พอได้ยินเสียงต่อสู้แล้ว หลงอวี้ก็รู้สึกสนใจทันที
ป่าไผ่หลังเขานี้ เป็สถานที่ที่ทั้งลูกศิษย์ระดับิญญาแท้และผู้าุโของลัทธิสยบฟ้าใช้อยู่อาศัยและฝึกฝน ลูกศิษย์ของลัทธิสยบฟ้าที่ก้าวขึ้นสู่ขอบเขติญญาแท้ได้มีอยู่ไม่กี่คนเท่านั้น
นั่นก็หมายความว่า ผู้ที่กำลังประลองฝีมือกันอยู่มีโอกาสสูงที่จะเป็ผู้าุโของลัทธิสยบฟ้า!
ในบรรดาผู้าุโทั้งสิบสามคนของหอผู้าุโลัทธิสยบฟ้านั้น อู่เจี้ยนซินได้ถูกทำลายวรยุทธ์และขับไล่ออกจากลัทธิไปแล้ว ยังเหลือผู้าุโอยู่เพียงสิบสองคนเท่านั้น แต่ละคนล้วนเป็ยอดฝีมือระดับิญญาแท้ขั้นสามขึ้นไปทั้งสิ้น
ในที่แห่งนี้ จะบอกว่าปู้สิงเป็ผู้ที่อ่อนแอที่สุดเลยก็ว่าได้
เมื่อหลงอวี้ก้าวสู่ระดับิญญาแท้ได้แล้ว ในที่สุดเขาก็เข้าถึงเหล่าคนที่แข็งแกร่งที่สุด มีความสำคัญมากที่สุดของลัทธิสยบฟ้าได้เสียที
“ปีกแห่งหุบเขาปีศาจ!”
หลงอวี้ใช้ลมปราณเร่งเร้ายุทธภัณฑ์ พริบตานั้นปีกแห่งหุบเขาปีศาจก็ได้กางออกจนยาวถึงสิบจ้างติดเข้าที่หลังของหลงอวี้ ทำให้ตัวเขาเบาหวิวทันที
“ไป!”
หลงอวี้เคลื่อนตัวด้วยความเร็วสูงสุด เงาร่างของเขาที่อยู่ใต้ปีกสีขาว พุ่งทะยานออกไปจนเห็นเป็ประกายแสงสีขาวสายหนึ่งเลยทีเดียว!
ความเร็วสูงยิ่งกว่าตอนที่เขาใช้ท่าวายุก้าวพริบตาพร้อมกับพลังของรองเท้าเหมันต์คลั่งหลายเท่าทีเดียว
เพียงครู่เดียวหลงอวี้ก็ไปถึงตรงจุดที่มีคนประลองฝีมือกันแล้ว!
จากนั้นเขาก็ได้เก็บปีกกลับไป กวาดตามองไปยังพื้นที่โล่งจากด้านในป่าไผ่ พบว่าที่นี่มีผู้คนจำนวนมากมารวมตัวกัน
ผู้ที่กำลังประลองกันอยู่นั้น เป็ชายวัยกลางคนในชุดขาวคนหนึ่งกับสตรีที่ดูสูงศักดิ์ในชุดสีดำคนหนึ่ง
หลงอวี้เคยเห็นทั้งสองคนนี้ในหอผู้าุโมาก่อน ทั้งคู่เป็หนึ่งในผู้าุโของลัทธิสยบฟ้าทั้งสิ้น
“ฮ่าฮ่า ศิษย์น้องหลง ไม่คิดเลยว่าเ้าเองก็มาด้วยเหมือนกัน”
เสียงหัวเราะที่ฟังดูน่าเกรงขามดังขึ้นพร้อมกับเงาร่างในชุดสีดำรัดรูปสายหนึ่งเดินเข้ามาหาหลงอวี้
หลงอวี้หันไปมองพบว่าอีกฝ่ายคือปู้สิงนั่นเอง
“ศิษย์พี่ปู้ ท่านก็อยู่นี่หรือ?”
หลงอวี้รู้สึกประหลาดใจ แต่ก็ทำให้เขารู้สึกวางใจขึ้นกว่าเดิมไม่น้อย อย่างน้อยก็มีคนรู้จักอยู่ด้วย ไม่อย่างนั้นเขาคงจะทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน
“อืม ผู้าุโอวี๋กับผู้าุโเหยียนกำลังประลองกันอยู่ ผู้าุโทั้งสองท่านล้วนเปลี่ยนิญญาแท้ให้กลายเป็รูปธรรมได้แล้ว การประลองของพวกเขาครั้งนี้เป็ประโยชน์กับข้าไม่น้อยเลย”
ปู้สิงพูดด้วยรอยยิ้ม
ชายวัยกลางคนชุดขาว มีนามว่า ‘อวี๋เซิ่งซื่อ’ ส่วนสตรีผู้สูงศักดิ์ในชุดดำมีนามว่า ‘เหยียนฮวนโม่’ ทั้งสองเป็ยอดฝีมือระดับิญญาแท้ขั้นสี่
เห็นได้ชัดว่าหลงอวี้มาช้าไปเล็กน้อย เพราะการประลองของทั้งสองนั้นเหมือนจะจบลงแล้ว
“ศิษย์น้องเหยียนร้ายกาจมากขึ้นเรื่อยๆ เลยจริงๆ ข้าอวี๋เซิ่งซื่อรู้สึกละอายยิ่งนัก ฮ่าฮ่า!”
ชายวัยกลางคนในชุดขาวแย้มยิ้มอย่างอ่อนโยน เก็บกระบี่ในมือ
“ไปแล้ว”
เหยียนฮวนโม่ตอบกลับสั้นๆ จากนั้นก็หันหลังเดินไปทันที เ็าอย่างเห็นได้ชัด
แต่ก่อนที่นางจะจากไป นางได้มองมาทางหลงอวี้แวบหนึ่ง ท่าทางดูประหลาดใจกับการปรากฏตัวของหลงอวี้เล็กน้อย
หน้าใหม่
เหยียนฮวนโม่คิดในใจเช่นนั้น จากนั้นก็เดินจากไปจากสายตาผู้คน
หลงวี้มองดูเงาร่างอันสูงศักดิ์ของเหยียนฮวนโม่เดินไป อดชื่นชมในใจไม่ได้ เหยียนฮวนโม่ผู้นี้ ดูๆ แล้วน่าจะมีอายุอย่างมากสุดไม่เกินยี่สิบห้ายี่สิบหกปี แต่ระดับพลังของนางกลับสูงส่งจนน่าสะพรึงกลัวสุดขีด
ดูท่าในลัทธิสยบฟ้าจะมีผู้มีพร์อยู่ไม่น้อย เพียงแต่หากยังก้าวไปไม่ถึงขั้นนั้นจะไม่มีทางได้พบเจอเลย
เหยียนฮวนโม่เดินจากไปแล้ว อวี๋เซิ่งซื่อกลับเดินหัวเราะมาทางหลงอวี้
“สหายน้อยหลงอวี้ แต่เดิมข้าคิดว่าต้องผ่านงานประลองยุทธ์เจ็ดสำนักไปก่อนเ้าจึงจะก้าวขึ้นสู่ขอบเขติญญาแท้ได้ และได้มาพบพวกเราที่หลังเขาแห่งนี้ ไม่คิดเลยว่าเ้าจะมาถึงเร็วขนาดนี้”
อวี๋เซิ่งซื่อประเมินหลงอวี้ด้วยรอยยิ้มชื่นชม
“ผู้าุโอวี๋ ที่ข้ามาถึงจุดนี้ได้ล้วนเป็เพราะการดูแลของลัทธิ”
หลงอวี้ตอบกลับอย่างมีมารยาท
“ดูแลกับผีสิ ความสำเร็จในเส้นทางแห่งวิถียุทธ์ ผู้ใดบ้างไม่พึ่งพาตัวเอง?”
อวี๋เซิ่งซื่อหัวเราะพร้อมกับตบบ่าหลงอวี้
“สิ่งที่ลัทธิทำได้มากสุดก็แค่การมอบสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างจะเหมาะกับการฝึกฝนให้เท่านั้น แต่ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ หากคิดจะประสบความสำเร็จก็ยังต้องพึ่งตัวเองอยู่ดี!”
หลงอวี้ตะลึง ไม่คิดว่าชายหนุ่มวัยกลางคนรูปงามที่มีท่าทางดูสง่างามผู้นี้ พอเปิดปากมาคำแรกก็จะสบถคำหยาบแบบนี้
ดูแลกับผีสิ!
ผู้าุโอวี๋เซิ่งซื่อผู้นี้ดูจะเป็คนที่ไม่ยึดติดกับธรรมเนียมใดๆ ทำให้หลงอวี้ค่อนข้างประทับใจกับอีกฝ่ายไม่น้อย
น่าเสียดายที่ไม่ได้ดูตอนเขาประลองฝีมือกับเหยียนฮวนโม่!
“เอาล่ะ หากเ้าอยู่ฝึกฝนระยะยาวที่นี่ เ้าจะได้ชมการประลองของเหล่าผู้าุโทั้งหลายอีกหลายครั้ง”
ปู้สิงหัวเราะเล็กน้อย
“ในเมื่อเ้ามาที่นี่แล้ว ก็ไปหากระท่อมไม้ไผ่สักหลังหนึ่งพักผ่อนก่อนเถิด ผู้ฝึกฝนวรยุทธ์ควรทำอะไรให้เรียบง่ายเข้าไว้ ส่วนอาหารสามมื้อนั้นจะมีคนส่งมาให้พวกเราอยู่แล้ว”
“อืม”
หลงอวี้พยักหน้ารับ จากนั้นก็เดินตามหลงอวี้ไป
ผู้าุโทั้งหลายต่างก็แยกตัวกันกลับไปเช่นกัน เพียงแต่วันนี้พวกเขาได้มีเื่คุยเพิ่มมาอีกเื่หนึ่งแล้ว นั่นก็คือหลังจากนี้ในป่าไผ่จะมีหน้าใหม่เพิ่มขึ้นมาอีกคน หลงอวี้!
นับั้แ่หลงอวี้เข้ามาในลัทธิสยบฟ้าจถึงตอนนี้ เวลาผ่านไปเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น แต่กระนั้นมันกลับก้าวขึ้นสู่ขอบเขตระดับิญญาแท้ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้าุโทั้งหลายย่อมรู้จักเขาอยู่แล้ว
หลังจากที่หลงอวี้หากระท่อมไม้ไผ่เรียบๆ ง่ายๆ หลังหนึ่งเจอแล้ว หลงอวี้เข้าไปพักผ่อนภายในนั้น
ภายในกระท่อมนั้นเรียบง่ายอย่างมาก มีเตียงไผ่ โต๊ะไผ่ และเก้าอี้ไผ่อย่างละหนึ่งตัวเท่านั้น ไม่มีอะไรอื่นอีกแล้ว
อาหารเย็นก็เรียบง่ายมากๆ เช่นกัน จะมีผู้าุโระดับผู้คุมกฎเป็คนส่งมาให้
ผู้คุมกฎในสายตาของลูกศิษย์ทั่วไปนั้น เป็ตัวตนที่ไม่อาจต่อต้านได้เลยก็ว่าได้
แต่ในสายตาของลูกศิษย์ระดับพิเศษขอบเขติญญาแท้และผู้าุโแห่งหอผู้าุโแล้ว กลับไม่ได้มีอะไรพิเศษอีกต่อไป!
หลังจากทานมื้อดึกเสร็จ ดวงจันทร์ก็มาเยือน
ผู้คนทั้งหมดภายในป่าไผ่ล้วนอยู่ภายในที่พักของตัวเอง บ้างก็พักผ่อน บ้างก็ฝึกฝน ในทั่วทั้งป่าไผ่จึงเงียบสงัด
เวลากลางคืนนั้น อุณหภูมิจะลดต่ำลง ในป่าไผ่ที่อยู่บนยอดเขาสูงสุดขีดเช่นนี้ หากเป็คนทั่วไปต้องหนาวจนตัวแข็งเป็แน่
แต่สำหรับยอดฝีมือระดับิญญาแท้แล้ว อุณหภูมิที่ต่ำจนสามารถทำให้หยดน้ำกลายเป็น้ำแข็งในพริบตาเช่นนี้ กลับทำอะไรพวกเขาไม่ได้เลย
“หมัดัปรภพ กระบวนท่าที่หนึ่งหมัดมัวเมาล้มสู่ปรภพเป็วิทยายุทธ์ระดับธรรมดาชั้นยอด ข้าฝึกฝนสำเร็จจนบรรลุขั้นสูงสุดแล้ว สามารถรวบรวมปราณหยินมาอัดเป็คลื่นะเิปรภพเพื่อสังหารศัตรูได้”
“ต่อไปคือกระบวนท่าที่สอง ฝ่ามือตื่นรู้สู่สังสารวัฏกระบวนท่านี้มีวิธีการฝึกคล้ายคลึงกับหมัดมัวเมาล้มสู่ปรภพแต่จะเป็การจำลองเส้นทางแห่งสังสารวัฏขึ้นแทน แล้วซัดคู่ต่อสู้เข้าไปในวัฏสงสาร!”
จำลองเส้นทางสังสารวัฏ ซัดคู่ต่อสู้เข้าไปในวัฏสงสาร นี่คือคำอธิบายของวิชาที่ได้มาจากความทรงจำของสัญลักษณ์ัปรภพ เพียงแต่ผลลัพธ์ของมันจะเป็อย่างไรนั้น หลงอวี้ยังไม่รู้เลยแม้แต่น้อย
“หรือเราต้องลองหาคนมาประลองเพื่อทดสอบดู... แต่ก็ต้องรอให้ข้าฝึกให้สำเร็จก่อนล่ะนะ”
หลงอวี้ครุ่นคิดไปพลาง เริ่มโคจรลมปราณตามเส้นทางเฉพาะของวิชาฝ่ามือตื่นรู้สู่สังสารวัฏเหมือนในความทรงจำของสัญลักษณ์ัปรภพ
เมื่อเริ่มโคจรลมปราณแล้ว หลงอวี้ก็พลันััได้ถึงพลังงานอันพิสดารสายหนึ่งที่ราวกับ้าออกมาจากร่างกายของเขาก็ไม่ปาน
“นี่คือพลังที่ใช้จำลองเส้นทางสังสารวัฏหรือ? ถ้าซัดคู่ต่อสู้เข้าไปในสังสารวัฏแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นกับอีกฝ่ายล่ะ?”
หลงอวี้อดกลั้นความสงสัยในใจไว้ เริ่มโคจรลมปราณต่อ
ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลามาสงสัย ขอเพียงเขาฝึกจนบรรลุขั้นเริ่มต้นได้ ก็จะสามารถหาคนมาทดลองได้แล้ว!
เพียงแต่หลงอวี้ก็ยังดูถูกความยากในการฝึกกระบวนท่านี้มากไปหน่อย
วิชานี้เป็ถึงวิทยายุทธ์ระดับิญญาขั้นสุดยอดเลยนะ!
ต้องรู้ว่า แม้แต่ในลัทธิสยบฟ้าก็ยังไม่มีวิทยายุทธ์ระดับิญญาขั้นสุดยอดเลย หรือแม้แต่ทั่วทั้งอาณาจักรต้าถังเองก็มีวิทยายุทธ์ระดับิญญาขั้นสุดยอดเพียงไม่กี่วิชาเท่านั้น!
อานุภาพและความยากในการฝึกย่อมต้องเกินกว่าจะจินตนาการได้ยู่แล้ว
หลงอวี้ใช้เวลาฝึกฝนทั้งคืนจนกระทั่งถึง่เช้าของวันถัดไป เมื่อมีคนมาเคาะประตูเพื่อส่งอาหารเช้าแล้วเขาถึงได้หยุดการฝึกลง
“เข้ามาเลย”
หลงอวี้เอ่ยพูดออกไป
หลังสิ้นเสียงแล้วประตูก็ได้ถูกผลักเข้ามา จากนั้นก็ได้มีเงาร่างอันอ้อนแอ้นในชุดสีน้ำเงินปรากฏตัวตรงหน้าหลงอวี้
เลี่ยวเล่อเล่อ!
หลงอวี้ชะงักทันที แม่นี่มาที่นี่ทำไมกันล่ะเนี่ย?
เลี่ยวเล่อเล่อที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูนั้นเบะปากขึ้น
“ทำไม การได้เจอข้าทำให้เ้าไม่พอใจหรืออย่างไร?”
“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก เพียงแค่ เ้ามาที่นี่ทำไม?”
หลงอวี้รู้สึกปวดขมับเล็กน้อย
ไม่ใช่ว่านอกจากลูกศิษย์ระดับิญญาแท้แล้ว คนอื่นก็ไม่สามารถเข้ามาในป่าไผ่ได้ไม่ใช่หรือ? หรือผู้เฒ่าขาวจะอนุญาตเป็พิเศษ?
“ข้ามาส่งอาหารให้เ้า ไม่ได้หรือ?”
เลี่ยวเล่อเล่อหัวเราะ
“จริงสิ อาจารย์ข้าบอกให้นำเ้าขวดนี่มาให้เ้า เหมือนจะมีโอสถอะไรบางอย่างบรรจุอยู่”
“มันคืออะไรน่ะ?”
หลงอวี้ชี้ไปทางขวดเล็กๆ นั่นด้วยความสงสัย
“เ้าลองเปิดดูก็รู้แล้วนี่?”
เลี่ยวเล่อเล่อวางถาดลงบนโต๊ะไผ่ก่อนจะหันกลับไปแล้วโบกมือลา
“ข้าไปก่อนล่ะ ไว้ตอนเที่ยงข้าจะมาอีก!”
“จะมาอีก?”
หลงอวี้ใเล็กน้อย
“หลังจากนี้อาหารสามมื้อของเ้าจะเป็ข้าที่นำมาส่งให้ เตรียมตัวเตรียมใจไว้เถอะ!”
เลี่ยวเล่อเล่อแย้มยิ้มได้ใจ จากนั้นก็ปิดประตูวิ่งะโโหยงๆ ออกไป
“...”
หลงอวี้ปวดขมับเล็กน้อย สาเหตุที่เขาเลือกฝึกฝนที่นี่ แต่เดิมเป็เพราะ้าจะปลีกตัวอยู่ให้ห่างจากนางด้วย
ไม่คิดเลยว่านางจะไล่ตามมาถึงที่นี่!
แต่เขากลับไม่รู้เลยแม้แต่น้อยว่า ตอนที่เลี่ยวเล่อเล่อหันกลับไปเมื่อครู่นี้ ดวงตาอันซุกซนของนางก็หมองลงทันที
มีหรือที่นางจะไม่รู้ว่า การที่หลงอวี้มาแอบอยู่ที่นี่นั้นเป็เพราะ้าปลีกตัวให้ห่างจากนาง?
ในตอนนี้นางไม่ได้มีความคิดอย่างอื่นเลย เพียงแค่อยากเข้าใกล้หลงอวี้มากขึ้นกว่านี้อีกสักนิด อีกสักนิด และอีกสักนิดก็เท่านั้น...
ภายในกระท่อมไม้ไผ่
หลงอวี้มองดูเสี่ยวหลงเปาจานโตและขวดเล็กๆ ตรงหน้านั่น เขายื่นมือออกไปถือขวดไว้ในมือ เปิดฝาออก พริบตานั้นก็ได้กลิ่นหอมกรุ่นของสมุนไพรอันเข้มข้นลอยมา
“เป็โอสถระดับิญญา!”
หลงอวี้เปลี่ยนสีหน้าไปทันที
แต่เดิมเขาก็คาดเดาไว้แล้วว่าสิ่งที่อยู่ในขวดนี้คือโอสถ แต่ไม่คิดเลยว่ามันจะเป็โอสถระดับิญญา!
ผู้เฒ่าขาวเป็นักหลอมโอสถ มูลค่าของโอสถระดับิญญาหนึ่งเม็ดเทียบเท่าได้กับยุทธภัณฑ์ระดับิญญาหนึ่งชิ้นเลยทีเดียว ทั่วทั้งลัทธิสยบฟ้าเกรงว่าก็คงมีไม่มากเท่าไรนัก
“เป็โอสถระดับิญญาขั้นสูง”
หลงอวี้เทโอสถในขวดใส่ในมือ ัักับไอิญญาอันเข้มข้นที่แผ่ซ่านออกมา บนใบหน้าเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกลังเล
โอสถระดับิญญาขั้นสูง มูลค่าของมันไม่ต้องบอกก็พอเดาได้ มันถึงกลับสามารถใช้แลกกับยุทธภัณฑ์ขั้นสูงอันทรงพลังเช่นเสื้อขนนกประกายขาวได้หนึ่งชิ้นเลยทีเดียว
ความสามารถในการยกระดับพลังของมันเองก็ย่อมต้องสูงสุดขีดแน่นอนอยู่แล้ว
เพียงแต่ว่า โอสถที่ล้ำค่าขนาดนี้ เป็ของที่ผู้เฒ่าขาวมอบให้เขาจริงๆ หรือ?
หรือว่าจะเป็ของที่เ้าเลี่ยวเล่อเล่อร้องขอมาจากผู้เฒ่าขาว?
หลงอวี้ไม่อาจรู้ได้เลย!
เขาถือโอสถระดับิญญาเม็ดนี้ไว้ในมือ แม้มันจะไม่มีน้ำหนักอะไร แต่ความหมายที่แฝงอยู่ในนั้นมันกลับหนักอึ้งเหลือเกิน
