คังอิงจึงเอ่ยว่า “ไหนๆ วันนี้ก็มาโรงพยาบาลแล้ว ในเมื่อยังกังวลใจอยู่ ก็ไปหาหมอแผนจีนตรวจดูสักหน่อยสิ จะได้สบายใจ”
สือเจียงหย่วนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบ “ก็ได้ คุณพอจะมีหมอแผนจีนคนไหนแนะนำบ้างไหม?”
คังอิงเป็คนท้องถิ่น ถ้าหากบอกว่าไม่รู้จักแพทย์แผนจีนคงจะดูแปลกๆ
คังอิงลังเลเล็กน้อย “มีหมอแผนจีนแซ่เจิ้งคนหนึ่ง ฝีมือรักษาดีใช้ได้ มีคนไข้มาให้ตรวจดูไม่ขาดสาย ลองไปให้เขาตรวจดูไหม?”
เมื่อสือเจียงหย่วนได้ฟังก็ตอบตกลงอย่างยินดี “งั้นไปหาหมอเจิ้งกันเถอะ”
คังอิงมีท่าทางลังเล เหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่ได้พูดออกมา แม้เธอจะรู้สึกว่ามันไม่ค่อยสะดวกนัก แต่สุดท้ายสุขภาพของสือเจียงหย่วนก็สำคัญที่สุด อีกอย่างเธอไม่รู้จักแพทย์แผนจีนคนอื่น ก็คงต้องไปหาหมอเจิ้งนี่แหละ
ความลังเลของคังอิงอยู่ในสายตาของสือเจียงหย่วน เขาไม่รู้ว่าทำไมคังอิงถึงลังเล เขากำลังจะบอกว่าหากไม่สะดวกก็ไม่เป็ไร ค่อยไปหาหมอกันทีหลังก็ได้
แต่คังอิงกลับตอบตกลงทันที “ไปกันเถอะค่ะ ตอนนี้ยังทันเวลา เขาจะตรวจคนไข้แค่่เช้า ส่วน่บ่ายจะปิดร้านพักผ่อน เขาบอกว่าแก่แล้ว ร่างกายไม่ไหว”
สือเจียงหย่วนจึงขับรถไปยังคลินิกแพทย์แผนจีน ‘อวี้เซินถัง’ ตามคำแนะนำของคังอิง
แพทย์แผนจีนที่เก่งกาจมักจะซ่อนตัวอยู่ในหมู่ผู้คน คลินิกแห่งนี้แม้จะไม่ใหญ่นัก แต่ก็มีคนไข้มารอคิวตรวจเยอะมาก ภายในคลินิกยังอวลไปด้วยกลิ่นของการรมยาจีนอันเข้มข้นด้วย
คนไข้บางคนก็นอนคว่ำ บางคนก็นั่ง บางคนก็นอนราบ คนไข้จำนวนไม่น้อยมาที่นี่เพื่อฝังเข็ม หลังจากฝังเข็มเสร็จแล้วก็ต้องรมยาจีน
“ดูเหมือนหมอเจิ้งคนนี้จะเก่งกาจ มีคนไข้มาหามากเลย” สือเจียงหย่วนเอ่ยขึ้นลอยๆ
คังอิงมีสีหน้าเรียบเฉย เธอเพียงพยักหน้ารับเบาๆ โดยไม่ได้เอ่ยอะไร
คลินิกแห่งนี้ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับซอยบ้านของฟู่ซินหลาง เหมยเหนียงร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงจึงมักจะมาที่นี่เพื่อให้หมอเจิ้งรักษา
เ้าของร่างเดิมของคังอิงป่วยเป็โรค ‘มดลูกเย็น’ [1] ทุกครั้งที่ประจำเดือนมา เธอจะปวดท้องมากจนต้องเดินก้มตัว
หลังจากที่เธอมารักษาที่นี่และกินยาจีนได้สามเดือน อาการของเธอก็หายเป็ปลิดทิ้ง และกลับมาเป็ปกติ
เมื่อนึกถึงความทรงจำเื่การรักษาของเ้าของร่างเดิม คังอิงก็รู้สึกว่าฝีมือรักษาของหมอเจิ้งคงไม่ธรรมดา
ก่อนหน้านี้ที่เธอลังเลว่าจะมาที่นี่ดีหรือเปล่า เพราะนึกไปว่าเหมยเหนียงมักจะมารักษาที่นี่ เธอไม่อยากเจอเหมยเหนียง ไม่อยากเสียเวลาพูดคุยกับหล่อน
สือเจียงหย่วนรับบัตรคิวแล้วรอหมอเรียกตรวจอย่างอดทน
การตรวจคนไข้ของแพทย์แผนจีนนั้นยุ่งยากกว่าแพทย์แผนปัจจุบันมาก แพทย์แผนปัจจุบันมักจะออกใบสั่งยาให้คนไข้ไปตรวจเื ตรวจอัลตราซาวนด์ หรือทำซีทีสแกน แล้วรอผลการตรวจจากเครื่องมือต่างๆ จากนั้นก็จ่ายยาตามข้อมูลต่างๆ โดยทั่วไปแล้วจะใช้เวลาไม่เกินสิบนาทีต่อคนไข้หนึ่งคนก็เรียบร้อย
ส่วนแพทย์แผนจีนมักจะใช้ ‘การดู การดมและฟัง การซักถาม การจับชีพจร’ [2] หลังจากนั้นก็ต้องปรุงยาจีน โดยปกติแม้จะเป็ไข้หวัดธรรมดา ก็ยังต้องใช้เวลารักษาประมาณยี่สิบนาที
สือเจียงหย่วนได้บัตรคิวหมายเลข 23 คงต้องรออีกนานทีเดียว
สือเจียงหย่วนที่เห็นว่าหมอเจิ้งตรวจคนไข้ค่อนข้างช้าบอกกับคังอิงว่า “คุณกลับบ้านไปก่อนเถอะ ผมรอตรวจคนเดียวก็ได้”
คังอิงคิดว่าส่งพระถังซัมจั๋งต้องส่งให้ถึงชมพูทวีป [3] แถมยังเสียเวลามามากขนาดนี้ การที่เธอจะรอเขาอีกสักพักก็ไม่ใช่เื่ใหญ่ เธอจึงเอ่ยว่า “ไม่เป็ไรหรอกค่ะ อีกไม่นานก็ถึงคิวคุณแล้ว ตรวจคนไข้ไปครึ่งหนึ่งแล้วouj”
สือเจียงหย่วนเห็นว่าเธอไม่ได้คิดจะกลับ และดูเหมือนค่อนข้างเป็ห่วงเขา ในใจก็รู้สึกหวานชื่นเล็กน้อย เขาพยักหน้าแล้วบอกว่า “ก็ได้ งั้นเรามารอกันอย่างอดทนก็แล้วกัน”
แท้จริงแล้วหมอเจิ้งรู้จักคังอิง แต่ตอนแรกคนเยอะมาก เขาไม่ทันสังเกตเห็นเธอ พอได้ยินเสียงคังอิง หมอเจิ้งก็เงยหน้าขึ้นมอง พอเขาเห็นว่าคังอิงเปลี่ยนไปมาก จึงเอ่ยทักทายอย่างยินดี
“คังอิง ไม่เจอกันนานเลยนะ เมื่อสองสามวันก่อนแม่สามีเธอมารับยาจากที่นี่ ยานั่นกินได้สี่วัน ยังไม่ถึงกำหนดรับยาเลย ทำไมเธอถึงมาที่นี่ล่ะ?”
หมอเจิ้งคิดว่าคังอิงมาต่อแถวเพื่อรับยาให้เหมยเหนียงอีก
คังอิงส่ายหน้าแล้วบอก “ฉันไม่ได้มารับยาให้เธอ ฉันพาเพื่อนมารักษาค่ะ”
หมอเจิ้งร้อง ‘อ้อ’ โดยไม่ถามอะไรเพิ่มเติม และตั้งใจตรวจคนไข้ต่อไป
สือเจียงหย่วนได้ยินเช่นนั้นก็เข้าใจทันทีว่าทำไมคังอิงถึงลังเล ดูท่าก่อนหน้านี้เธอมักจะมารับยาที่นี่แทนแม่สามีของเธอ
พอคิดแบบนี้ คังอิงก็ช่างเป็ลูกสะใภ้ที่กตัญญูจริงๆ แม่สามีป่วย เธอยังคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งรู้สึกว่าแม่ลูกคู่นั้นชั่วช้าสามานย์ การแก้แค้นเล็กๆ น้อยๆ ที่เขาทำกับฟู่ซินหลางนั้นยังไม่สาสมเลยสักนิด
ดวงตาของสือเจียงหย่วนพลันดูเ็าลง
แต่พอเขาหันไปมองคังอิง สีหน้าของเขาก็กลับมาเป็ปกติ เขาถามคังอิง “เมื่อก่อนคุณมักจะพาแม่สามีคุณมารักษาที่นี่เหรอ?”
สือเจียงหย่วนรู้ว่าเธอหย่าขาดแล้ว ดังนั้นจึงไม่ใช่เื่ต้องห้าม คังอิงพยักหน้ารับอย่างไม่ปิดบัง “ใช่ค่ะ เธอกินยาแพทย์แผนตะวันตกแล้วไม่ค่อยหาย กินยาจีนถึงจะได้ผลบ้าง ฉันจึงมักจะพาเธอมาที่นี่”
สือเจียงหย่วนมองคนที่ถูกหมอเจิ้งตรวจอาการเสร็จแล้วเดินไปยังเคาน์เตอร์ข้างๆ เพื่อรับยา ส่วนใหญ่พวกเขาจะมารับยาสามถึงห้าครั้ง ยาแต่ละครั้งราคาเจ็ดแปดหยวน นับว่าไม่ถูกเลย
โดยปกติแล้วยาจีนใช้รักษาโรคเรื้อรังได้ดีที่สุด และนี่ก็แสดงให้เห็นว่าถึงแม้คังอิงจะต้องเหนื่อยยากลำบาก และยังต้องยอมเสียเงินรักษาให้แม่สามีอีก
สือเจียงหย่วนรู้สึกว่าแม่ลูกคู่นั้นชั่วร้ายยิ่งขึ้นไปอีก เขาเอ่ยว่า “ดูท่าต้องยินดีกับคุณที่หลุดพ้นจากปลิงดูดเืสองตัวนั่นจริงๆ”
คังอิงยิ้มบางๆ เดิมทีเธอกับฟู่ซินหลางและแม่ของเขามีเพียงความผูกพันในฐานะเ้าของร่างเดิมเท่านั้น ตอนนี้เธอเปลี่ยนิญญาแล้ว ไม่มีเยื่อใยใดๆ กับพวกเขาอีกต่อไป เธอบอกอย่างใจเย็น “ฉันไม่ได้เป็หนี้พวกเขา ในเมื่อหย่าขาดกันแล้ว พวกเราก็ตัดขาดกันไป ฉันจะไม่นึกถึงเหตุการณ์เหลือทนในอดีตพวกนั้นอีก”
เมื่อสือเจียงหย่วนได้ฟัง เขาก็รู้สึกขมขื่นในใจอย่างบอกไม่ถูก และยังรู้สึกยินดีแทนคังอิงอย่างสุดซึ้ง
ในที่สุดก็ถึงคิวของสือเจียงหย่วน หมอเจิ้งถามเขาว่าป่วยเป็โรคอะไร เมื่อหมอมองดูพ่อหนุ่มตรงหน้าก็พบว่าเขามีเืฝาด ใบหน้าสดใส ไม่เหมือนคนที่กำลังป่วยเลยแม้แต่น้อย
สือเจียงหย่วนบอกอาการต่างๆ กับหมอเจิ้ง หลังจากหมอเจิ้งจับชีพจรแล้วตรวจ ‘การดู การดมและฟัง การซักถาม การจับชีพจร’ ของเขา หมอเจิ้งบอกว่า “พ่อหนุ่ม ร่างกายของเธอแข็งแรงมาก ไม่ได้เป็โรคอะไรเลย แค่ร้อนในนิดหน่อยเท่านั้น เธอลองไปเด็ดรากหญ้าคา [4] มาต้มน้ำดื่มสักสองสามครั้งก็หายแล้ว”
หมอเจิ้งบอกว่าไม่ว่าจะเป็รากหญ้าคาหรือหนานเฉ่า [5] ก็ใช้ได้ทั้งนั้น สมุนไพรพวกนี้มีฤทธิ์เย็น หาได้ง่ายตามทุ่งนาหรือแปลงผัก เด็ดมาครั้งหนึ่งก็ได้เยอะมาก ดังนั้นหมอเจิ้งจึงไม่จ่ายยาให้กับเขา
สือเจียงหย่วนถามขึ้น “แล้วทำไมผมถึงเจ็บหน้าอก และหัวใจเต้นผิดจังหวะล่ะครับ? ผมไปตรวจอัลตราซาวนด์ที่โรงพยาบาลแล้ว หมอบอกว่าหัวใจไม่ได้ผิดปกติ”
หมอเจิ้งจึงเพ่งมองสีหน้าของสือเจียงหย่วนอย่างจริงจัง ก่อนบอกว่า “พ่อหนุ่ม เธอไม่ได้เป็โรคอะไรเลยจริงๆ หากจะเป็ก็คงจะเป็เื่ของอารมณ์ ลองคิดดูสิว่า่นี้มีเื่อะไรที่ทำให้เธอตื่นเต้นง่ายหรือเปล่า?
จากอาการต่างๆ ที่เธอพูดมา หากไม่ใช่เื่ของโรคภัยไข้เจ็บแล้วล่ะก็ มักจะเกิดจากอารมณ์ทั้งนั้นแหละ
คนเราย่อมมีความสุข โกรธ เศร้า เสียใจ สิ่งเหล่านี้มักส่งผลกระทบต่อร่างกายของเรา เช่น เมื่อเราโกรธจนนอนไม่หลับ ร้อนใจ จะทำให้เหงือกบวม แต่พอเธอได้นอนหลับสบายๆ จนหายโกรธ อาการของเธอก็จะหายไป
ดังนั้นจากอาการของเธอ ฉันวินิจฉัยว่ามันเป็เพราะการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์”
เชิงอรรถ
[1] มดลูกเย็น เป็ศัพท์ว่าด้วยอาการป่วยในแพทย์แผนจีน หมายถึงภาวะที่มดลูกมีความเย็นเกินไป เกิดจากความเย็นกระทบร่างกายเข้าสู่มดลูก ส่งผลให้เกิดการหดตัวของหลอดเืบริเวณดังกล่าว เืจึงไหลเวียนได้ไม่สะดวก
[2] การดู การดมและฟัง การซักถาม การจับชีพจร เป็ขั้นตอนการวินิจฉัยโรคพื้นฐานสี่ประการของแพทย์แผนจีนโบราณ
[3] ส่งพระถัมซัมจั๋งต้องส่งให้ถึงชมพูทวีป หมายถึง การทำความดีหรือช่วยเหลือคนต้องทำให้เต็มที่
[4] หญ้าคา เป็สมุนไพรชนิดหนึ่งในตำรับยาจีน มีฤทธิ์เย็น ใช้ขับปัสสาวะ ลดไข้ และแก้อาเจียนเป็เื
[5] หนานเฉ่า เป็สมุนไพรชนิดหนึ่งในตำรับยาจีน มีฤทธิ์เย็น ใช้รักษาโรคคอพอก ไทรอยด์เป็พิษ และโรคต้อกระจก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้