อย่างไรก็ตามั์ตาของเมิ่งฉิงมองไปที่หลิ่วเฟยทันที และเหลือบมองหลินเฟิงอย่างเฉยเมย จากนั้นหันไปเข้าไปในห้องขนาดเล็กและปิดประตู
การกระทำของเมิ่งฉิงทำให้หลินเฟิงยิ้มอย่างขมขื่น ั้แ่นางทำเฉยชา หลินเฟิงก็ไม่รู้เลยว่านางกำลังคิดอะไรอยู่
“หลินเฟิง เ้ามันเลวทรามยิ่งนัก”
หลิ่วเฟยกัดริมฝีปากขณะมองไปที่หลินเฟิงอย่างเศร้าโศก จากนั้นนางก็เดินออกจากห้องไป
“…”
หน้าผากของหลินเฟิงเห็นเส้นสีดำอย่างชัดเจน ในใจเต็มไปด้วยคำถามมากมาย แววตาของเมิ่งฉิงเมื่อครู่นี่ดูเศร้าสร้อย จึงทำให้เขาสงสัย ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ว่าชวนทะเลาะก่อนหรือ? ทำไมนางถึงมองเขาด้วยสายตาแบบนั้น? หรือว่านางจะชอบเขา?
หลินเฟิงไม่เข้าใจได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่น ไม่สงสัยเลยว่าคนอื่นถึงบอกว่าการเอาชนะใจผู้หญิงก็เหมือนงมเข็มในมหาสมุทร
แน่นอนว่าหลินเฟิงไม่เข้าใจความคิดของหลิ่วเฟย เมื่อหลิ่วชั่งหลันได้ขอให้หลินเฟิงดูแลหลิ่วเฟย จุดประสงค์ของเขาคือทำให้เขาและนางสนิทสนมกันมากขึ้น โดยใช้เวลาให้พวกเขาได้อยู่ด้วยกันนานๆ
หลิ่วชั่งหลันไม่รู้ว่าเขาจะมีชีวิตอยู่ได้อีกนานแค่ไหน เขาตกอยู่ในอันตรายอยู่ตลอดเวลา คนเดียวที่หลิ่วเฟยสามารถพึ่งพาได้ถ้าหากเขาจากไปคือหลินเฟิง ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ชอบกันั้แ่เริ่มแรกเพราะความเข้าใจผิดเล็กน้อย หลินเฟิงก็ได้แสดงให้เห็นว่าเป็คนที่นางสามารถเชื่อถือได้ เขาได้แสดงความสามารถอันโดดเด่นและได้รับการยกย่อง ในขณะที่หลิ่วเฟยค่อยๆ ลืมเื่เลวร้ายทั้งหมดของหลินเฟิงไป โดยเฉพาะในตอนที่เขาออกจากนิกายหยุนไห่ในวันที่ถูกทำลาย นางทำได้เพียงขบคิดแต่เื่ของหลินเฟิงเท่านั้น
อย่างน้อยหลิ่วเฟยก็มีความรู้สึกที่ดีต่อหลินเฟิง ดังนั้นนางจึงยอมฟังพ่อของนาง และติดตามหลินเฟิงมา นอกจากนี้ในหัวใจของนางก็เริ่มมีความรู้สึกต่อหลินเฟิง ดังนั้นนางจึงคิดว่าเป็เื่ปกติมากๆ ที่จะอยู่กับหลินเฟิงเพียงสองต่อสอง
แต่เมื่อนางเปิดประตูห้องของหลินเฟิง สิ่งที่นางเห็นเป็อย่างแรกคือหญิงสาวคนหนึ่ง นางช่างงดงามอย่างไม่น่าเชื่อ นางรู้สึกราวกับว่าหัวใจของตัวเองกำลังแตกสลาย นั่นเป็เหตุผลที่นางรีบวิ่งออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว นางไม่สามารถทนยืนอยู่ในห้องของหลินเฟิงได้
“หลินเฟิง เ้าจะไปปลอบใจคนข้างในนั่นก่อน หรือจะตามไปปลอบอีกคน?”
หยวนซานผู้ที่ยืนอยู่นอกห้องถาม หลินเฟิงถึงกับขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำพูดของเขา
“ตามหลิ่วเฟยก่อนเถอะ” หลินเฟิงคิดในใจ หลิ่วเฟยยังคงซึมเศร้าอยู่เกี่ยวกับเื่พ่อของนาง ทำให้หลินเฟิงเป็ห่วงนางอย่างมาก
หลินเฟิงออกจากห้องและะโขึ้นไปในอากาศ แล้วพยายามคว้าตัวหลิ่วเฟย ขณะที่นางกำลังมุ่งหน้าไปยังทางออก ดูเหมือนนางจะโกรธมากจริงๆ และไม่พูดอะไรสักคำ
หลินเฟิงตามนางไปและในที่สุดเขาก็จับนางได้ ในขณะนั้นทั้งสองกำลังอยู่นอกปราสาท
“ทำไมเ้าทำกับข้าอย่างนี้?”
หลิ่วเฟยถามหลินเฟิง นางจ้องมองเขาด้วยสายตาเยือกเย็น เห็นได้ชัดว่านางกำลังหึงหวง
ในใจของหลินเฟิงเกิดความรู้สึกแปลกๆ เขาไม่เคยมีความรักเลยใน่ชีวิตของเขา เขาจึงไม่รู้ว่ามันเป็อย่างไร แต่ในตอนนี้หัวใจของเขาเต็มไปด้วยอารมณ์และความรู้สึกมากมาย
หลินเฟิงยังคงนิ่งเงียบและทำได้เพียงจ้องมองหลิ่วเฟยขณะที่เดินเคียงคู่กับนาง
“ข้ากำลังถามเ้าอยู่นะ” หลิ่วเฟยกล่าวขณะจ้องมองหลินเฟิง
หลินเฟิงจ้องมองนาง ทำให้หลิ่วเฟยรู้สึกมึนงงว่าเ้าเด็กนี่กำลังมองอะไร?
“เ้า... ไม่ใช่ว่าชอบข้าหรอกหรือ?”
หลินเฟิงพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนขณะเกาหัว
คำพูดดังกล่าวทำให้หลิ่วเฟยใจนเกือบจะล้มทั้งยืน นางหันไปและจ้องมองหลินเฟิง ทันใดนั้นนางก็เริ่มะโเสียงดัง
“ข้าชอบเ้าเหรอ? ฝันไปเถอะ!”
หลิ่วเฟยตอบกลับอย่างเ็า จากนั้นนางก็หันหลังกลับและเดินเร็วขึ้น
หลิ่วเฟย นางไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อนในชีวิต
“จริงหรือ?”
หลินเฟิงรู้สึกประหลาดใจ เป็ไปได้ไหมว่าเขาคิดไปเอง?
“หลิ่วเฟย หยุดเดินก่อน”
หลินเฟิงะโใส่หลิ่วเฟยที่กำลังเดินห่างออกไปเรื่อยๆ ทันใดนั้นหลิ่วเฟยก็หยุดเดิน
“อย่าลืมสิ่งที่เ้าได้ให้คำมั่นสัญญาไว้กับลุงหลิ่ว ฉะนั้นเ้าต้องเชื่อฟังข้า”
หลินเฟิงกล่าวอย่างไม่ค่อยพอใจ
เมื่อหลิ่วเฟยหันกลับมามองหลินเฟิงอย่างโกรธเกรี้ยว ไอ้สารเลวนี่กำลังใช้คำสัญญาของข้าเป็ข้ออ้าง!
แต่ในขณะนั้นหลินเฟิงเดินไปหานาง เมื่อเขาเดินมาถึงข้างๆ นาง เขาจับมือของหลิ่วเฟยและกล่าว “กลับกันเถอะ”
หลินเฟิงจับมือของนางแน่นทำให้นางไม่สามารถหนีได้ หลินเฟิงกำลังใช้พละกำลังกับนาง ทำให้นางไม่สามารถสลัดมือออกจากหลินเฟิงได้ นางทำได้เพียงจ้องมองหลินเฟิงอย่างโกรธเกรี้ยวเท่านั้น
“อย่าเกร็ง”
หลินเฟิงรู้สึกภาคภูมิใจกับตัวเอง การเผชิญหน้ากับผู้หญิงมันไม่ใช่เื่ง่าย แต่ขณะนี้หลิ่วเฟยกลายเป็เชื่อฟังเขาอย่างสมบูรณ์
แน่นอนว่าเขาไม่สามารถทำสิ่งเดียวกันกับเมิ่งฉิงได้ ถ้าเขาพยายามใช้กำลังกับนาง นางอาจจะโจมตีเขาและเพียงพริบตาเขาก็อาจถูกนางซัดจนปลิว
หลังจากนั้นไม่นานหยวนซานกับต้วนเฟิง ก็เห็นหลินเฟิงและหลิ่วเฟยกำลังเดินกลับมา ขณะจับมือกันนั้นเมื่อพวกเขาเห็นหลิ่วเฟยไม่ดิ้นรนและจับมือของหลินเฟิงด้วย ก็ทำให้พวกเขาต่างประหลาดใจ
“ห้องของข้ามีหลายห้อง เ้าสามารถเลือกได้ แต่ถ้าเ้าไม่อยากเลือกก็สามารถอาศัยอยู่กับจิ้งหยุนได้”
หลินเฟิงกล่าวขณะปล่อยมือหลิ่วเฟย
“ใครมันจะอยากอยู่ในห้องเดียวกับสารเลวอย่างเ้า”
หลิ่วเฟยกล่าวขณะมองหลินเฟิง จึงทำให้หลินเฟิงรู้สึกโล่งใจและรู้สึกว่าหลิ่วเฟยกลับมาเป็ตัวของตัวเองแล้ว
ลุงหลิ่วได้ขอให้เขาดูแลนาง ดูเหมือนว่าหลักจากนี้พวกเขาน่าจะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
หลินเฟิงส่ายหน้าและเดินกลับไปที่ห้องของตัวเอง
เขาเดินตรงไปยังห้องที่มีเมิ่งฉิงอยู่ข้างใน และเคาะประตูของนางอย่างนุ่มนวล
หลังจากผ่านไปชั่วครู่ก็ยังคงไม่มีเสียงตอบกลับใดๆ จากนั้นหลินเฟิงได้ยินเสียงของเมิ่งฉิงจากด้านหลังประตูว่า “ข้า้าพักผ่อน ไปสนุกกับนางต่อสิ”
“เอ่อ…”
หลินเฟิงยิ้มอย่างขมขื่น หรือว่านางรู้สึกหึง?
แต่หลินเฟิงปฏิเสธความคิดที่ว่านางอาจจะหึงออกไปอย่างรวดเร็ว เมิ่งฉิงเป็คนที่เ็าตลอด หลินเฟิงไม่เคยรู้ว่านางคิดอะไรอยู่
“ข้าบอกแล้วนะว่าข้า้าพักผ่อน ออกไปซะ”
เสียงะโออกมาจากในห้อง จึงทำให้หลินเฟิงกลายเป็มึนงง
เกิดอะไรขึ้น? ทำไมเมิ่งฉิงถึงเป็เช่นนี้?
แม้ว่าน้ำเสียงของเมิ่งฉิงจะเ็า แต่อารมณ์ของนางไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย แต่ในขณะนั่นน้ำเสียงของนางกลับดูโกรธ
“เมิ่งฉิง…” หลินเฟิงกล่าวอีกครั้ง แต่เมิ่งฉิงพูดขัดเขาทันทีว่า “ออกไปซะ!”
มีบางอย่างผิดแปลกไป เกิดประกายแสงในั์ตาของหลินเฟิง เห็นได้ชัดว่ามีบางอย่างผิดปกติ!
หลินเฟิงผลักประตูห้องของนาง แต่มันเปิดไม่ออก ดูเหมือนว่ามันจะถูกล็อกจากด้านใน
หลินเฟิงผลักประตูของนางด้วยพลังทั้งหมดที่เขามีเพื่อเปิดมัน แล้วในที่สุดเขาก็เปิดมันได้และเดินเข้าไปในห้องทันที
จู่ๆ หลินเฟิงรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายที่แข็งแกร่งและหนาวเหน็บ ราวกับว่ามันได้ปกคลุมร่างของเขา
หลินเฟิงถูกกดดัน เขาเหลือบมองไปที่ห้องและเตียง
เขาเห็นเมิ่งฉิงกำลังนั่งอยู่บนเตียงของนาง หลินเฟิงกลายเป็ตะลึงเมื่อเห็นร่างของนางถูกปกคลุมไปด้วยชั้นน้ำแข็ง
เรือนผมอันงดงามของเมิ่งฉิงถูกปกคลุมไปด้วยชั้นน้ำแข็งหนา
“เกิดอะไรขึ้น?”
หลินเฟิงกรีดร้อง เมิ่งฉิงเงยหน้าของนางขึ้นมา บางทีนางอาจจะหนาวเพราะน้ำแข็งพวกนั้น นางขยับริมฝีปากแต่ไม่มีคำพูดออกมาจากปากของนาง
“เมิ่งฉิง ทำไมเ้าถึงเป็เช่นนี้?”
หลินเฟิงกล่าวขณะเดินตรงไปที่เตียง หลินเฟิงรู้สึกหนาวเย็นไปทั่วร่างราวกับร่างของเขากำลังแข็งตัว
มันหนาวเย็นเกินไป แต่ความหนาวเย็นมันไม่ได้มาจากภายนอกแต่มันมาจากร่างกายของเมิ่งฉิง
“ไปซะ อย่าเข้ามา”
เมิ่งฉิงกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
หลินเฟิงรู้สึกเ็ปอย่างมากเมื่อได้ยินคำพูดของนาง เขานึกถึงกลิ่นอายอันแข็งแกร่งและหนาวเหน็บที่ปกคลุมร่างของเขา ก่อนที่เขาจะเข้ามาในห้อง
ในตอนนี้ร่างกายของเมิ่งฉิงกำลังปลดปล่อยกลิ่นอายอันเยือกเย็นบางส่วนออกมา แต่นางพยายามทำตัวราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เมิ่งฉิงไม่อยากให้เขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับนาง
หลินเฟิงเดินไปที่ขอบเตียงของนาง ทันใดนั้นชั้นน้ำแข็งเริ่มปกคลุมแขนและร่างของเขา เพียงพริบตาเขาก็มีสภาพเหมือนเมิ่งฉิงที่ถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง ทำให้เขาสั่นเทาเช่นกัน
แม้ร่างของหลินเฟิงจะยังคงเดินไปข้างหน้า แต่สายตายังคงแสดงถึงจิตใจที่แน่วแน่