ลั่วเฉิงมองหลงเหยียนด้วยสายตาเหยียดหยาม หลงเหยียนส่ายหน้า “นักรบหรือ? เมื่อก่อนตัวข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน แล้วอย่างไร?” เมื่อนึกดูอีกที เขาก็เหมือนจะเถียงกับลั่วเฉิงแล้ว
อาวุธเสียดสีกันจนเกิดประกายไฟ เ้าหลบข้า ข้าบุกไม่ได้ ชายร่างกำยำเหวี่ยงทวนวงเดือนแรงๆ ทันที
“ฮุนหยวนแหวกฟ้าทะลวงดิน!”
ชายร่างซูบผอมไม่ได้ด้อยไปกว่าเขา ะเิพลังออกมาทันควัน
“เปิงเทียนสนั่นเมือง!”
“โครม!” พื้นดินสั่นะเื คนที่อยู่เบื้องล่างตกตะลึงเป็อย่างยิ่ง ภาพที่เกิดขึ้นอลังการมากจริงๆ ดูเหมือนพละกำลังของพวกเขาสองคนไม่ธรรมดาเชียวละ
การต่อสู้ดุเดือดยิ่งนัก ผ่านการโต้ตอบไปมาหลายครั้ง ชายร่างผอมเสียการทรงตัว เซถอยหลังไปหลายก้าวถึงทรงตัวได้ จากนั้นก็พ่นโลหิตออกจากปาก
เขาก็ล้มลงอย่างช้าๆ แววตาเต็มไปด้วยความไม่ยอมแพ้
ลั่วซางะโเสียงดัง “คู่แรก หยางเหยียนเป็ฝ่ายชนะ!”
คนที่อยู่ด้านล่างเวทีประลองปรบมือเสียงดังลั่น หยางเหยียนตื่นเต้นมาก เขาทิ้งทวนวงเดือนในมือ จากนั้นจึงยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาจับศีรษะพร้อมคำรามเสียงดัง ท่าทางคล้ายดีใจยิ่งนัก
“ท่านพ่อ ในที่สุดข้าก็ทำสำเร็จแล้ว ข้าดีใจมาก ดีใจมากจริงๆ” เกรงว่าคงไม่สามารถบรรยายความดีใจนี้ออกมาได้ทั้งหมด
แม้กระทั่งหลงเหยียนที่อยู่ด้านล่างยังตกตะลึง การต่อสู้เมื่อครู่ แม้จะมีเพียงพลังระดับนี้ อย่างไรก็คาดว่าคงอยู่สูงกว่าผู้าุโตระกูลหลง ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ
เวลาผ่านไปเร็วนัก การต่อสู้ดำเนินผ่านไปแล้วสี่คู่ พวกเขาต่างก็ดีใจ ส่วนคนที่ชมอยู่ด้านล่างก็อดยินดีกับพวกเขาไม่ได้ หลงเหยียนดูและเรียนรู้วิธีการต่อสู้จากเมื่อครู่มาบ้าง ทำให้เขามีไหวพริบที่ดีกว่าเดิม
เมื่อครู่หลงเหยียนใช้ิญญายุทธ์ที่แข็งแกร่งของตนดูเส้นทางการเคลื่อนไหวของทุกคู่ก่อนหน้านี้ ทำให้เห็นทุกการเคลื่อนไหวได้เป็อย่างดี
ทั้งหมดสี่คู่ าเ็หนักสองคน ตายไปหนึ่งคน ไม่มีใครสนใจคนที่ตายไปแล้ว ลำดับต่อไปก็คือการต่อสู้ระหว่างลั่วเฉิงและหลงเหยียน ทุกคนต่างก็ตั้งหน้าตั้งตารอดูพวกเขา
หลงเหยียนประกายรอยยิ้ม ใช้พลังปราณในตัวช่วยให้ตนะโขึ้นบนเวที ขณะที่ลอยกลางอากาศก็ตีลังกา แล้วหล่นลงบนสนามประลอง
ลั่วเฉิงยกมุมปากขึ้น “ไอ้หนุ่ม โอ้อวดมากเหมือนกันนี่ อีกเดี๋ยวข้าจะทำให้เ้ารู้ว่าอะไรคือยอดฝีมือตัวจริง อีกอย่าง ข้าหลอมหนอนิญญาไปแล้ว พละกำลังข้าสูงขึ้นหนึ่งขั้น ครั้งนี้เ้าตายแน่”
จากแววตาของเขา ใต้เท้าซือถูหม่าที่อยู่ด้านหนึ่งของสนามประลองมองทุกอย่างที่เกิดขึ้นแล้วยิ้มเจื่อน
“เหตุใดเ้าหลงเหยียนต้องไปมีเื่กับลั่วเฉิงด้วยนะ?” เป็ผู้บัญชาการของลั่วซาง เขารู้ดีว่าลั่วซางเป็คนแบบไหน แค่ความโเี้ที่มีกับพร์ จึงทำให้ปีนขึ้นมาถึงตำแหน่งนี้ อีกเื่หนึ่ง เขาเป็คนที่มีแค้นต้องชำระ
“ทีนี้ก็จบเห่แล้ว ต่อให้หลงเหยียนจะมีสามหัวสามขา ก็คงหนีออกจากกำมือสองพี่น้องนี้ไม่ได้ง่ายๆ”
แค่เทียบจากเื้ัของตระกูล หลงเหยียนมาจากหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง ส่วนลั่วเฉิงมาจากเนินดารา หมู่บ้านและเมืองใหญ่ที่แตกต่างกันมาก เกรงว่าคงไม่ต้องพูดถึงทรัพยากรที่พวกเขาจะได้รับแล้ว
อีกอย่าง หลงเหยียนมีพลังระดับชีพัขั้นที่แปดเท่านั้น ไม่มีทางฝึกวิชาระดับมายาได้แน่ เพราะหากอยู่ในระดับพลังที่ต่ำ ฝืนฝึกวิชาระดับสูง พลังจะต่อต้านร่างกาย ต่างจากลั่วเฉิงที่เขาสามารถฝึกวิชาระดับที่สูงยิ่งกว่าได้
อย่าว่าแต่หลงเหยียนฝึกวิชาระดับสูงเลย เกรงว่าเขาคงไม่เคยเห็นมาก่อนด้วยซ้ำ ซือถูหม่าคิดอยู่ครู่หนึ่ง หากหลงเหยียนสู้กับคนอื่น เช่นนั้นเขาคงได้เข้าตระกูลอู่ตี้อย่างราบรื่นแน่
“เฮ้อ! น่าเสียดาย ถึงอย่างไรเขาก็เป็เมล็ดพันธุ์ที่ดี”
ลั่วเฉิงเดินขึ้นสนามประลองอย่างช้าๆ มองหลงเหยียนแล้วหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
“ไอ้หนุ่ม ครั้งก่อนไม่ได้ฆ่าเ้า เป็เพราะข้าอยากเก็บพละกำลังของตนไว้มาใช้ในนี้ นึกไม่ถึงว่าเ้าจะไม่ดูตาม้าตาเรือเพียงนี้ ยังมาโผล่หัวที่นี่อีก อีกทั้งเรายังได้มาสู้กันเป็ครั้งที่สอง ได้ เช่นนั้นวันนี้ข้าจะทำให้เ้ารู้ว่าอะไรคือวิชาระดับมายาของจริง”
หลงเหยียนยิ้ม รอยยิ้มของเขาดูพิศวงนัก เพราะเดี๋ยวหลงเหยียนก็จะทำให้เขารู้เหมือนกันว่าอะไรคือความน่ากลัวของพลังระดับมายา
รังสีพลังมหาศาลพุ่งไปบนตัวพวกเขาทั้งสอง รอบตัวพวกเขาสองคนปรากฏตาข่ายสายฟ้าที่เชื่อมต่อกัน นั่นคือพลังที่หล่อเลี้ยงสนามประลอง
หลงเหยียนเป็เพียงผู้ฝึกยุทธ์อสูรขั้นที่แปดเท่านั้น กลับสามารถปล่อยพลังที่แข็งแกร่งออกมาได้ ผู้ฝึกยุทธ์ที่อยู่เบื้องล่างตกตะลึง ถูกคนอื่นเข้าใจผิดว่าเขาเป็ผู้ฝึกวิชาอสูร
หลงเหยียนใช้กายธาตุพลัง ปล่อยพลังหมีทะลวงที่น่ากลัวออกมา ทุกคนไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง
เพราะกายธาตุพลังของหลงเหยียนไม่ได้ทำให้รังสีพลังเพิ่มขึ้นหนึ่งหรือสองขั้น แต่เพิ่มขึ้นมากกว่าสิบเท่า
หลงเหยียนมองเขาพร้อมเอ่ยว่า “ครั้งก่อนเ้าใช้เก้าิญญาก็ไม่เห็นจะน่ากลัวเลย สุดท้ายวิชาระดับทองคำ ข้าก็รับได้อยู่ดี ในเมื่อรับได้หนึ่งครั้ง ข้าก็ต้องรับครั้งที่สองได้เหมือนกัน”
“เลิกคุยโอ้อวดเสียที ข้าไม่อยากเสียพลังปราณกับเ้าไปมากกว่านี้แล้ว”
ขณะที่ลั่วเฉิงกำลังหัวเราะอย่างสนใจ เขาก็รวบรวมพลังปราณไว้ที่นิ้วมือ มาพร้อมความมั่นใจ เพราะมีวิชาระดับมายาและหนอนิญญาช่วย จึงทำให้พลังปราณของเขาเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งการโจมตียังน่ากลัวมากกว่าเดิม
เกรงว่าพลังปราณของเขาคงมากกว่าหลงเหยียนหลายเท่า
ไม่นาน บนนิ้วมือของเขาก็ปรากฏพลังปราณอีกครั้ง พลังเก้าิญญาถูกปล่อยออกมา
พลังที่น่ากลัวพุ่งเข้ามาหาหลงเหยียน ทว่าหลงเหยียนคุ้นเคยการโจมตีที่แข็งแกร่งนี้ดี
เมื่อผ่านการทำความเข้าใจวิชามาแล้ว่หนึ่ง ระดับพลังของหลงเหยียนจึงสูงขึ้นเล็กน้อย
“ดูถูกข้าเกินไปแล้ว ได้ เช่นนั้นข้าจะทำให้เ้าประหลาดใจก่อนก็แล้วกัน”
หลงเหยียนรวบรวมพลังที่ฝ่ามือ ก่อตัวกลายเป็หมัดมายาแปดทิศทันที…
“เก้าิญญา”
“สายฟ้าพิโรธ”
พลังมายาซึ่งเป็วิชาการต่อสู้ระดับทองคำ และพลังเก้าิญญาระดับมายาปะทะกัน ทันใดนั้น พลังปราณปกคลุมสนามประลองทำให้เกิดคลื่นที่รุนแรง และซือถูหม่ากับพวกที่นั่งอยู่อีกด้านเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน
โดยเฉพาะลั่วซาง เขารู้ดีว่าพลังที่หลงเหยียนใช้คือวิชาระดับทองคำ ทว่าสามารถต้านการโจมตีระดับสูงกว่าของลั่วเฉิงได้
“นี่มัน นี่มันเื่อะไรกัน?” ลั่วซางไม่อยากยอมรับความจริงกับสิ่งที่เกิดขึ้น
เพียงไม่นานเขาก็ยิ้มแล้ว เพราะเขารู้ว่าน้องชายตนแข็งแกร่งแค่ไหน ทว่ากลับชอบแกล้งคนอื่น
เมื่อครู่เขาต้องแสร้งหลอกหลงเหยียนแน่ เพราะไม่ได้ปล่อยพลังที่มีออกมาทั้งหมด ให้หลงเหยียนผยองไปก่อน จากนั้นค่อยเริ่มโจมตีอย่างจริงจัง แล้วคว้าชัยชนะมาครอง
ในที่สุดเขาก็หนีความตายได้!
ซือถูหม่าลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวชมเสียงดัง “ไม่เลว ไม่เลวเลยจริงๆ เป็เพียงวิชาระดับทองคำ ทว่าสามารถต้านวิชาระดับมายาได้ ไม่ธรรมดา”
การเคลื่อนไหวของหลงเหยียนทำให้ผู้ชมที่อยู่ด้านล่างตกตะลึง ต่างก็แสดงความยินดีออกมาพร้อมกัน ตอนนี้พวกเขาพอคิดภาพได้แล้วว่าหลงเหยียนต่อสู้กับศพมารในถ้ำได้อย่างไร
คาดว่าพวกเขาทั้งสองยังไม่ได้ใช้พลังที่มีทั้งหมด การต่อสู้หลังจากนี้ต้องตระการตามากขึ้นแน่
จากการปะทะที่รุนแรง ลั่วเฉิงและหลงเหยียนต่างก็ถอยหลัง ทว่าครั้งนี้หลงเหยียนเดินถอยหลังไปแค่สองก้าว ส่วนลั่วเฉิงที่ถอยไปสองก้าว ใช้พลังปราณหนุนหลัง ทำให้รักษาสมดุลได้
คนที่ไม่รู้ต้องคิดว่าลั่วเฉิงเพิ่มพลังการต่อสู้เท่านั้น มีแค่เขาคนเดียวที่รู้ว่าหากไร้พลังหนุนหลัง ตนอาจถอยไปถึงห้าก้าว หรืออาจมากกว่านั้น
การต่อสู้ในครั้งนี้เสมอกัน คนนอกดูไม่ออกว่าผู้ใดเป็ฝ่ายได้เปรียบ ทว่าตัวเขาเองรู้สึกตื่นตระหนกนัก
“อะไรกัน? เป็ไปไม่ได้ จะเป็ไปได้อย่างไร หรือภายในระยะเวลาสั้นๆ พละกำลังของเ้าหมอนี่ก้าวหน้ากว่าเดิมงั้นหรือ?”
--------------------