“หือ?”
ิอวี่ตะลึง เขาจะไปคิดถึงได้อย่างไรว่า เฮยจีจะไม่แม้แต่จะมองเขาเลย แต่กลับเดินไปทางโต๊ะของพวกฉินฟ่านแทน
ผู้หญิงคนนี้คิดทำอะไรอีกนะ?
ิอวี่หันไปมองทางด้านโต๊ะของฉินฟ่าน พวกฉินฟ่านเองก็เห็นเฮยจีแล้วเช่นกัน
พวกเขาแต่ละคนพลังฝีมืออยู่ที่ขอบเขตอมฤตขั้นที่สี่ พลังััล้วนแต่น่าทึ่ง เมื่อััถึงลมปราณของเฮยจี พวกเขาก็หยุดคุยกันแล้วก็หันมามองเฮยจีแทน
ถ้าไม่เห็นยังไม่เท่าไร แต่พอเห็นเท่านั้นหัวใจแทบหลุด
พวกเขาพบหญิงสาวงดงามมากมายในสายเลี่ยนเหยียน แต่วินาทีที่เห็นเฮยจี พวกเขากลับรู้สึกว่าตะลึงมาก สายตาไม่อาจละออกจากตัวของนางได้เลย
ใบหน้าราวเทพธิดา ร่างกายราวกับปีศาจ รอยยิ้มเหมือนดอกไม้แรกแย้ม ยืนอยู่ในหมู่สาวงามอย่างไรก็โดดเด่น
ฉินฟ่านประมาณพลังฝีมือของเฮยจี เขาพบว่านางมีพลังฝีมือขอบเขตอมฤตขั้นที่สองแล้ว
ถึงแม้พลังฝีมือจะอ่อนไปหน่อย แต่ด้วยหน้าตาและรูปร่างของนาง ฉินฟ่านก็จำเฮยจีได้ขึ้นใจแล้ว
ส่วนหวังฮานที่งดงามไม่แพ้กันเท่าไร พอได้เห็นเฮยจีก็ยังรู้สึกว่ากระดากใจเล็กน้อย นางหันไปมองลู่เจี้ยนที่มองอย่างเคลิบเคลิ้มก็ใช้มือหยิกไปที่เอวของเขาอย่างแรงจนลู่เจี้ยนเจ็บ จากนั้นถึงได้เก็บสายตาและรอยยิ้มกลับมา
แต่เฮยจีไม่ได้เดินเลยผ่านไป กลับไปหยุดยืนอยู่ที่โต๊ะของพวกของฉินฟ่าน แล้วก็ทำท่าทางเหมือนเขินอายนิดหน่อย
“อือ ... ไม่ทราบมีธุระอะไรกับเราหรือเปล่า?”
ฉินฟ่านถาม เขาไม่ได้รู้จักผู้หญิงคนนี้ ใครจะคิดว่านางจะเดินเข้ามาหาพวกเขาก่อนเลย
“คืออย่างนี้”
เฮยจีพูดเสียงเบาๆ “เมื่อคืนวานข้ากับเพื่อนเข้ามาซื้อของกันในเมืองสุขาวดี แต่ว่าข้ากลับเดินหลงกับนาง แล้วก็ไม่มีวิธีติดต่อหากันด้วย ตอนนี้ข้ากลุ้มใจมาก ข้าเห็นว่าความสามารถของพวกท่านไม่เลวเลยแถมยังดูเป็มิตรด้วย ก็เลยอยากหาเพื่อนร่วมทาง เพราะข้าผู้หญิงตัวคนเดียว เลยรู้สึก ... รู้สึกว่ามันอันตรายน่ะ”
ฉินฟ่านมองมาที่เฮยจีด้วยความสงสัย เพราะเขาเป็คนระวังตัวมาก จึงกังวลว่านางจะมีจุดมุ่งหมายอะไรไม่ดี
หลังจากที่คิดแล้วเขาก็พูดว่า “เ้านั่งลงก่อนนะ เพื่อนของเ้าหายตัวไปได้อย่างไร แล้วทำไมเ้าถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ?”
เฮยจีนั่งลงอย่างระวังตัว เดิมเห็นนางจากไกลๆ ก็รู้สึกว่างดงามมากแล้ว แต่พอหญิงงามแบบนี้อยู่ใกล้แค่เอื้อม ฉินฟ่านกลับรู้สึกว่าตัวเองนั้นค่อนข้างตื่นเต้น
“อือ ข้าอยากถามสักหน่อยก่อนว่า พวกท่านจะออกจากเมืองในอีกกี่วันหรือ?” เฮยจีพูด
ฉินฟ่านพูดด้วยความสงสัยว่า “หมายความว่าอย่างไร?”
“เพราะตอนนี้ข้าไม่กล้าออกจากเมืองไปคนเดียว อยากให้พวกเขาท่านพาข้าไปด้วย ทำแบบนี้ข้าก็จะรู้สึกว่าปลอดภัยขึ้นหน่อย หากแค่ไม่กี่วัน ข้าก็อยู่กับพวกท่านก่อน ่เวลานี้เื่อาหารการกินข้าจ่ายให้ แต่ถ้าพวกท่านจะอยู่เป็ครึ่งเดือนหรือว่าเดือนหนึ่งล่ะก็ ข้าเองก็คงไม่รบกวนพวกท่านแล้ว”
ระหว่างที่พูด เฮยจีก็เตรียมที่จะลุกแล้วจากไป
“เหอะๆ แม่นางนั่งลงก่อนเถอะ”
ลู่เจี้ยนกดไหล่ของเฮยจีงลง แต่หลังจากนั้นเขาก็ััถึงสายตาที่เ็าของหวังฮาน เขาเลยเก็บมือกลับมาอย่างรวดเร็ว
“อือ ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรนะ”
ฉินฟ่านเห็นว่าท่าทีของเฮยจีนั้นค่อนข้างจริงใจ แล้วนางมีความสามารถแค่ขอบเขตอมฤตขั้นที่สองเท่านั้น ไม่ได้มีอันตรายอะไรมาถึงพวกเขาได้ อีกอย่าง ต่อให้เฮยจีจะถูกใครส่งมาจริง พวกเขาก็แค่ไม่พูดเื่ช่วยเหลือสาวเผ่าิญญาต่อหน้าเฮยจีก็พอ
ในเมื่อไม่ได้เผยภารกิจออกไปให้ได้รู้ นางเองก็ทำอันตรายอะไรพวกเขาไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นการมีสาวงามขนาดนี้อยู่เคียงข้าง ก็คือว่าเป็เื่ที่ดีไม่ใช่หรือ?
พอคิดได้แบบนี้ฉินฟ่านก็วางใจ เขาพูดต่อว่า “อีกสองสามวันเราก็ไปแล้ว แต่เมื่อไหร่วันไหนยังไม่แน่ พวกเราเองก็มาเที่ยวกัน ไว้อีกสองสามวันเราก็ออกจากเมืองไปพร้อมกันก็ได้”
คำตอบของฉินฟ่านค่อนข้างคลุมเครือ แต่ก็เป็คำตอบที่ฉลาด เขาไม่ได้หลุดอะไรให้เฮยจีรู้เลย จะกลับเวลาไหนก็ไม่ได้พูด เพราะเขากลัวเฮยจีจะเดาออกว่าพวกเขาจะทำภารกิจเมื่อไหร่
“จริงหรือ? ขอบคุณพวกท่านมากเลย ข้าชื่อ ... เยวี่ยเย่ ยินดีที่ได้รู้จักนะ”
เฮยจียิ้ม ยิ้มนี้มันออกมาจากใจของนางเลย ในที่สุดนางก็จะมีเพื่อนเล่นแล้ว เห็นฉินฟ่านดูสุขุม คิดว่าน่าจะเป็ผู้ชายที่มีเสน่ห์พอควร
“ที่แท้คือแม่นางเยวี่ยเอ๋อร์นี่เอง ไม่เป็ไร เ้าอยากจะกินอะไรไหม ตามสบายเลยนะ ข้าเลี้ยงเอง”
ฉินฟ่านยิ้มอ่อนโยนมาก “ข้าขอแนะนำตัวก่อนนะ ข้าชื่อฉินฟ่าน ส่วนสองคนนี้ลู่เจี้ยนกับหวังฮาน พวกเขาเป็คู่รักกัน เป็ศิษย์น้องของข้าเอง”
“สวัสดี”
ลู่เจี้ยนยิ้มด้วยท่าทางที่หล่อที่สุด ส่วนหวังฮานก็พยายามฝืนยิ้ม แต่มารยาทที่ควรมีนางก็ทำหมด
ลางสังหรณ์ของผู้หญิงนั้นรุนแรงเสมอ หวังฮานรู้สึกว่าเยวี่ยเย่ไม่ได้มีแผนร้าย สายตาของนางเรียบง่าย ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน นั่นหมายความว่านางไม่ได้เป็ผู้หญิงที่มีแผนการ เพียงแต่ความงามของนาง มันทำให้หวังฮานไม่ค่อยสบายใจนิดหน่อย
ช่างเถอะ อดทนแค่สองสามวัน ในเมื่อนางมาขอความช่วยเหลือ ช่วยนางสักหน่อยก็ไม่เป็ไร
อีกทั้งพอเห็นสายตาของฉินฟ่านที่ไม่ละสายตาจากเฮยจีเลย หวังฮานก็รู้ว่าเขานั้นน่าจะเริ่มสนใจเฮยจีไม่มากก็น้อย
สามารถทำให้มือสังหารสตรีหวั่นไหวได้ เยวี่ยเย่คนนี้ก็ถือว่ามีฝีมือพอตัว
การปรากฏตัวของเฮยจีมันดึงดูดสายตาใครต่อหลายคนมาก ทุกคนอดไม่ได้ที่จะต้องหันมามองผู้หญิงที่งดงามนางนี้ และยังแอบชื่นชมกันในใจ
ในเวลานี้เอง ิอวี่นั้นเริ่มทนไม่ไหวแล้ว เขาเดินไปที่โต๊ะของฉินฟ่านแล้วนั่งข้างๆ เฮยจี
“ใครอนุญาตให้เ้านั่งลง?” ลู่เจี้ยนเห็นหน้าิอวี่ก็รู้สึกหงุดหงิด อีกอย่าง ิอวี่ก็มานั่งแทรกกลางระหว่างเขากับแม่นางเยวี่ยด้วย มันยิ่งทำให้เขาไม่สบอารมณ์
ิอวี่กลับส่ายหน้าแล้วพูดกับเฮยจีว่า “เฮยจี เ้าเป็อะไรไป เยวี่ยเย่อะไรกัน นี่เ้าคิดจะทำอะไรกันแน่?”
พูดตามตรง ิอวี่คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าเฮยจีจะทำแบบนี้
เดิมิอวี่คิดว่าที่เฮยจีบอกจะออกมาเที่ยวเล่นคือการออกมาอยู่กับเขาในฐานะเพื่อน ใครจะไปคิดว่านางจะเปลี่ยนสถานะ แล้วไปเข้าหาพวกฉินฟ่านแทน เขาไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเฮยจีทำแบบนี้ทำไม
“เ้าพูดอะไรของเ้า เฮยจีอะไรกัน? ข้าชื่อเยวี่ยเย่นะ”
เฮยจีขมวดคิ้ว กะพริบตาดวงโตๆ ทำท่าทางสงสัยแล้วมองไปที่ิอวี่
หน้าตาของนางเดิมก็สวยน่ารักมากอยู่แล้ว แต่ิอวี่มองแล้วกลับรู้สึกว่าโมโหนิดๆ เขาขยับไปกระซิบข้างหูเฮยจีแล้วพูดว่า “คนสวย เล่นใหญ่ทำเป็ไม่รู้จักข้าแบบนี้ เ้าคิดจะทำอะไร ... ”
“ใครเป็คนสวยของเ้ากัน?”
เฮยจีขยับหน้าหนี ขมวดคิ้วและจ้องมาที่ิอวี่
ฉินฟ่านที่อยู่ข้างๆ ก็ลุกขึ้นทันที เขาใช้นิ้วชี้ไปที่ิอวี่ ดวงตาค่อนข้างเ็าแล้วพูดว่า “ถึงแม้เ้าจะเป็ศิษย์น้องของข้า แต่เ้าพูดจาอะไรให้มันมีมารยาทหน่อยนะ”
ฉินฟ่านคิดไม่ถึงเลยว่า ิอวี่จะใช้วิธีแสร้งทำเป็รู้จักคนอื่นแบบนี้ออกมา
“เหอะๆ ”
ิอวี่หมดคำพูด คิดว่าเดี๋ยวเฮยจีก็คงจะกลับไปอยู่ในหยกโบราณของเขาแล้ว ก็เลยไม่ได้พูดอะไรต่อ ทำได้แค่เดินออกจากห้องอาหารไปคนเดียวด้วยความโมโห ตอนนี้เขาไม่มีแม้แต่อารมณ์จะกินอะไรอีกแล้ว
เห็นิอวี่โกรธ ในดวงตาของเฮยจีเหมือนจะมีรอยยิ้มขึ้นมา
ใครบอกให้เ้าทำให้ข้าโกรธกันล่ะ คราวนี้ตาเ้าบ้างล่ะ ฮึ!
อีกอย่าง ชายที่ชื่อฉินฟ่านนี่ก็หล่อแล้วก็สุขุมดี รู้จักมากขึ้นกว่านี้ก็ไม่เป็ไร
......
ิอวี่กลับมาที่ห้องของตัวเอง แล้วก็นอนเหม่อคิดอะไรคนเดียวบนเตียง เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมอารมณ์ของเขาถึงได้แปรปรวนขนาดนี้ อาจเป็เพราะเขากำลังรู้สึกว่าโดนแกล้งหรือเปล่านะ?
เป็อยู่อย่างนี้ประมาณหนึ่งชั่วยามกว่า ิอวี่ก็ััได้ว่าเฮยจีกลับมาถึงห้องชุดที่อยู่ติดกับเขาแล้ว
ิอวี่รีบลุกออกจากเตียงแล้วเดินไปที่หน้าห้องข้างๆ เขาเคาะประตูอยู่หลายครั้ง เรียกเฮยจีออกมา
“อะไรอะไร?” เฮยจียืนกอดอก แล้วมองไปที่ิอวี่ด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“เ้าคิดจะทำอะไร?” ิอวี่ถาม
เฮยจีเบะปาก “เ้าจะดุขนาดนั้นทำไม? ถ้าเ้าพูดดังกว่านี้ ข้าจะไปฟ้องท่านพี่ฉินฟ่านให้เขาช่วยข้าจัดการกับคนบ้ากามอย่างเ้า”
“โอ้โห”
ิอวี่ยิ้ม แต่เป็เพราะโกรธมากเลยยิ้ม เขาชี้ไปที่เพดานแล้วพูดว่า “เรียกฉินฟ่านว่าท่านพี่เร็วขนาดนี้เลยหรือ? ดูท่าความสัมพันธ์ของพวกเ้าพัฒนาได้เร็วดีนี่ เ้าบ้ากามอย่างข้าควรจะปรบมือร่วมฉลองให้กับพวกเ้าด้วยไหม”
ตอนนี้ิอวี่รู้สึกโกรธมากจริงๆ เขาคิดไม่ถึงเลยว่าเฮยจีจะเอาแต่ใจมากขนาดนี้ ครั้งแรกหนีออกมาจากหยกโบราณ จากนั้นก็แกล้งทำเป็ไม่รู้จักเขาแล้วไปเข้าหาสนิทสนมกับฉินฟ่าน ทำให้ิอวี่รู้สึกว่าความเชื่อมั่นในฐานะเพื่อนระหว่างเขากับเฮยจีมันไม่เหลือแล้ว
“อะไรกัน ข้าแค่อยากจะรู้จักกับเขาสักหน่อยไม่ได้หรือไง?”
“แล้วทำไมต้องไปหลอกพวกเขาว่าเ้าคือแม่นางเยวี่ยเย่ด้วย”
“หากพวกเขารู้ว่าข้ารู้จักกับเ้า พวกเขาก็จะมองข้าด้วยสายตาแปลกๆ ดังนั้นถึงได้ทำแบบนี้ อีกอย่าง ข้ารู้สึกว่าท่านพี่ฉินฟ่านก็ไม่เลวจริงๆ หน้าตาดี พลังฝีมือก็สูง แล้วก็ดูเป็ผู้ใหญ่ด้วย อยู่ด้วยแล้วรู้สึกอุ่นใจ จริงสิ เ้าคิดว่าเราสองคนเหมาะกันไหม?” เฮยจีกะพริบตาแล้วถาม
“เหอะ”
ิอวี่พูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “เหมาะสมไหมข้าไม่รู้ ข้าแค่รู้สึกว่าเ้าไม่ได้เห็นข้าเป็เพื่อน หลายเื่เ้ากลับทำมันโดยไม่ปรึกษาข้าก่อน”
“เราไม่ได้เป็คู่รักกันสักหน่อย ทำไมข้าต้องขอความเห็นจากเ้าก่อนด้วยล่ะ? ก็เหมือนกับที่เ้าจะทำอะไรกับเิหยูเยียน ข้าเองก็ไม่เคยยุ่งเลย” เฮยจียักไหล่พูด
“ทำไมเ้าต้องโยงทุกอย่างไปที่นางด้วย ... ”
ิอวี่จนใจ
“ข้าก็แค่ยกตัวอย่างเท่านั้นเอง”
พูดไปพูดมา ดวงตาของเฮยจีก็เปล่งประกายด้วยความรอคอยอย่างตื่นเต้นขึ้นมาว่า “ไม่สนล่ะ คืนนี้ข้ามีนัดจะไปเดินเล่นผ่อนคลายกับท่านพี่ฉินฟ่าน แล้วก็ไปแวะเล่นพนันกันที่บ่อน ต้องสนุกมากแน่ อิอิ ... ”
เดิมทีเฮยจีนั้นก็เป็คนสนใจเื่แปลกใหม่อยู่แล้ว เช่น ทอยลูกเต๋าแทงสูงต่ำ เล่นไพ่ตอง เล่นไพ่นกกระจอก ในความทรงจำของนางเหมือนว่าจะไม่เคยเล่นมาก่อนเลย
ถึงแม้พวกเขาจะเป็ผู้กล้าฝึกยุทธ์ ปกติเอาแต่เน้นการฝึกเป็หลัก แต่เพราะฝึกแบบเดิมทุกวันมันน่าเบื่อเกินไป ออกไปเล่นอะไรพวกนี้บ้างนิดหน่อยก็เพื่อความบันเทิงผ่อนคลาย เล่นไม่เก่งก็ไม่เป็ไร
“แค่สองคนหรือ?” เสียงิอวี่สูงขึ้น
“ก็ใช่น่ะสิ”
เฮยจีมองบน นางกลอกตาแล้วก็ส่ายหน้า “ช่างเถอะ เดิมคิดว่าในฐานะที่เ้าเป็เพื่อนของข้า จะลองถามเ้าดูว่าคืนนี้ข้าควรแต่งตัวอย่างไรดี แต่ดูเ้าซื่อๆ เซ่อๆ แบบนี้คงไม่รู้เื่หรอก ข้าคิดเองคนเดียวดีกว่า”
พูดจบก็ปิดประตูใส่หน้าิอวี่ แล้วนั่งหน้ากระจกและเริ่มแต่งตัว
