ขณะที่พูด ท่านเฮ่อฉางเหอก็ถอนหายใจอีกครั้งไม่รู้ว่าท่านกำลังถอนหายใจให้กับความโชคดีของหลินเยว่หรือว่าถอนหายใจให้กับความซับซ้อนของหินหยกก้อนนี้กันแน่
เมื่อหลินเยว่ได้ฟังการอธิบายของท่านเฮ่อแล้วเขาก็รู้สึกเหมือนได้เปิดโลกทัศน์จริงๆ มันสามารถประเมินหินหยกแบบนี้ได้ด้วยเหมือนกัน!
หลินเยว่พลันรู้สึกว่าเส้นทางการพนันหินหยกของเขาแบบเดิมมันมีความผิดพลาดเพราะเขาทำตามแบบแผนมากจนเกินไป ยึดติดกับกฎเกณฑ์มากจนเกินไป อีกทั้งเขายังไม่รู้จักบูรณาการวิธีการต่างๆเข้าด้วยกันเพื่อนำมาประเมินว่าด้านในของหินหยกจะมีหยกหรือไม่ แต่แล้ว วันนี้เขาก็ได้เรียนรู้ว่าการไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกลที่แท้จริงเป็อย่างไร
“เตรียมตัดหินหยกตอนนี้เลยหรือเปล่า?”ท่านเฮ่อฉางเหอถามขึ้น
หลินเยว่พยักหน้าเขาจำเป็ต้องรีบตัดมันให้เร็วที่สุด หลังจากนั้นก็ซื้อบ้านสักหลังแล้วก็กลับบ้านเกิดของตัวเองสักครั้งอีกด้วย
“ลากเส้นเองละกัน ลากเสร็จแล้วก็เรียกอาจารย์ล่ะ”
ท่านเฮ่อฉางเหอพูดจบก็เดินกลับไปยังโต๊ะหินที่เมื่อสักครู่ท่านนั่งดื่มชาอยู่แล้วก็ปล่อยให้หลินเยว่อยู่ตรงนั้นคนเดียว
หลินเยว่จำได้อย่างแม่นยำว่าตำแหน่งของหยกด้านในอยู่ตรงไหนแต่ทว่าเขาก็ไม่ได้คิดถึงตรงจุดนี้ แต่กลับใช้วิธีประเมินตามกฎเกณฑ์ปกติไปทีละจุดๆเพราะการกระทำเช่นนี้จะสามารถตรวจสอบได้ว่าศักยภาพที่แท้จริงของเขาเป็อย่างไรกันแน่
หลินเยว่เริ่มสังเกตจากเนื้อหยกที่อยู่ตรงส่วนที่มีรอยแตกหลังจากนั้นจึงสำรวจรอยแตกเล็กๆ และดอกสน สุดท้ายจึงลากเส้นเส้นหนึ่งลงบนหินหยกก้อนนี้
เมื่อหลินเยว่มองเส้นที่เขาลากออกมาเบื้องหน้ามุมปากของเขาก็ปรากฏรอยยิ้มเจื่อนๆ
ก็ยังคงคลาดเคลื่อนไปเล็กน้อย
หลินเยว่ยังจำตำแหน่งหยกที่เขาเห็นในวันนั้นได้อย่างชัดเจนมันคลาดเคลื่อนไปจากเส้นที่เขาลากเบื้องหน้านี้ 3 มิลลิเมตร นั่นก็แสดงว่า หากทำการตัดหินหยกตามรอยเส้นที่เขาลากไว้ก็ทำจะให้หยกด้านในเสียหายไปเป็ความหนา3 มิลลิเมตรถึงแม้ว่า 3 มิลลิเมตรอาจจะเป็ตัวเลขที่น้อยมากแต่มูลค่าของมันกลับสูงถึงหลายแสนหยวนขึ้นไป
เพียงมีดเดียวก็สามารถทำให้ตัดเสียหายไปหลายแสนหยวนแต่หลินเยว่ก็ยังไม่ได้บ้าคลั่งจนถึงขนาดจะทำเื่เช่นนี้ออกมาได้
ความรู้และประสบการณ์ในการพนันหินหยกของเขายังไม่เพียงพอจริงๆ!
หลินเยว่ส่ายศีรษะอย่างเงียบๆหลังจากนั้นจึงหันหน้าไปทางท่านเฮ่อฉางเหอพร้อมพูดขึ้น “อาจารย์ครับผมลากเสร็จแล้ว”
ท่านเฮ่อฉางเหอวางถ้วยชาในมือลงแล้วเดินเข้ามาหาเมื่อสักครู่ท่านก็ได้สังเกตการณ์กระทำของหลินเยว่อยู่ตลอดถึงแม้ว่าภาพรวมจะใช้ได้ แต่ทว่าเมื่อประเมินตรงส่วนรายละเอียดยิบย่อยก็ยังถือว่าแย่มากแต่ก็เป็เพราะหลินเยว่ไม่เคยผ่านการฝึกฝนอย่างเป็ระบบ
เขาศึกษามาระยะหนึ่งแล้วสามารถทำได้ขนาดนี้ก็ถือว่าหาได้ยากแล้วล่ะ
ท่านเฮ่อฉางเหอมองเส้นที่หลินเยว่ลากขึ้นมาเส้นนั้นแล้วจึงพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ขาดไป 3 มิลลิเมตร”
หลินเยว่ได้ยินเช่นนี้ก็เกิดอาการหัวใจกระตุกอย่างรุนแรงเดิมทีเขาก็คิดว่าปรมาจารย์แห่งหยกมีความสุดยอดมากอยู่แล้วแต่คาดไม่ถึงว่าท่านจะมีความสุดยอดได้ถึงขนาดนี้ ท่านสามารถตัดสินใจได้อย่างไม่คลาดเคลื่อนแม้แต่มิลลิเมตรเดียว
“ลองพูดสิว่าคุณพิจารณาอย่างไร”ท่านเฮ่อฉางเหอหันหน้าไปมองหลินเยว่
ดังนั้นหลินเยว่จึงพูดว่าเขาพิจารณาจากรอยแตกขนาดใหญ่และรอยแตกร้าวเล็กๆ อย่างไรบ้างรวมทั้งการประเมินจากดอกสน้าจนได้ข้อสรุปเป็เส้นที่ลากออกมาเส้นนี้อันที่จริงหลินเยว่ก็ยังรู้สึกข้องใจเพราะสิ่งที่ตนเองประเมินมันไม่มีตรงไหนที่ผิดพลาดเลยแต่ทว่าสุดท้ายกลับคลาดเคลื่อนไป 3 มิลลิเมตร
เมื่อท่านเฮ่อฉางเหอฟังการอธิบายของหลินเยว่จนจบท่านก็พยักหน้าอย่างพอใจพร้อมพูดขึ้น “ทำได้ไม่เลวการประเมินแบบนี้เป็การประเมินตามหลักการต่างๆซึ่งความผิดพลาดคลาดเคลื่อนของมันจะไม่ค่อยเยอะ หากเป็สถานการณ์ปกติ การประเมินเช่นนี้ก็ถือว่าใช่ได้แล้วแต่ทว่าหินหยกก้อนนี้กลับไม่ใช่หินหยกแบบปกติทั่วๆ ไปคุณพิจารณารอยแตกขนาดใหญ่นี้ก็ไม่ได้เกิดความผิดพลาด การพิจารณาตรงดอกสนก็ไม่ได้ผิดพลาดแต่ผิดตรงที่รอยแตกร้าวเล็กๆ พวกนี้ คุณสังเกตแค่รอยลึกของพวกมันเท่านั้นแต่ไม่ได้สังเกตทิศทางของพวกมันใช่ไหมล่ะ?”
หลินเยว่พยักหน้ารับเพราะเขาไม่ได้สนใจทิศทางของรอยแตกร้าวเล็กๆ พวกนี้เลยคำพูดของท่านเฮ่อฉางเหอจึงเป็การเตือนสติของเขา เขารีบมองไปยังรอยแตกร้าวเล็กๆเ่าั้ทิศทางของรอยแตกร้าวส่วนที่เข้าใกล้รอยแตกขนาดใหญ่จะขยายเข้าไปทางด้านรอยแตกขนาดใหญ่แต่ส่วนที่อยู่ไกลๆ นั้นกลับมีทิศทางขยายไปในทางตรงกันข้าม
หรือว่าปัญหาจะเกิดจากทิศทางที่ขยายออกไปในทางตรงกันข้ามนี้ล่ะ?
ขณะที่หลินเยว่กำลังสงสัยนั้นท่านเฮ่อฉางเหอจึงพูดคำตอบออกมา “คุณดูรอยแตกด้านนอกเหล่านี้สิมันขยายออกไปในทิศตรงกันข้ามกับรอยแตกขนาดใหญ่จึงเป็การบอกว่าก้อนหยกด้านในต้องมีขนาดไม่เล็ก อีกทั้งเรายังไม่สามารถเห็นหยกจากรอยแตกเล็กๆด้านนอกพวกนี้ คุณดูรอยเล็กๆ เส้นนี้สิ”
หลินเยว่มองไปตามนิ้วมือที่ท่านเฮ่อฉางเหอชี้เขาจึงเห็นรอยแตกร้าวเล็กๆ เส้นหนึ่ง รอยร้าวไม่ใหญ่ แต่ค่อนข้างลึกด้านนอกไม่ปรากฏรอยแตก แต่ด้านในกลับมีรอยร้าวขยายลึกเข้าไป แต่ก็ไม่ได้ลึกมาก เพราะลึกเพียง2 มิลลิเมตรเท่านั้น
นี่ก็ยังไม่ถึง 3 มิลลิเมตรเลยนี่นา?
หลินเยว่ข้องใจจริงๆเขายอมรับว่าตนเองไม่ได้สังเกตเห็นรอยขยายจากรอยร้าวเล็กๆ เส้นนี้แต่หากเขาสังเกตเห็นแล้ว เขาก็ต้องลากเส้นที่ขยับออกไปด้านนอกอีก 2 มิลลิเมตรเท่านั้นอย่างแน่นอน
เมื่อเห็นสายตาสงสัยของหลินเยว่ท่านเฮ่อฉางเหอจึงอธิบายต่อ “การลากเส้นไม่ใช่ว่าคุณเห็นถึงตรงไหนก็ลากเส้นถึงแค่ตรงนั้นเพราะส่วนมากแล้วก้อนหยกด้านในมักจะถูกหินที่มีความแข็งแกร่งด้านนอกปกป้องเอาไว้อยู่จึงทำให้ไม่ได้เกิดการแตกร้าวได้ง่ายๆ ถึงแม้ว่าหินหยกก้อนนี้จะแตกร้าวได้ง่ายแต่ทว่าเมื่อถึงตรงจุดที่มีรอยร้าวเล็กๆ ตรงนี้แล้วตัวหินกลับกลายเป็สภาพหินที่มีความหนาขึ้นดังนั้น จึงไม่มีทางเกิดรอยร้าวทั้งหมด และเมื่อพิจารณาจากดอกสนพวกนี้แล้วจึงจำเป็ต้องขยายออกไปทางด้านนอกเพิ่มอีก 1 มิลลิเมตร”
เมื่อได้ยินคำอธิบายของท่านเฮ่อฉางเหอแล้วหลินเยว่จึงเกิดความรู้สึกนับถือจากใจจริงในขณะเดียวกันเขาก็รู้ถึงข้อบกพร่องของตนเอง นั่นก็คือเขามีความละเอียดรอบคอบไม่เพียงพอ อีกทั้งยังมีประสบการณ์ไม่หลากหลายไม่รู้ว่าอะไรควรให้ความสำคัญอะไรไม่ควรให้ความสำคัญ
ครั้งนี้ หลินเยว่รู้สึกยอมรับนับถือแล้วจริงๆเขารู้สึกเลื่อมใสศรัทธาถึงความเก่งกาจสุดยอดของปรมาจารย์แห่งหยก
“ตอนนี้คุณคงรู้ถึงจุดอ่อนของตัวเองแล้วใช่ไหมล่ะคุณยังต้องฝึกฝนอีกเยอะ” ท่านเฮ่อฉางเหอพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “หากมีโอกาสอาจารย์จะสอนคุณเอง”
ขณะที่พูดท่านก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปยังโต๊ะชาของตนเอง
หลินเยว่ได้ยินเช่นนี้จึงรู้สึกดีใจมากเขามีโอกาสเรียนการพนันหินหยกจากปรมาจารย์แห่งหยกนี่เป็สิ่งที่คนตั้งมากมายไม่กล้าใฝ่ฝัน ดังนั้นเขาจึงรีบะโไปทางเื้ัของท่านเฮ่อฉางเหอ “ขอบคุณครับอาจารย์!”
“เลิกพูดไร้สาระได้แล้ว ตัดหินหยกเถอะ”
ท่านเฮ่อฉางเหอไม่ได้หันหน้ากลับมา แต่ท่านโบกไม้โบกมือให้กับทางด้านหลังแล้วพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
หลินเยว่พยายามกดความรู้สึกตื่นเต้นของตัวเองลงไปหลังจากนั้นเขาจึงลากเส้นลงบนหินหยกขึ้นมาอีกหนึ่งเส้นซึ่งเป็เส้นที่เลื่อนออกมาทางด้านนอกอีก 3 มิลลิเมตร และเส้นเส้นนี้ก็มีความถูกต้องแม่นยำมากที่สุด
หลังจากลากเส้นแล้ว หลินเยว่จึงหันไปปรับตำแหน่งใบเลื่อยของเครื่องตัดหินหยกแต่เนื่องจากก่อนที่หลินเยว่จะมาถึง หินหยกก็ได้ถูกยกมาวางใต้เครื่องตัดเรียบร้อยแล้วอีกทั้งดูเหมือนว่าจะตั้งใจวางหินหยกไว้ตรงตำแหน่งที่เส้นที่ลากอย่างถูกต้องจะอยู่ด้านใต้ใบเลื่อยพอดีดังนั้น เขาจึงปรับเพียงเล็กน้อยก็เสร็จเรียบร้อย
หลินเยว่เปิดสวิตช์เครื่องตัดหินหยกใบเลื่อยจึงหมุนตัวอย่างรวดเร็วแล้วค่อยๆ ตัดลงมาทางด้านล่าง
ใบเลื่อยตัดลงบนเส้นที่หลินเยว่ลากเป็ครั้งที่สองอย่างแม่นยำ
เสียงเสียดสี “ครืดๆ”ระหว่างใบเลื่อยและหินหยกดังสนั่นไปทั่วทั้งโรงงานอย่างรวดเร็ว
เนื่องจากไม่ต้องกังวลว่าจะตัดโดนก้อนหยกด้านในหลินเยว่จึงควบคุมใบเลื่อยให้ตัดลงมาอย่างรวดเร็ว เพียงไม่นานหินหยกจึงถูกผ่าแยกออกจากกัน
หลินเยว่ปิดสวิตช์เครื่องตัดหินหยกหลังจากนั้นจึงยกหินหยกก้อนหนึ่งออกไป และใช้น้ำล้างตรงรอยตัดให้สะอาด ทันใดนั้นหยกที่มีประกายสดใสจึงปรากฏขึ้นในสายตาของเขา
ถึงแม้ว่าเขาจะได้เห็นมันมาก่อนหน้านี้แล้วแต่ทว่าหลินเยว่ก็ยังรู้สึกตกตะลึงกับหยกที่มีความโปร่งใสสูงมากเช่นนี้อยู่ความโปร่งใสเป็ประกายราวกับน้ำแร่ทีเดียว แต่ก็เหมือนกับแก้วที่มีความใสไร้ตำหนิรอยตัดที่มีความเรียบสม่ำเสมอเช่นนี้จึงทำให้มองเห็นเงาของคนได้อย่างชัดเจน
หลินเยว่พยายามกดความตื่นเต้นของตัวเองลงไปแล้วเขาก็ลากเส้นขึ้นมาอีกเส้นลงบนหินหยกก้อนนี้เมื่อปรับตำแหน่งใบเลื่อยเรียบร้อยแล้ว เขาจึงเปิดสวิตช์เพื่อตัดมันอีกครั้ง
ตอนที่หลินเยว่ตัดหินหยกก้อนนี้ครั้งแรกนั้นท่านเฮ่อฉางเหอก็แค่มองมาทางเขาด้วยสายตาราบเรียบ หลังจากนั้นจึงเบนสายตาหันไปมองทางอื่นเพราะฝีมือการตัดหินหยกของหลินเยว่ถือว่าอยู่ในระดับแนวหน้า ดังนั้น ท่านจึงไม่จำเป็ต้องกังวลในจุดนี้ส่วนสภาพหยกด้านในที่แท้จริงรวมทั้งมูลค่าที่แท้จริงของมันจะเป็อย่างไรหรือสุดท้ายแล้วจะพนันได้หรือว่าพนันเจ๊ง...ท่านก็ยิ่งไม่ต้องกังวลกับสิ่งเหล่านี้เลย เพราะท่านไม่ได้เป็เ้าของหินหยกก้อนนี้การพนันได้หรือพนันเจ๊งจึงไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับท่านเลย
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้