ในตอนนั้นเองสมองของูเี่อันเริ่มมีความคิดร้อยแปดผุดขึ้นมาไม่หยุดความสับสนเข้าครอบงำสมองขาวโพลนของเธอ เธอไม่เข้าใจและไม่อยากเชื่อความรู้สึกของเธอปนเปกันไปหมด
เธอไม่เคยนึกเลยว่าลู่เป๋าเหยียนจะเป็คนแบบนี้
ต่อให้เขาคิดจะเลี้ยงอีหนูไว้ข้างนอกก็ไม่ควรจะเป็คนใกล้ตัวขนาดนี้ เป็ชู้กับเลขามันจะเชยไปหน่อยมั้ง!
แต่ถ้าเขาอยากจะเล่นคนใกล้ตัวงั้นคนที่อยู่ใกล้เขามากที่สุดก็คือเธอไม่ใช่เหรอห้องของพวกเราอยู่ห่างกันแค่ไม่ถึงสิบเมตรเองนะ!
...
เมื่อความโกรธเคืองเริ่มจางหายูเี่อันก็รู้สึกยินดีขึ้นมา
แค่เพราะไอศกรีมไม่กี่ถ้วยก็ทำให้เธอตัดสินใจเอาชนะใจลู่เป๋าเหยียน ดีนะที่ยังไม่ทันเริ่มพยายามอะไรเธอก็หูตาสว่างเสียก่อน ในตอนนี้เขาทำให้เธอรู้แล้วว่าเขาเป็ผู้ชายกลับกลอกไว้ใจไม่ได้มากแค่ไหน!
เพื่อขจัดความอึดอัดเธอควรจะรีบลุกขึ้นแล้วเดินจากไปใช่หรือเปล่า?
เธอแอบมาที่นี่เงียบๆเพื่ออยากจะเซอร์ไพรส์เขา แต่นึกไม่ถึงเลยว่าคนที่ถูกเซอร์ไพรส์จะกลายเป็เธอเสียเอง
แต่จะว่าไปแล้ว...ทำไมเธอไม่ถือโอกาสนี้แก้แค้นก่อนกลับล่ะ?
คิดแล้วูเี่อันก็แย้มยิ้มหวาน
เธอเอนตัวซบอกแกร่งของเขาอย่างออดอ้อนราวลูกแมวน้อยนิ้วเรียวสวยของเธอกุมมือเขาไว้อย่างใกล้ชิด
“ผอ.คะหลับตาลงสักครู่สิคะ ฉันมีอะไรอยากจะเซอร์ไพรส์คุณน่ะค่ะ”
ลู่เป๋าเหยียนหัวเราะเสียงเบาก่อนจะก้มหน้าลงมาเล็กน้อย ลมหายใจอุ่นรดลงบนหลังใบหูของเธอ
“ฉันหลับตาแล้วเธอจะเซอร์ไพรส์อะไรฉัน หืม?”
เธอรู้สึกจั๊กจี้เล็กน้อยหัวใจเริ่มเต้นไม่เป็จังหวะ
ูเี่อันสูดหายใจลึกก่อนจนพูดพลางยิ้ม
“ห้ามแอบดูนะคะ”
เธอค่อยๆ หันตัวกลับไปเขาหลับตาลงแล้วอย่างที่ว่า เธอพบว่าขนตาของเขาเป็แพหนายิ่งกว่าของเธอเสียอีกเพราะระยะห่างที่อยู่ใกล้กันแค่คืบ ทำให้เธอสำรวจใบหน้าอันไร้ที่ติของเขาได้อย่างชัดเจน
หล่อเกินคนจริงๆ เลยตาบ้านี่!
นิ้วเรียวของเธอแตะริมฝีปากของเขาอย่างแกล้งๆเธอค่อยๆ ลูบไล้มันอย่างช้าๆ และเย้ายวนราวกับ้าให้ริมฝีปากของเขาเป็เชื้อเพลิงแห่งอารมณ์ที่พร้อมแผดเผาเขาให้เป็จุณ
เธอกดนิ้วมือลงบนริมฝีปากเขาอย่างแ่เบาก่อนจะนั่งตัวตรง และใช้สองมือประคองท้ายทอยของเขาอย่างใกล้ชิดและประทับจุมพิตลงไปบนริมฝีปากของเขา
ลู่เป๋าเหยียนตะลึงไปอย่างเห็นได้ชัดเขานิ่งตัวเกร็งไปชั่วขณะ
ูเี่อันไม่สนว่าทำไมเขาถึงมีปฏิกิริยาแบบนี้เธอริมฝีปากเขา มือน้อยค่อยๆ สอดเข้าไปใต้เสื้อสูทก่อนจะััอกแกร่งของเขาอย่างแ่เบาลมหายใจของคนทั้งสองเริ่มไม่เป็จังหวะ
ลู่เป๋าเหยียนยกมุมปากยิ้มบางดูท่าเขาจะเพลิดเพลินกับการเซอร์ไพรส์ของ ‘เดซี่’ คนนี้ไม่น้อย
ูเี่อันลืมนึกถึงความเป็ไปได้อย่างหนึ่ง...หรือว่า...เดซี่มักจะปรนนิบัติเขาแบบนี้กันนะ?
เธอขบกัดริมฝีปากเขาไปหนึ่งทีเพื่อแก้แค้นจากนั้นจึงใช้ลิ้นเลียััริมฝีปากเขาราวกับ้าประทับตราของตนลงบนบนนั้น
เธอแอบเห็นขนตาของเขาที่เริ่มขยับจึงรีบใช้มือกุมปิดตาเขาไว้ และพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานปนขบขัน
“บอกแล้วใช่ไหมคะว่าอย่าลืมตา”
ลู่เป๋าเหยียนยิ้ม“ก็ได้ ว่าแต่ ต่อไปเธอคิดจะทำอะไร”
ูเี่อันนิ่งไปการจูบที่เธอรู้จักก็มีเพียงเท่านี้ แล้วต่อไป...ต่อไปต้องจูบยังไง? คงไม่สามารถจูบเขาแบบอ่อนอัดอย่างนี้ไปตลอดหรอกใช่ไหม?
เธอตอบกลับอย่างมีไหวพริบ
“ผอ.ว่าพวกเราควรจะทำอะไรกันต่อดีล่ะคะ ไม่ว่าจะทำอะไรฉันก็ยอมทั้งนั้น...”
ลู่เป๋าเหยียนแย้มยิ้มอ่อนโยนน่ามอง“ฉันว่าพวกเราควรไปที่ห้องรับรอง”
คำบอกใบ้ดังกล่าวช่างชัดเจนูเี่อันรู้สึกเหมือนสมองเริ่มขาวโพลนอีกครั้ง
ในตอนนั้นเองลู่เป๋าเหยียนก็สอดมือเขามาโอบรอบเอวเธอ และใช้อีกมือประคองศีรษะด้านหลังเขากอดรัดเธอให้แน่นขึ้น และบังคับให้เธอเปิดริมฝีปากเพื่อรุกล้ำเข้าไปภายใน
การจู่โจมที่ไม่ปล่อยให้เธอได้ตั้งรับราวกับจะหลอมเธอให้ละลายอยู่แทบอกเขา
“อื้อ...”
ูเี่อันอึ้งไปเธอเบิกตากว้างมองลู่เป๋าเหยียน ในสมองเริ่มร้องประท้วงตัวเอง...
ที่เธอวางแผนไว้คือตั้งใจจะแกล้งเขา! ทำให้เขาเซอร์ไพรส์!
แล้วทำไมตอนจบเธอกลับตกอยู่ในเงื้อมมือของเขาแทนซะได้? แต่ที่แย่ที่สุดคือคือการที่เขานึกว่าเธอเป็เดซี่!
ลู่เป๋าเหยียนจูบเธออย่างเร่าร้อนลมหายใจเริ่มหนักและถี่ขึ้น สติสัมปชัญญะของเธอเริ่มเลือนราง่เวลาแบบนี้เธออยากจะหลับตาลงเพื่อรับััของเขาโดยไม่คิดอะไรอีกต่อไปแต่เมื่อเห็นสีหน้าของลู่เป๋าเหยียนในตอนนี้...เขาดูเหมือนกำลังลุ่มหลงอยู่ห้วงัั
การจูบกับเดซี่มันทำให้เขาหลงใหลได้ขนาดนี้เลยอย่างนั้นเหรอ?
ดูท่าพวกเขาคงมีสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยิ่งกว่าที่เธอคิดไว้หรือเปล่า?
ไม่รูู้เี่อันไปเอาแรงมาจากไหนจู่ๆ เธอก็ผลักลู่เป๋าเหยียนออก และแย้มยิ้มหวานออกมา
“ท่านผอ.คุณจำคนผิดแล้วล่ะค่ะ เดซี่ยังคงไว้ผมลอน ส่วนฉันคือภรรยาของคุณ”
เธอคาดหวังที่จะได้เห็นสีหน้าตื่นใจนลืมมาดของลู่เป๋าเหยียน
แต่แล้วทำไมเขากลับไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลยสักนิด?
มือของเขายังคงโอบเอวเธอมุมปากยังคงมีรอยยิ้มบาง และจ้องมองเธออย่างไม่ละสายตา
เอ๋? ทำเื่ผิดต่อเธอแท้ๆทำไมเขายังดูนิ่งขนาดนี้?
ูเี่อันโบกมือไปมาข้างหน้าเขา
“คุณสามีคะนี่ใจนพูดไม่ออกเลยเหรอ”
ลู่เป๋าเหยียนมองหน้าเธอพลางแย้มยิ้มกว้างกว่าเดิม
ูเี่อันเข้าใจทันทีว่าลู่เป๋าเหยียนไม่ได้ใ ไม่ได้เซอร์ไพรส์แม้แต่น้อย เธอหลอกเขาไม่สำเร็จ
น่าเบื่อจริงๆ...
เธอลุกขึ้นจากตักของเขาและตั้งท่าจะเดินออกไป
“หยุดก่อน!”ลู่เป๋าเหยียนออกคำสั่ง
ฝีเท้าของูเี่อันหยุดชะงัก
แต่มีเหรอที่เธอจะว่าง่ายขนาดนั้น
เธอหันหน้ากลับมายิ้มเล็กน้อยและแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ลู่เป๋าเหยียนก่อนจะวิ่งมุ่งตรงไปยังประตูด้านหน้าอย่างรวดเร็ว
ลู่เป๋าเหยียนชักเริ่มหงุดหงิดเขาลุกขึ้นและเดินตามเธอไป
ตอนทีู่เี่อันจะเลี้ยวไประเบียงทางเดินเพื่อตรงไปยังประตูหน้ามือของเธอก็ถูกคนข้างหลังรั้งเอาไว้ เธอดิ้นขืนตัวให้หลุด ทว่ากลับถูกเขาดันชิดกำแพงในทันใด
เธอไม่อยากมองหน้าเขาจึงเบือนหน้าหนี
“ปล่อยฉันนะ!”
ลู่เป๋าเหยียนฟังเธอซะที่ไหนเขาจับมือเธอไว้แน่น ต่อให้เธอดิ้นเท่าไรก็ไม่หลุดไม่ช้าข้อมือขาวก็เริ่มเป็รอยแดง ลู่เป๋าเหยียนขมวดคิ้วยุ่งแล้วดึงเธอเข้าสู่อ้อมกอด ก่อนที่จะใช้วงแขนโอบรอบเอวเพื่อขังเธอเอาไว้ในอ้อมแขน
“อยู่นิ่งๆ!”ราวกับรู้ว่าเธอจะดิ้น ลู่เป๋าเหยียนพูดขึ้นก่อนที่เธอจะขยับตัวเสียอีก
ูเี่อันเริ่มโมโหเธอกัดฟันพูดออกมาอย่างโกรธๆ
“ลู่ เป๋า เหยียน!”
ลู่เป๋าเหยียนพูดเตือนเธอเสียงเนือย
“ถ้าเสียงดังกว่านี้อีกหน่อยคนข้างนอกคงได้ยินกันหมด”
แตู่เี่อันกลัวซะที่ไหนเธอยิ้มและพูดขึ้น
“นายกลัวเดซี่จะได้ยินหรือยังไงปล่อยฉันนะ ไม่งั้นฉันจะร้องเรียกเธอให้เข้ามา!”
ลู่เป๋าเหยียนมองูเี่อันพลางยิ้มกว้าง
“เธอหึงงั้นเหรอคุณนายลู่งั้นเธอคงต้องโทษตัวเองที่แสดงได้ไม่สมบทบาท”
ูเี่อันฝืนยิ้มพลางพูดแสร้งถ่อมตัว
“การแสดงของดิฉันคงเทียบไม่ได้กับคุณลู่จริงๆนั่นแหละค่ะ ถ้าวันนี้ฉันไม่มา ก็คงไม่มีวันรู้ว่านายจะเป็คนกลับกลอกทำตัวเป็สมภารกินไก่วัดแบบนี้”
ลู่เป๋าเหยียนไม่ชอบรอยยิ้มของูเี่อันแบบนี้เลยเขาหยิกแก้มเธอเพื่อทำลายรอยยิ้มเสแสร้งของเธอ แต่เธอกลับตีมือเขาให้ออกไปและถือโอกาสนี้มุดตัวหลบออกจากอ้อมกอดของเขา
เขาถอนหายใจ“ฉันรู้ว่าเป็เธอ”
ผ่านไปชั่ววินาทีสติของูเี่อันก็เริ่มกลับมา เธอมองหน้าลู่เป๋าเหยียนอย่างช็อกๆ
“อะไรนะ?”
ลู่เป๋าเหยียนชี้ไปยังกองเอกสารที่เธอเป็คนเอาไปวางที่ไว้โต๊ะ
“ั้แ่ตอนที่เธอเดินเอาเอกสารเข้ามาฉันก็รู้แล้วว่าเป็เธอ”
ูเี่อันใกับคำพูดของเขา
“นายไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาด้วยซ้ำแล้วทำไมถึงรู้ล่ะ? หรือว่านายมีตาที่สามอยู่บนหัว?”
“ต่อให้ฉันแยกเสียงฝีเท้าของเลขาตัวเองไม่ออกแต่ฉันฟังเสียงเดินของเธอออก อีกอย่าง ถ้าเป็เดซี่เธอคงไม่มีทางเดินมาด้านหลังฉันเพื่อเสิร์ฟกาแฟแบบนี้ฉันไม่มีเลขาที่ไม่รู้จักวางตัว”
ลู่เป๋าเหยียนยิ้มกว้าง“คุณนายลู่ เมื่อกี้เธอหึงฉันใช่หรือเปล่า”
หึงเขา? น่าจะใช่...
แต่เธอไม่มีวันยอมรับเด็ดขาด!
ูเี่อันผลักเขาให้ออกห่างและแกล้งทำเป็โมโห
“ลู่เป๋าเหยียนทำแบบนี้สนุกนักใช่ไหม”
ลู่เป๋าเหยียนเลิกคิ้ว“เธอเริ่มก่อนเองไม่ใช่เหรอ”
เขาดีดนิ้วลงบนหน้าผากเธอหนึ่งที“ทีหลังอย่าเล่นแบบนี้อีกล่ะ”
“...”
ูเี่อันกุมหน้าผากอย่างเ็ปเมื่อกี้เธอขู่เขาไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมสุดท้ายกลายเป็เธอซะเองที่ถูกเขาสั่งสอนล่ะ?
ลู่เป๋าเหยียนเดินกลับไปยังโต๊ะทำงานเมื่อเห็นูเี่อันยังคงยืนนิ่งอย่างหงุดหงิดอยู่ที่เดิม เขาจึงพูดขึ้น
“มานี่สิฉันเรียกเธอมาที่บริษัท ไม่ใช่เพื่อให้เธอมาจับผิดเื่นอกใจนะ”
ูเี่อันเดินไปหาเขาอย่างไม่เต็มใจนัก“งั้นนายเรียกฉันมาทำไม”
“เอกสารที่เกี่ยวกับแผนการจัดงานครบรอบบริษัทจะถูกส่งมาให้ฉันเซ็นอนุมัติ”ลู่เป๋าเหยียนอธิบาย “ตอนนี้ฉันจะให้เธอเป็คนรับผิดชอบ”
งานครบรอบสิบปีของบริษัทสำหรับลู่เป๋าเหยียนแล้วเป็งานที่ไม่ควรมีข้อผิดพลาดแม้แต่น้อย ทั้งเื่เล็กๆ อย่างอาหารและเครื่องดื่มหรือดอกไม้ประดับในงาน ยันเื่ใหญ่อย่างการหาโรงแรมหรือการตกแต่งสถานที่ต่างๆทั้งหมดนี้ห้ามมีข้อผิดพลาดเด็ดขาดบริษัทใหญ่อย่างเครือลู่คงไม่ปล่อยให้เกิดเื่น่าขายหน้าแบบนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวลู่เป๋าเหยียนเอง
ูเี่อันส่ายหน้าอย่างแรง
“เื่ใหญ่ขนาดนี้ฉันไม่มั่นใจว่าจะจัดการได้ดี”
ลู่เป๋าเหยียนเงยหน้าขึ้นจากกองเอกสาร
“บริษัทมีทีมวางแผนเื่งานครบรอบโดยเฉพาะพวกเขาเป็หัวกะทิกันทั้งนั้น สิ่งที่เธอต้องทำก็แค่ตรวจเช็ครายละเอียดที่พวกเขาส่งมาจากนั้นก็เซ็นชื่ออนุมัติ ถ้าไม่เข้าใจตรงไหนก็มาถามฉันได้”
ูเี่อันยังคงลังเลเพราะเธอเองก็ไม่มีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อน
ลู่เป๋าเหยียนชี้ไปยังกองเอกสารที่ตั้งสูงเป็ูเาตรงหน้าเขา
“คุณนายลู่ถ้ารู้สึกเห็นใจสามีของคุณบ้างล่ะก็ จะช่วยเขาแบ่งเบาภาระสักนิดได้หรือเปล่าครับ”
ูเี่อันเม้มปากพลางคิด
ที่แท้ลู่เป๋าเหยียนต้องจัดการเอกสารเยอะขนาดนี้ในแต่ละวันเลยเหรอเนี่ยไหนจะการประชุมน้อยใหญ่ การเจรจาธุรกิจต่างๆ อีก มิน่าเวลากลับบ้านมาทีไรถึงได้ดูเพลียขนาดนั้น
เธอเห็นใจเขาอยู่หรอกแต่ก็ไม่จำเป็ต้องยอมรับนี่หน่าจริงไหม
เธอเบ้ปากเล็กน้อย“แล้วทำไมฉันต้องเห็นใจนาย?”
พูดจบเธอก็หันหลังกลับเตรียมเดินออกจากห้องแต่เมื่อเดินไปได้ครึ่งทางก็พูดขึ้นว่า
“ฝ่ายวางแผนงานอยู่ตรงไหน”
สุดท้ายเสิ่นเยว่ชวนจึงเป็คนนำทางูเี่อันไปยังฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ของบริษัทและบอกกับผู้จัดการฝ่ายว่า ูเี่อันจะเป็ตัดสินใจเื่งานครบรอบบริษัททั้งหมด
ผู้จัดการไช่เป็หญิงสาวอายุสามสิบกว่าๆที่ใส่ชุดสูทสีเทาเข้มและแต่งหน้าเนี้ยบดูเป็มืออาชีพเธอพาูเี่อันเดินไปยังออฟฟิศของตัวเอง และเอ่ยคำขอโทษ
“ที่จริงพวกเราควรจัดเตรียมออฟฟิศส่วนตัวให้คุณนายลู่แต่เพราะไม่มีพื้นที่แล้วจริงๆ จึงต้องขอให้ใช้ห้องของดิฉันแทนไปก่อนนะคะ”
“ไม่เป็ไรค่ะ”ูเี่อันยิ้มตอบ “หน้าที่ฉันก็แค่ดูเอกสารไม่กี่อย่างมีโต๊ะกับเก้าอี้ให้ฉันชุดเดียวก็พอแล้วค่ะ”
ผู้จัดการไช่คิดไม่ถึงเลยว่าภรรยาของท่านผอ.ในตำนานคนนี้จะเป็กันเองขนาดนี้เธอยื่นเอกสารใหู้เี่อันหนึ่งชุด
“งั้นลองดูเอกสารชุดนี้ก่อนนะคะถ้าไม่มีปัญหาอะไรก็เซ็นชื่อได้เลยแล้วเดี๋ยวตอนบ่ายหากคุณสะดวกเราค่อยออกไปชิมอาหารที่โรงแรมกันค่ะ”
ูเี่อันพยักหน้า“ได้ค่ะ”
เธอเปิดเอกสารออกมาดูมันคือรายละเอียดของกิจกรรมที่จะถูกจัดขึ้นในงานเริ่มต้นด้วยการกล่าวเปิดงานของลู่เป๋าเหยียน ตามด้วยบรรดา CEO ระดับสูงทั้งหลายและผู้ถือหุ้นคนสำคัญรวมถึงการแสดงต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น ในนั้นเขียนไว้ว่าเธอกับลู่เป๋าเหยียนจะต้องเป็คนเปิดฟลอร์เต้นรำ
“งานครบรอบในปีก่อนๆปกติจะเป็ผอ.ลู่กับพนักงานสาวของบริษัทผู้โชคดีที่ได้รับเลือกเป็คนเต้นรำเปิดฟลอร์ค่ะมันเป็่เวลาที่พนักงานสาวในบริษัทตั้งตารอคอยกันมากที่สุด”ผู้จัดการไช่พูดหยอกเย้า “แต่ปีนี้พวกเธอคงผิดหวังไปตามๆ กัน”
ูเี่อันคิดก่อนพูดขึ้นว่า
“งั้นไม่ต้องเปลี่ยนก็ได้นะคะทำตามปกติที่เคยทำมา เลือกพนักงานหญิงมาสักคน”
ผู้จัดการไช่ยิ่งนึกไม่ถึงเข้าไปใหญ่ว่าภรรยาของท่านผอ.คนนี้จะใจกว้างขนาดนี้เธอส่ายหน้าพลางยิ้ม
“คงไม่ได้ค่ะเื่นี้ผู้ช่วยเสิ่นเป็คนกำชับลงมาเอง บอกว่าเป็ความตั้งใจของท่านผอ.”
ลู่เป๋าเหยียนตั้งใจจะทำแบบนี้?
สุดท้ายแล้วูเี่อันก็ไม่ได้เซ็นชื่อลงในเอกสารดังกล่าวเธอวางมันไว้ด้านข้าง ก่อนที่จะหยิบเอกสารชุดต่อไป
