ั้แ่ที่ซินเยว่หางานมาให้มารดาทำเพราะกลัวว่านางจะเหงา บัดนี้มารดาของตนกลายเป็แขกประจำจวนเ้าเมืองไปซะแล้ว เมื่อเห็นดังนั้นซินเยว่จึงโอกาสสอนมารดาทำอาหารเพื่อสุขภาพ เผื่อเจอลูกค้าที่อยากมีรูปร่างดี จะได้เอาอาหารเหล่านี้ไปแนะนำเพิ่ม
ส่วนตัวของซินเยว่ก็ยุ่งกับการปรับปรุงโรงเตี๊ยม และคิดหาหนทางทำเงินเพื่อเตรียมจ่ายให้กับนายช่างชางิหลังเสร็จงาน ซินเยว่คิดทบทวนไปมาก็คิดถึงวันที่เจอกับหลัวฮูหยินที่ร้านผ้า ถ้านางออกแบบชุดของสตรีให้แตกต่างกับที่สตรียุคนี้น่าจะขายดี
เมื่อคิดได้เช่นนั้นซินเยว่จึงชวนเสี่ยวหลานเดินออกจากบ้านมาเรื่อย ๆ จนเจอกับร้านผ้าขนาดกลางร้านหนึ่ง
“ยินดีต้อนรับเ้าค่ะ คุณหนูมาตัดชุดหรือเ้าคะ เชิญท่านเข้ามาด้านในก่อนเ้าค่ะ” ลูกจ้างของร้านต้อนรับพูดจาให้เกียรติลูกค้าได้ดี
“ข้าอยากจะขอพบเถ้าแก่เนี้ย รบกวนพี่สาวแจ้งนางให้ข้าได้หรือไม่เ้าคะ” มาถึงร้านผ้าซินเยว่ก็แจ้งจุดประสงค์ที่มาทันที
“เช่นนั้นคุณหนูนั่งรอสักประเดี๋ยวเ้าค่ะ ข้าจะรีบไปแจ้งเถ้าแก่ให้”
“เถ้าแก่เนี้ยเ้าคะ มีคนมาแจ้งว่าอยากจะขอพบท่านเ้าค่ะ”
“เป็ผู้ใดงั้นรึ ข้ารู้จักหรือไม่?” สตรีอายุสามสิบปลาย ๆ ถามคนงานของนางกลับ
“เป็เด็กสาวอายุประมาณสิบหนาวเ้าค่ะ”
“หืม เด็กสาวหรือ?” บุตรสาวของเถ้าแก่เนี้ยที่นั่งอยู่ข้างกันนั้น พูดขึ้นด้วยสงสัยว่าเด็กคนนั้นมาขอพบท่านแม่ของนางทำไมกัน
“อืม เ้าก็ไปเชิญนางขึ้นมาพบข้าเถอะ”
“เ้าค่ะ” รับคำสั่งแล้วนางก็รีบไปเชิญซินเยว่ทันที
“คุณหนูเถ้าแก่เนี้ยเชิญคุณหนูไปพบที่ห้องทำงานที่อยู่ชั้นบนเ้าค่ะ”
เมื่อมาถึงห้อง้าก็พบเถ้าแก่เนี้ย และหญิงสาวอีกคนหนึ่งนั่งอยู่ด้วยกัน จึงกล่าวทักทายทั้งสองด้วยท่าทีสุภาพอ่อนน้อม
“ข้าซูซินเยว่คารวะท่านป้ากับพี่สาวเ้าค่ะ” ซินเยว่เอ่ยทักทายพร้อมรอยยิ้มหวาน ๆ ไปหนึ่งที
“เ้าก็เรียกข้าว่าป้าจูเถิด ส่วนคนข้าง ๆ เป็บุตรสาวของป้าเองนางชื่ออี้หรู” เถ้าแก่เนี้ยแนะนำตัวเองและบุตรสาว
“ท่านป้าจู พี่สาวอี้หรู”
“วันนี้คุณหนูซูมาขอพบข้า ไม่ทราบว่ามีเื่อะไรให้ช่วยหรือไม่”
“ข้าได้ยินคนพูดกันว่าร้านของท่านป้าจู รับตัดเสื้อผ้าให้ลูกค้าอย่างเดียวใช่หรือไม่เ้าคะ”
“ใช่แล้วล่ะ เมื่อก่อนท่านพ่อของป้าเป็พ่อค้าผ้ารายใหญ่ แต่ระหว่างไปค้าขายเจอโจรป่าปล้นฆ่าตายไปหลายปีแล้ว พวกเราสองแม่ลูกก็ไม่มีความรู้เกี่ยวกับการค้า จึงใช้ความรู้ด้านเย็บปักมาเปิดร้านรับตัดเสื้อผ้าเท่านั้น”
“ข้าขอแสดงความเสียใจกับพวกท่านทั้งสองด้วย เพียงแต่วันนี้ที่ข้ามาพบพวกท่านเพราะมีสิ่งนี้มานำเสนอเ้าค่ะ” ซินเยว่หันไปทางเสี่ยวหลานนางจึงยื่นกระดาษสองใบที่ถืออยู่ให้กับท่านป้าจู
เมื่อท่านป้าจูและบุตรสาวได้เห็นแบบของชุดในกระดาษสองใบ ถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง พวกนางไม่เคยเห็นการออกแบบชุดที่สวยงามเช่นนี้มาก่อน แบบชุดที่เห็นนี้มีการลงสีไล่ระดับอย่างสวยงาม โดยรวมทั้งหมดหากตัดเป็ชุดสำเร็จออกมาจะต้องงดงามมากเป็แน่
“แบบชุดของสตรีสองใบนี้ข้าเป็คนคิดเองเ้าค่ะ ถ้าข้าจะเสนอให้ท่านป้าจูกับพี่อี้หรูเป็คนตัดชุดตามแบบนี้ออกมาขาย พวกท่านคิดเห็นว่าอย่างไรเ้าคะ”
พวกนางได้แต่มองหน้ากันอย่างอึ้งๆ ไปแล้ว ที่ยืนอยู่ตรงหน้าของนางตอนนี้ใช่เด็กอายุสิบหนาวจริง ๆ งั้นหรือ
“ชุดที่เ้าออกแบบมานั้นงดงามถูกใจข้ามาก เช่นนั้นเ้าจะคิดราคาเช่นไร” ทั้งคู่คิดว่าถ้าตัดชุดนี้ออกมาขายต้องขายดีแน่ ๆ
“ข้าจะทำสัญญาการค้ากับท่านป้าจู โดยในแต่ละเดือนข้าจะออกแบบให้ร้านผ้าของท่านป้าสองชุด ยกเว้นโอกาสพิเศษอย่างงานเทศกาลต่าง ๆ หรืองานแต่งงาน ข้าสามารถออกแบบเพิ่มให้ท่านได้ เื่ส่วนแบ่งข้าขอสี่ส่วนจากกำไรของร้าน แต่ว่าแบบเสื้อผ้าสองชุดในวันนี้ข้าขอขายให้ท่านแบบละห้าสิบตำลึงเงิน รวมสองแบบก็เป็หนึ่งร้อยตำลึงเงินเ้าค่ะ” แบบสองชุดวันนี้นางขอขายขาดเพราะนาง้าใช้เงินจำนวนเป็การด่วน
จูจื่อฉิงกำลังนั่งคิดทบทวนข้อเสนอของซินเยว่ หนึ่งร้อยตำลึงเงินเป็เงินเก็บเกือบทั้งหมดที่มีอยู่ในตอนนี้ กิจการของนางก็ไม่ค่อยมีมากนัก มีเพียงลูกค้าที่ชื่นชอบงานปักของนางเพียงไม่กี่คน เพราะส่วนมากมักจะไปร้านใหญ่ ๆ
ถ้านางไม่ลองเสี่ยงดูอาจจะต้องปิดกิจการเป็ได้ ขณะที่จูจื่อฉิงกำลังจะตอบรับออกมานั้น ก็มีเสียงคนมาเอะอะโวยวายอยู่ที่บริเวณหน้าร้านของนาง คนในห้องทั้งหมดจึงลงมาดูว่าเกิดเื่อันใดขึ้น
เมื่อลงมาถึงหน้าร้านคนที่โวยวายเสียงดังนั้นเป็ชุ่ยเหยา ซึ่งนางเป็ลูกพี่ลูกน้องของอี้หรูนั้นเอง
“กว่าจะโผล่หัวออกมาได้นะอี้หรู มัวทำอะไรอยู่ปล่อยให้ข้ารอตั้งนาน วันนี้ข้าจะตัดชุดใหม่รีบมาวัดตัวข้าได้แล้ว” ชุ่ยเหยาออกคำสั่งอย่างเอาแต่ใจ
“นี่ชุ่ยเหยาเ้าเพิ่งตัดชุดใหม่ไปเมื่ออาทิตย์ก่อน แล้วค่าตัดชุดที่ค้างไว้ก็ยังไม่จ่ายสักตำลึง วันนี้ยังจะให้ข้าตัดชุดใหม่ให้เ้าอีกงั้นหรือ” อี้หรูทักท้วงเื่ชุดที่ชุ่ยเหยา้า แต่เงินที่ค้างอยู่เดิมก็ยังไม่ยอมจ่าย
“อยากได้ค่าชุดเ้าก็ไปเก็บที่จวนข้าสิ”
“คิดว่าข้าไม่เคยไปเก็บเงินค่าชุดของเ้างั้นหรือ ข้าไปเก็บเงินที่จวนของเ้ามาหลายครั้งแต่ไม่เคยได้สักอีแปะ ครั้งนี้ข้าไม่มีทางตัดชุดให้เ้าหรอก” นางโดนหลอกให้ไปเก็บเงินที่จวนหลายครั้งแต่ไม่เคยได้เงินกลับมา
“นี่!! เ้ากล้าขัดคำสั่งข้างั้นเรอะ ข้าจะกลับไปฟ้องท่านย่าว่าพวกเ้าไม่ยอมตัดชุดให้ข้า”
“พวกนางไม่สามารถตัดชุดให้เ้าได้อีกต่อไปแล้ว” ซินเยว่ที่มองดูเหตุการณ์อยู่เอ่ยออกมา เพราะทนกับพฤติกรรมของชุ่ยเหยาไม่ไหว
“ทำไมพวกนางถึงตัดชุดให้ข้าไม่ได้ เ้าเป็ใครถึงได้มายุ่งเื่ของข้า”
“เพราะข้าซื้อร้านนี้ของพวกนางเรียบร้อยแล้ว ถ้าเ้าอยากได้ชุดใหม่ข้าสามารถตัดชุดให้เ้าแบบไม่คิดเงินก็ได้”
“เ้าพูดจริงงั้นหรือที่จะตัดชุดให้ข้าแบบไม่คิดเงินน่ะ”
“ข้าพูดจริงทำจริงแน่นอน ถ้าท่านจ่ายเงินที่ค้างไว้ก่อนหน้ามาให้ครบ ข้าย่อมตัดชุดให้ท่านแบบไม่คิดเงินหนึ่งชุด ตกลงหรือไม่”
‘ใครตกลงก็บ้าแล้ว จะให้ข้าจ่ายเงินค่าชุดที่ยังไม่ได้จ่ายเงินเป็สิบชุด เพื่อแลกชุดใหม่แค่ชุดเดียวฝันไปเถอะ’
“ในเมื่อพวกเ้าไม่ใช่เ้าของร้านนี้แล้วข้าก็ไม่อยู่หรอก แค่ได้กลิ่นร้านเก่า ๆ ข้าก็อยากจะอาเจียนออกมาแล้ว” นางพูดด้วยท่าทางรังเกียจที่นี่มาก
ทันใดนั้นซินเยว่ก็หันไปสบตากับเสี่ยวหลาน ทั้งสองคนพยักหน้าเป็อันรู้กันว่าต้องทำอะไร ซึ่งการกระทำของซินเยว่ก็ตกในสายตาของอี้หรูเช่นกัน
“คุณหนูท่านนี้เมื่อกี้ท่านบอกว่าอยากอาเจียนหรือเ้าคะ ตายแล้ววว หรือว่าท่านกำลังตั้งครรภ์เ้าคะ!” เสี่ยวหลานเล่นใหญ่ด้วยการะโออกมาเสียงดัง
“…??….” ชุ่ยเหยากับสาวใช้ยังทำหน้างงกับสิ่งที่เสี่ยวหลานพูด
“ตาย ๆ ๆ นี่เ้าเป็สาวใช้ประสาอะไร ปล่อยให้คุณหนูของเ้าที่กำลังตั้งครรภ์อ่อน ๆ ออกมาเดินท่ามกลางแดดร้อนเช่นนี้เล่า ถ้าเกิดคุณหนูของเ้าล้มป่วยขึ้นมาเ้ารับผิดชอบไหวรึ” เสี่ยวหลานะโเสียงดังยิ่งกว่าเดิม
“เ้าพูดบ้าอะไร!! ใครกำลังตั้งครรภ์กัน!!”
“ก็ข้าได้ยินท่านเป็คนพูดเองนี่ว่าได้กลิ่นร้านนี้ก็อยากอาเจียน คนตั้งครรภ์ก็มักจะมีอาการเช่นนี้ จริงไหมเ้าคะท่านน้าทั้งหลาย” เสี่ยวหลานหันไปถามกับแม่ค้าที่ขายของอยู่แถวนั้น แม่ค้าที่ถูกถามโดยไม่ทันตั้งตัวก็พยักหน้าตอบไปอย่างงุนงง
“อาการของท่านมันบ่งบอกออกมาเอง แต่ว่าดูจากการเกล้าผมของท่านแล้ว ท่านเป็คุณหนูในห้องหอยังไม่ได้ออกเรือนนี่เ้าคะ แย่จริง ๆ ยังไม่ออกเรือนก็ตั้งครรภ์แล้ว เช่นนี้ตระกูลของท่านไม่เสื่อมเสียแย่หรือ” เสียงของเสี่ยวหลานไม่เบาลงแม้แต่น้อย
ชุ่ยเหยาที่เห็นผู้คนชี้มือมาที่นางแล้วเริ่มซุบซิบเื่ของนาง ก็ปิดหน้าร้องไห้รีบวิ่งออกไปทันที
‘เชอะ ก็แค่คุณหนูหน้าบาง อย่าได้คิดมีเื่กับคุณหนูของนาง’
เสี่ยวหลานหันมาเปลี่ยนสีหน้าเป็ยิ้มแย้ม มองไปที่ซินเยว่เป็เชิงตั้งคำถามว่า ‘บ่าวเล่นงิ้วได้ดีใช่หรือไม่เ้าคะ คุณหนู’
