ตื่นเช้ามาก็ราวกับเป็ม้าเร็ว เขารีบตรงดิ่งกลับบ้านทันทีแต่เมื่อถึงหน้าบ้าน กู้หลานอันกลับหยุดฝีเท้า มองเข้าไปยังทิวทัศน์เบื้องหน้าที่แสนคุ้นเคยและดูแปลกตาเขาถอนหายใจ ความรู้สึกต่างๆผสมปนเปกันไปหมด ชาติที่แล้วเป็เพราะเวลาที่เขาเอ่ยถึงการอยากเข้าร่วมการคัดเลือกเมื่อไหร่ ประธานกู้จะต่อต้านทันที หลังจากการโต้เถียงที่ไม่เห็นผลเขาก็ได้โพล่งคำพูดด้วยความโกรธเคืองระหว่างที่ทะเลาะกันว่า “ถ้าไม่ได้ดีจะไม่มีวันกลับมา และจะไม่ให้ใครรู้ว่าพ่อเป็พ่อของผมเด็ดขาด” ไม่กี่ปีก่อนที่จะะโตึกฆ่าตัวตายเขาไม่เพียงแต่ไม่กลับบ้าน แต่เวลาเจอกันยังแสร้งทำเป็คนเเปลกหน้าถึงแม้ว่าแม่จะเปรยๆว่าพ่อช่วยเหลือเขายังไงบ้าง ก็ไม่ได้สำนึกหรือรู้สึกซาบซึ้งอะไรถึงแม้จะเสียใจมาตลอดเวลา แต่เขาก็ไม่เคยอ่อนข้อให้ คำว่า “ผมผิดไปแล้ว”ที่ฝังอยู่ในใจนั้น สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่ทันได้พูดมันออกไปกลายเป็สิ่งที่รู้สึกเสียใจไปตลอดกาล
“เสี่ยวอัน ลูกกลับมาแล้วหรือ?”ในขณะที่ติดอยู่กับความคิดของการตำหนิตัวเองมีเสียงหนึ่งดึงความคิดเขาให้กลับมา เมื่อเงยหน้ามองไปยังประตูเหล็กข้างหน้าพลันเห็นคุณนายกู้วิ่งตรงเข้ามา
“คุณคือคุณชาย?” หลังจากได้ยินคุณนายกู้เรียก เ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เฝ้าสังเกตพฤติกรรมแปลกๆของกู้หลานอันรีบถีบตัวเองให้ลุกขึ้นมาทันทีด้วยความใ มองไปรอบๆแล้วรีบเปิดประตู
“ผมเอง ลุงฝู” กู้หลานอันหัวเราะพร้อมกับกล่าวทักทาย เขาเดินเข้าไป กำลังจะถามสารทุกข์สุกดิบของลุงฝูว่าเป็อย่างไรบ้างแต่ทันใดนั้นก็ถูกใครบางคนกอดเเน่น
“แม่” รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นในอ้อมกอดทันทีกู้หลานอันผงะไปครู่นึง ถอนหายใจหนักๆตบไหล่อันนา พูดด้วยเสียงแหบแห้งว่า “ผมกลับมาแล้วครับ”
“กลับมาก็ดีแล้ว กลับมาก็ดีแล้ว”อันนาตบหลังเขาด้วยความปลื้มใจ ดึงเขาออกห่างพลางสำรวจั้แ่หัวจรดเท้าอย่างละเอียดอีกครั้ง รู้สึกปวดใจอย่างมาก“เเค่ไม่กี่วันเอง ทำไมผอมลงขนาดนี้ล่ะ”
“ไม่ได้ผอมครับแค่เปลี่ยนชุดที่ใส่แล้วดูผอมลงเท่านั้นเองครับ” กู้หลานอันสูดจมูกพร้อมเผยรอยยิ้ม
“อย่าโกหกแม่นะเืเนื้อที่แม่คลอดมาเอง ผอมหรือไม่ผอมลงทำไมแม่จะไม่รู้” อันนาหน้านิ่วจ้องเขาไม่วางตายิ่งดูก็ยิ่งปวดใจ การบ่นของแม่เริ่มแล้ว “ลูกนี่จริงๆเลย เื่ไม่พอใจแล้วไม่อยากกลับบ้านก็ช่างมันเถอะ แต่ทำไมไม่ยอมโทรศัพท์มาบอกแม่บ้างว่าสบายดีไหมโตขนาดนี้แล้วแต่ก็ยังไม่รู้จักดูแลตัวเอง เหมือนเด็กน้อยไม่มีผิดเลยพ่อลูกก็อีกคน ลูกไม่กลับมาก็ไม่รู้จักแวะไปดูลูกบ้าง ไปเกลี้ยกล่อมไปช่วยลูกปูทาง…...” อันนาพูดด้วยน้ำเสียงทรงพลังกู้หลานอันไม่ได้ขัดแต่อย่างใด แต่ยืนยิ้มฟังแม่บ่นอยู่ข้างๆตรงนั้นถ้าเป็เมื่อก่อน เขาจะต้องรู้สึกเบื่อและรำคาญอย่างแน่นอนยังไม่ทันฟังจบก็หาข้ออ้างเพื่อหนีออกไป แต่ ณ ตอนนี้เขากลับรู้สึกว่า่เวลานี้ช่างแสนอบอุ่นคนเราจะเรียนรู้ว่าสิ่งใดสำคัญก็ต่อเมื่อเราสูญเสียมันไปแล้วแต่เขาโชคดีมากที่เขายังมียากลับใจ[1]
“แม่.. พูดจบแล้วหรือ? คอแห้งไหมครับ?” มองอันนาหยุดพักหายใจกู้หลานอันโน้มตัวไปข้างหน้าอย่างยิ้มเเย้ม ถามไม่หยุด
“ยังพูดไม่จบแต่ก็รู้สึกคอแห้งแล้ว” อันนาตอบ
“งั้นพวกเราเข้าบ้านดื่มน้ำกันหน่อยนะครับดื่มแล้วแม่ค่อยพูดต่อ” กู้หลานอันพูด พร้อมดันแม่เดินไปข้างหน้า
“ก็ได้” แม้ปากจะตอบอย่างนั้นแต่เดินได้ไม่กี่ก้าว อันนาก็เริ่มบ่นอีก พูดไม่หยุดว่าทำไมเขาไม่รู้จักดูแลตัวเองดีๆ
“แม่ พ่อล่ะครับ? กลับมาหรือยัง?” กู้หลานอันถามทำให้อันนาต้องหยุดอีกครั้ง
“กลับมาแล้ว นั่งอยู่ในบ้าน พ่อนั่นแหละเป็คนบอกแม่ว่าลูกกลับมาวันนี้”อันนาตอบเสร็จเหลือบมองกู้หลานอันซึ่งกำลังมองไปยังบ้านพักวิลล่าข้างหน้าพร้อมพูดอย่างจริงจังว่า “หลานอันลูก ตอนนี้ลูกก็โตแล้วควรมีเหตุผลได้แล้วนะ พ่อของลูกน่ะถึงแม้จะใช้ชีวิตมาด้วยการเอาตนเป็ใหญ่นิสัยเอาแต่ใจ เหมือนเด็กไม่รู้จักโตแต่ไม่ว่ายังไง พ่อเขาก็เป็คนที่มีประสบการณ์โชกโชนผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะสิ่งที่พ่อตัดสินใจ ทั้งหมดทั้งมวลก็เพราะหวังดีต่อลูก วันนี้ไหนๆลูกก็เต็มใจกลับมาเองแล้วก็อย่าโกรธพ่อเขาอีกเลยนะ อีกสักพักถ้าเจอพ่อก็ค่อยๆพูดจาต่อกัน อย่ายั่วให้พ่อโมโหอีก พ่อแก่แล้วระงับอารมณ์ไม่อยู่หรอก”
[1]ยากลับใจ เปรียบเสมือนการมีโอกาสกลับไปแก้ไขความผิดพลาดที่ผ่านมา