"โหรวโหรว เ้าช่วยเล่าให้ข้าฟังอีกได้ไหม คุณหนูใหญ่ของเ้าน่ะ นิสัยเป็เช่นไร"
"นี่คุณหนูคงไม่ได้ลืมแม้กระทั่งเื่ราวของคุณหนูใหญ่ใช่ไหมเ้าคะ"
"ก็... เอาเถอะ ๆ ช่วยเล่าให้ข้าฟังหน่อยว่านางผู้นั้นนิสัยเช่นไร ความสัมพันธ์ของพวกเราสองพี่น้องด้วย"
เสี่ยวโหรวขมวดคิ้วมุ่นมองหน้าคุณหนูที่เริ่มถามแปลก ๆ อีกแล้ว
"คุณหนูใหญ่เป็คนค่อนข้างจิตใจดีเ้าค่ะ แต่นางมักจะต้องเป็ที่หนึ่งเสมอ"
เป็ที่หนึ่งเสมอ หมายความว่า นางผู้นี้ชอบชิงดีชิงเด่นสินะ รู้สึกได้กลิ่นหายนะลอยมาแต่ไกล
"แล้วนางดีกับคุณหนูเ้า เอ่อ... หมายถึง ข้าน่ะ นางดีกับข้าหรือเปล่า"
"ทำไมคุณหนูยังจำอะไรไม่ได้อีกเ้าคะ เสี่ยวโหรวอุตส่าห์เล่าทุกอย่างให้ฟังแล้ว"
ครั้งนี้คนที่จะร้องไห้ไม่ใช่คนที่ข้ามภพข้ามชาติมา แต่เป็สาวใช้ที่เริ่มหน้าเสียปากคว่ำน้ำตาคลอเพราะเล่าอะไรไปคุณหนูของนางยิ่งจำไม่ได้
"เอาน่า ๆ ข้าแค่กำลังจะฟื้นความจำ เ้าช่วยบอกข้าทีว่าพี่สาวข้าดีกับข้าหรือไม่"
เสี่ยวโหรวรีบเช็ดน้ำตาที่ปริ่มออกมาพร้อมพยักหน้าแล้วเปิดปากเล่าเื่ของคุณหนูใหญ่ให้ฟังอีกครั้ง
"แต่แรกเริ่มคุณหนูใหญ่เยว่ซูเป็ลูกภรรยาหลวงของนายท่าน อายุห่างคุณหนูอยู่เก้าปี แต่ถึงแม้คุณหนูจะเป็ลูกภรรยานอกสมรสแต่คุณหนูใหญ่ก็ดีกับท่าน ถึงจะมีบ้างที่ชอบแกล้งท่านในเวลาที่นางไม่พอใจหรืออารมณ์ไม่ดี"
"ตกลงนางดีกับข้าหรือไม่ดีกันแน่?"
คนได้ฟังเริ่มสับสน ทำเอาเสี่ยวโหรวเองก็ตอบคำถามนี้ไม่ได้เพราะบางครั้งนางก็ไม่เข้าใจการกระทำของคุณหนูใหญ่ที่ว่าเช่นกัน
"เอาเป็ว่า คุณหนูใหญ่ของเ้ากึ่งดีกึ่งร้ายแล้วกัน"
เสี่ยวโหรวเห็นด้วยจึงพยักหน้าตาม
"แล้วท่านพ่อของข้าตายแล้วจริง ๆ หรือ"
แม้จะไม่ใช่พ่อของตนเองจริง ๆ ทว่าตอนนี้เธอมาอยู่ในร่างนี้แล้วก็มีรู้สึกหดหู่เศร้าเสียใจตามเหตุการณ์ไปบ้าง
"เ้าค่ะ เสี่ยวโหรวได้ยินทหารยามพูดคุยกัน"
หมายความว่าเธอไม่เห็นกับตา หรือบางทีพ่อของแม่นางผู้นี้อาจจะยังมีชีวิตอยู่ก็ได้
"แล้วพวกเราไม่มีโอกาสที่จะรอดจากคุกนี้เลยหรือ"
ยิ่งมองบรรยากาศมืดมัวในคุกนี้แล้วนางยิ่งรู้สึกขนกายลุกชัน ไม่รู้ว่าเชื้อโรคหรือิญญาคนตายในนี้สิ่งไหนจะมีมากกว่ากัน
"ตอนนี้ท่านรองแม่ทัพกำลังหาทางช่วยพวกเราอยู่เ้าค่ะ"
รองแม่ทัพ?
เริ่มมีตัวละครใหม่โผล่มาอีกแล้ว ทำไมเราถึงได้มาโผล่ที่ยุคนี้ด้วยนะ ยุคจีนโบราณที่ออกเสียงชื่อแซ่ยากเย็นเช่นนี้
"ใครคือรองแม่ทัพ?"
"..?"
เสี่ยวโหรวคนรับใช้ที่สนิทเริ่มทำหน้าเหยเกอีกครั้ง
เหตุใดแค่สลบไปข้ามคืนคุณหนูถึงได้ดูเปลี่ยนไปเป็คนละคนเช่นนี้ หรือว่าเพราะจิตใจถูกกระทบกระเทือนเื่นายท่านมากเกินไป คงใช่แล้ว คุณหนูเยว่ซินของนางทั้งอ่อนโยนขนาดนั้นคงทนรับไม่ไหวกับสิ่งที่เกิดขึ้น
"ผู้ใดกันแกล้งทำเมินไม่รู้จักข้า"
ทว่ายังไม่ทันได้อธิบายว่า 'รองแม่ทัพ' ที่ว่าคือใคร เขาผู้นั้นก็ปรากฎกายมาให้เห็นพอดี
เสียงปลดล็อกโซ่เส้นใหญ่ที่ตรึงประตูคุกหลวงอยู่หลุดออกพร้อมประตูไม้ถูกผลักเข้ามา
ร่างกำยำสูงแปดฉื่อสวมชุดเกราะเดินเข้ามาอย่างองอาด
"ท่านรองแม่ทัพ"
เสี่ยวโหรวรีบทำความเคารพรองแม่ทัพแห่งกองทัพัขาวที่ดูแลความปลอดภัยหน้าด่านของพระราชวังรวมถึงเขตชายแดน
"เสี่ยวซิน! เ้าเป็อย่างไรบ้าง"
ครั้นเข้ามาถึง บุรุษรูปงามที่มาพร้อมชุดเกราะและพกดาบคู่กายรีบรุดเข้าไปหาสหายวัยเด็กที่เติบโตมาด้วยกันด้วยความห่วงใย
ทว่าแม่นางผู้นั้นกลับรีบหลบด้านหลังสาวใช้พร้อมทำท่าทางหวาดกลัวเขา
"เหตุใดเ้ามองข้าเยี่ยงนั้น"
จะไม่ให้นางกลัวได้เยี่ยงไร ในเมื่อเพิ่งได้พบเจอกันครั้งแรกบุรุษผู้นี้ก็ตรงปรี่เข้ามาหมายจะถูกเนื้อต้องตัวนาง
ถึงแม้เขาจะรูปโฉมหล่อเหลาปานใด ทว่าก็คือคนแปลกหน้าสำหรับหลันจินเยว่ นางจำต้องระแวดระวังไว้ก่อน
ที่สำคัญมีดาบติดตัวมาขนาดนั้นนักโทษเยี่ยงนางจะไม่หวาดกลัวคงมิใช่เื่
"คุณหนูไม่ต้องกลัวนะเ้าคะ นี่ไงเ้าค่ะท่านรองแม่ทัพที่บ่าวเล่าให้ฟัง"
"รองแม่ทัพคนเมื่อกี้?"
"เ้าค่ะ นี่คือท่านอู่ชิงหรง รองแม่ทัพแห่งกองทัพัขาว สหายสนิทั้แ่วัยเยาว์ของคุณหนูเ้าค่ะ"
เสี่ยวโหรวอธิบายถึงตัวตนอีกคนที่เพิ่งมาเยือน นางจับมือคุณหนูที่เกาะแขนนางไว้ด้วยความสั่นกลัวออกช้า ๆ เพื่อให้เผชิญหน้ากับสหายสนิทที่มองคุณหนูนางด้วยแววตาใคร่สงสัย
"ช..ชิงหรง สหายสนิทข้า?"
ดวงิญญาจากภพอื่นที่เพิ่งมาสิงสู่ร่างนี้ค่อย ๆ ทำความเข้าใจกับเหตุการณ์ตรงหน้า
