บทที่ 22
“ก็ลุงนั่นแหละ ที่นี่มีคนอื่นอีกหรอ”ร่างเล็กหันหน้าไปมามองไปรอบๆกายเพราะคิดว่าอาจจะมีอีกคนแต่เพลิงก็ต้องยกมือขึ้นมากุมขมับกับเด็กที่กำลังทำตัวลุกลี้ลุกลน
“ที่นี่มีแค่ผม แล้วผมก็ไม่ได้แก่ขนาดนั้นด้วย”ถึงแม้ว่าเพลิงจะพูดออกมาแบบนั้น เดือนอ้ายก็ยังคิดในใจอยู่ดีว่าจะไม่ให้เรียกลุงได้ยังไง หนวดเฟิ้มขนาดนี้ ถึงแม้ว่าหน้าจะคล้ายพี่อาทิตย์ก็เถอะ แต่คนที่อยู่ตรงหน้าเขาดูมีอายุกว่าหลายโข
“ผมไม่เรียกลุงก็ได้ แต่ผมมีเื่ขอ”
“ขอ?”
“คือว่า..”
“อะไรล่ะ”
“ผมขออยู่ที่นี่ไปก่อนได้ไหม”เพลิงมองเดือนอ้ายที่ตอนนี้เหมือนลูกแมวโดนทิ้งยังไงก็ไม่รู้ ร่างโปร่งเองก็พอเข้าใจอยู่หรอกว่าอีกคนคงจะไปมีปัญหาอะไรมา แต่การมาอยู่ในป่าแบบนี้ไม่ใช่ใครจะอยู่ได้เสมอไป นอกเสียจากต้องปรับตัวให้ได้
“ทำไมถึงต้องที่นี่”ร่างเล็กยืนอ้ำอึ้งอยู่แบบนั้น ไม่ได้ตอบคำถามออกไปโต้งๆเพียงเพราะว่าเขากำลังคิดหาวิธีวางแผนว่าควรจะทำอย่างไรต่อจากนี้
“ผมไม่มีที่ให้ไปแล้ว ถ้าแผลผมหาย ผมจะออกไปแน่ๆ แต่ตอนนี้ผมอยากให้คุณช่วยได้ไหม”ร่างเล็กสบตากับคนตรงหน้าอย่างไม่ลดละ เพลิงได้แต่ถอนหายใจออกมาก่อนจะตอบรับ “คุณจะอยู่ที่นี่ก็ได้ แต่ผมไม่ได้อยู่ดูแลคุณไปตลอดหรอกนะ”
“จริงหรอ! ถ้าเื่นั้นไม่ต้องห่วงเลย ผมทำเองได้ แล้วผมก็จะช่วยทำงานบ้านตอบแทนด้วย”
“ตามใจ”ว่าจบเพลิงก็เดินเอาผ้าที่ซักไปตาก ร่างเล็กที่ได้ที่อยู่ใหม่ชั่วคราวก็ตัดสินใจแล้วว่าต้องวางแผนบางอย่าง เขามั่นใจว่าอีกคนเป็คนใจดี ไม่งั้นก็คงไม่เก็บเขามาจากป่าแน่ ถึงแม้ว่าอีกคนจะดูแปลกไปหน่อยก็เถอะที่มีบ้านอยู่กลางป่าแบบนี้
“ผมลืมถามเลยว่าคุณชื่ออะไร!”เสียงเล็กะโขึ้นพร้อมกับชะโงกหน้ามองอีกคนที่ยืนตากผ้าอยู่หน้าบ้าน พอถามไปแบบนั้นร่างสูงก็หันกลับมาพูดว่า “คุณไม่จำเป็ต้องรู้หรอก”
ว่าจบร่างสูงก็เดินหลีกหายไปอีกทางทันทีทำเอาร่างเล็กงงเป็ไก่ตาแตก ทำไมคนคนนี้นิสัยเหมือนใครนะ มันราวกับเื่เดจาวูยังไงก็ไม่รู้ เดือนอ้ายหันกลับบ่นพึมพำกับตัวเองก่อนจะก้มมองแขนตัวเองที่ตอนนี้ใบสมุนไพรบดเต็มแขนสองข้างเลย ดูเหมือนว่าอีกคนจะมีความรู้เื่นี้พอสมควรสินะ เพราะอาการแสบของแผลก็เบาลง
หลังจากที่เขาก็ได้สาธยายไปจนหมดเปลือกว่าโดนคนทำร้ายจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่ไม่ได้เล่าเื่ของพี่อาทิตย์ไปเท่านั้น ดูเหมือนว่าอีกคนจะเข้าใจเขาหมดทุกอย่าง เขาได้ขออนุญาตที่จะอยู่ที่นี่ไปสักพักจนกว่าแผลจะหายดีจึงจะหาทางออกจากที่นี่ เพลิงเองไม่ใช่คนที่ใจร้ายอะไรก็ไม่ได้ปฏิเสธเดือนอ้ายไป และให้ความร่วมมืออย่างดี
เดือนอ้ายมานั่งเรียบเรียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อ ถ้าเกิดแผลเขาหายดีเมื่อไหร่ เขาต้องหาทางไปหานาวินกับเควิน และก็จะต้องกลับมาตอบแทนบุญคุณที่ลุงช่วยเขาไว้แน่ ส่วนพี่อาทิตย์..เขาไม่รู้ว่าอีกคนตอนนี้จะเป็ยังไง ลมหายใจผ่อนออกมาด้วยความเศร้า ป่านนี้พี่อาทิตย์จะรู้ไหมว่าเขาหายไป..
ร่างเล็กที่นั่งเหม่อลอยอยู่ไม่รู้ตัวเลยว่าเพลิงเดินมาจากด้านหลังก่อนยื่นบางอย่างที่ถูกห่อด้วยใบตองส่งมาให้ นิ้วเรียวสะกิดเข้าที่หลังแต่เหมือนว่าเดือนอ้ายจะไม่รับรู้เลย เพลิงจึงถือวิสาสะดีดเข้าที่หน้าผากของเดือนอ้ายเบาๆ จนร่างเล็กรู้สึกตัวก็ร้องโอดครวญออกมาทันที
“จะเหม่อไปถึงไหน”
“คุณดีดแรงเกินไปแล้วนะ!”มือเล็กยกขึ้นกุมเข้าที่หน้าผากก่อนจะส่งสายตาคาดโทษให้อีกคน
“อย่าเว่อร์น่า กินเข้าไปสิ”เขามองห่อใบตองที่มีควันออกมาเล็กน้อย ความหิวมันเรียกร้องให้เปิดออกจนเขาตัดสินใจแกะห่อใบตองนั้นออกมาก็พบว่ามันคือไข่ป่าม ไม่น่าเชื่อว่าจะได้เห็นมันอีกครั้งเลยจริงๆ
“กินได้จริงๆนะ?”เพื่อความแน่ใจ ขอเขาถามเพื่อย้ำก่อนดีกว่า
“ถ้าตายเดี๋ยวจะเผาให้แล้วกัน”พูดจบอีกคนก็ลุกออกไปข้างนอกอีกครั้ง จนร่างเล็กที่ได้ยินกำลังจะตอกอีกคนกลับก็ได้แต่อ้าปากพะงาบๆ
“ปากเสียจริงๆเลยนะ”เขาแค่ถามดีๆเอง ตาลุงคนนี้ชอบพูดเื่เขาตายอยู่ได้ คอยดูเถอะ ถ้าเกิดเขาเป็ผีขึ้นมานะ เขาจะมาหลอกตาลุงนี้คนแรกไปเลย
เดือนอ้ายนั่งกินไข่ป่ามอย่างเอร็ดอร่อยเพราะเขาเองก็ไม่ได้กินอะไรเลยั้แ่โดนจับมา ่เวลานี้คงเป็เวลาพลบค่ำแล้ว กลางป่าปลางเขาแบบนี้ เขาไม่กล้าเดินออกไปตอนกลางคืนแน่ ถึงแม้ว่าจะเคยอาศัยอยู่ที่ไร่ศิวาลัยก็เถอะ แต่นี่มันไม่มีไฟฟ้าให้ใช้เลยสักดวง ส่วนเครื่องส่งสัญญาณก็ไม่ได้อยู่ในกระเป๋ากางเกงเขาแล้ว มันคงตกไประหว่างที่เขามาที่นี่
ร่างเล็กเหลือบสายตาไปทั่วบ้าน นึกในใจว่าถ้าเกิดอยู่แบบนี้คนเดียวมีหวังเฉาตายแน่ ไม่มีไฟฟ้าให้ใช้ ไม่มีพัดลม ไม่มีทีวี ในบ้านนี้มีแค่ฟูกผืนหนึ่งในห้องสี่เหลี่ยมจัตุรัส หน้าต่างสองบ้านแนบข้าง มีโต๊ะเขียนหนังสือเล็กๆพร้อมกับปากกาแค่นั้น ส่วนด้านนอกก็เป็เหมือนชั้นวางสี่ชั้นสำหรับใส่พวกสมุนไพรที่เขาเห็นอีกคนไปเก็บมา
ดูแล้วอีกคนก็น่าจะชินทางที่นี่พอสมควร บางทีอาจจะรู้ทางออกก็ได้ว่าจะต้องออกไปจากที่นี่ยังไง สงสัยเขาต้องหาวิธีที่จะถามอีกคนให้ได้ว่าควรไปทางไหน แต่ว่าตอนนี้เขายังไม่เห็นเ้าของบ้านจะกลับเข้าบ้านสักที มีแต่เขาเท่านั้นที่กำลังมึนงงกับการจุดไฟ บรรยากาศ่กลางคืนในป่านั้นเย็นมาก ไม่จำเป็ต้องมีพัดลมเลยด้วยซ้ำ
ร่างเล็กเดินวนหาสิ่งที่จะจุดไฟได้ภายในห้องไม่เจอจึงเดินออกมานอกห้อง ข้างนอกนั้นมืดสนิทจนน่ากลัว ไม่มีแม้แต่เสียงแมลง หรือเสียงของสัตว์ป่า เขารีบคลำมือหาไฟแช็กให้เจอแต่ด้วยความกลัวจึงเผลอไปทำอะไรตกเข้า ร่างเล็กสะดุ้งตัวด้วยความใก่อนรีบก้มเก็บสิ่งนั้นขึ้นมา
เขามองไปที่กำไลสีทองในมือด้วยความสงสัย ราวกับว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อน แต่พอนึกขึ้นได้ว่าไม่ควรแตะของบ้านนี้สุ่มสี่สุ่มห้าก็รีบเก็บเข้าที่เดิมทันที ก่อนจะคลำหาไฟแช็กเจอ จังหวะที่กำลังจะหมุนตัวก็ดันไปเห็นแสงบางอย่างที่ลอยเคลื่อนที่เข้ามาใกล้เรื่อยจากในป่า แสงสีส้มอมแดงจะดับก็ไม่ดับ ยังคงกะพริบอยู่แบบนั้น หรือว่ามันจะเป็...กระสือ!!
ไวกว่าความคิดของสมองนั่นก็คือฝีเท้าของเดือนอ้าย ร่างเล็กรีบพุ่งตัวเข้าไปในบ้านทันทีเพราะว่าสิ่งที่เห็นทำเอาขนลุกไปหมด เท้าเล็กก้าวะโนอนลงบนฟูกพร้อมกับเอาผ้าห่มคลุมตัวเองเอาไว้ จากนั้นเสียงบางอย่างก็ใกล้มากขึ้น “ชิบหาย..ลืมล็อคประตู”
เสียงหัวใจเดือนอ้ายเต้นสั่นระรัว ขอร้องเถอะ กระสือจะมากินตับอ้ายตอนนี้ไม่ได้ อ้ายยังไม่พร้อมจริงๆ...เมื่อเสียงประตูดังขึ้นร่างเล็กที่อยู่ในร่มผ้าก็หลับตาปี๋ก่อนที่จะถูกกระชากผ้าห่มออกจากตัว “เป็อะไร?”
“ผี!!!!....อื้อ!!”เดือนอ้ายร้องะโเสียงดังจนเพลิงต้องรีบไปปิดปากเอาไว้ทันที “ผีอะไรเล่า นี่ผมเอง!”
“คะ..คุณเองหรอ ผมใหมดเลย”เขาถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ
“คุณไม่ควรส่งเสียงดังในตอนกลางคืนนะ”
“ทำไมล่ะ?”
“ไหนว่าหนีคนมาไม่ใช่รึไง ข้างนอกมีคนอื่นที่ไม่ใช่เรา”หลังจากที่เพลิงพูดจบก็มีเสียงมาเคาะประตูจากด้านนอก เดือนอ้ายที่เห็นแบบนั้นก็ใจนเกิดอาการสั่น ร่างโปร่งพอเห็นอาการอีกคนไม่สู้ดีจึงส่งสัญญาณให้ไปหลบมุมเอาไว้ เดือนอ้ายรีบคลานไปหลบทันทีก่อนที่เพลิงจะเดินไปเปิดประตู
“มีอะไรครับ?”
“สวัสดีครับ ผมมีเื่อยากจะสอบถาม”เพลิงมองคนตรงหน้าที่เหงื่อแตกเป็เขื่อนด้วยสายตาพินิจ อีกฝ่ายสวมชุดที่ไม่เหมาะกับมาเดินในป่าเลยสักนิด
“ถามอะไร”
“คือผมเห็นคุณเดินอยู่ในป่าเลยตามมา ไม่ทราบพอจะเห็นคนนี้บ้างไหมครับ”แผ่นรูปถูกส่งให้เพลิงรับเอาไว้ ซึ่งคนในภาพจะเป็ใครไปได้นอกจากคนที่กำลังนั่งหลบอยู่มุมห้องตอนนี้
“ไม่เห็นครับ ที่นี่ไม่น่ามีคนเข้ามาได้ง่ายๆ”
“อ่า ขอบคุณครับ แต่ถ้าคุณเห็น! ช่วยติดต่อมาทีนะครับ! เขาคือคนสำคัญ”โจรีบโค้งคำนับก่อนจะวิ่งออกไปหาที่อื่นต่อ เพลิงจึงปิดประตูหลังจากที่เห็นอีกคนไปไกลแล้ว
ก่อนจะก้าวเท้ามาหาเดือนอ้ายที่กำลังก้มหน้าก้มตาร้องไห้อยู่ ร่างโปร่งไม่รู้เลยว่าจะต้องปลอบอีกคนยังไงในตอนนี้ นอกจากนั่งลงพร้อมกับลูบไหล่อีกคนช้าๆ เดือนอ้ายรู้ว่าคนที่คุยกับลุงเมื่อกี้คือใคร เขาจำเสียงนั้นได้ดีแต่ว่า ความสับสนมันตีขึ้นในหัว โจมาตามหาเขางั้นหรอแล้วพี่อาทิตย์ล่ะ อีกคนได้มาด้วยรึเปล่า?
“พวกนั้นหรอที่ทำร้าย”
“มะ..ไม่ใช่ครับ”
“แล้วเขาเป็ใคร?”เพลิงถามด้วยความสงสัย ถ้าหากว่านั่นไม่ใช่คนที่ทำร้ายแล้วทำไมเด็กนี่ถึงร้องไห้ล่ะ
“เขาคือ..ครอบครัวของผม”
“ครอบครัว? แล้วทำไมถึงไม่กลับไปกับเขาล่ะ?”เพลิงไม่เข้าใจความคิดของเด็กคนนี้ในตอนนี้เลยเอ่ยน้ำเสียงเชิงตำหนิ
“เพราะผมไม่รู้ว่าผมยังจำเป็สำหรับพวกเขาอยู่ไหม..”
คำตอบของเดือนอ้ายทำให้เพลิงเข้าใจทันทีว่าในตอนนี้อีกคนคงกำลังรู้สึกน้อยใจ ในใจก็คงอยากกลับไป แต่อีกใจหนึ่งคงสับสนที่รอให้พวกนั้นมาช่วยอยู่ค่อนวันแต่ก็ไม่มีวี่แวว ในป่านี้ทางที่จะหาบ้านของเพลิงเจอเป็ไปได้ยาก นอกจากจะเดินตามเ้าของบ้านมาเท่านั้น
เพลิงคิดไว้แล้วว่าระหว่างทางมีคนเดินตามมาตลอด และนั่นก็เป็เื่ที่เพลิงตั้งใจ เพราะไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เด็กคนนี้ก็ต้องออกไปอยู่ข้างนอกอยู่ดี ในป่าไม่ใช่ที่ของเด็กคนนี้ั้แ่แรกอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าเพลิงจะให้ความช่วยเหลือ นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าจะยอมทุกอย่าง
ซึ่งเพลิงเองก็มั่นใจว่าคนที่เคาะบ้านไปเมื่อครู่ก็คงไปไม่ไกลจากตรงนี้หรอก อาจจะซ่อนอยู่สักมุมหนึ่งเพื่อหาทางเอาเด็กนี่กลับบ้าน สายตาระหว่างคุยกันนั้นดูออกว่าอีกคนมองไปทางอื่น ไม่ได้มองมาที่หน้าของเพลิงเลย
หลังจากที่โจเดินผ่านบ้านไผ่หลังเล็กก็หามุมมาหลบซ่อนก่อนจะส่งสัญญาณหาทุกคนมาให้มารวมตัวกันที่นี่ อาทิตย์ที่อยู่ไม่ไกลจากตรงนี้ก็รีบมาทันที โจรีบกวักมือเรียกพี่ชายให้มานั่งหลบอยู่ตรงพุ่มไม้ ร่างสูงรีบไปถึงก่อนจะเอ่ยถาม
“อ้ายอยู่ไหน?”
“ชู่วๆ พี่ต้องพูดเบาๆนะ”โจบอกพร้อมกับทำท่าปากจู๋ใส่อีกคน “ผมคิดว่าอ้ายอยู่ที่นี่”
“แล้วทำไมถึงไม่เข้าไป?”โจที่เห็นสีหน้าของอาทิตย์ที่กำลังหงุดหงิดตัวเองก็ได้แต่เบ้ปาก
“ผมเข้าไปแล้ว แต่ว่าเ้าบ้านเขาโกหกผม”
“โกหก?”
“ก็ผมถามว่าเห็นคนในรูปไหม หมอนั้นก็ตอบว่าไม่มี แต่ผมเห็นว่ามีบางอย่างผิดแปลกตรงมุมบ้าน แต่มันเป็จุดอับสายตา”
“แน่ใจนะโจ?”
“ผมมั่นใจจริงๆนะ ผมได้ยินเสียงคุณเดือนอ้ายจริงๆก่อนที่ผมจะไปเคาะเรียก”สายตาคมจ้องไปที่บ้านไม้ไผ่อย่างไม่วางตา อาทิตย์พยายามคิดว่าควรทำยังไงถึงจะเอาตัวภรรยาตัวเองออกมาได้
“คืนนี้เราบุก”
“ไม่ได้เด็ดขาด ถ้าเกิดแผนล่ม เราเละแน่พี่”
“แล้วจะให้กูทำอะไรวะ เดือนอ้ายอยู่ในนั้นนะเว้ย”
“ผมรู้ๆ แต่พี่ต้องใจเย็น ถ้าเกิดเ้าของบ้านไม่ยอมล่ะ มันอาจจะมีแผนที่ดีกว่านี้”
อาทิตย์กับโจวางแผนว่าจะนอนเฝ้ายามอยู่ตรงนี้จนกว่าจะพรุ่งนี้เช้า ถ้าเกิดว่าเ้าของบ้านออกจากบ้านไป พวกเขาก็เตรียมตัวที่จะเข้าไปด้านในทันที ระหว่างนั้น่เวลากลางคืนอาทิตย์ไม่ได้นอนเลยเพราะความกังวล ส่วนโจก็หลับเป็ตาย ร่างสูงได้ส่งสัญญาณเตรียมรถกับอุปกรณ์พยาบาลให้พร้อมเพราะเมื่อได้ตัวเดือนอ้าย อาทิตย์จะพาไปที่อื่นทันที
หลังจากนั้นธิวาลัยจะได้ถึงเวลาที่ต้องรับผลกรรมสักที และเหตุผลที่โจเดินมาถูกเพราะเจอที่ส่งสัญญาณที่อาทิตย์เคยให้กับเดือนอ้ายไว้ตกอยู่บนพื้น และทันทีที่เจอโจก็รีบแจ้งอาทิตย์โดยเร็วแต่นั่นทำให้อาทิตย์เริ่มวิตกเข้าไปอีกว่าอีกคนจะเป็อะไรไหม
เวลาล่วงเลยจนมาถึง่เช้า เป็เวลาตีห้ากว่า อาทิตย์ได้ยินเสียงเปิดประตูจากบ้านตรงหน้าก่อนจะเห็นคนนั้นได้เดินหายเข้าในป่า เมื่อได้จังหวะร่างสูงก็รีบลุกขึ้นยืนแล้วค่อยๆอ้อมไปทางหน้าต่างเพื่อปีนเข้าตัวบ้าน เมื่อเข้ามาด้านในก็ทำให้อาทิตย์ต้องขาอ่อนแรง
เดือนอ้ายอยู่ที่นี่จริงๆและกำลังหลับอยู่ สายตาคมไล่มองไปตามาแที่แขนสองข้างถูกพันไว้ ความโกรธของอาทิตย์ทวีคูณจนหน้าขึ้นเื ร่างสูงคุกเข่าลงข้างกายคนรัก ได้แต่หวังว่าอีกคนจะตื่นมา แต่แล้วร่างเล็กก็ขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง เหมือนมีคนกำลังจ้องมองตัวเอง
ร่างเล็กเปิดเปลือกตาขึ้นก่อนจะมองเห็นร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างกาย เดือนอ้ายใจนต้องลุกขึ้นนั่งถอยตัวไปด้านหลังเพราะคิดว่าอีกคนอาจจะเป็ผีมาหลอก แต่พอเห็นอีกคนมองมาที่เขาด้วยสายตาโหยหาแบบนั้นจึงเปลี่ยนความคิดใหม่
“พะ..พี่อา-“
อ้อมกอดแสนอบอุ่นถูกมอบให้กับร่างเล็กแต่ว่าเดือนอ้ายพยายามดันตัวเองจากอีกคน “ปล่อย..ฮึก ปล่อยอ้าย”เขากลั้นน้ำตาตัวเองเอาไว้ไม่อยู่แล้ว ความน้อยใจที่อีกคนมาช้ามันเพิ่มพูนขึ้นมาเรื่อยๆ
“อ้าย..พี่ขอโทษ…พี่ขอโทษจริงๆ”แขนแกร่งพยายามโอบกอดอีกคนเอาไว้แน่นโดยที่กำปั้นเล็กก็เอาแต่ทุบที่ลำตัวอีกคนไม่เว้น
“ฮึก..ทำไมพี่เพิ่งมา รู้ไหมว่าอ้ายกลัวแค่ไหน..”เสียงร้องไห้ออกมาไม่ขาดสาย อาทิตย์รับรู้ว่าตัวเองผิดแค่ไหน ได้แค่ก้มหน้าขอโทษอีกคนที่ทำให้เจอเื่แบบนี้
“พี่ขอโทษที่มาช้า..พี่ผิดไปแล้ว”เสียงทุ้มขาดหายเป็่ๆเพราะว่าอาทิตย์เองก็อดกลั้นไว้ไม่ได้ ตัวเขาเองรู้สึกเป็ห่วงอีกคนมาก ตามหาทั้งวันทั้งคืนแต่ก็ไม่เจออีกคน เขารู้ว่าคนรอมันทรมานขนาดไหน
เดือนอ้ายรู้สึกชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าอาทิตย์เองก็ร้องไห้ออกมาเหมือนกัน ก่อนจะคลายกำปั้นออกแล้วดึงอีกคนเข้ามากอดให้แน่นที่สุด ทั้งสองคนกอดกันกลมจนไม่ได้สังเกตว่าเพลิงนั้นกำลังยืนอยู่ด้านหลัง จากตอนแรกที่เข้าไปฉี่พอกลับมาดันมาเจอฉากรักได้ไงกัน
ถึงเป็แบบนั้นร่างโปร่งก็เลือกที่จะเดินออกมาก่อนเพื่อให้ทั้งคู่ได้ปรับความเข้าใจกัน เพลิงจึงเดินออกมากลับเข้าป่าไปดังเดิม ส่วนโจก็ยังคงนอนอยู่กับพื้น ตุ่มแดงขึ้นตามตัวเพราะยุงกัดโดยไม่รู้สึกตัว ได้แต่นอนเกาหน้าไปทั้งแบบนั้น เดือนอ้ายกอดอีกคนพร้อมกับกัดไปที่หน้าอกอีกคนก่อนจะผละออก
“พี่น่ะ..เป็สามีประสาอะไรเนี่ยทิ้งให้ภรรยารอ!”เดือนอ้ายพูดออกมาทั้งน้ำตาก่อนที่นิ้วเรียวจะปาดน้ำตาบนแก้มขาวอีกคน
“พี่ไม่ได้เื่จริงๆ ต่อไปนี้จะไม่มีอีกแล้ว”อาทิตย์สาบานกับตนเองว่าจะไม่ให้เกิดเื่แบบนี้อีก เพราะหลังจากนี้ธิวาลัยจะไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดอีกแล้ว
“อย่ามาช้าแบบนี้ได้ไหม…”
“มันจะไม่เป็แบบนี้อีก พี่จะไม่ยอมให้ใครมาเอาตัวเราได้อีกแล้ว” ฝ่ามือหนาจับสองมือเล็กมากุมเอาไว้แน่น “ใครที่มันทำให้อ้ายเืก่อน มันต้องโดนแบบนั้นคืนอีกสิบเท่า”