หญิงสาวยื่นริมฝีปากของเธอเข้าไปใกล้ก่อนกระซิบคำพูดอันอ่อนโยนและอบอุ่นข้างหูของเขาเฉกเช่นคนรัก ยามที่เธอกระซิบมือที่นิ่มนวลสีเนื้อทั้งสองข้างของเธอก็คว้ามือแต่ละข้างของเขาขึ้นมาบีบจับหน้าอกของเธอช้าๆอย่างไรก็ตามลึกลงไปข้างในดวงตาอันทรงเสน่ห์ไร้ที่สิ้นสุดของเธอ แสงเย็นส่องวาบขึ้นมาตอนที่เธอฉีกกระชากเสื้อผ้าชั้นสุดท้ายออกนั้นเธอก็รู้สึกว่าจิตใจของเขาว่างเปล่าไปชั่วขณะ ตราบใดที่เธอให้เขาััผิวกายของเธอจิตใจของเขาจะต้องแตกสลายไปจนหมดสิ้น!
“เ้า~” มือทั้งสองข้างถูกคว้าไปโดยมือขาวเนียนคู่หนึ่งและค่อยๆเคลื่อนเข้าไปใกล้หน้าอกใหญ่อันไร้ที่ติคู่นั้นของเธอซึ่งดูเหมือนไม่ได้เป็ของดินแดนมนุษย์หลิงเฉินแทบจะได้ยินเสียงจิติญญาของเขาพังทลาย
รอยยิ้มที่มีเสน่ห์ของหญิงสาวดูคลุมเครือมากยิ่งขึ้นทันใดนั้นมือของชายหนุ่มที่เธอจับไว้ก็เป็อิสระและพุ่งไปจับหน้าอกของเธอด้วยตัวเอง ในขณะที่เธอไม่ได้เตรียมตัวหน้าอกใหญ่ั์ทั้งคู่ก็โดนมือของหลิงเฉินจับและบีบนวดอย่างรุนแรงเนื่องจากพละกำลังอันล้นเหลือของเขาหน้าอกอันเต่งตึงและคับแน่นก็ทะลักออกมาจากทางด้านข้างของนิ้วมือที่กางอยู่มันเป็ไปไม่ได้เลยที่จะจับหน้าอกด้วยมือเพียงข้างเดียวมือทั้งสองข้างของเขากำลังเพลิดเพลินไปกับความหื่นกระหายนี้ ไม่ว่านิ้วมือทั้ง 10นิ้วของเขาจะบีบจับและเคล้าคลึงไปที่ใด เขาก็ได้ััหน้าอกอันนุ่มนิ่มเต็มมือไม่ว่าเขาจะจับพวกมันอย่างไรเขาก็รู้สึกถึงรูปร่างอันน่าอัศจรรย์ของหน้าอกคู่นี้ที่ทำให้ผู้คนทึ่งได้เสมอ
หน้าอกอันเย้ายวนใจของหญิงสาวนั้นไวต่อความรู้สึกเป็อย่างยิ่งอีกทั้งร่างกายของเธอยังอยู่ในสภาพที่ค่อนข้างอ่อนแอ จากการกระทำอันบ้าคลั่งของเขาเรี่ยวแรงทั้งหมดในร่างกายของเธอก็หายไปในทันที เธอกัดฟันแน่นต่อต้านความรู้สึกมึนงงและเ็ปเล็กน้อยจากหน้าอกของเธอริมฝีปากของเธอเผยอออกอย่างห้ามไม่ได้ พร้อมกับส่งเสียงร้องครวญครางออกมาเบาๆเมื่อเธอรู้สึกตัวเธอก็รีบปิดปากเธออย่างรวดเร็วเพื่อหยุดยั้งเสียงร้องครวญครางที่กำลังจะออกมาจากปากของเธอ
การที่มีผู้ชายมาััหน้าอกของเรามันเป็ความรู้สึกเช่นนี้เองมันแตกต่างจากตอนที่เราััด้วยตัวเองอย่างสิ้นเชิง...
เธอไม่ได้เอามือของหลิงเฉินออกไปแต่เธอกลับกัดฟันเบาๆ และอดทนไว้พร้อมกับรอยยิ้มอันทรงเสน่ห์ที่ยังคงปรากฏอยู่บนใบหน้าของเธอ: “คิกๆหนุ่มน้อย หน้าอกของพี่สาวงดงามไหม!”
เสียงพูดของเธอหยุดไปในขณะที่เสียงร้องด้วยความประหลาดใจดังขึ้นเธอชูคอเพรียวบางซึ่งเป็ริ้วอย่างสวยงามขึ้น ทั่วทั้งร่างของเธอสั่นสะท้านอาการสยิวแล่นไปที่เรียวขาอันงดงามของเธออย่างต่อเนื่องซึ่งเป็เพราะมือของหลิงเฉินที่จู่ๆก็ออกแรงบีบขย้ำความแรงในการบีบขย้ำของเขาที่ปกติก็เร็วอยู่แล้วนั้นกลับเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันเขาจับหน้าอกของเธออย่างไร้ปราณีเหมือนกับคีบเหล็กสองอันนิ้วมือที่ประสานกันของเขายังหนีบอัญมณีสีชมพูสองเม็ดนั้นไว้ระหว่างซอกนิ้วของเขา
“มันเจ็บนะเบาๆ หน่อยมันเจ็บนะ อ๊า!” ร่างกายอันทรงเสน่ห์ของหญิงสาวไวต่อความรู้สึกเป็อย่างมากความสับสนมึนงงและความเ็ปมหาศาลซึ่งเข้ามาพร้อมกันนี้ทำให้เธอส่งเสียงร้องครวญครางและสั่นเทาอย่างรุนแรงลักยิ้มสีแดงเรื่อของเธอนั้นเหมือนว่าเธอดื่มแอลกอฮอล์จำนวนมากขนตาหนาโค้งงอนของเธอสั่นไหวอย่างรุนแรงเรียวขาทั้งสองข้างบดเบียดกันคล้ายว่ากำลังชักกระตุกมือทั้งสองของเธอจับข้อมือของเขาหมายจะเอามันออกไปทว่าเรี่ยวแรงของเธอเหลืออยู่น้อยนิดจึงทำให้เธอไม่สามารถเอามือของเขาออกไปได้เธอเหลือบตาอันงดงามขึ้นปะทะดวงตาคู่หนึ่งที่น่าหวาดหวั่นดวงตาของหลิงเฉินที่พร่ามัวไปในตอนแรกขณะนี้กำลังเปล่งแสงดุร้ายราวกับสัตว์ป่าออกมาทันใดนั้นเธอก็รู้สึกถึงความหนาวเหน็บในหัวใจของเธออย่างต่อเนื่อง
เขาไม่ได้หลงเสน่ห์ไม่ใช่ั้แ่แรกเลย!
“อ๊าก————”
ตูม!!!!
เสียงคำรามร้องด้วยความเ็ปนี้เกือบจะทำให้แก้วหูของหญิงสาวแตกเป็เสี่ยงๆภายใต้เสียงแผดร้อง พื้นที่มืดมิดเริ่มแตกร้าวแสงสว่างผ่านทะลุเข้ามาข้างในอย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้นมือคู่นั้นที่กำลังบีบจับหน้าอกของเธอจับแน่นขึ้นอีกเล็กน้อยความเ็ปอย่างรุนแรงเกือบจะทำให้ดวงตาของเธอมีน้ำตาไหลออกมาเธอมองเห็นว่าที่บริเวณข้อมือซ้ายของเขา แสงสีดำของ ‘จันทร์ต้องสาป’ เริ่มมัวหมองลงเหมือนกับดวงดารายามสายัณห์จากความพยายามที่จะกลืนกินจิติญญาของมนุษย์ผู้นี้จนกระทั่งถึงตอนนี้เวลาได้ผ่านไปแล้วสองถึงสามนาที ตอนนี้มันได้ถึงขีดจำกัดในปัจจุบันของ ‘จันทร์ต้องสาป’ แล้ว ในระหว่างนี้ยังมีการขัดขวางอย่างรุนแรงถาโถมเข้าใส่จิตใจของเขาซึ่งเธอสร้างขึ้นมาจากเสน่ห์ของเธอเองแต่มันก็ยังไม่สำเร็จมนุษย์ผู้นี้จนถึงตอนนี้เขาก็ยังคงมีสติแจ่มชัด!
เป็คนที่น่ากลัวอะไรอย่างนี้…
เขาเป็มนุษย์จริงๆ งั้นหรือ? หรือเขาเป็เทพเ้าไม่ก็ปีศาจหรือเขาจะเป็สิ่งมีชีวิตโบราณซึ่งอยู่เหนือเทพเ้าและปีศาจ!
“ปล่อยข้าเถอะ ‘จันทร์ต้องสาป’ จะหยุดความเ็ปของเ้าทันทีและจะไม่พยายามกลืนกินจิติญญาของเ้าอีกต่อไปปล่อยข้าเถอะ...” หญิงสาวมองไม่เห็นความหวังใดๆ อีกต่อไปเธออดทนต่อความเ็ปอันลึกล้ำจากหน้าอกของเธอ รวมทั้งใช้เสียงน่ารักและสั่นเทาของเธออ้อนวอนขอความเมตตาจากมนุษย์ผู้นี้ถ้าทุกอย่างยังเป็แบบนี้ต่อไป‘จันทร์ต้องสาป’ จะถูกมนุษย์ผู้นี้ควบคุมแทน!
“อ๊ากกกก—”
สิ่งที่ตอบกลับเธอมามีเพียงเสียงคำรามลั่นของหลิงเฉินเท่านั้น
ในตอนแรกเธอเพียง้าใช้ร่างกายของเธอเพื่อสะกดเขาแต่ใครจะไปคาดคิดว่าร่างกายเปลือยเปล่าและหน้าอกของเธอจะถูกเขาจับอย่างตึงแน่นและทำให้เธอตกอยู่ในสภาพขายหน้าอย่างมากจนเธอต้องอ้อนวอนขอความเมตตาจากเขาเสียเอง ‘จันทร์ต้องสาป’ ที่แม้แต่ทวยเทพและอสูรร้ายต่างหวาดกลัวได้ตกอยู่ในกำมือของมนุษย์ผู้นี้แล้วจริงๆทว่าตอนนี้นอกจากการอ้อนวอนขอความเมตตาแล้วเธอจะทำอะไรได้อีก? พลังจิติญญาของ ‘จันทร์ต้องสาป’ ถึงขีดจำกัดของมันแล้ว มันไม่อาจกลืนกินจิติญญาของเขาได้อีกต่อไปเธอต้องอ้อนวอนขอความเมตตาจากเขาเพื่อป้องกันผลพวงอันเลวร้ายที่สุดจากสิ่งที่เกิดขึ้นเธอจะปล่อยให้ ‘จันทร์ต้องสาป’ และตัวเธอตกอยู่ภายใต้การควบคุมของมนุษย์ผู้นี้ได้อย่างไร
“ข้าขอร้องเ้าปล่อยข้าไปเถอะข้ายินดีช่วยเติมเต็มความปรารถนาของเ้าข้าจะตั้งใจช่วยให้เ้ากลายเป็คนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกข้าจะยอมเป็ทาสรับใช้ของเ้าปล่อยข้าเถอะหยุดสิ! ”
“อ๊า!!”
ไม่ว่าเธอจะอ้อนวอนอย่างไรเธอก็ไม่เห็นแม้แต่วี่แววของการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในดวงตาที่เ็าของหลิงเฉิน แสงของ‘จันทร์ต้องสาป’ เลือนรางมากขึ้นในขณะที่มันกำลังสั่นกลัวและเข้าใกล้การดับมอดอย่างสมบูรณ์ทีละนิดๆ
“อ๊ากกกกก!!”
ครืน!!!!
“จบแล้ว มันจบแล้ว...” หลังสิ้นเสียงแผดร้องครั้งสุดท้ายของหลิงเฉินพื้นที่มืดมิดก็ได้สลายไปจนหมดสิ้นความมืดทั้งหมดเลือนหายไปอย่างรวดเร็วคล้ายกับถูกผลักออกไปอย่างแรงโดยออร่าขนาดใหญ่บางอย่างดวงตาที่ทรงเสน่ห์ของหญิงสาวเริ่มมัวหมอง ความพยายามและการอ้อนวอนทั้งหมดของเธอล้วนไม่เกิดผลใดๆผลลัพธ์อันน่าหวาดกลัวซึ่งเธอไม่อยากเห็นมากที่สุด ในที่สุดก็มาถึง
ทันใดนั้นลำแสงสีแดงสองลำก็แวบผ่านหน้าของเธอไปดวงตาของเธอเบิกกว้างขึ้นในฉับพลันและมองตรงไปที่แหล่งกำเนิดของลำแสงสีแดงทั้งสองลำนั้นสิ่งที่เธอมองเห็นคือดวงตาของหลิงเฉินซึ่งตอนนี้ปรากฏขึ้นมาเป็สีคล้ายเืจริงๆ!
“ดวงตาดวงตานักฆ่าทำลายล้าง!! เ้าเ้าคือ...”
ตูม!!!!
เกิดเสียงดังอู้อี้ขึ้นอีกครั้งก่อนที่ความมืดทั้งหมดจะหายไปอย่างสิ้นเชิงทุกสิ่งทุกอย่างกลับมาเป็เหมือนตอนที่หลิงเฉินก้าวเข้ามาที่นี่ครั้งแรกในอากาศมีลูกแก้วเล็กๆ จำนวนนับไม่ถ้วนเปล่งแสงสีเขียวอ่อนล่องลอยไปมาซึ่งให้ความสว่างแก่พื้นที่แห่งนี้ส่วนบนพื้นนั้นยังคงเหลือร่องรอยที่หลิงเฉินเคยเกลือกกลิ้งอยู่ นอกจากนี้ก็ไม่มีอะไรที่เปลี่ยนไป คล้ายกับว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น
ในที่สุดมือของหลิงเฉินก็ปล่อยจากหน้าอกของหญิงสาวดวงตาของเขาปิดลงอย่างช้าๆ จากนั้นก็ล้มลงไปด้านหลังราวกับท่อนไม้ที่ล้มลงพื้นอย่างรุนแรงและหมดสติไปอย่างสมบูรณ์ บนข้อมือข้างซ้ายของเขามีกำไลสีดำพันรอบอยู่แน่นอีกทั้งบนตัวกำไลไม่มีแสงใดๆ เปล่งออกมาอีก
หญิงสาวถอยหลังกลับไปสองสามก้าว ก่อนสูดหายใจเฮือกใหญ่หน้าอกขนาดมหึมาของเธอสั่นขึ้นๆ ลงๆ จากการหอบหายใจอย่างหนักหน่วงจนปรากฏเป็ระลอกคลื่นขึ้นบนหน้าอกของเธอที่ทำให้ผู้คนรู้สึกเืพล่าน้ายังมีรอยนิ้วมือสีแดงและน้ำเงินสลับกันไปมาเธอยกมือขึ้นพร้อมกับสะบัดนิ้วมือชุดสีดำเหมือนก่อนหน้านี้ก็ปรากฏขึ้นมาปกปิดร่างกายของเธอที่เพียงพอจะสะกดคนทั้งโลกจากนั้นเธอมองไปที่หลิงเฉินซึ่งอยู่บนพื้นอย่างเงียบเชียบด้วยท่าทางที่ดูสับสนวุ่นวายเป็อย่างมาก
‘จันทร์ต้องสาป’ พันรอบข้อมือของเขาแล้ว และไม่อาจแยกจากกันได้ ‘จันทร์ต้องสาป’ ไม่สามารถปลดออกด้วยตัวของมันเอง หลิงเฉินเองก็ไม่สามารถถอดมันออกได้เพราะเมื่อมันถูกกำราบแล้วมันจะถูกบังคับให้ติดตามคนที่ควบคุมมันจนกระทั่งถึงวันที่คนผู้นั้นตายจากไป
“มนุษย์ผู้นี้เป็ปีศาจงั้นเหรอ?มนุษย์ธรรมดาจะมีจิติญญากล้าแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไรกันดวงตานักฆ่าทำลายล้างปรากฏบนมนุษย์ได้อย่างไร!”เธอบีบนวดหน้าอกที่ปวดระบมของตัวเอง และพูดกับตัวเธอเองในระหว่างที่หอบหายใจ
“ในตำนานนั้นมีเพียงเทพเ้าหรือปีศาจที่มีจิติญญาอยู่ในระดับสูงมากๆเท่านั้นที่จะสามารถใช้จิติญญาผ่านทางสายตาเพื่อทำลายล้างสิ่งมีชีวิตทุกชนิดดวงตาของพวกมันในตอนนั้น คือ ‘ดวงตานักฆ่าทำลายล้าง’ ที่น่าสะพรึงกลัว แต่ดวงตานักฆ่าทำลายล้างนั้นเคยปรากฏเมื่อนานมาแล้วในยุคของเทพเ้าและปีศาจหลังจากนั้นก็ไม่ปรากฏที่ไหนอีกเลย10,000 ปีก่อนเหล่าเทพเ้าและปีศาจตกตายและกระจัดกระจายไปและตอนนี้พวกมันตกอยู่ในสภาพที่น่าหวาดกลัวฉะนั้นดวงตานักฆ่าทำลายล้างไม่ควรจะปรากฏขึ้นมาอีก ทว่าดวงตาของมนุษย์ผู้นี้ในตอนนั้น...”
“มันอาจจะเป็แค่ภาพลวงตาหรือไม่ได้เป็แม้กระทั่งดวงตานักฆ่าทำลายล้าง? ”
แต่ไม่ว่าอย่างไร ‘จันทร์ต้องสาป’ ก็ไม่อาจเปลี่ยนเขาให้กลายเป็หุ่นเชิดของมันได้แต่มันกลับถูกกำราบโดยจิติญญาอันแข็งแกร่งซึ่งหาที่เปรียบไม่ได้และกลายเป็ของเขาั้แ่นี้เป็ต้นไป ‘จันทร์ต้องสาป’จะช่วยเหลือเขาเพียงคนเดียวรวมทั้งอยู่ในการควบคุมและฟังคำสั่งของเขาโดยต่อต้านไม่ได้
ในที่สุดความรู้สึกเ็ปที่หน้าอกของเธอก็เริ่มทุเลาเบาบางลงหญิงสาวเดินไปหาหลิงเฉิน และจ้องมองไปที่ร่างกายและใบหน้าของเขา หลังจากผ่านไปนานเธอก็พูดกระซิบขึ้นมาช้าๆ: “ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว หวังว่าเขาจะนำพาความประหลาดใจมาให้เราได้...”
………..
………..
“พี่คะทำไมพี่ถึงไม่เต็มใจเล่าเื่ในอดีตให้หนูฟังทุกทีเลย?หนูอยากรู้จริงๆ นะ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับพี่ หนูอยากรู้”
“เพราะว่าพี่เคยเป็คนไม่ดีมาก่อน”
“คนไม่ดี?คนไม่ดีแบบไหนกันคะ?”
“เลวมากๆ แบบชั่วร้ายที่สุด”
“คิกๆ หนูไม่เชื่อพี่หรอกเห็นได้ชัดว่าพี่เป็คนที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก”
“ถ้าหากพี่เป็คนเลวที่ทุกคนเกลียด?รั่วรั่วจะเกลียดพี่ด้วยหรือเปล่า?”
“ไม่ค่ะ! หนูจะไม่มีวันเกลียดพี่ถ้าหากพี่เป็คนไม่ดีจริงๆ งั้นหนูก็จะเป็คนไม่ดีเหมือนกับพี่ แบบนี้หนูก็จะสามารถอยู่เคียงข้างพี่ต่อไปได้และไม่ต้องแยกจากพี่ถึงแม้ว่าพี่จะทำบางสิ่งที่ผิดมากๆ และถูกลงโทษ หนูก็จะรับการลงโทษนั้นกับพี่ด้วย”
“…”
รั่วรั่ว...
หลิงเฉินลืมตาขึ้น โดยไม่ต้องรอให้สายตามองเห็นได้ชัดเขาก็ลุกขึ้นนั่งในทันที หลังจากความสับสน่สั้นๆทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเขาก่อนหน้านี้ได้ฉายซ้ำขึ้นในความคิดของเขาอย่างรวดเร็ว
“นายน้อยของข้าในที่สุดท่านก็รู้สึกตัว”
เสียงน่ารักดังขึ้นข้างหูของเขาและทำให้ร่างกายที่มึนงงอยู่แล้วอ่อนลงกว่าเดิมเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ขมวดคิ้วก่อนจะะโขึ้นยืนบนพื้น และมองไปที่หญิงสาวซึ่งอยู่เบื้องหน้า “เ้า!!”
ตอนที่พูดเขาก็ยกแขนซ้ายขึ้นมาบนข้อมือของเขามีจันทร์เสี้ยวสีดำพันอยู่รอบ มันมีรู 15 รู กระจายอยู่ในแนวตั้ง 3รู และในแนวนอนอีก 12 รู เพียงแค่ว่าในตอนนี้ มันไม่ได้นำความเ็ปใดๆ มาให้เขาแต่มันกลับพันอยู่รอบข้อมือของเขาอย่างเงียบๆ หลิงเฉินััได้รางๆ ถึงการควบคุมที่เขามีเหนือมัน
ไอเทมอันน่าหวาดกลัวซึ่งจะกลืนกินจิติญญาของเราก่อนหน้านี้มันเป็ของเราแล้วงั้นหรือ?