หมอกชื้นค่อยๆ จาง แสงจันทร์กระจ่างสาดส่อง บนพื้นดินเหมือนกับมีหมอกบางๆลอยอยู่ชั้นหนึ่ง เลือนรางไม่ชัดเจน
เถาวัลย์พิเศษที่อิ่มเอิบปานจะหยดต้นหนึ่งเปล่งประกายเขียวเจิดจรัสภายใต้แสงจันทร์
ดอกตูมที่ปลายยอดเปล่งแสงสีเขียวพลิ้วไหวรับแสงจันทร์กลิ่นหอมระรวยรินอยู่ในอากาศ ชวนให้รู้สึกลี้ลับสุดประมาณ
รูขุมขนทั่วร่างของฉู่เฟิงขยาย จิติญญาตื่นตัวเหมือนกับได้รับการชำระล้าง จิตใจปลอดโปร่งโล่งสบาย
แต่ว่า หลังจากที่เหม่อลอยและผ่อนคลายไปชั่วระยะเวลาสั้นๆเขาก็ดึงสติกลับมาอีกครั้ง ตาทั้งคู่แวววับดั่งสายฟ้า ลอบสังเกตสภาพรอบตัวอย่างระมัดระวัง
เขากังวล ทันทีที่ดอกไม้ของเถาวัลย์วิเศษต้นนี้เบ่งบานกลิ่นหอมขจรขจายไปไกล ย่อมชักนำสิ่งมีชีวิตอันน่ากลัวอย่างยิ่งให้มุ่งตรงมาที่นี่
ยังโชคดีอยู่ เวลาที่ต้นเถาวัลย์นี้เติบโตกลับใช้เวลาไม่นาน
ไม่อย่างนั้น ด้วยความพิสดารของมัน หากต้องหยั่งรากลงที่นี่หลายวันคาดว่าที่ตรงนี้ต้องมีสัตว์ร้ายมามุงจนสุดลูกหูลูกตาอย่างแน่นอน
ในมือของฉู่เฟิงถือคันศรฟ้าคำรามเอาไว้ เตรียมพร้อมเฝ้าระวังเขาเตรียมใจไว้อย่างดี ต่อให้เข่นฆ่ากันโเี้แค่ไหน เขาก็ถอยไม่ได้
ก็รอมาตั้งนาน จะให้วางมือไปดื้อๆ ได้อย่างไร!
ที่มาของเมล็ดพันธุ์นี้ลึกลับอย่างยิ่งมันเคยถูกกลบฝังอยู่ที่เชิงเขาคุนหลุนเขาต้องพิสูจน์ด้วยตัวเองว่าผลมันจะออกมาเป็เช่นไร
ห่างไปไม่ไกลเกิดการเคลื่อนไหว ฉู่เฟิงเตรียมง้างศรั์ศัตรูอยู่ตรงหน้านี้แล้ว
กลายเป็ว่าเขาเครียดเกินไปนั่นมันก็แค่คางคกตัวหนึ่งะโออกมาจากกอหญ้าตัวขนาดกำปั้นไม่ใช่สัตว์ประหลาดอะไร
แต่แล้วฉู่เฟิงก็ขมวดคิ้ว ทันทีที่กลิ่นหอมขจรขจาย ต่อให้เป็แค่คางคกก็กลายพันธุ์ได้เหมือนกัน
เขาใช้ััปาฏิหาริย์ตรวจสอบดูสิ่งมีชีวิตโดยรอบ
ภายในระยะห้าเมตร มีรังมดรังหนึ่งขนาดไม่นับว่าเล็กตอนนี้ตัวยาวประมาณปลายนิ้ว ถ้าหากกลายพันธุ์ล่ะก็ต้องกลายเป็กองทัพมดที่น่ากลัวอย่างแน่นอน
นกป่าตัวหนึ่งเกาะอยู่บนต้นไม้ที่อยู่ห่างออกไปสิบเมตรปีกกว้างราวครึ่งเมตร ในป่าแห่งนี้ถือว่าเป็นกทั่วไปไม่นับว่าเป็นกดุร้ายแต่อย่างใด แต่ถ้าหากพวกมันกลายพันธุ์รับประกันได้ว่าไม่ใช่นกสายบุญ
ห่างออกไปอีกก็มีกระรอกอีกหลายตัวกำลังมุดเข้ามุดออกอยู่บนกองหิน
ทันใดนั้น ฉู่เฟิงหัวใจกระตุกวาบ ในถ้ำหินห่างออกไปร้อยเมตร มีงูั์ตัวหนึ่งลายพร้อยไปทั้งตัว ลำตัวหนาขนาดถังน้ำ ตอนแรกเขามัวแต่สนใจเถาวัลย์พิสดารนี่จึงไม่สังเกตเห็นมัน
มันเป็สัตว์เืเย็นกำลังจำศีล การทำงานต่างๆ ของร่างกายลดลงจนต่ำสุดไม่ขยับแม้สักนิดง่ายต่อการถูกกำจัด
ตอนนี้ ฉู่เฟิงปิดผนึกร่างกายตัวเอง พลางเฝ้าตรวจตราละเอียดลออจึงพบมันเข้า
เขาขมวดคิ้ว งูั์ตัวนี้เดิมทีก็ไม่ได้อ่อนแอแต่อย่างใดถ้าหากมันกลายพันธุ์ล่ะก็ ย่อมน่าสะพรึงกลัวอย่างถึงที่สุด
แต่ที่โชคดีก็คือ บริเวณนี้ไม่มีสัตว์ขนาดใหญ่ทั้งยังไม่มีนกชนิดที่ดุร้ายเป็พิเศษ ถือว่าไม่มีอันตรายร้ายแรงถึงชีวิตเป็การชั่วคราว
จากนั้นไม่นาน ฉู่เฟิงกลับสงสัย งูตัวนี้ไม่น่าจะเป็งูธรรมดาทำไมถึงไม่ขยับตัว ที่จริงไม่มีเหตุที่มันต้องมาอยู่แถวนี้ั้แ่แรก
ขณะเดียวกัน พวกสิ่งมีชีวิตที่ััได้ก่อนหน้านี้ทั้งหมด ล้วนมีท่าทีเฉยเมยไม่สนใจไม่ถูกดึงดูดด้วยกลิ่นดอกไม้ ไม่มีท่าทีอยากได้ อย่างนี้มันผิดปรกติ!
หวงหนิวเคยบอกว่า สิ่งมีชีวิตหลายชนิดมีประสาทััว่องไวกว่ามนุษย์ พวกมันจะรู้สึกถึงพวกเกสรดอกไม้หรือลูกไม้วิเศษที่ส่งเสริมการกลายพันธุ์ได้ทันที
นี่มันอะไรกัน แล้วทำไมพวกมันไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย? หรือว่าดอกตูมที่ปลายยอดของเถาวัลย์สีเขียวนี่ไม่มีผลอะไรต่อพวกมัน ไม่สามารถส่งเสริมการกลายพันธุ์ของพวกมันได้?
มันไม่น่าจะเป็ไปได้!
ฉู่เฟิงหันกลับมาจ้องดอกตูมที่อยู่บนเถาวัลย์พิสดารไม่นานก็พบความผิดปรกติ
หมอกสายแล้วสายเล่าที่แผ่ออกมา กลิ่นหอมจนฉุนลอยละล่องเข้าจมูกของเขา
เขาเบนศีรษะเล็กน้อย เอียงหลบสายหมอก ละไอหอมพลันหายไปทันที
“พิสดารอะไรอย่างนี้?!”
ฉู่เฟิงตะลึง กลิ่นดอกไม้มีรูปร่าง มันมองเห็นได้ด้วยเหรอ?
เขาลองทดสอบอีกหลายครั้งเพื่อยืนยันสมมุติฐาน สายหมอกนั่นก็คือกลิ่นดอกไม้มันลอยละล่องอยู่ตรงหน้าเขาเท่านั้น ไม่โชยกลิ่นออกไปไกล
แล้วต่อให้เขาอยู่ใกล้กับเถาวัลย์พิสดารแค่ไหนก็ตาม ทันทีที่ออกห่างจากสายหมอกก็จะไม่ได้กลิ่นหอม
ฉู่เฟิงทั้งใทั้งประหลาดใจ ต้นเถาวัลย์นี่พิสดารถึงเพียงนี้! อย่างนี้เขาก็เบาใจขึ้นเยอะ
ที่เขากังวลที่สุดก็คือตอนที่ดอกตูมผลิบาน เกสรปลิดปลิวกระจายไปทั่ว์เท่านั้นที่จะรู้ว่ามีสัตว์ร้ายกี่ตัวที่ได้กลายพันธุ์
แล้วถ้าเกิดสัตว์ที่วิ่งเข้ามาเป็พวกสายพันธุ์ดุร้ายล่ะพอถูกกระตุ้นด้วยเกสรดอกไม้แล้วกลายเป็จ้าวแห่งสัตว์ร้ายเข้าล่ะก็คงวุ่นวายกันยกใหญ่
“รีบๆ บานเหอะ ฉวยจังหวะตอนที่ยังไม่มีเื่นี่แหละ!” ฉู่เฟิงพร่ำภาวนา เขาตื่นเต้นอย่างมาก มาถึง่เวลาสำคัญสุดท้ายแล้วไม่อยากให้เกิดเหตุไม่คาดฝันเลยจริงๆ
เพราะเวลาที่ยิ่งทอดยาวออกไป เปอร์เซ็นต์การพลิกผันก็ยิ่งสูง!
ทันทีที่จ้าวถิ่นถูกทำให้ใ ส่ำสัตว์ร้องคำราม แล้ววิ่งแตกตื่นเข้ามาภาพตอนนั้น... มันชวนให้ขนหัวลุกอย่างมาก
ทันใดนั้น กลิ่นหอมพลันเข้มข้นขึ้นอีกหลายเท่า ดอกตูมปริขยายใหญ่ขึ้นมันกำลังจะบาน สายหมอกที่ลอยออกมาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
วินาทีต่อมา ก็มีเสียงจำเพาะอย่างหนึ่งดังขึ้น
เถาวัลย์พิสดารสีเขียวขจีเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างน่าใ! ในพริบตา มันเปลี่ยนจากสีเขียวสดกลายเป็สีขาวราวกับหิมะสว่างไสวไปทั้งต้น!
ฉู่เฟิงตะลึง
เมื่อครู่เถาวัลย์ยังเปล่งแสงสีเขียวอยู่เลย เขียวเปล่งปลั่งปานจะหยดแล้วทำไมจู่ๆ ก็สะท้อนแสงสีเงินออกมาอย่างนั้นล่ะ?
วินาทีนั้น มันพลันเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง!
เถาวัลย์พิสดารกลายเป็สีขาวราวกับหิมะ ไม่ว่าจะเป็ใบไม้หรือดอกตูมเปล่งประกายระยิบระยับจับตา แม้แต่รากก็เปล่งแสงสีเงินพลิ้วพราย
พร้อมกันนั้นดอกตูมพลันเบ่งบาน!
เช่นเดียวกันกับตอนที่เมล็ดพันธุ์งอกต้นอ่อน ตั้งนานไม่มีอะไรเปลี่ยนพอเริ่มฟื้นตัว ก็ปุบปับเปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิงภายในระยะเวลาอันสั้น
ดอกไม้สีขาวราวกับหิมะก็เป็เช่นนี้!
ในวินาทีนั้น กลีบดอกไม้ทั้งหมดพลันแย้มบาน แสงสีเงินปานแสงไฟสาดส่องไปทั่วขุนเขา!
กลิ่นดอกไม้หอมฉุยล่องลอยสู่จมูกของฉู่เฟิง เขาสูดลมหายใจหนักหน่วงรู้สึกว่าร่างกายเร่าร้อน กลิ่นหอมนั่นเหมือนกับเป็สสารที่มีรูปร่างแทรกซึมเข้าสู่ร่างกาย
“โฮก!”
ห่างออกไป เสียงสัตว์ร้ายคำราม ในที่สุดก็มีสิ่งมีชีวิตที่ร้ายกาจถูกกระตุ้นแล้ว
ฉู่เฟิงขมวดคิ้ว เขาสังหรณ์ใจว่าจะต้องเกิดเหตุนองเือย่างแน่นอน! เพราะว่าพื้นที่แถบนี้ไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง แสงสีเงินหลั่งไหลสาดส่องไปทั่วป่าเขา สว่างไสวอย่างยิ่งภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืน
ดอกไม้สีขาวราวกับหิมะเปล่งประกายสว่างไสวหมอกขาวพรั่งพรูออกมาจากภายในเข้าโอบล้อมฉู่เฟิง
โดยไม่ทันรู้ตัว เขาใช้เคล็ดวิธีหายใจแบบพิเศษทันที
มันได้ผลดีอย่างยิ่ง หมอกขาวไหลวน พุ่งเข้าทางจมูกของเขาขณะเดียวกันร่างกายของเขาที่สอดประสานกับเคล็ดวิธีหายใจก็สั่นเบาๆรูขุมขนทั่วร่างขยาย ซึมซับหมอกขาวเข้าสู่ร่างกาย
กลิ่นดอกไม้เข้มข้นจนถึงที่สุด ฉู่เฟิงถูกหมอกขาวปกคลุมจนมิด
สิ่งที่ทำให้เขาแปลกใจอย่างยิ่งก็คือ หมอกขาวเพียงแต่วนเวียนอยู่รอบๆไม่กระจายออกไปไกล
มดที่อยู่ในรังห่างออกไปไม่กี่เมตรไปจนถึงคางคกตัวที่อยู่ห่างออกไปอีกหน่อย กระรอก นกป่า งูั์ต่างก็ไม่ได้กลิ่นดอกไม้ เพราะพวกมันไม่ได้อยู่ในขอบเขตนี้
ฉู่เฟิงรู้สึกไม่เต็มอิ่มอยากจะปลิดกลีบดอกไม้ออกแล้วสูดเกสรดอกไม้เข้าไปเสียเลย
ทันใดนั้น เขาก็พบความจริง
เกสรดอกไม้หายไปแล้ว มันปะปนอยู่ในหมอกขาวที่ลอยออกมานั่นเอง!
ท้องฟ้ายามราตรี นกล่าเหยื่อตัวหนึ่งบินมาอย่างรวดเร็วปีกกว้างสิบกว่าเมตร ทั่วร่างเปล่งแสงสีแดงเพลิงร้อนแรงดวงตาทั้งคู่ดุร้ายมันพุ่งลงเบื้องล่าง
ฉู่เฟิงกำลังใช้เคล็ดวิธีหายใจแบบพิเศษทำให้ััปาฏิหาริย์ฉับไวกว่ายามปรกติ เขาคว้าคันธนูยิงออกไปทันที
ตึง!
ลูกศรดอกนี้ทรงอานุภาพร้ายแรงดุดันกว่าแต่ก่อนอย่างมากนกล่าเหยื่อสีแดงเพลิงตัวนั้นถูกยิงร่างขาดสองท่อน ร่วงลงสู่พื้นดิน
นี่เป็เพียงการเริ่มต้นเท่านั้น แผ่นดินสั่นะเืห่างออกไปมีเสียงสัตว์ร้ายร้องคำรามกึกก้องมาจากในป่า มุ่งตรงมายังูเาแถบนี้
ฉู่เฟิงสงบจิตสงบใจ เรียบเรียงความคิดเขาหายใจด้วยเคล็ดวิธีหายใจแบบพิเศษต่อ
หมอกขาวตลบอบอวล โอบล้อมเขาไว้ภายใน
วินาทีนี้ ฉู่เฟิงรู้สึกว่าร่างกายค่อยๆ ร้อนขึ้นเรื่อยๆเหมือนกำลังแช่น้ำแร่ที่มีความร้อนสูง แขนขาเริ่มชา
เขารู้สึกได้ว่า ร่างกายตัวเองเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างน่าใหัวใจบีบเต้นรุนแรงเหมือนกลองที่ถูกตีไม่รู้ว่าเป็เพราะประสาทหูเขาไวขึ้นหรือเพราะหัวใจเต้นแรงขึ้น
จากนั้นความร้อนในตัวเขาเพิ่มขึ้น แขนขาทั้งสี่เหมือนกับถูกไฟฟ้าช็อตเนื้อหนังและเส้นเอ็นกำลังถูกจัดระเบียบ
เสียงนกล่าเหยื่อดังขึ้นอีก พายุหวีดหวิว นกล่าเหยื่อกลายพันธุ์สีดำสนิทดุร้ายอย่างยิ่งตัวหนึ่งพุ่งลงมาอย่างกับดาวตกเข้าหาฉู่เฟิง
มันกางกรงเล็บกว้าง ประกายเย็นเยียบสาดส่องกะว่าพุ่งโจมตีครั้งเดียวปลิดชีพมนุษย์ที่อยู่ข้างๆ เถาวัลย์พิสดาร
เฟี้ยว!
ฉู่เฟิงน้าวศร ยิงลูกศรออกไปพร้อมสายฟ้าเสียงฟ้าผ่ากึกก้อง อานุภาพร้ายแรงกว่าลูกศรดอกแรกเมื่อครู่เสียอีกเสียงผึงดังขึ้น ลูกศรพุ่งทะลวงหัวกะโหลกนกล่าเหยื่อตัวนั้นไป
เสียงตึงดังขึ้น มันร่วงกระแทกพื้น มาไว ไปไว!
ใน่สั้นๆ ที่เคล็ดวิธีหายใจถูกขัดขวาง ฉู่เฟิงรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าความเร็วในการซึมซับหมอกขาวถดถอยช้าลง
เขารีบหายใจต่อ พร้อมกันนั้นก็เตรียมตัวตั้งรับ
เขาสงบจิตสงบใจ ต่อให้มีศัตรูมารังควานก็ไม่อาจขัดขวางการหายใจด้วยเคล็ดพิเศษนี้ได้
หมอกขาวหอมตลบอบอวลแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายของฉู่เฟิงไม่ขาดสายทำให้รู้สึกสดชื่น เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าร่างกายเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ครั้งนี้ รุนแรงกว่าตอนที่เขาได้กลีบดอกไม้จากเขาคุนหลุนมากมายนัก สาเหตุหลักๆ ก็คือ เคล็ดวิธีหายใจแบบพิเศษที่เขาใช้นั้นช่วยให้เกสรดอกไม้ออกฤทธิ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพภายในเวลาอันสั้น
จากนั้น การรับรู้ของฉู่เฟิงยิ่งลึกล้ำเข้าไปอีก
กลิ่นหอมของดอกไม้กบจมูก เข้มข้นถึงที่สุด เขารู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองอยู่ในเตาไฟเป็เหล็กที่กำลังถูกตี
ระหว่างนี้ นกล่าเหยื่อกลายพันธุ์โผล่มาไม่ขาดระยะฉู่เฟิงเยือกเย็นอย่างที่สุด ยิงธนูออกไปดอกแล้วดอกเล่า ไม่นานบนพื้นก็เต็มไปด้วยซากนก
ห่างออกไป เฉินไห่มองเห็นความผิดปรกติทางนี้ เขามีสีหน้าประหลาดใจ
ูเาแถบนั้น มีแสงสีเงินส่องสว่างนกล่าเหยื่อตัวแล้วตัวเล่าพุ่งทะยานลงไป อีกอย่างส่ำสัตว์ทุกชนิดโดยรอบพากันคำราม แล้ววิ่งตะบึงจนแผ่นดินสะท้านะเืพุ่งตรงไปยังทิศทางนั้น
บ้าไปกันหมดแล้ว!
สัตว์ป่ารวมตัวกัน อย่างกับจะเกิดการตะลุมบอน
ฟึ่บ!
เฉินไห่ระดับไหนแล้ว ทั้งโเี้และดุดัน เขาพิจารณาถึงความสำคัญแล้วก็พอจะคาดเดาได้ ต้องเป็ของวิเศษในมือของฉู่เฟิงแน่ๆ ที่เป็ตัวสร้างกระแส
เขาวิ่งอย่างรวดเร็วไปตามทาง เร็วกว่านกบิน ทิ้งห่างพวกสัตว์ร้ายเขาใช้หมัดสิงอี้เปิดฉากฆ่าฟันกวาดล้าง พวกสิงสาราสัตว์ที่กล้ามาขวางทางเขาถูกฆ่าตายเรียบ
ตัวของเขาย้อมแดงไปด้วยเืะโขึ้นลงเพียงไม่กี่ครั้งก็ห่างออกไปหลายร้อยเมตรสัตว์ร้ายเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ต่างมุ่งหน้าไปทางูเานั้น
พรึ่บ!
เฉินไห่เร่งรุดไปด้วยความเร็วสูงจนน่าใ เขาเห็นฉู่เฟิงที่อยู่ห่างออกไปเพียงแค่กวาดตาแล้วก็ต้นไม้สีเงินต้นนั้นด้วย ดวงตาทั้งคู่สาดประกายอันน่าสะพรึงกลัวในทันที
“เยี่ยม มันต้องเป็ของฉัน!”เฉินไห่ตื่นเต้นยินดีอย่างยิ่ง
เบื้องหน้า ฉู่เฟิงยืนอยู่ก่อนแล้วอย่างไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไร เป็เพราะพวกสัตว์ร้ายจำนวนร่วมร้อยตัวต่างก็ดาหน้าเข้ามาจากทุกทิศทุกทางล้อมกรอบที่นี่ไว้
บนพื้นเกลื่อนไปด้วยซากสัตว์ซากนกั์ร่วมยี่สิบกว่าตัวที่ถูกลูกศรยิงตกลงมาตาย
นอกจากนี้ก็มีซากสัตว์ตัวมหึมาอีกสิบกว่าตัวที่ล้วนแล้วแต่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง ทว่าถูกกระบี่สั้นสีดำของเขาสังหาร
ลูกศรที่เขามีติดตัวถูกยิงออกไปหมดแล้วก่อนนี้ที่ประมือกับเฉินไห่ก็ใช้ไปไม่น้อย
“ไปให้พ้น!”
เฉินไห่ะโ เขาพุ่งไปเบื้องหน้า พลางเตะสัตว์ตัวมหึมาที่ขวางทางเขานั่นเป็ช้างั์ แต่สุดท้ายก็ถูกเขาเตะเพียงทีเดียวร่างขาดกระจุยตายอย่างน่าสยดสยอง
เขาเืเย็นอย่างยิ่ง สายตาจับจ้องเบื้องหน้า
“โอกาสของฉันมาถึงแล้ว!” เฉินไห่เอ่ยดวงตาคมกริบไม่ต่างกับดาบ
ฉู่เฟิงประหลาดใจที่เขาไม่พุ่งเข้ามาในทันที แต่ว่าถึงเฉินไห่จะพุ่งเข้าใส่ฉู่เฟิงก็ไม่เป็กังวล
ต้นเถาวัลย์พิสดารนี่ผลิดอกรวดเร็วอย่างน่าใ แค่พริบตาก็ออกดอกอีกทั้ง่เวลาที่ดอกไม้เบ่งบานก็สั้นอย่างไม่น่าเชื่อ ตอนนี้มันเริ่มร่วงโรยหมอกสีขาวหลงเหลืออยู่ไม่กี่สายแล้ว
เมื่อครู่เขาใช้เคล็ดวิธีหายใจแบบพิเศษสูดกลิ่นดอกไม้เข้มข้นอบอวลไปจนหมดสิ้นมันได้ผลอย่างน่าใ
ตอนนี้ร่างกายเขาโปร่งเบา อีกทั้งแข็งแกร่งบึกบึนไม่ต้องทดสอบอะไรเขาก็รู้ได้ว่า ความสามารถทางกายภาพของเขาเพิ่มพูนขึ้นอย่างมหาศาลการเปลี่ยนแปลงสำเร็จอีกครั้ง!
ตอนนี้เขาหูตาว่องไว ััปาฏิหาริย์เป็เลิศกว่าแต่ก่อนเป็อย่างมากทั้งร่างเหมือนกับอัดแน่นไปด้วยพละกำลังที่ไม่มีวันหมดสิ้น!
นอกจากนี้ ร่างกายก็ยังคงเปลี่ยนแปลงไม่หยุด เหมือนกับกำลังผ่านพิธีชำระล้างเืลมสั่นไหว อวัยวะภายในสอดประสาน ผิวกายเปล่งแสงเรืองรองเขารู้สึกว่าร่างกายตัวเองกำลังเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นอีก
เป็การชำระล้างที่แปลกประหลาดอย่างยิ่ง มันทำให้เขาเปลี่ยนแปลงไม่หยุด
เคล็ดวิธีหายแบบพิเศษสิ้นสุดลง ทุกครั้งจะส่งผลภายในระยะเวลาอันสั้น
ตึง!
ฉู่เฟิงสะบัดหมัดออกไปโจมตีพวกสัตว์ร้ายที่พุ่งเข้าใส่สิ้นใจตายในทันที
สัตว์ร้ายพวกนี้ไม่เยือกเย็นอย่างเฉินไห่ พวกมันใจร้อนพุ่งเข้าใส่อย่างบ้าคลั่ง เพื่อจะแย่งชิงกับเขา
เสียงแปลบปลาบดังอยู่ที่ปลายหู ฉู่เฟิงใช้เคล็ดหายใจฟ้าคำรามวิธีนี้ทำลายล้างรุนแรง แต่สำหรับเขาแล้ว ใช้ได้ผลดีอย่างยิ่ง
หมอกขาวสายสุดท้ายซึมซาบเข้าสู่จมูกของเขา ฉู่เฟิงรู้สึกเต็มอิ่มอย่างยิ่ง!
ตอนนี้เฉินไห่ยังคงนิ่ง เขาทะยานข้ามกลุ่มสัตว์ร้ายด้วยย่างก้าวที่มั่นคงเมื่อครู่เขาไม่ทันเห็นสายหมอกสีขาว ในสายตาเขามีเพียงสิ่งเดียว
บนต้นเถาวัลย์สีเงิน กลีบดอกไม้ร่วงโรยตรงนั้นมีเมล็ดพันธุ์อยู่หนึ่งเมล็ด!
เฉินไห่จ้องมันไม่วางตา!
ฉู่เฟิงเองก็ใไม่น้อย ต้นเถาวัลย์พิสดารค่อยๆ อับแสงดูท่ามันกำลังแห้งเหี่ยว มีเพียงเมล็ดพันธุ์เมล็ดนั้นที่ยังคงขาวราวกับหิมะส่องประกายเรืองรอง
ที่แท้ก็มีผลลัพธ์อย่างนี้ ต่อไปยังเอาไปปลูกได้อีกครั้งงั้นหรือ? ฉู่เฟิงตะลึง!
ทว่า เมล็ดพันธุ์นี้แตกต่างจากเมล็ดก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิงมันสีขาวโปร่งแสง อย่างกับว่าเปลี่ยนเป็พันธุ์อื่นไปแล้วพอปลูกครั้งต่อไปจะงอกออกมาเป็อะไรล่ะเนี่ย?!
“ฮ่าฮ่า นี่ก็นับว่าเป็ลูกไม้พิเศษล่ะนะ เดี๋ยวก็จะสุกงอมแล้วมันเป็ของฉัน!” เฉินไห่หัวเราะร่า
ก่อนหน้านี้เขาเองก็เคยพบดอกไม้พิสดาร เมื่อเบ่งบานแล้วจะร่วงโรยในทันทีแต่ไม่มีลูกไม้ มันทำให้เขาคร่ำครวญเสียดายอยู่เนิ่นนาน
ยังดีที่ครั้งนั้นในบริเวณใกล้เคียง เขาเก็บลูกไม้วิเศษแบบธรรมดาได้
ตอนนี้ เขาเห็นต้นเถาวัลย์สีเงินลึกลับนั่นมีลูกไม้ด้วยแล้วจะไม่ให้เขาตื่นเต้นได้อย่างไร? เขาคิดว่าคงไม่ด้อยไปกว่าลูกไม้วิเศษจากต้นไม้พิสดารหรอก!
ฉู่เฟิงเข้าใจในทันที ไม่ใช่ว่าทุกคนจะรู้ซึ้งถึงความสำคัญของเกสรดอกไม้ในสายตามนุษย์พิเศษจำนวนมากมีเพียงลูกไม้วิเศษเท่านั้น รวมไปถึงเฉินไห่ด้วยที่ไม่รู้จักตัวกระตุ้นปฏิกิริยา!
“ฮ่าฮ่า...” ฉู่เฟิงอดหัวเราะลั่นไม่ได้
โดยรอบ ส่ำสัตว์จำนวนร่วมร้อยตัวกำลังคำรามสัตว์พิเศษพวกนี้ล้วนั์ตาแดงก่ำ เห็นได้ชัดว่ากำลังคลั่งพวกมันเตรียมตัวเข้าแย่งเมล็ดพันธุ์สีขาวราวกับหิมะนี้
“แกหัวเราะอะไร จะตายอยู่แล้วก็ต้องขอบใจแกที่ช่วยปกป้องลูกไม้จากต้นเถาวัลย์พิสดารนี่ให้ฉัน รอจนฉันมาถึงไม่ให้มันถูกพวกสัตว์พวกนี้ย่ำยีจนเสียของ!” เฉินไห่ยิ้มเย็น
ฉู่เฟิงมั่นใจว่า เขาไม่รู้ความสำคัญของเกสรดอกไม้ไม่อย่างนั้นเขาคงคลุ้มคลั่งลงมือใส่ฉู่เฟิงอย่างโหดร้ายเืเย็นแล้ว
“โฮก!”
สัตว์พิเศษต่างคำราม มีหลายตัวที่ไม่ด้อยไม่กว่าเฉินไห่เลยแล้วล้วนร้ายกาจสุดประมาณ พวกมันดาหน้ากดดันเข้ามาอย่างหนักหน่วง!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้