ว่ากันตามตรง ข้ออ้างนี้ห่วยแตกมาก
หากไม่ใช่เพราะหลินหวั่นชิวที่หูดีแอบฟังบทสนทนาของสองแม่ลูกจากบนหลังคา เช่นนั้นนางไม่มีทางสนใจคำพูดสุ่มสี่สุ่มห้าของจ้าวหงฮวาเป็แน่
การทำเลวถือเป็ทักษะอย่างหนึ่งเช่นกัน
หากไม่แน่จริงก็อย่าทำเลว
อันที่จริงหลินหวั่นชิวลังเลเล็กน้อย แม้ป้าสองจ้าวจะช่วยเหลือนางทุกเื่เพราะเห็นแก่เงิน แต่ถึงกระนั้นก็มีเจตนาดี
จ้าวหงฮวาเป็ลูกสาวนาง หากนางใช้วิธีดาบนั้นคืนสนองมาเอาคืนจริงๆ…ชื่อเสียงบ้านจ้าวคงป่นปี้
แต่นางไม่อยากปล่อยจ้าวหงฮวาไป นางอยู่เฉยๆ ไม่เคยหาเื่อีกฝ่าย ทว่าอีกฝ่ายกลับคิดจะให้นางถูกโจวเอ้อร์เหนิงข่มเหง
ยิ่งไปกว่านั้น คนริเริ่มคือสองแม่ลูกจางซื่อ หากสุดท้ายแล้วคนที่โดนคือจ้าวหงฮวา…
เช่นนั้นพวกนางต้องรู้ว่าหลินหวั่นชิวรู้เื่นี้เป็แน่
ถึงตอนนั้น พวกนางจะประเมินหลินหวั่นชิวใหม่ วิธีการหลังจากนี้มีแต่จะละเอียดรอบคอบขึ้น
เหตุใดสองมือลูกจางซื่อต้องปองร้ายตัวเอง…
หลินหวั่นชิวรู้สึกว่าหากยังไม่เข้าใจก็อย่าเพิ่งแหวกหญ้าให้งูตื่นจะดีกว่า
นางหงุดหงิดเล็กน้อย รู้สึกว่าตัวเองไม่เหมาะกับการแก่งแย่งระหว่างสตรีเอาเสียเลย ยังไม่ทันคิดหาวิธีรับมือก็…
หลินหวั่นชิวไม่ตอบ นางกำลังใช้ความคิด
จ้าวหงฮวาถูกนางจ้องจนประหม่า
“พี่สะใภ้ พวกเราไปดูสักหน่อยเถิด หากพวกเขาหลอกกุ้ยเซียงขึ้นมาจะทำอย่างไร…ตอนนี้กุ้ยเซียงนำไปก่อนแล้ว ข้ากลัวว่า…”
“เ้ากลัวกระไร?” หลินหวั่นชิวถาม
“ข้ากลัวว่าที่นั่นจะมีคนดักรอข่มเหงกุ้ยเซียงอยู่หรือไม่” จ้าวหงฮวาประหม่าจนเหงื่อซึมบนหน้าผาก ร่างกายร้อนรุ่มไปหมด
“ได้ เ้ารอตรงนี้ประเดี๋ยว ข้าจะไปหยิบมีดก่อน” หลินหวั่นชิวพูด
“หา…” หยิบมีด?
จ้าวหงฮวาใ จากนั้นคิดกับตัวเองว่าหลินหวั่นชิวไปถึงที่นั่นได้ไม่นานก็ขาดสติอยู่ดี จะหยิบมีดก็หยิบไปเถิด
อีกอย่าง ต่อให้นางไม่ถูกย่ำยี การใช้มีดฆ่าหรือทำร้ายคนอื่นต้องติดคุกเช่นกัน
ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็แบบใด คนที่เคราะห์ร้ายก็คือหลินหวั่นชิว เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
บ้านหลิน
หลินชุ่ยพูดกับจางซื่อว่า “ท่านแม่ จ้าวหงฮวากับหลินหวั่นชิวไปที่ท้ายหมู่บ้านแล้ว”
จางซื่อพยักหน้า “พวกเรากะเวลาให้ดี อีกสักพักค่อยพาคนไปที่นั่น”
จะจับคนลักลอบเป็ชู้ก็ต้องจับตอนที่ทั้งคู่กำลังได้เสียกัน
ขอแค่หลินหวั่นชิวถูกทำลาย เจียงหงหย่วนต้องไม่้านางอีกเป็แน่ เช่นนี้แล้วหลินหวั่นชิวมีแต่ต้องกลับบ้านแม่ ถึงเวลานั้นนางจะเป็มิตรกับอีกฝ่าย ไม่ต้องกลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่เชื่อใจนาง
เดิมทีนางอยากใช้วิธีที่ดีกว่านี้ อยากตีตัวสนิทกับหลินหวั่นชิวอย่างเป็ธรรมชาติ…ช่องโหว่จะได้น้อยลง
แต่หลินหวั่นชิวไม่ให้ความร่วมมือสักนิด ภายนอกดูนุ่มนิ่มอ่อนแอ ทว่าภายในกลับแข็งแกร่งมาก
อย่างเช่นวันนี้ หลินหวั่นชิวเอาเื่ที่นางยุยงให้สองฝ่ายแตกกันออกมาพูดต่อหน้าทุกคน
เื่นี้อยู่นอกเหนือความคาดหมายของนางโดยสิ้นเชิง นางไม่นึกว่าหลินหวั่นชิวที่เกลียดสวี่ซื่อกับหลินซย่าจื้อจะไม่เลือกอยู่ข้างเดียวกับตัวเองที่แสดงความเป็มิตร กลับกลายเป็ว่ามีความกล้าถึงขั้นให้สุนัขกัดกันเอง
ถุยๆ…
ไม่ใช่สุนัขกัดกัน คือนกกระสาสู้กับหอยกาบต่างหาก…
ด้วยเหตุนี้ นางจึงได้แต่เปลี่ยนแผนการโดยเร่งด่วน
โจวเอ้อร์เหนิงกำจัดง่าย นังโง่แบบจ้าวหงฮวายิ่งกำจัดง่ายเข้าไปใหญ่
จางซื่อหรี่ตามองไปทางท้ายหมู่บ้าน ยิ้มเยาะในใจ หลินหวั่นชิวหนอหลินหวั่นชิว หากจะโทษก็โทษที่เ้าไม่รู้จักเลือกคบเพื่อน…เลี้ยงคนทรยศไว้ข้างกาย
นายท่าน…
แค่จะจัดการสตรีสาวโง่เขลาคนหนึ่ง ถึงกับต้องให้นางลงมือเอง ขี่ช้างจับตั๊กแตนโดยแท้
ไม่มีความยาก
ไม่มีความท้าทาย
ไม่น่าสนใจ
อีกด้านหนึ่ง จ้าวหงฮวาร้อนรุ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่นางไม่คิดว่ามีปัญหากระไร คิดว่าเป็เพราะตัวเองตื่นเต้น
นางใช้มือเช็ดเหงื่อที่หน้าผากไม่หยุด ปลดคอเสื้อให้คลายออก
เมื่อมาถึงที่หมาย นางชี้กระท่อมพูดกับหลินหวั่นชิวว่า “พี่สะใภ้ พวกเราเข้าไปดูกันเถิด”
หลินหวั่นชิวพยักหน้า “ตกลง”
แต่เดินไปได้สองก้าว นางเห็นจ้าวหงฮวายืนอยู่กับที่จึงหยุดตาม หันไปถามว่า “หงฮวา เ้าไม่เข้าไปด้วยกันหรือ?” ทำท่าเหมือนบอกว่าถ้าเ้าไม่เข้า ข้าก็ไม่เข้า
จ้าวหงฮวาครุ่นคิด คนที่โจวเอ้อร์เหนิงอยากได้คือหลินหวั่นชิว ไม่น่าทำกระไรนาง คิดได้เช่นนี้ก็ตามหลินหวั่นชิวเข้าไปในกระท่อมด้วยกัน
ผลักประตูเอียงกระเท่เร่ด้านนอก ลานบ้านมีแต่วัชพืช
กระท่อมด้านข้างซ้ายขวาพังทรุดหมดแล้ว เหลือแค่หลังตรงกลางที่ยังสภาพดี แต่หลังคามุงหญ้าปลิวว่อนเป็รูขนาดใหญ่
หลินหวั่นชิวมองไปรอบๆ ไม่มีท่าทีจะเข้าไปในบ้าน
นางกำลังรอ
ตอนนี้จ้าวหงฮวาเริ่มสะลึมสะลือหนัก คลายอกเสื้อออกจนเห็นลำคอสีแดงกับชุดปิดอกสีชมพูเข้ม
นางไม่มีท่าทีจะหยุด เอื้อมมือไปคลายผ้าผูกเอว
จังหวะนี้เองที่ประตูห้องโถงเปิดออก โจวเอ้อร์เหนิงที่ใส่เสื้อผ้าไม่เรียบร้อยและตาแดงก่ำวิ่งออกมา หลินหวั่นชิวถอยหลัง
แค่ได้เห็นบุรุษ จ้าวหงฮวาที่ขาดสติก็พุ่งเข้าไปหา ทั้งคู่กอดกัน ร่วมรสกันอย่างทนไม่ไหว
หลินหวั่นชิวมองทะลุพวกเขาเข้าไปเห็นว่าในห้องโถงจุดกระถางถ่านไว้ ทั้งยังปูปุยฝ้ายอย่างดี
เห็นชัดว่าแม้คนทั้งสองจะขาดสติแต่ก็ยังรู้จักหาที่เหมาะสมมาทำกิจกรรมโดยสัญชาตญาณ
ไม่นาน โจวเอ้อร์เหนิงกับจ้าวหงฮวาก็กอดรัดกันบนพื้น
หลินหวั่นชิวมองไปด้านนอก เห็นว่ามีเงารางๆ ใกล้เข้ามา นางรีบนำเืกับแผ่นแผลซิลิโคนจำลองที่ซื้อจากเสียนอวี๋ระหว่างทางที่มาออกมา แปะแผลบนหน้าผาก จากนั้นเทเืลงไป ส่องกระจกดูแล้วแผลที่หน้าผากเละเทะน่ากลัวมาก
นางรีบเทเืส่วนหนึ่งใส่หินก้อนหนึ่งเช่นกัน จากนั้นหาที่แสร้งนอนหมดสติบนพื้น
“นี่มันเกิดกระไรขึ้น?”
“ไท่ไท่!”
เจียงเป่าพาป้าฝูหรงกับคนบ้านจ้าวมาที่นี่ ทันทีที่เข้ามาก็เห็นหลินหวั่นชิวนอนจมกองเืหมดสติ
คนบ้านจ้าวใเช่นกัน
เจียงเป่ารีบเรียกป้าฝูหรง “ท่านแม่ ท่านรีบแบกไท่ไท่กลับไปเถิด ข้าจะไปตามหมอ”
คนบ้านจ้าวจะตามไป แต่ประตูห้องโถงเปิดทิ้งไว้อยู่ มีเสียงน่าอายส่งมาจากด้านใน
ความสนใจของพวกเขาถูกดึงดูดโดยภาพตรงหน้านั้นทันที
“บัดซบเอ้ย!”
ป้าสองจ้าวร้อนใจ ถกแขนเสื้อวิ่งเข้าไป
จ้าวสุ่ยเซิงกับจ้าวเถียนเซิงรีบหันไปทางอื่น ไอ๊หยา พวกเขาเห็นน้องสาวตัวเอง…
จางซื่อเป็คนใจกล้าเช่นกัน นางตามป้าสองจ้าวเข้าไป ป้าสองจ้าวจับโจวเอ้อร์เหนิง นางจับจ้าวหงฮวา ลากทั้งคู่ให้แยกกัน
จ้าวเถียนเซิงกับจ้าวสุ่ยเซิงที่อยู่ด้านนอกได้ยินเสียง ‘ฟึ่บ…’
จากนั้นป้าสองจ้าวก็พูดว่า “พวกเ้าสองคนเข้ามาสั่งสอนไอ้หมอนี่!”
ทั้งคู่รีบเข้าไป ตอนนี้บนร่างจ้าวหงฮวามีเสื้อผ้าคลุม ป้าสองจ้าวตบหน้านางให้ได้สติ
จ้าวหงฮวามองเหตุการณ์และคนที่อยู่เบื้องหน้า ร้องโหยหวนแล้วหมดสติไป
“รีบแบกนังลูกเวรนี่กลับไป ระวังอย่าให้ผู้ใดเห็น” ป้าสองจ้าวกำชับจางซื่อ
จางซื่อพยักหน้า แบกจ้าวหงฮวาวิ่งออกไป
น้องสามีทำเื่บัดสี ทำลายชื่อเสียงตระกูลจ้าว หากวันหน้านางมีลูก การแต่งงานของลูกๆ จะลำบากเพราะมีน้องสามีที่ไร้ยางอายเช่นนี้
โจวเอ้อร์เหนิงถูกจ้าวเถียนเซิงกับจ้าวสุ่ยเซิงรุมอัด ยังไม่ทันได้ร้องโอดครวญก็หมดสติไปเช่นกัน
จ้าวสุ่ยเซิงยังเตะไปที่เป้ากางเกงเขา โลหิตซึมออกมา เ้าสิ่งนั้นหักแล้ว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้