“ไมอาครับ เธอชื่อไมอาเป็เด็กที่คุณย่ารับอุปถัมภ์มา เ้าของร้านหอมละมุนที่เราเพิ่งขับผ่านตรงหน้าวัง…คุณย่าท่านเอ็นดูเธอมากครับ” เสียงนนท์คนขับตอบคำถามชายหนุ่มกลับมา
“อ่อ”
คนนี้นี่เอง…ก็ว่าใครมาเดินอยู่แถวนี้ได้
ชายหนุ่มคิดในใจเพียงเท่านั้นแล้วก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรต่อจนรถขับเคลื่อนมาจอดเทียบนิ่งสนิทตรงหน้าวังเขาก็ก้าวขาลงมาแล้วเดินขึ้นบันไดกลับขึ้นห้องของตัวเองในทันที…
“ทำไมอากาศมันร้อนแบบนี้เนี่ย…” ปากหนาเหยียดตรงพูดบ่นออกมาทั้งๆ ที่ตัวเองเพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพที่ตัวและผมยังเปียกชื้น
คามินเพิ่งกลับมาจากว่ายน้ำใน่เช้าแล้วก็ตรงเข้าไปอาบน้ำทันทีที่ถึงวัง แต่เขากลับยังรู้สึกร้อนจนพาลอารมณ์เสียเพราะร่างกายยังไม่คุ้นชินกับอากาศของประเทศไทยที่เริ่มร้อนระอุั้แ่หัววัน ร่างหนาเดินเปลือยท่อนบนอยู่ในห้องก่อนจะเดินไปหยิบรีโมทแอร์เพื่อปรับอุณหภูมิให้ลดต่ำลงไปอีกจนเหลือเพียงสิบห้าองศาพร้อมกับหมุนตัวกลับมาหย่อนกายลงนั่งที่เก้าอี้ทำงานกลางห้องแล้วพยายามทำใจของตัวเองให้เย็นที่สุดเท่าที่จะเป็ไปได้
พรึ่บ!
“ร้อน!! ลงไปหาน้ำเย็นๆ กินดีกว่า”
แต่สุดท้ายเขาก็สงบใจของตัวเองไม่ไหวเลยใช้ขาสไลด์เก้าอี้พร้อมกับลุกพรวดขึ้นยืนเต็มความสูงเตรียมจะเดินลงไปด้านล่าง ขายาวก้าวไปได้เพียงไม่กี่ก้าวก็หันเดินกลับมาหยิบเฮดโฟนคู่ใจที่วางอยู่บนโต๊ะติดมือไปด้วยแล้วเดินออกจากห้องของตัวเองไป
ทันทีที่ชายหนุ่มเดินโผล่พ้นลงมาด้านล่างนนท์ก็รีบตรงเข้ามาหาเขาในทันที
“เ้าชาย้าอะไรไหมครับ…เอ่อคุณคามิน” นนท์ที่เผลอลืมตัวเรียกชายหนุ่มว่าเ้าชายเลยเปลี่ยนสรรพนามในตอนท้ายอย่างทันท่วงที
ตาคมมองผู้ชายอีกคนที่ตัวพอๆ กับเขาแล้วหน้าตาก็ดูดีอยู่ไม่น้อยด้วยสายตาเรียบนิ่ง
“อืม เรียกแค่คุณให้ชิน เราอายุเท่ากันหนิ…ไม่มีอะไรให้ช่วยหรอก ว่าจะเดินออกไปซื้อน้ำที่ร้านกาแฟตรงหน้าวังหน่อย” เขาเอ่ยบอกด้วยท่าทางสบายๆ
“ถ้างั้นเดี๋ยวผมไปซื้อให้ดีกว่าคุณชา…คามินจะได้ไม่ต้องเดินร้อนๆ ออกไป” นนท์รีบเสนอตัวแต่ก็ยังพูดจาตะกุกตะกักเพราะไม่เคยชินกับการเรียกที่ดูจะสนิทสนมมากเกินไปเพราะยังไงเขาก็เป็คนธรรมดาแต่อีกคนนั้นเป็ถึงองค์รัชทายาท
“ไม่ต้อง…เอาเวลาไปซ้อมเรียกให้ถูกเถอะ ว่าแต่ย่าไม่อยู่หรอ?”
เสียงทุ้มเข้มถามขึ้นเพราะั้แ่ที่เขากลับเข้าวังมาก็ยังไม่เจอย่ารดาเลยจนถึงตอนนี้
“คุณหญิงย่าอยู่ที่สวนหลังวังกับป้าช่อครับ ท่านเอาดอกไม้ที่ไมอานำมาให้ตอนเช้าไปปลูก โดยปกติก็จะอยู่ที่นั่น 4-5 ชั่วโมงเลยครับ”
“อืม ไปล่ะ” คามินพยักหน้าเล็กน้อยแล้วก็สาวเท้าเดินออกมา
ฝ่ามือหนาสอดเข้าไปในกระเป๋ากางเกงพลางก้าวขาเดินไปตามทางเท้าที่ปูขนานไปกับถนนทางเข้าของวัง ชายหนุ่มรู้สึกสบายใจขึ้นที่ไม่ต้องมีคนคอยตามปรนนิบัติดูแลหรือติดเขาแจมากเกินไปเพราะชินกับการทำอะไรด้วยตัวเองมาตั้งเด็กเลยไม่ค่อยชอบเท่าไหร่เวลามีคนมาคำนับนบน้อมกับเขาประหนึ่งผู้สูงส่ง
คามินแต่งตัวเรียบง่ายชิลๆ แต่ดูดีเหมือนตอนที่อยู่อังกฤษ จะติดก็แต่อากาศที่นี่ที่ไม่ค่อยจะชิลเท่าไหร่นักจนใบหน้าหล่อไม่กล้าเงยหน้าแหงนมองท้องฟ้าเพราะสู้กับแสงแดดไม่ไหว…ร่างสูงใช้เวลาเดินจากวังไม่เกินสามนาทีก็มาถึงหน้าร้านกาแฟที่มีป้ายไม้สไตล์วินเทจเขียนว่า ‘หอมละมุน’ ติดเด่นอยู่ที่หน้าร้าน เขาใช้สายตามองการตกแต่งภายนอกของร้านด้วยความรวดเร็วแล้วพยักหน้าเบาๆ กับรสนิยมที่ค่อนข้างดีของหญิงสาวเ้าของร้านกาแฟแห่งนี้…
มือหนาจับก้านโยกของประตูร้านแล้วเปิดมันออกอย่างไม่ลังเลพร้อมกับแทรกตัวโตเข้าไปด้านใน
กริ๊ง กริ๊ง ~ เสียงกระดิ่งที่แขวนอยู่ดังขึ้นเมื่อมีลูกค้าเข้ามาภายในร้านทำให้สาวเ้าของร้านหมุนตัวหันกลับมาเพื่อรอต้อนรับแขกผู้มาเยือน
ตากลมสวยมองผู้ชายร่างสูงโปร่งที่แต่งตัวสบายๆ กำลังยืนอยู่กลางร้านก่อนจะเลื่อนสายตามามองใบหน้าหล่อเหลานั่นอย่างพินิจและปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาดูดีเหมือนเทพบุตร เพราะเธอไม่เคยเห็นใครหล่อขนาดนี้มาก่อน…โครงหน้าได้รูปแบบชายหนุ่มผสมไปกับคิ้วหนาๆ และสันจมูกโด่งตัดรับกับริมฝีปากเหยียดตรงที่ทำให้ใบหน้าของเขาดูเย่อหยิ่งขึ้นมา แต่สิ่งที่ทำให้เธอเหมือนโดนมนต์สะกดเห็นจะเป็ั์ตาสีน้ำตาลเหลือบเทานั่นของเขาเพราะมันช่างดูมีเสน่ห์เสียเหลือเกิน
“ตกแต่งร้านสวยดีนะครับทั้งๆ ที่อยู่ใกล้วังที่ดูโอ่อ่าหรูหราแต่ร้านกลับให้ความรู้สึกอบอุ่นและเบาสบาย…แล้วก็กลิ่นหอมดี”
คามินบอกออกไปตามที่คิดเพราะเขาค่อนข้างชอบสไตล์การตกแต่งของร้านและกลิ่นขนมผสมกับกลิ่นดอกไม้สดที่หอมอ่อนๆ ไปจนทั่วแต่กลับไม่ชวนเวียนหัว พลันตาคมก็มองใบหน้าของสาวสวยตรงหน้าไม่ต่างกัน…อืม เ้าของร้านก็สวยดี
“ขอบคุณมากค่ะ ไม่ทราบว่ารับเครื่องดื่มหรือขนมอะไรดีคะ”
ไมอาส่งยิ้มหวานให้และรีบเอ่ยถามสิ่งที่เขา้าเพราะกลัวตัวเองจะเผลอจ้องใบหน้าหล่อนั่นนานกว่านี้จนเขารู้ตัว…แต่คนเราจะดูดีได้ขนาดนี้เลยหรอ?
“อืม…อเมริกาโน่เย็นไม่หวานกับมัฟฟินบลูเบอร์รี ทานนี่”
ชายหนุ่มต้องย่อตัวลงด้วยความสูงของเขาเพื่อก้มมองเมนูของร้านที่วางไว้แล้วเอ่ยสั่งออกไปแบบไม่ต้องคิดนาน
“ได้ค่ะ ลูกค้านั่งรอสักครู่นะคะ”
“ครับ”
เขาตอบเพียงเท่านั้นก่อนจะเดินไปนั่งลงที่โต๊ะตัวเล็กด้านหลังประตูของร้านเพื่อรอขนมและเครื่องดื่มของตนเองพลางสังเกตร้านกาแฟเล็กๆ นี่ไปจนทั่ว ก่อนจะมองสาวตัวเล็กที่เดินหายเข้าไปหลังม่านกั้นที่น่าจะเป็ครัวอยู่ด้านใน
ใช้เวลาไม่นานร่างแบบบางก็เดินออกมาพร้อมกับมัฟฟินที่เพิ่งถูกอุ่นให้ร้อนจนกลิ่นหอมลอยฟุ้งตลบอบอวลพร้อมกับแก้วกาแฟที่วางอยู่บนถาดเพื่อเดินไปเสิร์ฟตรงโต๊ะที่หนุ่มหล่อหน้าไม่คุ้นนั่งอยู่
“ได้แล้วค่ะ ทานให้อร่อยนะคะ เป็ยังไงติชมได้เลย” เสียงหวานเอ่ยบอกเขาเป็ปกติอย่างที่เธอพูดกับลูกค้าทุกคน
“ครับ”
“เหม็น / เหม็น” เสียงของคนทั้งคู่พึมพำออกมาพร้อมกันไม่ดังมากแต่ก็ต่างได้ยิน ทำให้ไมอาที่กำลังก้มตัววางของอยู่ถอยตัวออกมายืนด้วยความงุนงงเล็กน้อย
กลิ่นตัวของเขาหรอ? คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันเล็กน้อยแต่ไม่ได้พูดอะไรออกไป
“ขนมนี่…เพิ่งทำใหม่วันนี้หรอครับ?” คามินพูดออกมาด้วยอาการลังเลก่อนจะยกจานมัฟฟินตรงหน้าขึ้นมาดม
“ใช่ค่ะ คุณจะบอกว่ากลิ่นเหม็นนั่นเป็เพราะขนมของฉันเน่าอย่างนั้นหรอ” ใบหน้าสวยเรียบตึงขึ้นในทันที
“นี่ ผมยังไม่ได้พูดอะไรสักหน่อยแค่ถาม…ก็ได้กลิ่นเหม็นเหมือนกันไม่ใช่หรอ” เสียงทุ้มเข้มขึ้นไม่ต่างกัน
“กลิ่นตัวตัวเองหรือเปล่า…” ปากอวบอิ่มพูดออกมาเบาๆ แต่ก็ดังพอที่ชายตรงหน้าของเธอจะได้ยินทำให้ตาคมหรี่ลงจ้องมองใบหน้าสวยนั่นอย่างเปิดเผย
“มาว่าลูกค้าแบบนี้ได้ไง ถึงว่าร้านเงียบเชียว” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ
“ก็แล้วคุณมาดมมัฟฟินทำเหมือนอย่างกับมันเน่างั้นแหละ ตลก!” ไมอายังคงน้ำเสียงของตัวเองได้ดีแต่แขนเรียวยกขึ้นกอดอกเรียบร้อย
“เหอะ! ไหนย่าบอกเป็เด็กน่ารักไง”
“คุณพูดอะไรนะ?” เสียงหวานทวนถามเพราะประโยคหลังที่เขาพูดเป็จังหวะที่ชายหนุ่มหันตัวออกเตรียมจะลุกขึ้นยืนทำให้เธอได้ยินไม่ชัด
“…” เขาไม่ได้ตอบโต้อะไรแต่มือคว้าหยิบแก้วกาแฟแล้วเดินออกจากร้านไปเฉยๆ
อะไรของเขา!!!
ทันทีที่ร่างสูงเดินพ้นประตูออกไปไมอาก็หยิบจานมัฟฟินขนมที่เธอทำเองกับมือขึ้นมาดม ซึ่งมันก็กลิ่นหอมดีไม่มีอะไรผิดปกติ แต่เพื่อความแน่ใจเธอเลยหยิบช้อนเล็กที่วางไว้ข้างจานขึ้นมาตักชิมเข้าปาก…มันก็อร่อยปกติ!
แต่ในจังหวะที่เธอก้มตัวลงเพื่อโน้มหน้าเข้าหาจานขนมกลิ่นเหม็นก็ลอยมาปะทะจมูกเข้าอย่างจังอีกครั้ง จมูกเล็กฟุดฟิดดมตามกลิ่นไปจนถึงซอกประตูที่ห่างจากขาเก้าอี้ตัวที่ผู้ชายคนเมื่อกี้นั่งไม่มาก ั์ตาสวยก็เห็นซากของจิ้งจกที่ถูกประตูหนีบติดแหง็กอยู่ตรงมุมด้านล่างในสภาพที่กำลังเน่าอืด…
ใบหน้าสวยไร้ซึ่งสีหน้าใดๆ แต่เดินกลับมาหยิบไม้กวาดและที่ตักขยะจากหลังร้านเพื่อเก็บเศษซากของมัน พอจัดการเรียบร้อยไมอาก็ใช้หลังดันประตูหน้าร้านของเธอเพื่อเอาซากเน่าของจิ้งจกออกไปทิ้งที่ถังขยะใบใหญ่ด้านหน้า
ร่างบางโผล่พ้นออกมาจากตัวร้านก็เจอกับผู้ชายคนเดิมที่ยังยืนดูดกาแฟเก๊กหล่ออยู่ ตาคมเหลือบสายตาลงมองเศษซากจิ้งจกที่นอนแอ้งแม้งอยู่บนที่โกยขยะ มุมปากของเขาก็กระตุกขึ้นทันที
“แล้วมาว่ากลิ่นตัวเรา…หึ”
“แล้วมันใช่ขนมฉันไหมล่ะ” ไมอารีบสวนกลับอย่างคนไม่ยอม
“ก็ไม่ใช่ แต่แปลว่าร้านสกปรกสิ จิ้งจกตายจนเน่ายังไม่รู้เลย”
“…” เธอไม่ได้ตอบอะไรแต่เดินไปเคาะซากเน่าลงถังขยะพร้อมกับหมุนตัวปิดประตูกระแทกเสียงดังเดินเข้าร้านของตัวเองไป
ปึง!
“อะไรก็ดี ยกเว้นก็แต่เ้าของร้านล่ะวะ” ใบหน้าหล่อเงยมองป้ายร้านอีกรอบก่อนจะสาวเท้าเดินชิลๆ กลับเข้าวัง