“เทียนเซี่ย มีอะไรเหรอ?” เมื่อมองเห็นเย่เทียนเซี่ยกำลังแสดงสีหน้าสงสัยออกมาซูเฟยเฟยก็ถามออกไปเสียงเบา “เด็กคนนี้........ เป็เด็กที่เซียนเอ๋อร์เลี้ยงดูมาอะไรแบบนั้นเหรอ?”
เย่เทียนเซี่ยส่ายหน้าหลังจากนั้นก็ส่งจดหมายฉบับนั้นให้ซูเฟยเฟย จากนั้นเขาก็ทรุดตัวลงแล้ววางสองมือของเขาลงบนไหล่ของเสี่ยวซี ดวงตาทั้งสองข้างของเขามองไปยังดวงตาที่ปิดสนิทของเธอ
ซูเฟยเฟยที่อ่านเนื้อความในจดหมายจบแล้วจึงเบนสายตาไปมองดวงตาที่ปิดสนิทของเสี่ยวซีด้วยความแปลกใจ........เป็ตายยังไงก็อย่าให้เธอลืมตาขึ้นมาเด็ดขาด ดวงตาที่ปิดสนิทของเธอนั่นเป็เพราะว่าเธอตาบอดหรือเปล่านะ? หรือว่า......... แล้วทำไมถึงให้เธอลืมตาขึ้นมาไม่ได้ล่ะ?
“เธอชื่อว่าเสี่ยวซีใช่ไหม?” เย่เทียนเซี่ยพยุงร่างของเธอเอาไว้แล้วถามออกมาเสียงเบา
“พี่......ชาย......” เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามที่เย่เทียนเซี่ยถามออกไป คำตอบของเสี่ยวซีก็ยังคงเป็คำเรียกที่สนิทสนมอยู่เช่นเดิม
“ฉันไม่ใช่พี่ชายของเธอจริงๆ”
“พี่.........ชาย..........”
“.............” เย่เทียนเซี่ยส่ายหัวอย่างจนปัญญาแล้วพูดออกมา “เอาเถอะ ต่อไปฉันจะเรียกเธอว่าเสี่ยวซีแล้วกัน เสี่ยวซี แล้วพี่สาวที่มาส่งเธอที่นี่ล่ะ?”
“พี่........ชาย พี่ชาย...........”
“...........”
เย่เทียนเซี่ยแน่ใจแล้วว่าเด็กหญิงตรงหน้ามีปัญหาใหญ่ในด้านการพูด บางทีสิ่งที่เธอสามารถพูดได้อาจจะมีแค่คำว่า “พี่ชาย” ก็เป็ได้ นี่น่าจะเป็เหตุผลที่เธอ “เข้าใจผิด” คิดว่าเขาเป็ “พี่ชาย” ของเธอ
แต่เย่เทียนเซี่ยก็ไม่ได้ลืมความแปลกประหลาดที่อยู่บนตัวของเด็กผู้หญิงคนนี้ไป........ เสียงเคาะประตูเป็จังหวะ ความเงียบที่มากเกินไป ความสามารถแปลกประหลาดที่ทำให้ซูเฟยเฟยไม่อาจััตัวของเธอได้ แล้วยังประโยคที่ว่า : เป็ตายยังไงก็อย่าให้เธอลืมตาขึ้นมาเด็ดขาดอีก!
ั้แ่ที่กั่วกัวปรากฏตัวขึ้นมาในโลกของเขา เขาก็เริ่มเชื่อแล้วว่าบนโลกใบนี้ยังคงมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่สามารถใช้ตรรกะทั่วไปมาอธิบายได้ และการปรากฏตัวของกั่วกัวก็ดูเหมือนจะเป็สาเหตุของเื่ทั้งหมด........ ค่ำคืนที่มีฟ้าผ่าลงมา เด็กหญิงที่มีชื่อว่าเสี่ยวซีคนนี้ได้ก้าวเข้ามาในบ้านของเขา เฟยเฟย และกั่วกัว
“เทียนเซี่ย อย่าเพิ่งถามเธอเลย เสื้อผ้าบนตัวเธอเปียกหมดแล้ว ถ้าไม่รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเธออาจจะไม่สบายได้นะ” ซูเฟยเฟยพูดเตือนเขา ขณะเดียวกันนั้นเสื้อผ้าเปียกชุ่มที่นำความรู้สึกหนาวเย็นมาให้ก็ทำให้เธอต้องต่อสู้กับความหนาวเย็นทันทีที่พูดจบประโยค
“อืม โอเค เฟยเฟยเธอรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วอย่าลืมปิดประตูด้วยล่ะ ไม่งั้นบางทีฉันอาจจะแอบดูก็ได้นะ” ซูเฟยเฟยไม่สามารถััร่างของเสี่ยวซีได้ ดังนั้นทั้งหมดจึงต้องให้เย่เทียนเซี่ยเป็คนจัดการ เย่เทียนเซี่ยอุ้มร่างที่งดงามของเสี่ยวซีขึ้นมาแล้วกอดเธอเอาไว้ในอ้อมแขนของตัวเองเบาๆ........... เขาจะดูแลเสี่ยวซีเป็อย่างดี ดูแลทุกสิ่งทุกอย่างของเธอ เพราะนี่คือลูกสาวที่เซียนเอ๋อร์มอบให้เขา
“เกลียดนาย” ซูเฟยเฟยพึมพำออกมาเบาๆ เธอหรี่ตามองเย่เทียนเซี่ยที่อุ้มเสี่ยวซีกลับไปที่ห้องของเขา จากนั้นเธอก็รีบสาวเท้ากลับไปที่ห้องของตัวเอง เวลานี้เสียงฟ้าร้องดังสนั่นและแสงสว่างจากสายฟ้าที่แลบแปลบปลาบกลายเป็สิ่งที่ไม่น่ากลัวอีกต่อไป
ค่ำคืนที่มีสายฝนโปรยปรายและสายฟ้าแลบแปลบปลาบกลับกลายเป็ความทรงจำที่งดงามที่สุดที่เธอจะเก็บมันไว้ชั่วชีวิต
เมื่อกลับมาถึงห้องตัวเองตามด้วยปิดประตูเรียบร้อยแล้วเย่เทียนเซี่ยก็จัดการวางเด็กหญิงตัวน้อยลง ทันใดนั้นเย่เทียนเซี่ยก็รู้สึกได้ว่าตัวเองเหมือนจะลืมบางอย่างไป เขาคิดอยู่สักพักจากนั้นก็คิดได้ว่าสิ่งที่หายไปคืออะไร.......... ั้แ่ที่เด็กหญิงตัวน้อยปรากฏตัวขึ้นมาจนถึงตอนนี้กั่วกัวที่หวาดกลัวความวุ่นวายอย่างชัดเจนกลับไม่เคลื่อนไหวเลยแม้แต่น้อย
แล้วเย่เทียนเซี่ยก็พบตำแหน่งของกั่วกัวได้ในทันที เธอลอยไปลอยมาอยู่บนหัวของเย่เทียนเซี่ยแล้วใช้สายตาตกตะลึงมองไปที่เสี่ยวซี
“กั่วกัว? กั่วกัว” เย่เทียนเซี่ยโบกมือไปมาตรงหน้าของเธอ “เธอมองเห็นอะไรแปลกๆงั้นเหรอ?”
ดวงตาของกั่วกัวสั่นไหวเล็กน้อย เธอมองมาทางเย่เทียนเซี่ยแล้วส่ายหัวอย่างแรง “อา.........ว๊า ข้าง่วงจังเลยเ้าค่ะ นายท่าน ข้าไปนอนก่อนนะเ้าคะ”
พูดจบเธอก็บินไปที่เตียงอย่างรวดเร็วแล้วกอดหมอนของตัวเองแน่นก่อนจะซุกตัวลงไปในผ้าห่มของตัวเอง จากนั้นเธอก็นิ่งไปเหมือนกับว่าเธอหลับไปแล้วจริงๆ
เมื่อมองกั่วกัวที่แปลกไปอย่างเห็นได้ชัดเย่เทียนเซี่ยก็มองไปทางเสี่ยวซีแล้วครุ่นคิด
“เสี่ยวซี หนาวไหม?” เย่เทียนเซี่ยทรุดตัวลงแล้วถามออกมา
เสี่ยวซีส่ายหน้าสองมือขาวๆของเธอคว้าเสื้อของเขาเอาไว้อย่างรวดเร็วและแ่เบา ดวงตาของเธอปิดอยู่ชัดๆแต่เย่เทียนเซี่ยกลับรู้สึกเหมือนกับว่าเธอมองเห็นเขา........ ความรู้สึกแปลกๆที่ไม่ควรมีนี้ชัดเจนและรุนแรงมาก
ยืนอยู่สักพักใต้เท้าของเสี่ยวซีก็เต็มไปด้วยน้ำฝนที่หยดลงมาจากร่างกายของเธอ เย่เทียนเซี่ยจับมือเย็นเฉียบของเธอไว้ จากนั้นก็เอื้อมมือออกไปปลดเสื้อผ้าตัวเล็กของเธอออก “เสี่ยวซี เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ แบบนี้เธออาจจะไม่สบายได้”
เซี่ยวซีไม่ได้ปฏิเสธ เธออ้าแขนออกช้าๆเพื่ออำนวยความสะดวกให้การกระทำของเย่เทียนเซี่ย
ชุดกระโปรงสีม่วงที่เปียกปอนถูกเย่เทียนเซี่ยถอดออกแล้วโยนไปข้างๆเผยให้เห็นร่างกายงดงามที่ขาวราวกับหิมะ แม้ว่าเธอจะยังอายุน้อย แต่หน้าอกของเธอก็นูนเด่นขึ้นมาอย่างชัดเจน ดังนั้นภายในจึงมีชุดชั้นในสีม่วงตัวจิ๋วและกางเกงในลายลูกไม้สวมอยู่ด้านในอีกชั้น เย่เทียนเซี่ยหยิบผ้าขนหนูแห้งขึ้นมาผืนหนึ่งแล้วเช็ดไปทั่วตัวของเด็กหญิงอย่างอ่อนโยน
ร่างกายของเด็กหญิงคนนี้มีความแปลกและความลึกลับซ่อนอยู่มาก แต่เย่เทียนเซี่ยกลับไม่มีความรู้สึกระแวงปรากฏขึ้นในใจของเขาเลยแม้แต่น้อย และไม่ขัดข้องที่จะรับเธอเอาไว้ด้วยเช่นกัน อีกทั้งเขายังจะพยายามดูแลเธออย่างดี......... เพราะนี่คือลูกสาวที่เซียนเอ๋อร์มอบให้เขา
เธอส่งเด็กผู้หญิงคนนี้มาอยู่ข้างกายเขา อาจเป็เพราะความชอบของเธอหรืออาจเพราะเธอให้ความสำคัญต่อเด็กผู้หญิงคนนี้มาก............ ดังนั้นแม้ว่าเขาจะต้องตายไปเขาก็จะต้องปกป้องเธอไว้ให้ได้.............. ไม่ว่าเธอจะเป็ใคร ไม่ว่าเธอจะมาจากที่ไหนก็ตาม
น้ำฝนบนร่างของเธอถูกเช็ดจนแห้งไปอย่างรวดเร็ว เทียบกับก่อนหน้านี้ที่ทุกอย่างยังไม่ถูกซับจนแห้งแล้วความหนาวเย็นแหละเหนียวเหนอะหนะดูจะเพิ่มมากขึ้นอย่างชัดเจน เสี่ยวซีบิดร่างไปมาเล็กน้อย ตัวของเธอสั่นเบาๆจากนั้นเธอก็ถอดถุงเท้าของตัวเองออกไปแล้วจากนั้นก็ถอดกางเกงในตัวจิ๋วออกไปท่ามกลางความตกตะลึงจนแทบหยุดหายใจของเย่เทียนเซี่ย............. แล้วจากนั้นเธอก็พาร่างอันเปลือยเปล่าของเธอเดินตรงมาด้านหน้าเย่เทียนเซี่ย
เธอเป็แค่เด็กคนหนึ่ง........... แต่ปฏิกิริยาตอบสนองของเย่เทียนเซี่ยก็บอกเขาว่า.............เธอไม่ใช่เด็กน้อยอีกต่อไปแล้ว
สองขาของเสี่ยวซีแนบชิดติดกัน ขาทั้งสองของเธอเรียวและเนียนละเอียดมาก ผิวของเธอก็เป็สีขาวบริสุทธิ์และชุ่มชื่นเหมือนนมผสมน้ำผึ้ง ที่้าของต้นขาของเธอก็มีส่วนนูนโค้งที่เรียบเนียนไร้เส้นขน และส่วนเว้าส่วนโค้งอื่นๆที่เธอมีเหมือนเช่นหญิงสาวคนอื่นๆต่างก็เปียกชุ่มไปด้วยน้ำฝนเช่นกัน
เสียงความเคลื่อนไหวดังขึ้นเบาๆ ชุดชั้นในที่อยู่บนร่างของเสี่ยวซีถูกถอดออกแล้วโยนลงบนพื้น ทำให้ก้อนกลมๆขาวเนียนสองลูกปรากฏออกมา หน้าอกของเธอกลมกลึงเหมือนชามหยกสองใบคว่ำไว้ และยังมีจุกเล็กๆสีชมพูสองจุดที่มองเห็นได้อย่างเลือนรางประดับไว้.......... และมีเพียงแค่เด็กที่บริสุทธิ์มากๆเท่านั้นถึงจะสามารถแสดงสีหน้าไร้เดียวสาออกมาในเวลานี้ได้ เมื่อทั้งหมดที่ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดถูกกำจัดออกไปสีหน้าของเสี่ยวซีก็ดูผ่อนคลายขึ้น เสี่ยวซีเดินเข้ามาใกล้ๆเย่เทียนเซี่ย เธอชอบความรู้สึกที่เขาช่วยซับความเปียกชื้นออกจากร่างกายของเธอเป็อย่างมาก
เย่เทียนเซี่ยตกอยู่ในสภาวะิญญาหลุดออกจากร่างห้าวินาทีถึงจะสามารถเบนสายตาออกมาได้อย่างยากลำบาก เย่เทียนเซี่ยกัดปลายลิ้นของตัวเองเบาๆ........... นี่คือลูกสาวที่เซียนเอ๋อร์มอบให้กับเขา ตัวเขาควรจะดูแลปกป้องเธอเหมือนกับลูกสาวของเขาเอง ทำไมถึงมี........... ทันใดนั้นสมองของเขาก็ตื่นตัวขึ้นมา มือของเขาจับไหล่ของเสี่ยวซีเอาไว้ส่วนอีกมือนึงก็เช็ดแผ่นหลังเปียกปอนของเธออย่างอ่อยโยนและระมัดระวัง ก่อนจะหยุดอยู่ที่หน้าอกของเธอสักพักแล้วค่อยๆหมุนตัวเธอช้าๆ.........
เมื่อหมุนตัวเสี่ยวซีกลับมาก้อนกลมๆสีขาวราวหิมะสองลูกก็ปรากฏสู่สายตาของเย่เทียนเซี่ย เขาไม่เคยคิดเลยว่าเสน่ห์ของเด็กสาวจะทำให้เขามือสั่นได้ขนาดนี้ แม้ว่ามันจะเล็กมากแต่ก็เต็มไปด้วยความงดงาม และเธอยังมีเสน่ห์เย้ายวนแบบเด็กๆจากเส้นโค้งที่เรื่อยลงมาด้านล่างอีกด้วย มันเป็ความงดงามและเรียบเนียนอย่างเป็ธรรมชาติที่ทำให้ผู้คนปรารถนา ผิวของเธอเองก็เนียนละเอียดและขาวใสเหมือนคริสตัลที่เต็มไปด้วยแรงดึงดูดทำให้คนมองยากจะห้ามใจ
เย่เทียนเซี่ยที่เพิ่งจะได้สติหลุดเข้าไปในภวังค์อีกครั้ง ผ้าขนหนูในมือของเขาหล่นลงไปบนพื้น มือที่สั่นน้อยๆของเขาลูบไล้ไปตามเรียวขาเล็กๆที่แสนงดงามของเสี่ยวซีราวกับไม่อาจควบคุมตัวเองได้ ร่างกายของเด็กคนนี้เนียนละเอียดมาก ขณะที่กำลังถูกเย่เทียนเซี่ยลูบไล้อยู่นั้นเรียวขาเล็กๆน่ารักของเสี่ยวซีก็บีบตัวเข้าหากันจนข้อเท้าเล็กๆนั่นเกี่ยวกระหวัดรัดกันอย่างแแ่ มันทำให้ขาทั้งสองข้างของเธอบีบตัวเข้าหากันแน่นยิ่งขึ้นจนกระทั่งมือของเย่เทียนเซี่ยไม่สามารถแทรกผ่านไปได้
มือร้อนผะผ่าวของเย่เทียนเซี่ยค่อยๆลูบไล้ขึ้นไปบนร่างเนียนนุ่มของเสี่ยวซี มันค่อยๆเคลื่อนเข้าใกล้หน้าอกของเธอแล้วลูบไล้ลงบนทรวงอกเล็กๆของเธออย่างหลงใหล ความเนียนนุ่มละเอียดอ่อนเต่งตึงขึ้นมาอย่างรวดเร็วภายใต้การลูบไล้ของเย่เทียนเซี่ย แล้วไม่นานลมหายใจของเสี่ยวซีก็ค่อยๆถี่กระชั้นขึ้นมาตามการลูบไล้อย่างอ่อนโยนของเขา ต่อจากลมหายใจที่เริ่มถี่กระชั้นก็ตามมาด้วยเสียงครางหวานแ่เบา แล้วร่างกายของเธอก็เริ่มสั่นไหวน้อยๆภายใต้ฝ่ามือร้อนผ่าวของเย่เทียนเซี่ย หัวใจดวงน้อยของเสี่ยวซีเริ่มเต้นรัว เธอรู้สึกได้ถึงความหวามไหวที่พุ่งขึ้นมาจากส่วนลึกของของร่างกาย มันทำให้หัวใจของเธอเกิดความสับสน แต่มันก็ทำให้เธอเกิดความรู้สึกหลงใหลและความสุขสมบางอย่างที่ไม่อาจพูดออกมาได้ ผิวขาวราวหิมะของเธอค่อยๆขึ้นสีชมพูดระเรือแล้วเสียงคราวแ่เบาก็หลุดออกมาจากริมฝีปากน้อยๆของเธอ............
“พี่..........ชาย............”
เสียงเรียกดังขึ้นราวกับน้ำเย็นๆสาดลงมาบนหัวของเขา ร่างของเย่เทียนเซี่ยสั่นสะท้านแล้วการกระทำของเขาก็หลุดลงตรงนั้น...........
มันเป็แบบนี้ไปได้ยังไง............. ฉันกำลังทำอะไรอยู่กันแน่!
เย่เทียนเซี่ยกัดลิ้นของตัวเองอย่างแรงแล้วรีบลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว เขาหยิบผ้าห่มบนเตียงของตัวเองมาห่อหุ้มร่างขาวราวหิมะของเสี่ยวซีเอาไว้จากนั้นก็อุ้มเธอขึ้นไปวางไว้บนเตียงนอน ลมหายใจของเย่เทียนเซี่ยยังคงผิดปกติอย่างเห็นได้ชัดจากนั้นเขาก็พูดออกมาด้วยลมหายใจสะดุดเล็กน้อย “เสี่ยวซี อุ่นขึ้นไหม? รอแป๊บนะฉันจะไปเอาเสื้อผ้าใหม่มาให้เธอ”
พูดจบเย่เทียนเซี่ยก็เปิดประตูเดินออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว
เมื่อประตูถูกปิดลง เสียงฟ้าผ่ายังคงดังก้องอยู่และดวงตาของเสี่ยวซีก็ยังคงปิดสนิทอยู่เช่นเดิม............ใบหน้าขาวดุจน้ำนมของเธอหันไปทางประตูห้อง แล้วบนใบหน้าของเธอก็ปรากฏความหลงใหลและความผิดหวังเล็กๆขึ้นมา........
พ่ายแพ้ไปอีกครั้งแล้ว........... แม้ว่าจะเป็พี่ชายในตอนนี้ แต่ก็ยังคงต่อต้านความ้าของหัวใจเธออยู่ดี.......... เธออยากให้เขาสามารถรักเธอได้ อยากให้เขากอดเธอเอาไว้ตลอดไปไม่ปล่อย
ริมฝีปากของเธอเปิดออกน้อยๆแล้วส่งสียงเรียกออกมาเบาๆ “พี่ชาย..........ฉันจะไม่ยอมแยกจากพี่อีก........ แล้วก็จะไม่ยอมให้คนเลวพวกนั้น..........ทำร้ายพี่ได้อีก............”
“ใครกล้ามาทำร้ายพี่ชายของฉัน........... เสี่ยวซีจะทำให้มัน..............เสียใจไปตลอดชีวิต........”
กั่วกัวที่บินไปอยู่ข้างหน้าต่างั้แ่เมื่อไรไม่รู้จ้องมองไปที่เด็กหญิงที่ถูกห่อเอาไว้ในผ้าห่ม ดวงตากลมโตของเธอมีประกายสั่นไหวและแววตาแห่งความสับสนปรากฏอยู่ในนั้น