ตอนที่ 6 พี่สาวผู้แสนดี? เก็บการแสดงออสการ์ของเ้าไปใช้ที่อื่นเถอะ
แสงแดดยามเช้าในจวนอ๋องเก้าช่างดูสดใสและสงบเงียบ... ถ้าไม่นับรวมเสียงนกกระจอกที่ส่งเสียงจิกตีกันอยู่บนกิ่งเหมยที่บานสะพรั่ง และความจริงที่ว่าฉันกำลังพยายามเอาหมอนขนเป็ดปิดหูเพื่อยื้อเวลานอนต่ออีกเพียง หนึ่งตื่น ซึ่งในพจนานุกรมของปลาเค็มอย่างฉัน หนึ่งตื่นมีความหมายเท่ากับสองชั่วโมงเป็อย่างน้อย
แต่ทว่า... ความสงบสุขในจวนอ๋องเก้านั้นเป็เพียงภาพลวงตาที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรอวันพังทลาย
[ติ๊ง! ตรวจพบค่าพลังงาน ตอแหล ระดับสูงกำลังเคลื่อนที่เข้าใกล้เรือนเมฆาเงียบในรัศมี 100 เมตร] [ระบบตรวจพบเป้าหมาย: พระชายารองเสิ่นอีรุ่ย ฉายา: ดอกบัวขาวพันปีขยี้หัวใจ] [ภารกิจเร่งด่วน: อย่าให้การแสดงกลบรัศมีปลาเค็ม จงทำลายบทบาทนางเอกผู้แสนดีของเธอให้ย่อยยับ] [รางวัล: 2,000 แต้มปลาเค็ม และ น้ำหอมกลิ่นความจริง ใครได้กลิ่นจะคันปากจนต้องพูดความจริงออกมา!]
"โอ๊ย... ระบบ คุณจะให้ฉันพักผ่อนอย่างสงบสุขสักวันไม่ได้เลยเหรอ?" ฉันพึมพำลอดผ่านหมอน
"ดอกบัวขาวเหรอ? ในโลกก่อนฉันเจอมาเยอะจนแทบจะเปิดฟาร์มบัวได้แล้วนะ"
ฉันถอนหายใจยาว ก่อนจะลุกขึ้นนั่งด้วยท่าทางซังกะตาย ผมเผ้ายุ่งเหยิงราวกับรังนกที่ผ่านพายุก็ไม่ปาน อาหลินวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาในห้องทันที
"คุณหนูคะ! พระชายารองเสิ่นเสด็จมาที่เรือนค่ะ! ท่านนำขนมและยาบำรุงมาให้คุณหนูด้วย ดูเหมือนท่านจะใจดีมากเลยนะคะ"
ฉันมองอาหลินด้วยสายตาเอ็นดูปนเวทนา
"อาหลินจ๊ะ... ในโลกนี้ คนที่เดินมาหาเราพร้อมยิ้มหวานและยาบำรุงโดยที่เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ถ้าไม่ใช่นักบุญผู้ใจบุญจริงๆ ก็คือคนขายประกัน หรือไม่ก็ ฆาตกรที่พกยาพิษมาด้วย ทั้งนั้นแหละจ้ะ"
"เอ๋? หมายความว่ายังไงคะ?"
"หมายความว่าละครเวทีระดับออสการ์กำลังจะเริ่มแสดงที่หน้าเรือนเราไงล่ะ" ฉันแสยะยิ้มพลางหยิบ น้ำหอมกลิ่นความจริง ที่เพิ่งได้รับจากระบบมาฉีดพ่นไปในอากาศรอบๆ ห้องนอนเบาๆ
"ไปเชิญเธอเข้ามาเถอะ บอกว่าฉันกำลังป่วยหนัก จนลุกไปต้อนรับไม่ไหว"
ไม่กี่อึดใจต่อมา กลิ่นหอมจางๆ ของดอกมะลิก็ลอยนำมาก่อนตัวหญิงสาวในชุดผ้าไหมสีฟ้าอ่อนที่ดูพริ้วไหวราวกับเทพธิดาบนสรวง์ เสิ่นอีรุ่ย ก้าวเข้ามาในห้องด้วยท่วงท่าที่นุ่มนวลและสง่างาม ใบหน้าของเธอหมดจด งดงาม และเต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจที่ดู จริงใจ เสียจนน่าขนลุก
"น้องหญิงหลิน... ข้าได้ยินว่าเ้าไม่สบาย จึงรีบมาเยี่ยม" เสิ่นอีรุ่ยรีบเดินเข้ามาที่ข้างเตียง มือเรียวงามเอื้อมมาหวังจะจับมือฉัน
"ข้าคือเสิ่นอีรุ่ย เป็พระชายารองของท่านอ๋องเก้า เ้าคงลำบากมากสินะที่ต้องมาอยู่ในที่ที่แปลกตาเช่นนี้"
ฉันขยับมือหลบอย่างเนียนๆ ด้วยการแสร้งทำเป็ไอค่อกแค่ก
"ขอบพระทัยพระชายารองเพคะ... หม่อมฉันเป็เพียงขยะจากตระกูลหลิน ไม่กล้ารับความเมตตาจากพระนางจริงๆ"
เสิ่นอีรุ่ยชะงักไปเล็กน้อย แต่รอยยิ้มยังคงค้างอยู่บนใบหน้า
"อย่าพูดเช่นนั้นเลย เราคนกันเองทั้งนั้น ท่านอ๋องรับเ้ามาอยู่ที่นี่ ย่อมหมายความว่าเ้าคือคนสำคัญ ข้าในฐานะพี่สาว... ย่อมต้องดูแลเ้าให้ดี"
เธอกวาดสายตามองไปรอบห้องที่เรียบง่าย (และรกเล็กน้อยตามสไตล์ฉัน) ก่อนจะถอนหายใจอย่างสงสาร
"โถ... ห้องหับช่างคับแคบนัก หากเ้าขาดเหลือสิ่งใดบอกพี่สาวได้นะ อย่าเกรงใจ"
ฉันลอบเบ้ปากในใจ 'พี่สาว' เหรอ? ฉันมีพี่สาวเป็หมอศัลยกรรมที่พร้อมจะเลาะฟันเธอออกทีละซี่ถ้าเธอทำนิสัยเสียใส่ฉันน่ะสิ
"พระชายารองเพคะ..." ฉันเริ่มรุกกลับด้วยน้ำเสียงเชือดเฉือนแต่ยังคงความสุภาพ "หม่อมฉันมีสำนวนจีนอยู่บทหนึ่งอยากจะแบ่งปัน... ปากปราศรัย น้ำใจเชือดคอ พระนางว่าสำนวนนี้หมายถึงคนประเภทไหนเหรอเพคะ?"
สีหน้าของเสิ่นอีรุ่ยเปลี่ยนไปชั่วครู่ แววตาที่เคยอ่อนโยนสั่นไหวเล็กน้อย
"น้องหญิง... เหตุใดเ้าจึงกล่าวเช่นนั้น? พี่สาวเพียงแค่อยากมาผูกมิตร"
"อ๋อ... หม่อมฉันก็แค่พูดลอยๆ ตามประสาคนป่วยน่ะเพคะ" ฉันพิงหลังกับพนักเตียง มองดูถาดขนมที่เธอให้นางกำนัลวางไว้บนโต๊ะ
"ขนมนั่น... ดูน่าทานจังเลยนะเพคะ แต่หม่อมฉันสงสัยว่า ถ้าหม่อมฉันกินเข้าไปแล้ว จะ หลับสบาย ตลอดไป หรือจะ ตื่นมาพร้อมกับชื่อเสียงที่ฉาวโฉ่ ดีล่ะเพคะ?"
"เ้า!!! เ้ากล้าใส่ร้ายข้าอย่างนั้นหรือ!" เสิ่นอีรุ่ยเริ่มคุมโทนเสียงไม่ได้
และในตอนนั้นเอง น้ำหอมกลิ่นความจริง ก็เริ่มทำงาน...
เสิ่นอีรุ่ยเริ่มมีอาการคันยิบๆ ที่ริมฝีปาก เธอพยายามจะเม้มปากไว้แต่ดูเหมือนจิตใต้สำนึกจะขัดขืนอำนาจของระบบไม่ได้
"ที่จริง... ข้าก็ไม่ได้อยากมาที่นี่หรอก!" จู่ๆ เสิ่นอีรุ่ยก็โพล่งออกมาด้วยน้ำเสียงที่ต่างจากเมื่อครู่ลิบลับ
"นังขยะอย่างเ้ามีสิทธิ์อะไรถึงได้นั่งเกี้ยวส่วนตัวของท่านอ๋อง! ข้าต้องใช้เวลาเกือบสองปีกว่าจะได้รับอนุญาตให้แตะขอบเกี้ยวนั่น แต่เ้า... เ้าที่เป็แค่ยัยคนี้เีวันๆ เอาแต่นอน กลับได้ทุกอย่างไปง่ายๆ!"
นางกำนัลของเสิ่นอีรุ่ยหน้าซีดเผือด
"พระชายา! ทรงตรัสอะไรออกมาเพคะ!"
"หุบปาก!" เสิ่นอีรุ่ยตวาด
"ข้าเกลียดมัน! เกลียดที่ท่านอ๋องไปทานอาหารที่มันทำในครัว เกลียดที่เขายิ้มให้มัน! ข้าอุตส่าห์ใส่ยาถ่ายระดับเบาลงไปในขนมพวกนี้เพื่อให้มันท้องเสียจนไปร่วมงานเลี้ยงคืนนี้ไม่ได้ เ้าจะไปรู้อะไร!"
ห้องทั้งห้องเงียบกริบจนได้ยินเสียงนกบินผ่าน อาหลินอ้าปากค้างจนแมลงวันแทบจะบินเข้าไปวางไข่ได้
ฉันนั่งมองเธอด้วยสายตาเฉื่อยชาพลางหยิบเม็ดทานตะวันขึ้นมาแทะ
"ว้าว... การแสดงออสการ์เมื่อกี้จบไวไปหน่อยเพคะพระชายา นึกว่าจะทนเป็นางเอกได้นานกว่านี้เสียอีก"
ฉันลุกขึ้นยืนช้าๆ เดินเข้าไปหาเสิ่นอีรุ่ยที่กำลังพยายามเอามือปิดปากตัวเองด้วยความตื่นใ
"คุณคะ... คุณรู้ไหมว่าทำไมคุณถึงแพ้คนอย่างฉัน?"
"แก... แกใช้วิชามาร!" เสิ่นอีรุ่ยถอยหลังหนี
"เปล่าค่ะ ฉันแค่ใช้ความสัตย์จริงที่คุณไม่มี" ฉันจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของเธอ
"คุณพยายามขยันวางแผนทำลายคนอื่น ขยันเสแสร้งเป็คนดี แต่คุณลืมไปอย่างหนึ่ง... กระดาษย่อมห่อไฟไม่ได้ ความชั่วร้ายในใจคุณมันร้อนแรงจนเผาหน้ากากนางเอกของคุณจนไหม้เกรียมหมดแล้ว"
ฉันหยิบขนมในจานขึ้นมาหนึ่งชิ้น ยื่นไปจ่อที่ปากเธอ
"ในเมื่อคุณบอกว่าเป็พี่สาวที่แสนดี... งั้นคุณก็ทานขนมพวกนี้ให้ฉันดูหน่อยสิเพคะ ถ้ามันแค่ยาถ่าย... คุณก็นอนห้องน้ำสักคืนสองคืนจะเป็ไรไป?"
"ไม่! ข้าไม่กิน!" เสิ่นอีรุ่ยปัดมือฉันจนขนมกระจายเต็มพื้น
"ทำไมล่ะคะ? กลัวท้องเสีย หรือกลัวว่า ความตอแหล มันจะพุ่งออกมามากกว่านี้?" ฉันหัวเราะเบาๆ ในลำคอ
"สำนวนจีนกล่าวว่า ทำสิ่งใด ย่อมได้รับสิ่งนั้น ถ้าคุณขยันวางแผนร้ายนัก... งั้นผลลัพธ์นี้คุณก็ควรจะรับไปเองนะเพคะ"
ในจังหวะนั้นเอง...
"มีเื่อะไรกัน?"
เสียงทุ้มต่ำและทรงอำนาจดังขึ้นที่ประตู เซียวโม่ เดินเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าเคร่งขรึม สายตาคมกริบกวาดมองขนมที่กระจายอยู่ที่พื้นและเสิ่นอีรุ่ยที่กำลังสติแตก
"ท่านอ๋อง! ท่านอ๋องช่วยหม่อมฉันด้วยเพคะ! นังนี่... นังหลินชิงเซวียนมันใช้วิชามารทำร้ายหม่อมฉัน!" เสิ่นอีรุ่ยรีบวิ่งไปเกาะแขนเซียวโม่ น้ำตาไหลพรากราวกับสั่งได้
เซียวโม่มองแขนตัวเองที่ถูกเกาะแล้วมองมาที่ฉันที่กำลังยืนหาวอยู่อย่างไม่ทุกข์ร้อน
"หลินชิงเซวียน เ้าทำอะไรนาง?"
ฉันมองเซียวโม่แล้วยักไหล่
"ฉันก็แค่ถามความจริงนิดหน่อยค่ะท่านอ๋อง แต่ดูเหมือนพระชายารองของคุณจะมีความลับเยอะจนเก็บไว้ไม่มิด... อ้อ ถ้าคุณอยากรู้ว่าเธอพูดอะไรไปบ้าง ถามองครักษ์หน้าประตูที่ยืนแอบฟังอยู่ก็ได้นะเพคะ พวกเขาน่าจะจดบันทึกไว้หมดแล้ว"
หานเซียว (องครักษ์หน้าตายคนเดิม) ก้าวเข้ามาและรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างละเอียดยิบ รวมถึงคำรับสารภาพเื่ยาถ่ายและคำด่าทอที่เสิ่นอีรุ่ยหลุดปากออกมา
ยิ่งหานเซียวพูด ใบหน้าของเซียวโม่ยิ่งดำมืดลงราวกับท้องฟ้าก่อนพายุใหญ่จะเข้า
"เสิ่นอีรุ่ย... ข้าให้เ้าอยู่ในจวนนี้เพราะเห็นแก่ตระกูลเสิ่น และเพราะข้าคิดว่าเ้าจะเป็คนที่มีเหตุผล" เซียวโม่สะบัดแขนออกอย่างแรงจนเสิ่นอีรุ่ยล้มลงกับพื้น
"แต่การที่เ้ากล้าวางยาคนในจวนของข้า และแสดงกิริยาที่น่ารังเกียจเช่นนี้... เ้าทำให้ข้าผิดหวังอย่างยิ่ง"
"ท่านอ๋อง... หม่อมฉัน... หม่อมฉันไม่ได้ตั้งใจเพคะ!"
"ไม่ได้ตั้งใจเหรอคะ?" ฉันแทรกขึ้นพร้อมรอยยิ้มแสบสัน
"การต้มยาถ่ายแล้วผสมลงในขนมเนี่ย มันต้องใช้ ความตั้งใจ และ ความพยายาม สูงมากเลยนะเพคะ พระชายารองช่างขยันเหลือเกิน... ขยันในเื่ที่ไม่เป็เื่จนน่าประทับใจจริงๆ!"
เซียวโม่หันมามองฉัน สายตาของเขาดูอ่อนลงเล็กน้อยก่อนจะกลับมาแข็งกร้าวเมื่อมองไปที่เสิ่นอีรุ่ย
"ั้แ่วันนี้เป็ต้นไป... ห้ามเสิ่นอีรุ่ยออกจากเรือนพักของตนเองเป็เวลาสามเดือน! ตัดเบี้ยหวัดทั้งหมด และให้ไปคัดลายมือธรรมะสิบจบทุกวัน เพื่อขัดเกลาจิตใจที่เน่าเฟะของเ้า!"
"ท่านอ๋อง! ไม่นะเพคะ!" เสิ่นอีรุ่ยหวีดร้องก่อนจะถูกองครักษ์ลากตัวออกไป
เมื่อความวุ่นวายจบลง เหลือเพียงฉัน เซียวโม่ และอาหลินในห้องที่กลับมาสงบอีกครั้ง
"ขอบพระทัยที่ช่วยจัดการให้นะเพคะท่านอ๋อง" ฉันกลับไปทิ้งตัวลงนอนบนเตียงตามเดิม
"แต่คราวหน้า... รบกวนช่วย คัดกรอง คนที่จะมาเยี่ยมฉันหน่อยได้ไหมคะ? การต้องลุกขึ้นมาตบหน้าดอกบัวขาวแต่เช้ามันทำให้ฉันเสียสุขภาพจิต และที่สำคัญ... ฉันยังไม่ได้นอนให้ครบแปดชั่วโมงเลย!"
เซียวโม่เดินเข้ามาใกล้เตียง มองดูฉันที่หลับตาลงอย่างไม่สนใจโลก
"เ้านี่มัน... แปลกคนจริงๆ คนอื่นเขาต้องรีบอธิบายความจริงเพื่อให้ข้าเชื่อใจ แต่เ้ากลับนอนรอให้ข้าหาคำตอบเอง"
"ก็มันเหนื่อยนี่คะท่านอ๋อง" ฉันพึมพำ
"สำนวนจีนกล่าวว่า ความจริงย่อมเป็ความจริง ทองแท้ย่อมไม่กลัวไฟ แล้วฉันจะไปเสียเวลาพ่นไฟแข่งกับเธอทำไม? สู้เอาเวลาไปนอนฝันถึงน่องไก่ทอดดีกว่าเยอะ"
เซียวโม่หัวเราะเบาๆ ในลำคอ เป็เสียงหัวเราะที่ฟังดูผ่อนคลายอย่างที่ไม่เคยเป็มาก่อน
"น่องไก่ทอดเหรอ? งั้นคืนนี้ข้าจะให้ห้องครัวทำมาส่งให้ที่เรือน... แลกกับการที่เ้าต้องตื่นมาไปงานเลี้ยงกับข้า"
ฉันลืมตาขึ้นข้างหนึ่ง
"มีเนื้อเยอะไหมเพคะ?"
"เยอะเท่าที่เ้าอยากกิน"
"ตกลงค่ะ... แต่ถ้าไม่มีเบาะรองนั่งที่งานเลี้ยง ฉันจะหลับใส่ไหล่คุณจริงๆ ด้วย"
เซียวโม่ยิ้มที่มุมปาก
"ตามใจเ้า"
เขาก้าวเดินจากไป ทิ้งให้ฉันจมลงในความนุ่มของหมอนอีกครั้ง
[ติ๊ง! ภารกิจ ทำลายดอกบัวขาว สำเร็จงดงาม!] [ได้รับแต้มปลาเค็ม: 3,000 แต้ม] [คุณได้รับรางวัล: สกิลหลับนกขั้นเทพ สามารถยืนหลับในงานเลี้ยงได้โดยไม่มีใครจับได้!]
"เพอร์เฟกต์... รางวัลนี้แหละที่ฉัน้าที่สุดสำหรับงานคืนนี้" ฉันยิ้มอย่างพึงพอใจก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทราที่แสนสุข โดยไม่รู้เลยว่า... งานเลี้ยงคืนนี้ไม่ได้มีแค่เนื้อและเหล้าองุ่น แต่ยังมีแผนการใหญ่ที่กำลังรอเปิดโปงตัวตนของ ปลาเค็ม อย่างฉันให้ะเืไปทั้งราชสำนัก!
