“คารวะพี่เขยเ้าค่ะ” สรรพนามนี้ได้เปลี่ยนไปั้แ่หวังเหล่ยแต่งงานกับพี่สาว นับแต่นั้นมาพวกเขาทั้งสองก็เริ่มเว้นระยะห่างเพื่อความเหมาะสม ไม่เรียกขานอย่างสนิทสนมเหมือนแต่ก่อน คนในรู้กันดีว่าอันเล่อชอบวิ่งตามหวังเหล่ยั้แ่เด็ก เอาแต่เรียกพี่เหล่ย ๆ ทุกคำ
“เอาขนมนี้จัดใส่จานมา” หวังเหล่ยยื่นกล่องขนมให้สาวใช้ ทว่าสายตาเขากลับจับจ้องไปที่อันเล่อ
“เ้าค่ะนายท่าน” การกระทำนั้นยิ่งทำให้ตงตงเหยียดยิ้มด้วยความพึงพอใจ สะใจนักถูกเมินเช่นนี้รู้สึกอย่างไรบ้างเล่า
“เ้าเป็เช่นไรบ้าง ตรวจสุขภาพครั้งล่าสุดท่านหมอว่าอย่างไร” แค่เปิดปากก็เอาแต่ไต่ถามแขกของจวนด้วยความเป็ห่วง ทว่ากลับทำตัวเมินเฉยต่อภรรยา เพื่อหวังว่าอันหนิงจะสำนึกในความผิดของตนเอง
“ท่านหมอบอกว่าเหมือนเดิมเ้าค่ะ ให้เดินออกกำลังกายบ้างแล้วก็ดื่มยาบำรุงชุดเดิม”
“อืม...ดีแล้ว ถ้าอยากได้อะไรก็บอกพี่”
อันหนิงนั่งฟังคู่รักทั้งสองไต่ถามสารทุกข์สุกดิบอย่างเงียบ ๆ พลางรินน้ำชาให้สามีทว่าส่วนของตนกลับว่างเปล่า ไม่มีแม้แต่ถ้วยชาเปล่าสักใบหรือขนมสักจาน ที่เป็เช่นนี้คงไม่พ้นถูกตงตงสาวใช้ขาใหญ่กลั่นแกล้ง แต่ก็ช่างปะไรแค่น้ำชากินเมื่อไรก็ได้ แล้วแต่จะรักจะชอบใครเถิด นางไม่เห็นต้องใส่ใจอยู่แล้ว
“ขนมมาแล้วเ้าค่ะ” ยังคงเป็ตงตงที่คอยรับใช้เช่นเดิม นางวางจานขนมตรงหน้าคุณหนูอันเล่อเช่นเดิม พร้อมกับจานเปล่าสองใบสำหรับแขกและนายท่าน
“ออกไปได้แล้ว” หากไม่เพราะ้ากระตุ้นความรู้สึกภรรยาบ้าง เขาคงสั่งโบยสาวใช้ไปแล้ว การกระทำที่ข้ามหน้านายหญิงมิใช่สิ่งที่คนใช้ควรทำ
“แต่บ่าวต้องรอรับใช้นะเ้าคะ”
“อย่าให้ต้องพูดซ้ำ”
ชายหนุ่มพูดลอดไรฟันเสียงทุ้มต่ำ เพียงเท่านั้นสาวใช้ก็รีบลนลานออกไปทันที หวังเหล่ยเลื่อนจานเปล่าของตนเองไว้ตรงหน้าอันหนิง ก่อนจะทำทีเป็คีบขนมวางให้ทั้งสองสาว กระนั้นคนที่ได้ก่อนกลับเป็อันเล่อ แทนที่จะเป็ภรรยาของตน
“ไม่เป็ไรเ้าค่ะ เมื่อคืนข้ากินเยอะแล้ว” ขนมนี่ก็เป็ของชอบน้องสาวเช่นกัน นางที่คอยแย่งอันเล่อมาตลอดก็อยากให้อันเล่อได้กินเต็มอิ่มบ้าง คราวนี้ชายที่รักอุตส่าห์หามาให้ทั้งที นางจะไปแย่งน้องสาวได้อย่างไร อันหนิงส่งขนมส่วนของตนให้อันเล่อ โดยที่ไม่สนใจสายตาไม่พอใจของสามีแม้แต่น้อย หากจะเรียกให้ถูกนางมิได้มองหน้าเขาเสียด้วยซ้ำ
“ก็ตามใจ” หวังเหล่ยหายใจฟึดฟัดใบหน้าบึ้งตึง ไม่คิดว่าภรรยาจะทำประชดตนเช่นนี้
“พวกท่านไม่ได้ทะเลาะกันใช่หรือไม่เ้าคะ” อันเล่ออดที่จะถามออกไปเสียไม่ได้ พลางมองคนทั้งสองสลับกันไปมาเพื่อขอคำตอบ ทว่ากลับไม่มีผู้ใดเอ่ยปากสักคน เพียงเท่านี้นางก็พอจะเดาได้คงไม่มีเหตุผลอื่นนอกจากทะเลาะกันจริง ๆ
“ไม่ใช่หรอกพี่แค่กินอิ่มแล้วจริง ๆ เมื่อวานแวะตลาดซื้อมาเสียเยอะเลย พี่กินคนเดียวหมดไม่แบ่งใครด้วย ตอนนี้ยังรู้สึกอิ่มอยู่เลยเ้ากินเถอะ” วันนี้เป็อะไรกันนะ อากาศก็ไม่ได้ร้อนมากแต่กลับรู้สึกหนาวแปลก ๆ มิหนำซ้ำเหงื่อยังออกมากกว่าปกติ หายใจก็ไม่ทั่วท้อง อันหนิงจึงเผลอซับเหงื่อที่กำลังผุดเต็มกรอบหน้า ทำให้แป้งที่อุตส่าห์ทาไว้หนา ๆ หลุดลอกไปเกือบหมด
“พี่ใหญ่ไม่สบายหรือเ้าคะ เรียกหมอมาตรวจสักหน่อยดีหรือไม่”
“พี่รู้สึกร้อนนิดหน่อยน่ะ เ้าอยู่คุยกับนายท่านไปก่อนนะ ขอโทษที่ไม่ได้อยู่คุยด้วยเอาไว้พี่จะไปหาวันหลัง” อันหนิงรีบออกไปเสียแต่ตอนนี้ เพราะแป้งที่นางทาไว้เริ่มจางหาย ร่างบางผลุนผลันออกจากโต๊ะไปทันที ไม่รู้เลยว่าใครอีกคนใบหน้าเริ่มเปลี่ยนสี
ดวงตาคมวูบไหวเมื่อสังเกตเห็นรอยเขียวช้ำั้แ่ลำคอไปจนถึงข้างแก้ม ในตอนนั้นความโกรธมันครอบงำทำให้เผลอออกแรงมากเกินไป เมื่อคิดได้ในใจกลับรู้สึกกระวนกระวาย อยากจะเข้าไปหาทายาให้แล้วกล่าวขอโทษ
ทว่าต้นเหตุของเื่ก่อนหน้า ทิฐิที่มีกลับทำให้เ้าตัวเอาแต่นั่งอยู่กับที่แทนที่จะลุกตามอย่างใจ้า