บนไหล่ของโจรูเา50 คนแรกนั้น มีถังติดมาด้วย ส่วนอีก 150คนถัดมาถือหม้อและกระทะไว้ในมือซึ่งเติมน้ำเอาไว้แล้วพวกเขาเดินลงมาอย่างระมัดระวัง ก่อนจะตามมาด้วยคนอีกกลุ่มใหญ่ ป้อมปราการูเาดูแล้วไม่น่าจะร่ำรวยเท่าไรไม่อย่างนั้นคงไม่ต้องถึงกับต้องหยิบหม้อกับกระทะมาด้วยหรอก
กลุ่มโจรูเากลุ่มนี้ดูท่าจะฉลาดขึ้นเล็กน้อยหลังจากที่สองกลุ่มแรกตายไปพวกเขาเริ่มได้รับบทเรียนและนำอุปกรณ์ใส่น้ำมาดับไฟด้วย แต่ถึงแม้ว่าวิธีนี้จะต้องใช้แรงงานและอุปกรณ์ค่อนข้างมากแต่มันก็ย่อมดีกว่าเพราะใช้งานได้จริง
ซึ่งคราวนี้ฉินโจ้วจะไม่โจมตีด้วยไฟเพียงอย่างเดียว
เขาให้ทหารโครงกระดูกสองตัวยืนรออยู่ด้านหลังก่อนที่ฉินโจ้วจะเริ่มต้นวางกับดักด้วยตนเอง เขารีบเดินเท้าเข้าสู่หุบเขาด้วยความเร็วปกติประมาณ5-6 นาทีเพราะเนื่องจากไม่สะดวกในการเคลื่อนที่ของโจรูเาที่ต้องคอยระวังไม่ให้น้ำหกทำให้ต้องเดินช้าลง แต่ถึงแม้ว่าโจรูเาที่แบกถังน้ำไว้้าที่จะเดินเร็วขึ้นก็ไม่สามารถทำได้ เพราะยังมีคนกลุ่มใหญ่อยู่ด้านหลังอีก ดังนั้น 5-6 นาทีที่ว่าก็น่าจะใช้เวลาจริงราว 20 นาที กว่าจะมาถึงนั่นก็เพียงพอที่จะให้ฉินโจ้วขุดวางกับดักได้แล้ว
ในที่สุดกับดักทั้งหมดก็เรียบร้อยหลังจากที่ฉินโจ้วเตรียมทุกอย่างไว้พร้อมแล้วกลุ่มโจรูเากลุ่มแรกก็มาถึงจุดหักเลี้ยวแรกพอดี ยกเว้นโจรที่ถือถังน้ำพวกโจรูเาที่มาพร้อมกับหม้อและกระทะนั้นเดินทางลงมาจากูเาซึ่งส่วนใหญ่ก็เหลือน้ำในภาชนะอยู่เล็กน้อย อาจจะเพราะพวกเขาไม่ได้ระมัดระวังมากพอการกระเทือนเป็เื่ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ถึงแม้ว่าบนถนนบริเวณตีนเขานั้นจะแคบแต่เมื่อเทียบกับทางเดินลงเขาแล้วนั้น มันราบเรียบกว่ามากทำให้ความเร็วในการเดินของโจรูเานั้นเพิ่มขึ้นในทันใด
ฉินโจ้วยังอยู่ในสภาวะล่องหนมีเพียงทหารโครงกระดูกสองตัวที่ยืนเผชิญหน้ากับศัตรูเขาจ้องมองดูกลุ่มโจรูเาที่กำลังเดินเข้ามาทีละก้าวเข้ามาหากับดักและทันทีที่กลุ่มโจรูเาพุ่งเป้ามาที่ทหารโครงกระดูกและอาจจะเพราะว่ายังมีน้ำเหลืออยู่ จึงทำให้พวกมันไม่กังวลเื่ไฟ และไม่ได้ให้ความสนใจกับพื้นที่ที่มีการปรับเปลี่ยนไปจากเดิม
โครม!
เมื่อกลุ่มโจรูเาแบกถังเดินมาได้ครึ่งทางพื้นดินก็เกิดทรุดตัวลงอย่างกะทันหัน เผยให้เห็นหลุมขนาดใหญ่ซึ่งในหลุมนั้นเต็มไปด้วยไม้ปลายแหลม โจรูเายี่สิบคนไม่มีเวลาที่จะคิดหนีพวกเขาก็ตกลงไปโดยไม่ทันระวังตัว ก่อนจะถูกแทงทะลุด้วยไม้ปลายแหลมบางคนก็ตายในทันที บางคนก็ยังหายใจรวยริน ก่อนจะเริ่มกรีดร้องด้วยความทรมาน
กับดักของฉินโจ้วนั้นถูกออกแบบมาให้ทำงานได้อย่างดีมันจะทำงานก็ต่อเมื่อมีน้ำหนักเกินกว่าระดับที่กำหนดไว้ เนื่องจากเขามีเวลาไม่เพียงพอไม่อย่างนั้นแล้วทั้ง 50 คน คงไม่มีใครรอดชีวิต
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันทำให้คนอีกครึ่งหนึ่งที่อยู่เริ่มเกิดความโกลาหลน้ำที่ถือมาด้วยกลายเป็อุปสรรค จะถอยหลังกลับตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วพวกโจรูเาที่อยู่ด้านหลังเลยทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะเดินหน้าต่อหรือถอยหนีกลับดี
ถ้าพวกเขาเดินหน้าต่อก็มีกับดักรออยู่ด้านหน้า ถ้าถอยหลังกลับก็ต้องสูญเสียกองหน้าไปถ้าคุณรับคำสั่งมาจากกองทัพ คุณก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงคำสั่งได้หลังจากสับสนอยู่ชั่วครู่ โจรูเาจึงตัดสินใจที่จะเดินหน้าต่อไปแต่ถ้าพวกเขาจะเดินหน้าต่อก็ยังพอมีหวังว่าจะมีชีวิตรอดแต่ถ้าหันหลังกลับคงไม่แคล้วต้องตายแน่นอนเมื่อคิดได้ดังนั้นกลุ่มโจรูเาจึงเดินเข้ามาก่อนที่จะโยนทุกอย่างที่ไม่จำเป็เช่น หม้อ ถัง และกระทะลงไปในหลุม ซึ่งมันง่ายและก็สะดวกสบายกว่า
เสียงร้องคร่ำครวญของโจรูเาได้ถูกทหารโครงกระดูกจัดการบรรยากาศเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง วุ่นวาย โกรธเกรี้ยวแต่ในเวลานั้นไม่มีใครคิดว่านี่จะเป็กลุ่มโจรูเาธรรมดาเพราะถ้าเป็คนธรรมดาทั่วไปจะไม่ถูกครอบงำในลักษณะนี้ซึ่งฉินโจ้วก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็เพราะอะไร ก่อนที่ะเิสายฟ้าจะถูกโยนเข้าไปที่เท้าของกลุ่มโจรูเาเริ่มมีไฟลามเลียออกมาในทันทีโศกนาฏกรรมซ้ำเดิมก็ได้เกิดขึ้นอีกครั้ง เสียงกรีดร้องอย่างโหยหวนของกลุ่มโจรูเาซึ่งบางคนไม่สามารถทนกับความทรมานจากการถูกไฟคลอกได้ เลยปาดคอตัวเองตายไปก็มีแต่อย่าเพิ่งคิดว่าโจรพวกนี้ตายไปแล้วเื่จะจบ
ไม่กี่นาทีต่อมาโจรูเาทั้งหมดก็ถูกสังหาร เหลือรอดไปได้บางคนที่โชคดีอยู่ด้านหลังสุดหลังจากไฟมอดลง ชะตากรรมของโจรูเาที่เหลืออยู่ทั้งหมดก็ดับตามไปด้วยทั้งหมดถูกฆ่าตายด้วยน้ำมือของทหารโครงกระดูก
ติ๊ง!ระบบแจ้งเตือน : ขอแสดงความยินดีด้วย ผู้เล่นเมามายซบตักสาวงามได้เลื่อนระดับขึ้นหนึ่งขั้นเลเวล 22
เมื่อถึงเลเวล22 หลังจากค่าสถานะฟรีทั้งหมดถูกใช้ไป พลังชีวิตของเขาก็เพิ่มมาเป็ 3,040 หน่วยซึ่งโจรูเาตอนนี้ได้ถูกจัดการไปแล้ว 1,650 คน ภารกิจตอนนี้ก็เลยครึ่งทางมาแล้วเพิ่งจะใช้เวลาไปแค่ชั่วโมงกว่าๆ ฉินโจ้วรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นถ้าสถานการณ์เป็ไปตามนี้ ภารกิจคงจะสำเร็จเรียบร้อยภายในสองชั่วโมงนี่แหละเขาเรียกว่าประสิทธิภาพสูง
ติ๊ง!ระบบแจ้งเตือน : ผู้เล่นเฉียนจี่วั่นโหร่ว้าสนทนาด้วย
ถ้าไม่ได้มีเื่ใหญ่หวังโหรวคงไม่ติดต่อมาหาเขาแน่ ซึ่งตอนนี้เราทำธุรกิจร่วมกันแล้วคงต้องมีบางสิ่งที่สำคัญมาก ฉินโจ้วจึงรีบคลิกตอบรับทันที
"แร่ของเราถูกปล้น"หวังโหรวพูดตรงเข้าประเด็นทันที ซึ่งเธอก็เป็คนแบบนี้อยู่แล้วโดยปกติเธอจะต้องกล่าวทักทายก่อนแล้วเข้าประเด็นซึ่งถ้าหวังโหรวพูดแบบนี้แสดงว่าเธอกำลังโกรธมาก
เมื่อได้ยินเช่นนั้นปฏิกิริยาแรกของฉินโจ้วก็คือ เขาคิดว่าไม่น่าเป็ไปได้ พวกองครักษ์เลเวลเกือบ 100พวกนั้นก็ไม่ใช่ว่ากินแต่เนื้อตากแห้งเสียหน่อยและเขาก็คิดว่าหวังโหรวคงไม่หลอกลวงเขาเพราะหวังโหรวเป็คนที่รู้ระดับความสำคัญของเื่ราวดี เขาหายใจเข้าลึกๆก่อนที่จะถามออกไปอย่างใจเย็นว่า "เกิดอะไรขึ้น?"
"ไม่นานมานี้ตอนที่ฉันอยู่ที่เหมืองก็ได้รับข้อความจากผู้เล่นที่ชื่อว่าคางคกบนต้นไม้ว่าจะขอซื้อเหมืองทั้งสองแห่งในราคา100,000 เหรียญทอง ซึ่งฉันก็ไม่ได้สนใจอะไรหลังจากนั้นไม่นานเขาก็ยังส่งข้อความมาอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มราคาให้ั้แ่ 10เหรียญทอง จนถึง 500,000 เหรียญทอง แต่ฉันก็ยังคงไม่ได้สนใจอะไรเขาอยู่ดีและในครั้งหลังสุด ท่าทางเขาคงจะโมโหและได้บอกว่า"อะไรที่พวกเรากลุ่ม์้าไม่เคยไม่ได้"หลังจากนั้นก็ไม่มีข้อความส่งมาอีกเลยแต่ฉันก็ไม่สนใจอะไรเกี่ยวกับคนพรรค์นั้นอยู่แล้ว และในตอนนั้นเอง ผู้เล่น 10 คน ที่เราเพิ่งรับสมัครเข้ามาเพื่อช่วยขนแร่ก็มาถูกสังหารหมดทั้งกลุ่มและยังขโมยแร่มูลค่าประมาณ 300 เหรียญทองไปอีกด้วย พวกมันท่าทางยโสมากไม่เพียงแต่สังหารผู้คน แถมยังปิดทางเข้าออกเหมืองไว้อีกด้วยมันขู่อีกว่าถ้าเหมืองยังไม่เป็ของกลุ่ม์ ั้แ่นี้ต่อไปอย่าหวังจะขนแร่ออกไปได้แม้แต่ชิ้นเดียว"หวังโหรวตอบ
"แล้วคุณเป็อย่างไรบ้างาเ็ตรงไหนบ้างหรือเปล่า?" ฉินโจ้วขมวดคิ้วเื่แบบนี้มักจะหนีไม่พ้น ไปที่ไหนก็ต้องเจอ
"พวกมันไม่ได้ทำอะไรฉันแต่ตอนที่ฉันไปถึงคนส่งแร่ก็ถูกสังหารไปเยอะแล้ว" น้ำเสียงของหวังโหรวยังดูปกติ
"ถ้าคุณปลอดภัยก็ดีแล้วถึงแร่จะถูกขโมย เดี๋ยวค่อยไปเอากลับคืนมาทีหลังอีกอย่างมันก็ไม่ได้มีมูลค่าอะไรมากมายนัก" ฉินโจ้วพูดปลอบเธอมันแค่ของเล็กน้อย ซึ่งเขาไม่ได้คาดหวังอะไรและเขาเองก็ไม่ได้รู้สึกโกรธอะไรอีกด้วย เพียงแค่เขาไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้ที่ไหนมีผู้คน ที่นั่นย่อมมีพวกมาเฟีย หลังจากนั้นเขาก็คิดขึ้นได้ก่อนจะถามว่า"ว่าแต่... แล้วองครักษ์ล่ะ? ทำไมองครักษ์ถึงไม่โต้ตอบ?"
"จริงๆแล้วพวกองครักษ์ทำงานกันอย่างเต็มที่แล้ว เพียงแต่เหตุการณ์นี้เกิดนอกพื้นที่เหมืองและอีกอย่างพวกมันไม่โจมตีองครักษ์ก่อน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้โต้ตอบกลับ"หวังโหรวตอบ
"กลุ่ม์เป็องค์กรประเภทไหน? สืบได้อะไรมาบ้าง?" ตาของฉินโจ้วส่องประกายรู้สึกเหมือนว่าคนพวกนี้น่าจะไม่ใช่พวกปกติทั่วไป
"องค์กรนี้ดูลึกลับมากพบเพียงเบาะแสเล็กน้อย แต่พอสรุปได้ว่า เป็องค์กรที่ค่อนข้างจะแข็งแกร่งทีเดียวใกล้เคียงกับกลุ่มสมาคมโลก" หวังโหรวกล่าวอย่างกังวล
หลังจากใช้เวลาชั่วครู่ฉินโจ้วก็ตัดสินใจได้ก่อนจะบอกว่า "จากนี้ไป ให้คนขุดแร่ทำงานตามปกติส่วนเื่การขนส่งนั้นให้พักไปชั่วคราวก่อนและตอนนี้ยังไม่ให้พวกเขากลับเข้าเมือง ส่วนคนส่งของที่ตายให้จ่ายค่าชดเชยให้คนละ5 เหรียญทอง ส่วนคุณก็ไม่ต้องกังวลไปนะคุณเองก็พักอยู่ในเหมืองก่อนอย่าเพิ่งออกมาข้างนอกผมจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยเองในไม่ช้านี้ มันไม่ใช่เื่ใหญ่โตอะไร"
5เหรียญทอง ก็คงประมาณ 5,000 หยวน ซึ่งมันก็สูงกว่าเงินเดือนเฉลี่ยโดยทั่วไปก็น่าจะพอเยียวยาคนขนส่งที่ตายไปได้
"ถ้าอย่างนั้นก็ดีตกลงตามนี้" หวังโหรวรู้สึกว่าน้ำเสียงของฉินโจ้วนั้นดูจะขึงขังขึ้นเล็กน้อยถึงอย่างนั้นเสียงของฉินโจ้วก็เต็มไปด้วยความมั่นใจอย่างที่เขาเองไม่เคยเป็มาก่อนดูเหมือนว่าเขาจะดูเข้มแข็งและอบอุ่นขึ้นและแม้ว่าเขาอาจจะทำตามที่พูดไม่ได้ก็ไม่เป็ไร
ฉินโจ้วไม่ได้พูดอะไรต่ออีกเลยเมื่อเขาตัดการติดต่อ เขาก็เริ่มนึกถึงองค์กร์ ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่เื่ดีไม่ว่าจะบังคับซื้อหรือขายก็ตามหนึ่งคนต่อกรกับหนึ่งองค์กร มันดูมีความแตกต่างมากเกินไปแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้กังวลเื่นี้มากเกินไปนักเพราะถ้าเขาจัดการเื่นี้อย่างขาวสะอาดไม่ได้ เดี๋ยวเขาจะเข้าสู่ด้านมืดให้เองเขาไม่ใช่จอมยุทธ์ผู้พิทักษ์คุณธรรมดังนั้นจึงไม่ต้องสนใจเื่ศีลธรรมและความถูกต้องมากนัก และอีกอย่างนี่คือ ''เหยี่ยวั่ง'' มันเป็เกมดังนั้นเขามีวิธีร้อยแปดที่จะให้อีกฝ่ายต้องยอมคุกเข่าขอโทษเขาแต่โดยดี
แต่เื่ที่สำคัญสุดในตอนนี้คือถ้ายังจบภารกิจไม่ได้และยอมแพ้ไปก่อน ก็จะติดโทษ โดนระบบลงทัณฑ์(จะโดนอย่างไรก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ไม่โดนจะดีที่สุด)
เ้าพวกโจรูเามอบชีวิตของพวกแกมาซะดีๆฉินโจ้วะโดังลั่นก่อนจะวิ่งตามหลังทหารโครงกระดูกเข้าไปสังหารหมู่ (อีกครั้ง)
กลุ่มโจรูเาได้เรียนรู้วิธีรับมือกับดักของฉินโจ้วและอื่นๆดังนั้นพวกมันจึงไม่ลงมาจากที่มั่น และถึงแม้ว่าอาจจะอันตรายอยู่บ้างแต่ก็รอให้ทหารโครงกระดูกเป็ฝ่ายเข้ามาหาจะดีกว่า
เคียวสีดำตวัดวาดเห็นเพียงแสงสว่างวาบไปมาก่อนที่หัวทั้งสองจะหลุดออกจากบ่า ก่อนจะมีการเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าที่แข็งทื่อเ็า ไร้ลมหายใจ และก่อนที่หัวจะตกลงสู่พื้น
ทหารโครงกระดูกมองไปก็คล้ายัล่องนาวาเคียวสีดำทะมึนตัดผ่าร่างโจรูเาไปแล้วไม่ต่ำกว่าโหลอาจเป็เพราะพลังป้องกันที่น้อยนิดจึงคล้ายเพียงการตัดกระดาษเมื่อใดที่มีแสงตวัดวาบ เมื่อนั้นก็ต้องมีร่างโจรที่ไร้ชีวิตเกิดขึ้นซึ่งตอนนี้รอบกายไม่มีใครเหลือรอดสักคน ทหารโครงกระดูกก้าวเดินต่อไปทีละก้าวดูเหมือนว่าโจรที่บ้าคลั่งกลุ่มนี้ก็ไม่สามารถยับยั้งการบุกเข้ามาได้จนในที่สุดก็มาถึงตำแหน่งหักเลี้ยวจุดที่สอง
เมื่อพวกเขาก้าวเข้ามาถึงที่นี่การโจมตีของพวกโจรูเาก็เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้นจากระยะทางที่สั้นฉินโจ้วต้องเปลี่ยนทหารโครงกระดูกไปแล้วถึง 4 ตัวแต่เนื่องจากถนนที่ค่อนข้างแคบ ทำให้จำนวนคนที่บุกเข้ามาโจมตีมีเพียงแค่ครั้งละ3-5 คน ซึ่งคนจำนวนนี้ไม่สามารถรับมือทหารโครงกระดูกได้เลยแต่ถ้าต้องสู้กันบนพื้นราบแล้วก็อาจจะรับมือไม่ได้ง่ายแบบนี้
สองชั่วโมงต่อมาในที่สุดฉินโจ้วก็มาถึงตำแหน่งหักเลี้ยวที่สาม หลังจากที่เขาบุกเข้ามาอีกราว 50เมตร เขาได้เห็นประตูทางเข้าของป้อมปราการูเา ซึ่งเต็มไปด้วยโจรูเายืนกันเป็แนวยาวราวกับรอต้อนรับเขาอยู่นั่นทำให้ฉินโจ้วรู้สึกดีใจมาก ประตูของป้อมปราการนั้นทำมาจากไม้เขาไม่รู้ว่าโจรูเานั้นคิดอย่างไร แต่ก็อาจจะคิดว่าศัตรูคงไม่ใช้ไฟแล้วกระมัง
ติ๊ง!ระบบแจ้งเตือน : ขอแสดงความยินดีด้วย ผู้เล่นเมามายซบตักสาวงามได้เลื่อนระดับขึ้นหนึ่งขั้นเลเวล 23
เมื่อแสงแห่งความปีติมาถึงฉินโจ้วได้ก้าวเข้าสู่เลเวล 23 ภายในเวลา 4 ชั่วโมง เขาสามารถเพิ่มได้ถึง 3 ระดับความเร็วนี้ก็ไม่ถึงกับเร็วมากเมื่อเทียบกับเสี่ยวจินแล้วความเร็วนี้ไม่นับว่ามากเกินไป เพราะเสี่ยวจินไปถึงเลเวล19 แล้ว
"ฆ่าาาาาา"
พวกโจรูเานั้นไม่เกรงกลัวความตายพวกมันพุ่งเข้าใส่อย่างบ้าคลั่ง หมายจะจัดการทหารโครงกระดูกให้ได้ซึ่งการจู่โจมที่น่าประหลาดใจนี้ทำให้ทหารโครงกระดูกนั้นเคลื่อนไหวได้ช้าลงยิ่งเข้าใกล้ป้อมปราการมากเท่าไร ค่าสถานะและความแข็งแกร่งก็ดูเหมือนจะยิ่งเพิ่มมากขึ้นไม่เพียงความแข็งแกร่งทางกายภาพจะมากขึ้นแต่ทั้งอาวุธและพลังโจมตีก็ดูเหมือนจะดีกว่าอีกด้วย
ดูท่าแล้วมันไม่ใช่เื่ง่ายเลยในการเดินตามทางเข้าไปในหุบเขาฉินโจ้วรู้สึกว่าอาจจะต้องเตรียมเปลี่ยนจากทหารโครงกระดูกเป็ทหารม้าโครงกระดูกในไม่ช้าเพราะเริ่มเป็การต่อสู้ที่ยากมากขึ้นเรื่อยๆฉินโจ้วเปลี่ยนทหารโครงกระดูกไปหลายกลุ่มมาก เพื่อจัดการกับกลุ่มโจรูเาและเมื่อเวลาผ่านไปอีกหนึ่งชั่วโมงครึ่ง หลังจากดูความคืบหน้าของภารกิจก็พบว่าเขาจัดการโจรูเาไปแล้ว 2,700 คน เหลืออีกแค่ 300 คน กับหัวหน้าเคราแดงเท่านั้น
เมื่อโจรคนสุดท้ายในกลุ่มตายลงเสี่ยวจินก็อัปเกรดถึงเลเวล 20 แล้ว
เมื่อถึงเลเวล20 ก็เปิดใช้งานทักษะ การแพร่พันธุ์
ราชินีผึ้งสีทองเพชฌฆาต: สัตว์เลี้ยงเวท ระดับ C เลเวล 20 พลังชีวิต?, ทักษะ : ใช้เหล็กในทิ่มแทง เมื่อแทงถูกศัตรู จะทำให้พลังชีวิตลดลงทีละ 200หน่วยต่อวินาที เป็เวลานาน 60 วินาที แพร่พันธุ์ :เป็ทักษะเฉพาะตัวของราชินีผึ้ง โดยการให้กำเนิดผึ้งเพชฌฆาตเพื่อโจมตีศัตรูสามารถให้กำเนิดได้ไม่จำกัด ขึ้นอยู่กับพลังชีวิตของราชินีผึ้งโดยเลเวลจะต่ำกว่าราชินีผึ้ง
หลังจากผ่านการฝึกฝนมาระยะหนึ่งจากการสั่งสมประสบการณ์ทำให้เสี่ยวจินสามารถสร้างการโจมตีแบบผสมผสานที่เฉพาะตัวมากขึ้นเพื่อเป็ผู้ช่วยของฉินโจ้วได้ ทักษะการแพร่พันธุ์นั้นเป็ทักษะที่ดีมากมันเป็วิธีที่เปรียบได้กับการทำให้มดสามารถจัดการกับช้างลงได้ถึงแม้ว่าพลังโจมตีของผึ้งเพชฌฆาตนั้นไม่ค่อยสูงนักแต่มันสามารถสร้างผลกระทบได้อย่างดีเยี่ยมลองนึกสภาพว่ามีฝูงผึ้งเพชฌฆาตเป็โหลบินล้อมรอบตัวคุณ หรือลองคิดในมุมอื่นดูถ้าพัฒนาเลเวลของเสี่ยวจินให้สูงขึ้นจำนวนผึ้งที่สามารถกำเนิดก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย เท่ากับว่าพลังโจมตีของผึ้งเพชฌฆาตจะเพิ่มขึ้นเป็เงาตามตัวลองคิดดูว่า ถ้ามีผึ้งเพชฌฆาตเป็พันๆ ตัว โจมตีพร้อมกันในครั้งเดียว มีพลังโจมตีต่ำสุดสัก 10 หน่วยต่อวินาทีคูณไปสัก 10,000 ตัว ก็พอ นี่ก็สร้างความเสียหายได้ทีละ 100,000หน่วยต่อวินาทีแล้ว ใครจะรับไหว!
ถึงแม้ว่าเสี่ยวจินจะมีแค่สองทักษะแต่เพียงทักษะเดียวเขาก็สามารถสร้างกองทัพล่องหนขึ้นมาได้แล้วและยังมีพลังมากกว่าทักษะอื่นใด ตราบใดที่เขายังฝึกฝนอย่างต่อเนื่องเขาก็จะช่วยได้มากเลยทีเดียว
ฉินโจ้วรู้สึกว่าความแข็งแกร่งของเขานั้นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้จิตใจและปณิธานของเขาเกิดความฮึกเหิมขึ้นด้วย เมื่อมองไปที่กำแพงสูง 3 เมตรเขาก็รู้สึกว่ามันไม่ได้ยากเกินไป ถึงแม้ประตูทางเข้าของป้อมปราการจะดูพิการไปบ้างแต่นั่นก็ยังให้ความอุ่นใจกับผู้คนได้อยู่
เขาให้ทหารโครงกระดูกอยู่ด้านนอกเพื่อดึงดูดความสนใจของกลุ่มโจรูเาไว้ส่วนฉินโจ้วนั้นก็ลอบเข้าไปดูเหมือนปกติที่เคยทำ เข้าไปได้ราว 30 เมตรซึ่งเลยครึ่งทางไปแล้ว และเขาก็เข้าใกล้ประตูมากขึ้น
ฉินโจ้วไม่รู้เลยว่าบนจุดสูงสุดของเมืองมีชายคนหนึ่งรูปร่างไม่สูงเกินคางของเขายืนอยู่บนกำแพงให้ความรู้สึกแข็งแกร่งราวหอคอยเหล็ก ใบหน้าหยาบกร้านที่ดูเด่นสะดุดตาสุดก็คงเป็เครายาวหนาสีแดงที่ยาวมาถึงกลางอกเขาคือหัวหน้าเคราแดงแห่งหุบเขาวัว เคราแดงยืนมองโดยปราศจากความลังเลใดๆซึ่งมองดูแล้วให้ความรู้สึกเหมือนูเาไฟที่พร้อมจะปะทุได้ตลอดเวลาเมื่อถูกัั
สภาวะล่องหนของฉินโจ้วดูเหมือนว่าจะไม่มีผลกับเขาฉินโจ้วใมากก่อนจะรีบถอยกลับโดยทันที
และแล้วพลธนูที่ซ่อนอยู่ด้านหลังก็โผล่ออกมาเริ่มง้างคันธนูและยิงเข้าใส่ ลูกธนูนับร้อยดอกพุ่งเข้ามารายล้อมตัวฉินโจ้วก่อนที่ตัวเลขความเสียหายจะลอยขึ้นเหนือหัวเป็ชุด -50 -60 -56 -54 -60พลังชีวิตของฉินโจ้วลดลงไปทันทีกว่าครึ่งเขากัดฟันอดทนกับความเ็ปก่อนจะวิ่งหนีออกมาอย่างไม่คิดชีวิตจนเมื่อพ้นจากระยะยิง พลังชีวิตของเขาเหลืออยู่แค่เสี้ยวเดียว “เฮ้อ... เกือบไม่รอดเสียแล้วสิเรา”