย่างไร ใครเป็คนสั่งการเ้า? หลังจากนี้เ้าหมดหน้าที่แล้ว ข้าจะรักษาท่านแม่ทัพเอง!”
ความจริงแล้วถังเหล่ย้าเพียงที่จะรู้ว่าท่านไป๋คนนี้มีความเกี่ยวข้องอย่างไรกับเหอชิง
“ฮ่าๆๆ เ้าจะรักษาหงเทียนเิ ฮ่าๆๆ อีกไม่นานหงเทียนเิก็จะตายสมใจข้า จะไม่มีใครรักษาเขาได้” ท่านไป๋กล่าวและหัวเราะออกมา
ท่านไป๋ไม่ได้มีท่าทางเหมือนบัณฑิตเช่นก่อนหน้าแม้แต่น้อย ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มเ้าเล่ห์ หงเทียนเิกับหงฮูหยินใอย่างมากเมื่อเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
ท่านไป๋คนนี้เป็ไส้ศึก!
“เด็กน้อย เ้ายังไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง เ้าคิดจะรักษาอาการป่วยของหงเทียนเิหรือ? ช่างไร้สาระจริงๆ” ท่านไป๋กล่าวและหัวเราะต่อเนื่อง
ภารกิจของท่านไป๋ก็คือปรุงยาพิษให้หงเทียนเิรับประทานไปเรื่อยๆ แต่ในขณะนี้เื่ราวกลับถูกถังเหล่ยเปิดโปง แน่นอนว่ายาพิษที่สะสมอยู่ในร่างกายของหงเทียนเิเพียงพอที่จะสังหารเขาได้นับสิบครั้ง ต่อให้ตัวตนของชายชราแซ่ไป๋ถูกเปิดโปงภารกิจของเขาก็นับได้ว่าสำเร็จลุล่วงไปแล้ว
แกร๊ก!
ในขณะนี้ท่านไป๋ยอมรับข้อกล่าวหาและคิดว่าตนเองทำภารกิจสำเร็จแล้ว เขาจึงเลิกสนใจความเป็ความตายของตัวเอง
ถังเหล่ยไม่สามารถทนฟังเสียงหัวเราะได้อีกต่อไปจึงใช้กำปั้นทุบคางของฝ่ายตรงข้ามจนแหลกละเอียด ชายชราแซ่ไป๋จึงทำได้เพียงหัวเราะในลำคอต่อไป
ชายชราคนนี้แม้แต่ความเป็ความตายของตัวเองก็ไม่สนใจ แน่นอนว่าเขาย่อมไม่มีความปรารถนาต่อทรัพย์สมบัติเช่นกัน
ถังเหล่ยก้มลงกระซิบบางอย่างที่ข้างหูท่านไป๋ ท่านไป๋ที่กำลังหัวเราะอย่างต่อเนื่องนั้นกลับหยุดชะงักลงทันทีและหันมองถังเหล่ยด้วยสายตาดุร้าย
ถังเหล่ยหัวเราะเบาๆ และกระแทกฝ่ามือลงไปที่ศีรษะของท่านไป๋ ร่างของท่านไป๋ล้มลงบนพื้น หลังจากร่างกระตุกเล็กน้อยเืก็ไหลออกจากทวารทั้งเจ็ด เมื่อดูจากภายนอกศีรษะของท่านไป๋ยังคงเป็ปกติไม่มีอะไรแตกหัก แต่ความจริงสมองของเขาถูกบดขยี้จนแหลกละเอียดไปแล้ว
“ท่านแม่ทัพหลังจากนี้ข้าจะรับหน้าที่รักษาท่านเอง แต่ท่านก็ต้องให้ความร่วมมือกับข้าด้วย ส่วนการตายของคนคนนี้ ข้าคิดว่าทางที่ดีควรปิดข่าวเอาไว้ก่อน” ถังเหล่ยมองศพของท่านไป๋และกล่าวอย่างเรียบเฉย
“ข้ายินดีให้ความร่วมมือ” หงเทียนเิกล่าวด้วยความเชื่อมั่น
แม้ว่าหงเทียนเิจะไม่รู้ประวัติความเป็มาของถังเหล่ย แต่หลังจากพบเจอกับอีกฝ่ายไม่นานสุขภาพของเขาไม่เพียงดีขึ้นเท่านั้น แม้แต่ไส้ศึกคนสำคัญถังเหล่ยก็ยังลากตัวออกมาได้
ร่างที่ไร้ิญญาของท่านไป๋ถูกลากออกไปข้างนอก แต่ดวงตาของเขายังคงเบิกกว้างด้วยความตกตะลึงกับสิ่งที่เขาได้ยินจากปากของถังเหล่ย และสิ่งที่ถังเหล่ยกล่าวกับท่านไป๋ก่อนตายก็คือ
“เหอชิงไม่เคยบอกเ้าหรือ ว่าอย่ามาเล่นยาพิษต่อหน้าถังเหล่ย!”
…………