สีโลหิตแห่งความคับข้องระบายไปทั่วใบหน้าของเฉินิ แต่เ้าตัวก็ไม่ถอดใจ ยังคงดิ้นรนขัดขืนสุดฤทธิ์ แต่มิว่าจะทำอย่างไร ถังชิงหรูก็มีวิธีควบคุมเขาได้ตลอด
ยามเข็มเงินเล่มยาวกำลังจะฝังลงไป เขาก็ร้องจ๊ากเสียงดังลั่น
ถังชิงหรูจ้องปริบๆ อย่างไร้พิษสง แกว่งเข็มในมือไปมากล่าวว่า "จะร้องอันใดนักหนา ทำราวกับถูกขืนใจอย่างนั้นล่ะ ข้ายังไม่ทันฝังเข้าไปเสียหน่อย"
เฉินิทำสีหน้าประหลาด เอ่ยด้วยความขุ่นเคือง "เ้าเป็หญิงจริงหรือเปล่าเนี่ย วาจาแบบนี้ยังกล้าเอ่ยออกจากปาก"
เฉินรุ่ยอยากขำแต่ไม่กล้าหัวเราะ ชิ่งอ๋องผู้ไม่เคยกลัวเกรงฟ้าดิน แม้กระทั่งต่อหน้าเขายังกล้างี่เง่าอย่างไร้เหตุผลก็มีคนที่ตนเองหวาดกลัวเหมือนกัน ดูเอาเถอะ จะถูกสตรีจับกินอยู่รอมร่อ ยังไม่เห็นจะเอาชนะได้แม้แต่ส่วนเสี้ยว
แต่จะว่าไป... สตรีนางนี้ก็มีพร์อย่างน่าอัศจรรย์ใจยิ่งนัก เห็นอยู่ว่าเป็หญิงสาวบอบบาง แต่กลับมีพลังกร้าวแกร่ง ดูท่าทางของนางสิ ราวกับผู้เยี่ยมยุทธ์ซึ่งเร้นกายไม่เปิดเผยตัวตนก็มิปาน หรือว่านางจะเป็จอมยุทธ์หญิงคนไหนสักคนในยุทธภพ มีเพียงยอดหญิงในยุทธจักรถึงจะมีท่วงท่าห้าวหาญไม่กระมิดกระเมี้ยนเช่นสตรีทั่วไป
ถังชิงหรูยิ้มน้อยๆ เอ่ยว่า "คนที่กรีดร้องอย่างกับผู้หญิงคือท่าน ไม่ใช่ข้า แล้วมีสิ่งใดที่ข้าต้องไม่กล้าพูด ทว่าน้ำเสียงของชิ่งอ๋องช่างรื่นหูยิ่งนัก มิน่าเล่าสตรีมากมายเ่าั้ถึงยินดีโถมเข้าสู่อ้อมอก ท่านลองร้องให้ข้าฟังอีกสักสองสามหนสิ ไม่แน่ว่าข้าฟังแล้วอาจอารมณ์ดี ไม่ใช้เข็มยาวเหล่านี้กับท่านก็ได้"
"ไร้ยางอาย" เฉินิหน้าแดงก่ำ "เ้าเป็สตรีหรือไม่กันแน่"
"ข้าจะใช่สตรีหรือไม่ ท่านอ๋องอย่าใส่ใจมากเลยหรือ ถ้าหากท่านอยากรู้ ก็คงต้อง..." ถังชิงหรูโน้มตัวเข้าไปกระซิบข้างหู "ให้ความสามารถของบางส่วนใช้ได้ก่อน"
"จะ...เ้า..." เฉินิดวงตาแข็งกร้าว คว้าตัวถังชิงหรูมากอด แล้วกัดไปบนลำคอระหงอย่างแรง "เปิ่นหวางจะกัดสตรีร้ายกาจอย่างเ้าให้ตายไปเลย"
ถังชิงหรูนึกไม่ถึงว่าเฉินิจะทำเื่แบบนี้ นางจะไปรู้ได้อย่างไรว่ายามท่านอ๋องถูกบีบคั้นหนักเข้าจะถึงขั้นกัดผู้อื่น
"โอ๊ย..." นางร้องลั่น พยายามผลักเฉินิออกไป "ท่านกลายเป็สุนัขไปแล้วหรือไงเนี่ย"
เฉินรุ่ยยืนพิงต้นไม้ มองดูคู่กัดสองคนฟัดกันนัวอยู่ตรงนั้น ใบหน้าของเขาเผยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความจนใจ
เฉิงิอัดอั้นมานาน ในที่สุดก็สบโอกาสเอาคืนบ้าง คิดในใจว่า ที่แท้ผู้หญิงคนนี้ก็รู้จักกลัวเป็เหมือนกัน หากคราวหน้ายังกล้ายั่วโมโหตนเองอีก รับรองโดนกัดอีกแน่ วิธีจัดการกับนางั์ใจทมิฬแบบนี้จะใช้ความอ่อนโยนมิได้เป็อันขาด เมื่อนางไม่ไว้หน้าเขา ก็อย่าหวังจะได้อยู่เป็สุขเลย
"ไหนบอกว่าห้ามสตรีเข้าใกล้ ห้ามสตรีปรนนิบัติรับใช้อย่างไรเล่า ถ้าเป็จริงดังว่า แล้วทำไมถึงยังมากัดข้าอีก สุภาพบุรุษจอมปลอม!" ถังชิงหรูถูกกัด เจ็บจนน้ำตาไหล กล่าวว่า "พ่อบ้านหลินยังบอกว่าแค่สตรีเข้าใกล้ ท่านก็ล้มป่วยแล้ว แต่ตอนนี้ไหนเล่าโรคที่ว่า โรคพิษสุนัขบ้างั้นรึ"
เฉินิยืนตะลึงอยู่ตรงนั้น แววตาทึ่มทื่อแฝงไปด้วยความคาดไม่ถึง เขาลูบริมฝีปากของตนเอง จ้องนางพลางถามว่า "ข้ากัดเ้าหรือ"
ถังชิงหรูแค่นเสียงหึ "ตอนนี้จะมาแกล้งโง่อันใดอีกเล่า หรือว่าคนที่เพิ่งกัดข้าเมื่อครู่นี้มิใช่ท่าน เสแสร้งได้เหมือนจริงเสียเหลือเกิน"
เฉินิมองเฉินรุ่ยที่อยู่ด้านข้าง "ท่านพี่..."
เฉินรุ่ยมองถังชิงหรูอย่างพินิจ ทันใดนั้นก็หันไปสั่งองครักษ์เงา "พาสาวใช้เข้ามาสองคน"
เงาของคนผู้หนึ่งปรากฏตัวจากที่ลับ ชั่วพริบตาเดียวก็หายไปต่อหน้าต่อตา หลังจากกะพริบตาอีกครั้ง เขาก็กลับมาปรากฏตัวอีกพร้อมกับหิ้วสาวใช้มาด้วยสองคน
สาวใช้สองคนนั้นต่างขวัญหนีดีฝ่อสั่นไปทั้งตัว พวกนางทรุดกายคุกเข่าลงที่พื้น ราวกับสองขาอ่อนแรงอย่างไรอย่างนั้น
"ท่านอ๋อง..." สาวใช้ตัวสั่นงันงก เอ่ยถ้อยคำวิงวอน "โปรดไว้ชีวิตด้วย..."
เฉินิเดินเข้าไปหาสาวใช้สองคนนั้น แล้วเอื้อมมือออกไป ขณะกำลังจะััตัวของพวกนาง มือทั้งสองก็สั่นระริก เขาหดมือกลับ สั่นศีรษะพลางเอ่ยว่า "ไม่ได้ ข้าทำไม่ได้"
ถังชิงหรูมองชายหนุ่มด้วยความคลางแคลง กล่าวกระทบกระเทียบ "จะสำออยอันใดนักหนา"
เฉินรุ่ยซึ่งอยู่ด้านข้างรีบอธิบายให้ฟัง "แม่นางอาจยังไม่ทราบ น้องชายข้าคนนี้ไม่กล้าแตะต้องสตรีมาหลายปีแล้ว แค่มีสตรีใดแตะต้องตัวเขา หรือบังเอิญเขาไปััถูกสตรีใดโดยมิได้เจตนา เป็ต้องมีผื่นแดงคันคะเยอไปทั้งตัว"
ถังชิงหรูมิเคยได้ยินโรคแบบนี้มาก่อน นางยังอดอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาไม่ได้
"จริงหรือ?" นางหันมามองท่าทางเก้ๆ กังๆ ของเฉินิ "ท่านลองแตะพวกนางดูสิ"
เฉินิถลึงตากลับมา "เปิ่นหวางไม่ได้โง่สักหน่อย"
"เมื่อครู่นี้ยังกัดข้าอยู่เลย...." ถังชิงหรูเตือนสติท่านอ๋องขี้ลืมบางคน "ท่านกัดข้าไม่นับว่าเป็การััหรือไร ตอนนี้จะมีปัญหาอันใดเล่า"
เฉินิลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยอย่างมั่นใจ "ใช่ ข้ากัดเ้าเองแหละ แล้วจะทำไม"
"นั่นก็หมายความว่าได้ว่าโรคของท่านหายดีแล้ว ดังนั้นก็ลองดูอีกทีสิ..." ถังชิงหรูกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เฉินิยังรีๆ รอๆ ไม่กล้าตัดสินใจ รสชาติของการคันคะเยอแบบนั้นสุดแสนจะทรมาน เขาไม่อยากเผชิญหน้ากับมันอีก แต่บางทีอาจจะหายแล้วก็ได้ ถ้าหากหายดีแล้ว ก็ไม่ต้องคอยระแวดระวังบรรดาสตรีอีกต่อไป ที่ตนเองต้องกลายเป็แบบนี้ ไม่กล้าแม้กระทั่งออกไปนอกจวน ก็เพราะกลัวว่าจะไปััถูกสตรีบ้าคลั่งเ่าั้
เฉินิคิดแล้วคิดอีก ก่อนกัดฟันเอื้อมมือไปคว้าตัวหนึ่งในสาวใช้สองคนนั้น แค่ปลายนิ้วของเขาััถูกเส้นผมของนาง มือของเขาก็เกิดตุ่มแดงจำนวนมากผุดขึ้นมาทันใด
ถังชิงหรูเห็นภาพฉากนี้ด้วยตาของตนเอง ดวงเนตรคู่งามเบิกกว้าง เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น "ไม่นึกว่าจะมีเื่แบบนี้จริงๆ ด้วย"
เฉินิเกามือของตนเอง บอกกับองครักษ์เงา "พาพวกนางออกไป"
องครักษ์รีบพาหญิงสาวสองคนนั้นออกไปโดยเร็ว หากช้ากว่านั้นอีกก้าว ท่านอ๋องของพวกตนคงยกระดับการคาดโทษรุนแรงขึ้นไปอีกขั้นเป็แน่
"น้องิ" ิรุ่ยมองน้องชายตนเองด้วยสีหน้าเป็กังวล ตุ่มแดงจำนวนมากเห่อขึ้นเต็มตัวของเฉินิภายในระยะเวลาสั้นๆ ไม่เพียงแต่ที่แขน ยังลามไปดึงใบหน้า
เฉินิคันจนแทบไม่ไหว เขากอดแขนของตนเองไว้ หันไปตะคอกใส่ถังชิงหรู "ต้องโทษหญิงอย่างเ้าคนเดียว หากไม่เพราะเ้า เปิ่นหวางก็คงไม่... รีบเอายามาให้ข้าเลยนะ"
เดิมทีถังชิงหรูก็คิดจะรักษาให้อยู่ แต่พอเห็นเขาพูดจาตวาดตะคอกแบบนี้ ก็รู้สึกไม่พอใจอย่างมาก แค่นเสียงเอ่ยว่า "ข้ารักษาไม่ได้ ท่านไปหาผู้สูงส่งท่านอื่นเอาเองเถอะ" ขณะที่นางกำลังจะไป เฉินรุ่ยก็เอื้อมมือมารั้งนางไว้ พลางเอ่ยกับนางด้วยความจริงใจ
"แม่นาง น้องิค่อนข้างดื้อรั้นเอาแต่ใจ พูดจาไม่น่าฟังนัก หากล่วงเกินสิ่งใดไป ก็ขอแม่นางอย่าถือโทษโกรธเคือง ท่านเป็หมอ ทั้งยังมีจิตเมตตาถึงเพียงนี้ย่อมทราบว่าคนที่กำลังเจ็บป่วยบางคราก็มิอาจควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ ตอนเด็กๆ น้องชายข้าคนนี้ทั้งน่ารักและเชื่อฟังมาก ต่อมาก็มักล้มป่วยอยู่บ่อยๆ การเจ็บป่วยแต่ละครั้งก็แตกต่างกัน นานวันเข้า อารมณ์ก็ยิ่งรุนแรงขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ บางครั้งเขาควบคุมตนเองมิได้ด้วยซ้ำ ดังนั้นแม่นางอย่าได้ถือสาเขาเลยได้หรือไม่"
ถังชิงหรูชอบไม้นวมไม่ชอบไม่แข็ง หากเฉินรุ่ยมีนิสัยเหมือนกับเฉินิ วันนี้นางก็คงเชิดหน้าจากไปโดยไม่หวนกลับมาอีกเลย แม้คนผู้นี้จะมีสถานะเป็ท่านอ๋องลำดับสูงสุด ทว่าแต่ไรมานางก็ไม่เคยก้มหน้ายอมจำนนให้แก่ผู้ใด เฉินรุ่ยเอ่ยกับนางด้วยความจริงใจขนาดนี้ หากตนเองคิดจะเล่นแง่อีกก็คงไม่งาม
นางหันไปพูดกับเฉินิ "เห็นแก่หน้าพี่ชายท่าน วันนี้ข้าจะไม่คิดเล็กคิดน้อยก็ได้ แต่อาการของท่านค่อนข้างรุนแรง พวกเราเข้าไปในห้องจะดีกว่า"
ถังชิงหรูไม่เคยพบเจอกับโรคประหลาดเช่นนี้มาก่อน ต้องค่อยๆ ตรวจอย่างละเอียด เฉินรุ่ยประคองเฉินิไปนอนบนเตียง ถังเชิงหรูจับชีพจรให้เขา พลางเอ่ยถามอย่างนึกกังขา "ดูจากชีพจรแล้ว ร่างกายของท่านตอนนี้แข็งแรงมาก ไม่รู้ว่าเื่พรรค์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไร เมื่อครู่ยังกัดข้าอยู่ชัดๆ ไม่เห็นจะมีปัญหา ไฉนแค่แตะถูกเส้นผมของสาวใช้คนนั้น กลับกลายเป็เช่นนี้"
"ั้แ่ปีกลายเป็ต้นมา น้องิก็ไม่อาจอยู่ร่วมกับสตรี เพียงแค่แตะต้องถูกผิวของพวกนาง ก็จะมีปฏิกิริยาเช่นนี้ มีครั้งหนึ่งแค่แตะต้องถูกผ้าเช็ดหน้าของน้องสาวตนเอง ก็เกิดอาการแบบนี้ขึ้นแล้ว บางครั้งอาการรุนแรงมากถึงขั้นชักเกร็งไปทั้งตัว พวกเราเชิญหมอมามากมาย ก็ไม่มีผู้ใดสามารถรักษาให้หายขาด ดังนั้นจึงต้องกีดกันสตรีมิให้เข้าใกล้ แต่ถึงกระนั้น ในสายตาของสตรีที่ไม่รู้เื่ราวเ่าั้ น้องิคือตัวเลือกสามีที่สมบูรณ์พร้อมในใจของพวกนาง แต่ละคนจึงทำตัวเหมือนหมาป่าหิวกระหายคอยไล่ตะครุบเหยื่อ แม้ว่าน้องชายข้าจะปฏิเสธนับครั้งไม่ถ้วน ก็ยังไม่อาจขัดขวางสตรีงมงายเ่าั้ได้ ต่อมาเขาก็มักจะถูกสตรีเ่าั้วางยาอยู่บ่อยครั้ง จนพิษสะสมในร่างกายเพิ่มมากขึ้น แม่นางเป็หมอมีทักษะการแพทย์สูงส่ง คงมองออกว่าสภาพร่างกายของน้องชายข้าไม่ปรกติ"
ขณะที่เฉินรุ่ยเอ่ยถึงเื่เหล่านี้ สีหน้าของเฉินิก็ย่ำแย่อย่างมาก ถังชิงหรูได้เห็นอีกฝ่ายในสภาพหมดรูปโดยสิ้นเชิง กล่าวได้ว่าไม่มีความลับอื่นใดที่ซ่อนเร้นต่อหน้านางอีกแล้ว
ถังชิงหรูหาได้มีความคิดเป็อื่น เฉินิเป็คนไข้ของนาง นางมีสิทธิ์ที่จะรู้สาเหตุของการเจ็บป่วย อีกอย่างโรคประหลาดเช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นบนดาวเคราะห์ที่มีเทคโนโลยีชั้นสูง
"เมื่อก่อนเขารักษาอาการอย่างไร" ถังชิงหรูมองเฉินรุ่ย พลางเอ่ยถามด้วยความสนใจ
"ปรกติอาการคันจะคงอยู่ราวสามวันสามคืน หลังจากนั้นก็จะหายไปเอง" เฉินรุ่ยตอบ "แม่นางช่วยคิดหายาระงับการคันให้น้องิได้หรือไม่ รสชาติของการคันคะเยอไปทั้งตัวสามวันสามคืนคงทรมานไม่น้อยทีเดียว"
ถังชิงหรูมองสีหน้าไร้อารมณ์ของเฉินิ ตามที่เฉินรุ่ยกล่าวมา ตอนนี้เขาคงจะคันมาก แต่ดูจากการแสดงออกของเขาตอนนี้มองไม่ออกว่ากำลังทุกข์ทรมานอยู่จริงๆ
"ท่านไม่คันเลยหรือ" ถังชิงหรูถาม
"คันแล้วยังไง ถึงอย่างไรเ้าก็ไม่ช่วยข้าอยู่แล้ว จะให้เปิ่นหวางอ้อนวอนขอร้องต่อเ้างั้นหรือ"
ถังชิงหรูเห็นท่าทางปั้นปึ่งของเขาแล้วก็นึกอยากขันอย่างยิ่ง ยามนี้เขาดูเหมือนเด็กกำลังงอแงเรียกร้องความสนใจ ดูไปก็น่ารักดีเหมือนกัน จึงเอ่ยปากว่า "ก็ลองขอร้องข้าดูสิ ไม่แน่ข้าอาจจะมีวิธีช่วยเหลือท่านก็ได้ คนเราจะเข้าไปใต้ชายคาก็จำต้องก้มศีรษะ หลักเหตุผลเช่นนี้มีหรือที่ท่านจะไม่รู้"
"คิดจะให้เปิ่นหวางขอร้องเ้า? หากไม่กลัวตาย เปิ่นหวางจะสนองความ้าของเ้าเอง" เฉินิถลึงตาใส่นาง
ถังชิงหรูรู้ว่าไม่อาจบีบคั้นเขาเกินไปนัก มิเช่นนั้นคนที่ต้องเดือดร้อนอาจเป็นางเอง ถึงอย่างไรยามนี้นางก็เป็แค่สามัญชน ในสายตาของผู้มีอำนาจเหล่านี้นางไม่ต่างอันใดกับต้นหญ้าไร้ค่า
แต่ทว่านางยังคงแปลกใจยิ่ง เมื่อครู่ตอนที่ตนเองััตัวเฉินิ ก็ไม่เห็นเขาจะมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างไร เพราะเหตุใดพอเปลี่ยนเป็สตรีอื่นกลับไม่ได้เล่า
นางเอื้อมมือไปลูบพวงแก้มของชายหนุ่ม ใบหน้าดีๆ ต้องมาเป็ผื่นเต็มไปหมดเยี่ยงนี้ดูไปก็น่ากลัวอยู่บ้าง แต่พอลูบๆ แบบนี้ก็นุ่มมือดีเหมือนกัน
"เ้าทำอันใด" เฉินิปัดมือของนางออกอย่างรำคาญ "สตรีเช่นเ้ารู้จักยางอายบ้างหรือไม่ ข้าเป็บุรุษ เ้าจะมาลูบคลำเช่นนี้ได้อย่างไร จะยั่วยวนข้าหรือ"
"ข้าเนี่ยนะยั่วยวนท่าน เชอะ!" ถังชิงหรูย้อนถามอย่างไม่สบอารมณ์ "ท่านหลับอยู่หรือไง ไม่ดูสภาพของตนเองบ้าง ผู้หญิงคนไหนกลืนลงคอ สภาพของท่านตอนนี้ยังสู้ขอทานข้างถนนไม่ได้เลย"
"เ้า..." เฉินิโกรธจนแทบหายใจไม่ออกต้องตบหน้าอกแรงๆ แล้วสูดหายใจเข้าลึก "เ้าถึงกับ... ถึงกับเอาเปิ่นหวางไปเปรียบเทียบกับขอทานเ่าั้เลยรึ"
"แม่นาง..." เฉินรุ่ยมองเฉินิด้วยความตื่นเต้น "ท่านดูใบหน้าของเขาสิ..."
เฉินิไม่เห็นใบหน้าของตนเอง แต่รับรู้ได้ถึงความตื่นตระหนกจากน้ำเสียงของเฉินรุ่ย "หน้าข้าเป็อย่างไร"
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้