“พี่สาวแสนสวย ไหนว่าจะไม่โกรธแล้วก็ไม่ตีข้าไง” ิอวี่หมดคำจะพูด
เมื่อครู่ตอนที่ฟันกระบี่มรณะสังหารออกไป เขาไม่ได้ใช้ลมปราณกระบี่ทั้งสามพันสายออกมา แต่ใช้พลังแค่หนึ่งพันห้าร้อยสายเพื่อลดอานุภาพของเพลงกระบี่เวิ่นชิงเท่านั้น ส่วนพลังกระบี่ที่เหลือก็ทำให้เสื้อผ้าของตัวเองฉีกขาด แม้ว่าพลังกระบี่จะไหลเข้าสู่ร่างกายของตนเองด้วย แต่มันก็ถูกร่างกายที่แข็งแกร่งของเขาสลายไปหมด
แต่เฮยจีกลับตีฝ่ามือเข้ามาแบบนี้ ิอวี่ยังไม่ได้ทันได้เตรียมตัวเลยทำให้เขารู้สึกเจ็บ ...
เพราะตอนนี้เขาอยู่ในระดับขั้วสูงสุด ความสามารถของเฮยจีก็อยู่ในระดับขั้วสูงสุดเช่นกัน มีพลังเทียบเท่าราชสีห์หนึ่งหมื่นตัว
“ใครเป็พี่สาวเ้ากัน! ข้าแก่ขนาดนั้นเลยหรือไง?” เฮยจีพูดด้วยความโมโห
“มันไม่ใช่ประเด็นสำคัญนะพี่สาว ไม่ พี่สาวคนสวย ข้าหมายถึงว่า เ้าไม่ทำตามที่พูด” ิอวี่ยักไหล่แล้วพูดเข้าประเด็นเลย
เฮยจีเบะปาก “ชิ ใครบอกให้เ้ามาหลอกข้ากันล่ะ ข้าจะคืนคำ แล้วเ้าจะทำไม?”
ิอวี่ถอนหายใจ “เฮ้อ รู้อยู่แล้วว่าเ้าจะต้องมีท่าทางเหมือนหมูตายไม่กลัวน้ำร้อนแบบนี้ ไม่เป็ไร ข้าชินแล้ว เหอะๆ ”
“เ้า ... ิอวี่เ้าว่าใครเป็หมู”
“ก็ว่าเ้าไง แต่ว่าเห็นแก่ที่เ้าหน้าตาสวย ถือว่าเ้าเป็แม่หมูจอมทะเล้นก็แล้วกัน ฮ่าฮ่า!”
เฮยจีโกรธจนหน้าแดงแล้วเดินไปหยิกเอวของิอวี่ นางพูดด้วยความโกรธว่า “เ้านั่นแหละที่เป็หมู เ้าเป็หมูกันทั้งบ้านเลย”
“อย่าอย่า ... อย่าหยิก ... ” ิอวี่หลบไปทางซ้ายทีขวาที “ข้าผิดไปแล้วตกลงไหม? แต่เมื่อครู่ที่เ้าเป็ห่วงข้า ข้าก็รู้สึกอบอุ่นใจนะ ฮ่าฮ่า”
“นี่แน่ะ ... เ้ามันน่ารำคาญจริง บ้าที่สุด ... ” เฮยจีกัดฟันแล้วก็เดินไปหาิอวี่ ทั้งหยิกทั้งตีไปพร้อมกัน
เป็อยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ ส่วนเ้าวิหคัปีกมืดก็บรรทุกคนทั้งสองบินจนตะวันลับฟ้าไป
เวลาค่อยๆ ผ่านเลยไป พริบตาเดียวฟ้าก็มืดสนิทแล้ว
ดวงดาวนับร้อยล้านดวงอยู่บนท้องฟ้าที่มืดมืด พระจันทร์สว่างไสวเหมือนแผ่นหยกที่แขวนเหนือท้องฟ้ายามค่ำคืน ส่องประกายแสงสีเงินอ่อนๆ เป็ชั้นๆ เหนือทะเลเมฆหมอก
“อือ ... สวยจังเลย”
ผ่านการตบตีมา่เวลาหนึ่ง อารมณ์ของเฮยจีก็เริ่มดีขึ้น นางนั่งอยู่บนหลังวิหคัปีกมืดแล้วมองดูท้องฟ้า ดวงดาวระยิบระยับอยู่ในตาของนาง
ิอวี่นั่งอยู่ด้านหลัง สูดอากาศบริสุทธิ์เข้าไปแล้วพูดว่า “นั่นสิ ความรู้สึกแบบนี้มันลึกลับมาก จับต้องไม่ได้เลย”
ตอนนี้ิอวี่นึกภาพตัวเองในอนาคตขึ้นมา เขามาที่สำนักเทพอัคคีในครั้งนี้ไม่รู้จะต้องเจอพายุฝนอะไรอีก จะโชคดีหรือว่าจะโชคร้าย ทุกอย่างล้วนคาดเดาไม่ได้เลย มันก็เหมือนกับดวงดาวบนท้องฟ้าตอนนี้ที่ทำให้รู้สึกลึกลับ แต่ก็อยากจะเข้าหา
เฮยจีเอียงคอแล้วชี้ไปบนดวงดาวบนท้องฟ้า “เ้าดูนั่น ดาวดวงนั้นเรียกว่าอะไร?”
“ดวงไหน?” ิอวี่ขยับตัวเข้าใกล้เฮยจีมากขึ้น แล้วมองตามมือของนางไป จากนั้นก็ยิ้มแล้วพูดว่า “ดาวดวงนี้มีชื่อว่าเส้าผู่”
“แล้วดวงนั้นล่ะ?”
“อือ ... ดวงนั้นเรียกว่าจั่วซู เคยบอกเ้าไปแล้วไง” ิอวี่อธิบาย
เฮยจีเบะปากแล้วก็หันข้างมากระชากเสื้อของิอวี่ แล้วชี้ไปที่ดวงดาวบนท้องฟ้าที่แถวหนึ่งว่า “นั่นข้ารู้ ดาวเหนือเจ็ดดวง แบ่งเป็เทียนซู่ เทียนเสวียน เทียนจี เทียนฉวน อวี่เหิง ... แล้วก็ ... อือ ไคหยางมันอันไหนนะ แล้วอันไหนคือเหยากวงกัน”
พอนึกมาถึงตอนนี้เฮยจีก็เริ่มหงุดหงิด
“ไคหยางอยู่นั่น ส่วนนั่นเหยากวง” ิอวี่ชี้ไปที่ท้องฟ้าแล้วอธิบายอย่างใจเย็น
“อันไหน เห็นไม่ชัดเลย” เฮยจียังคงไม่เข้าใจ ดาวเหนือเจ็ดดวงอยู่ไกลจากพวกเขามาก ทางที่ิอวี่ชี้ไปมันไม่ชัดเท่าไหร่
ิอวี่ก็เข้าใจเลยเข้าไปจับมือเฮยจีแล้วเอาหัวเข้าไปใกล้นาง ขยับมือขวาไปตามมุมของเฮยจี “อันนี้ ไคหยาง ส่วนข้างๆ นั่นก็คือเหยากวง”
“อ๋อ อย่างนี้นี่เอง ... ”
ตอนนี้เฮยจีเข้าใจแล้ว แต่หลังจากนั้นก็เหมือนรู้ตัว เมื่อครู่ิอวี่ช่วยชี้ดาวให้นางร่างกายเลยแนบชิดกันโดยไม่ได้ตั้งใจ แทบจะเรียกว่าโอบกอดได้เลย
แผ่นหลังที่แข็งแกร่งแนบชิดเข้ามาทำให้รู้สึกอบอุ่นมาก จมูกของเขาประชิดเข้ามาที่ข้างหู มันทำให้รู้สึกจั๊กจี้เล็กน้อย เขาเอนตัวมาแบบนั้นช่วยบังลมที่พัดมาได้เยอะมาก ...
อือ ดีจังเลย
ในใจของเฮยจีคิดแบบนี้
ไม่ ...
เฮยจีเหมือนรู้สึกได้ว่าคนที่อยู่ด้านหลังของนางก็คือิอวี่ แต่ทำไมนาง ... นางถึงได้?
จู่ๆ ใจของเฮยจีก็เต้นแรง ใบหน้าของนางแดงระเรื่อเล็กน้อย จนกระทั่งในเวลาต่อมา ตอนที่นางเริ่มสงบลงแล้วถึงได้ปลอบใจตัวเองขึ้นมาว่า “คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง? ก็แค่รู้สึกดี ก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านี้สักหน่อย ิอวี่เองก็คงไม่ได้รู้สึกว่าข้าเป็ผู้หญิงใจง่ายหรอก”
อีกอย่าง รู้จักกันมาก็นานแล้ว กอดทีเดียวมันจะเป็อะไรไปล่ะ? ก็ไม่เห็นมีอะไรเลย
นั่นสิ เป็เื่ปกติ ทุกอย่างปกติดี
แค่ระยะเวลาสั้นๆ ในหัวของเฮยจีก็มีความคิดมากมาย และสุดท้ายนางก็พูดกล่อมตัวเองเป็ผลสำเร็จ หลังจากที่นางคิดว่ามันเป็เหตุเป็ผลแล้ว ความเขินอายที่เกิดขึ้นก็หายไป
เฮยจีจึงก้มหน้าลงแล้วปล่อยให้ิอวี่กอดต่อไปโดยที่ไม่ขัดขืนอะไรเลย
แต่ิอวี่กลับคิดในอีกแบบหนึ่ง เพราะเขารู้สึกว่าอารมณ์ของเฮยจีนั้นแปลกไป ถึงแม้ร่างกายของเฮยจีจะยังคงอ่อนนุ่มเหมือนเดิม แต่ิอวี่กลับรู้สึกได้ว่านางตัวแข็ง พอนึกขึ้นได้ว่าท่าทางของเขาในตอนนี้นั้น ... ิอวี่ไม่เข้าใจสิแปลก
ถึงแม้ิอวี่จะไม่ปฏิเสธเลยว่าการกอดเฮยจีเอาไว้แบบนี้มันดีมาก แต่มันก็เกี่ยวกับการให้เกียรติเฮยจีด้วย เขายิ้มอย่างจนใจแล้วพูดว่า “เอ่อ ... ทำแบบนี้เหมือนจะไม่ค่อยดีเท่าไร”
พูดจบเขาก็ดึงเอามือกลับ
แต่ในนาทีนี้ ิอวี่กลับรู้สึกว่าเฮยจีเหมือนเอามือเย็นๆ ของนางมาจับมือขวาของเขาเอาไว้
“กอดไว้แบบนี้นี่แหละ ... ”
เฮยจีเม้มริมฝีปากบางๆ ของนาง เสียงของนางนุ่มนวลและเบา แล้วก็พูดเพิ่มขึ้นมาอีกสองคำว่า “ ... ข้าหนาว”
“ฮะ? ... อือ”
ิอวี่ไม่เข้าใจเลยว่าเฮยจีคิดอะไรอยู่ แต่ในเมื่อนางพูดแบบนี้แล้วเขาก็เอามือที่แข็งทื่อไปโอบเอวของเฮยจีจากด้านหลังอีกครั้ง แล้วเอาหน้าอกของเขาแนบไปยังแผ่นหลังของนาง
วินาทีที่ิอวี่เข้าไปกอดเฮยจี เขาััได้ถึงความตื่นเต้นที่มาจากใจ บนตัวของนางมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ความอุ่นจากร่างกาย หัวใจที่กำลังเต้น ร่างกายที่อ่อนนุ่ม และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ นางคือเฮยจี ภูตสาวเฮยจีที่รูปร่างดีและแสนน่ารัก
เฮยจีเองก็มีความรู้สึกที่รุนแรงมากเช่นกัน หัวใจเต้นถี่ขึ้นมาอีกครั้ง นางััได้ถึงความอบอุ่นที่ิอวี่ให้จึงหดไหล่ลงจนทำให้ิอวี่กอดนางแน่นขึ้น เหมือนกับว่าจะกลืนนางเข้าไปในร่างกายของเขา
ในค่ำคืนที่ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาว อสูรสัตว์ปีกบินอยู่บนท้องฟ้า แสงยามค่ำคืนอันสลัว นอกจากลมที่พัดมาจากรอบด้านแล้ว ทุกอย่างช่างเงียบสงบและสวยงาม
“แบบนี้ ... ไม่หนาวแล้วใช่ไหม?” เป็แบบนี้อยู่ครู่ใหญ่ ิอวี่ก็เอียงหัวแล้วมองไปที่เฮยจี
“อือ ... ไม่หนาวแล้ว ดีมากเลย”
เฮยจีพยักหน้าเบาๆ ท่าทางคำพูดของพวกเขาสองคนเหมือนจะมีการเปลี่ยนแปลงขึ้น มันมีความสับสนปนอยู่ภายในมากมาย
ิอวี่พูดว่า “คราวก่อนข้ารุนแรงเกินไป รัดแน่นไปจนทำให้เ้าเจ็บ ข้าขอโทษ”
“ ... ฮึ เ้าเพิ่งรู้ตัวหรือ กอดแบบนี้ดีจะตายไป”
เฮยจีคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็พูดว่า “แต่ว่าเ้าอย่าคิดเลยเถิดนะ ที่ข้าไม่กลับเข้าหยกโบราณ เพราะข้าอยากดูดาว แล้วก็รู้สึกหนาว ถึงได้ยอมให้เ้ากอดแบบนี้”
“ฮ่าฮ่า”
ิอวี่ยิ้มแล้วพูดว่า “ใช่ เ้าก็อย่าคิดเยอะไป แค่ช่วยให้ความอบอุ่นระหว่างเพื่อนเท่านั้น ข้าเองก็อยากจะดูดาวเหมือนกัน”
“ ... อือ เอ่อ ร่างิญญาของข้าใกล้หมดเวลาแล้ว ข้ากลับไปก่อนนะ” เฮยจีพยักหน้า แต่ว่าในใจรู้สึกเศร้านิดหน่อย
“ได้” ิอวี่ตอบกลับแบบเรียบง่าย ทั้งๆ ที่เขากำลังยิ้ม ในใจกลับไม่ได้มีความสุขเลย
จากนั้น เฮยจีก็กลายเป็แสงเข้าไปในหยกโบราณที่อยู่บริเวณหน้าอกของิอวี่
“เป็ผู้หญิงที่แปลกจริงๆ ข้าอ่านใจนางไม่ออกเลย”
ิอวี่มองดูดวงดาวด้วยความเหม่อลอย ผ่านไปครู่ใหญ่เขาถึงได้สติกลับมา เขาคิดในใจว่า “ช่างเถอะ ตอนนี้ข้ายังไม่มีเวลามาคิดเื่นี้ ยังมีเื่อีกเยอะที่ต้องทำ สำนักเทพอัคคีมีอันตรายรอบด้าน แค่จี้เฟิงอวินกับซ่งเหยาก็สร้างอันตรายให้ข้าได้ขนาดนี้แล้ว ข้าจำเป็ต้องเพิ่มทักษะการต่อสู้ของตัวเองอีก”
ิอวี่นั่งอยู่บนวิหคัปีกมืด เขาหลับตาลงแล้วปรับอารมณ์ของตัวเองอยู่ประมาณห้านาที จากนั้นถึงได้สงบใจลงได้
ิอวี่ใช้พลังจิตสำรวจไปในหัวของเขา แสงสีขาวกลุ่มหนึ่งกำลังนอนนิ่งๆ อยู่ในนั้น
มันคือการสืบทอดที่าาอสูรถ่ายทอดให้กับเขา!
ิอวี่ฝึกอสรพิษหลงทางไปแล้ว แต่อย่างอื่นเขายังไม่ได้ยุ่งเลย และตอนนี้เขาอยากลองใช้พลังจิตของเขาไปกระตุ้นแสงสีขาวกลุ่มนั้นดูอีกที
ก่อนที่ิอวี่จะไปถึงขอบเขตอมฤตขั้นที่หนึ่ง มันยากมากที่จะดึงพลังงานความทรงจำสีขาวออกมา
ถึงแม้ิอวี่จะอยู่ใน่หัวเลี้ยงหัวต่อของขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่เก้า แต่ว่า ขาดไปแค่ครึ่งลี้ ก็ห่างไกลกันเป็พันลี้ แค่ขั้นเดียวก็เหมือนไกลแสนไกล คิดอยากจะให้ตนเองเลื่อนไปขอบเขตอมฤตในระยะสั้นๆ มันทำได้แค่ฝัน
“ข้าไม่เชื่อหรอกว่าข้าจะไม่สามารถดึงเ้าออกมาได้”
ิอวี่ใจแข็ง เขาดึงเอาน้ำในบ่อศักดิ์สิทธิ์สีดำออกมาจนหมด จากนั้นก็ถ่ายพลังเข้าไปในกลุ่มแสงสีขาวเพื่อลองดึงพลังงานความทรงจำเ่าั้ออกมา!
ขั้นตอนที่ว่ามันไม่ง่ายเลย แล้วก็เปลืองแรงมากด้วย ิอวี่เสียพลังงานในบ่อน้ำไปถึงสองในสามส่วน แต่ก็ยังไม่สามารถดึงเอาพลังงานความทรงจำสีขาวออกมาเลย แต่เขาก็ยังััได้ถึงความเคลื่อนไหวบางอย่าง
“สนุกแล้ว!”
ิอวี่ทำใจให้สงบแล้วถ่ายน้ำในบ่อศักดิ์สิทธิ์อีกหนึ่งส่วนไปยังแสงความทรงจำสีขาวอีกครั้ง จากนั้นก็พยายามดึงมันออกมาด้วยกำลังทั้งหมดที่มี
ตอนที่ิอวี่รู้สึกว่าน้ำในบ่อของเขากำลังจะหมดลง แสงสีขาวกลุ่มนั้นก็เริ่มสั่น จากนั้นก็ดึงแสงสีขาวออกมาได้ส่วนหนึ่งและมันก็พุ่งเข้าสู่ความทรงจำของเขาในทันที!
