จากซางตูถึงปักกิ่ง นั่งรถไฟเพียงสิบกว่าชั่วโมง
พัสดุที่เซี่ยเสี่ยวหลานส่งไปถึงปักกิ่ง ดำเนินการส่งโดยไปรษณีย์ แต่รอ 9 วันเต็มกว่าของจะส่งถึงมือโจวเฉิง
หากเป็บริการส่งพัสดุด่วนในอนาคต เกินสามวันโทรศัพท์ติดตามพัสดุก็สายไหม้แล้วโชคดีที่ซางตูและปักกิ่งคือเมืองที่การคมนาคมทางรถไฟเจริญถ้าส่งพัสดุสักชิ้นไปยังพื้นที่ไกลปืนเที่ยง อาจจะต้องใช้เวลาเดือนสองเดือนถึงจะได้รับ
“รายงาน!”
อีกฝ่ายกล่าวรายงานโจวเฉิง “มีพัสดุของคุณครับ”
เวลาพักผ่อนจากการฝึกซ้อม สายตามากมายมองมาพร้อมเพรียงกัน
ช่างเป็พัสดุที่ขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมากโจวเฉิงได้รับก็ััได้ถึงความหนักนั้นเนื่องด้วยมัจจุราชโจวอัธยาศัยดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดหลังกลับมาจากการพักงานจึงมีคนอาจหาญแทรกสอด
“หัวหน้าโจว ครอบครัวส่งของดีให้อีกแล้วสินะ?”
โจวเฉิงเป็คนใจกว้าง คนใต้บังคับบัญชาล้วนคาดว่าฐานะบ้านเขาไม่เลวอีกทั้งครอบครัวเป็ห่วงใส่ใจเขามาก โจวเฉิงจึงได้รับพัสดุต่างๆ บ่อยครั้ง เขาเป็คนไม่หวงไม่ว่าของกินหรือของใช้ จะนำออกมาแบ่งปันอยู่เสมอ มาตรฐานอาหารในหน่วยงานขึ้นอยู่กับสถานการณ์หน่วยงานที่โจวเฉิงประจำอยู่อาหารการกินไม่ดีไม่แย่ในอาหารยังพอเห็นเนื้อติดมันชิ้นโตบ้าง ปกติพวกเขาต้องฝึกฝนอย่างเข้มข้น จึงรู้สึกหิวโหยเร็วอย่างมาก
มารดาโจวเฉิงห่วงใยเขามาก ทุกสิบวันครึ่งเดือนก็ส่งของกินมาที่หน่วยงานนายโจวเคยเตือนหลายครั้งว่าไม่อนุญาตให้สุขสมกับสิทธิพิเศษส่วนตนทว่านางโจวยืนหยัดไม่เปลี่ยนแปลง เมื่อโจวเฉิงได้รับพัสดุ จึงมักนำของออกมาแบ่งปันแก่ลูกน้อง
เขามีทรัพย์สินครอบครัวไม่น้อยแต่ไม่สามารถนำพฤติกรรมฟุ่มเฟือยมาใช้ในหน่วยงาน
คนอื่นอยู่อย่างไร โจวเฉิงก็อยู่อย่างนั้น พยายามอย่าให้รายจ่ายด้านปัจจัยดำรงชีวิตพื้นฐานเป็จุดสนใจของผู้คน
ครั้งนี้มิใช่พัสดุที่นางโจวส่งมา พอเห็นที่อยู่ว่าคือของจากมณฑลอวี้หนานโจวเฉิงก็รู้ว่าเป็เซี่ยเสี่ยวหลาน
จะกล่าวว่าได้ภรรยาแล้วลืมมารดาก็ได้ มารดาของเขาส่งของให้มากมายขนาดนั้นโจวเฉิงแบ่งให้คนอื่นง่ายๆ และไม่รู้สึกเสียดายเซี่ยเสี่ยวหลานส่งของให้เขาครั้งแรก โจวเฉิงไม่อาจทำใจแกะออกให้คนอื่นดูด้วยซ้ำ!
เขาอุ้มพัสดุเดินจากไป “ภรรยาฉันส่งมาแบ่งให้พวกนายไม่ได้”
ฮ่าๆ หัวหน้าโจวยังล้อเล่นอีก เขาออกจะเอื้อเฟื้อขนาดนั้น... เดี๋ยวก่อนหัวหน้าโจวมีภรรยาแล้ว?
โจวเฉิงมีคนรักแล้ว
ข่าวนี้แพร่กระจายในหน่วยงานอย่างรวดเร็วยิ่งนักเหล่าฟางผู้ริษยาโจวเฉิงมาตลอดบีบเค้นกำปั้นจนแทบแตก
“เขาเพิ่งอายุ 20 มีคนรักอะไรกัน?”
อายุ 30 ปีอย่างเขาคนนี้ไม่ใช่ยังโสดอยู่หรือ?
พอมีภรรยา จิตใจจะวอกแวก สิ้นเปลืองเวลากับผู้หญิงมาก ความกระตือรือร้นในการทำงานจะถูกถ่วงรั้งหรือไม่?
เหล่าฟางกำหมัดแน่นอยู่ในใจ โจวเฉิงที่อายุ 20 ปีมีคู่หมายเสียแล้ว บางทีเขาไม่ควรปฏิเสธการดูตัวพวกนั้นคราวก่อนผู้บังคับบัญชายังบอกว่าจะแนะนำผู้หญิงคนหนึ่งให้รู้จักตอนนั้นเหล่าฟางปฏิเสธไป แต่ตอนนี้คิดแค่อยากตบหน้าตัวเองฉาดใหญ่
เหล่าฟางเกิดตระหนักขึ้นมาได้ หากเขายังไม่หาภรรยาอีกภายภาคหน้าลูกชายของตนจะต้องตามก้นไอ้ลูกหมาของโจวเฉิงแน่
“หัวหน้า สหายหญิงที่คุณพูดถึงคราวก่อน...”
“ไสหัวไป คนเขาแต่งงานไปเป็ปี จะคลอดลูกอยู่รอมร่อ!”
ผู้บังคับบัญชาไล่เหล่าฟางออกไป เหล่าฟางจำต้องยอมแพ้
ต้องโทษโจวเฉิงนั่นแหละ อายุแค่ 20 จะมีคนรักอะไรกัน?
----------------------------------------
โจวเฉิงหอบพัสดุอันแสนหนักอึ้งกลับหอพัก
คนที่ตำแหน่งต่ำกว่าอัดรวมกันในหอพักรวม แต่เ้าพนักงานรัฐมีห้องพักเดี่ยวตำแหน่งของโจวเฉิงอยู่ขั้นแล้ว ไม่มีทางปล่อยให้เขาอาศัยรวมกับคนอื่นได้
เขาแกะพัสดุออก ปรากฏว่าเซี่ยเสี่ยวหลานส่งของมาจำนวนมากทีเดียว
เสื้อกั๊กขนแกะสามารถสวมใต้ชุดทำงาน ปกป้องหน้าอกและแผ่นหลังไว้ร่างกายก็อบอุ่นด้วย คำพูดนี้เซี่ยเสี่ยวหลานเขียนใส่ในจดหมายโจวเฉิงไม่ได้สนใจว่ามีของอะไรบ้างสิ่งสำคัญอันดับแรกของเขาคือค้นหาจดหมายของเซี่ยเสี่ยวหลาน
เซี่ยเสี่ยวหลานบรรยายไว้ในจดหมายว่าตนส่งของอะไรมาบ้างทั้งเล่าว่าเธอให้แม่ไปรับสินค้าจากหยางเฉิงด้วยกันพบว่ามีเสื้อขนเป็ดที่เบาสบายและเก็บความอบอุ่นดีไม่รู้ว่าขณะโจวเฉิงพักจะใส่ได้หรือไม่ จึงส่งมาเพียงตัวเดียวก่อน
เสื้อขนเป็ดเป็สีน้ำเงินเข้มเซี่ยเสี่ยวหลานไม่ทราบว่าโจวเฉิงจะมีโอกาสสวมใส่หรือไม่ จึงไม่เลือกสีสดฉูดฉาด
นอกจากเสื้อผ้าสองตัว ในกล่องพัสดุยังใส่พุทราตากแห้งจากซินเจิ้ง [1] จำนวนมาก กระป๋องเหล็กหลายใบบรรจุด้วยซิ่นหยางเหมาเจียน [2] เซี่ยเสี่ยวหลานบอกอย่างเสียดายด้วยว่าเวลาส่งของของไปรษณีย์ยุ่งเหลือเกินเดิมทีเธออยากส่งเนื้อวัวหมักซีอิ๊วสักหน่อย แต่ก็กลัวว่าเมื่อส่งมาแล้วของจะเน่าเสียทำได้แค่คิดหาวิธีอื่นแก้ไขปัญหานี้อีกที
“สักวันหนึ่งในอีกไม่นาน ระยะทางเป็พันกิโลเมตร ใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงสั้นๆของก็ถึงแล้ว ส่งอาหารปรุงสำเร็จระหว่างสองพื้นที่ได้ แม้อาหารสดก็ไร้ปัญหา”
ในจดหมายเซี่ยเสี่ยวหลานเชื่อมั่นกับสิ่งนี้มาก
โจวเฉิงได้แต่คิดว่าอย่างนั้นต้องรออีกกี่ปีให้หลังกันเล่าใช้เครื่องบินส่งของ?
ขนาดประเทศเจริญรุ่งเรืองสูงสุดอย่างอเมริกายังไม่สุรุ่ยสุร่ายขนาดนั้นหรอก
เธอ้าให้โจวเฉิงกินอิ่มนอนอุ่นอย่าละเลยร่างกายเพียงเพราะอายุน้อยสุขภาพดีอีกทั้งเล่าว่าตนเองอยากร่วมหุ้นทำธุรกิจสักอย่างกับไป๋เจินจูสอบถามโจวเฉิงถึงหญิงสาวคนนี้นั้นน่าเชื่อถือหรือเปล่า
ไป๋เจินจู?
เป็น้องสาวของไป๋จื่อหย่ง
ไป๋จื้อหย่งมาหน่วยงานตั้งหลายปีกว่าจะได้เลื่อนขั้นทุกวันนี้ตำแหน่งยังต่ำกว่าโจวเฉิง
คุณลักษณะส่วนบุคคลของคนคนนี้ค่อนข้างโดดเด่น ทว่ามีนิสัยหุนหันพลันแล่น ก่อนหน้านี้มีโอกาสเลื่อนขั้นแล้วแท้ๆกลับถูกนิสัยของตนเองทำลายลง... คนประเภทนี้อาจเป็ข้าราชการใหญ่โตไม่ได้ แม้กระทั่งโจวเฉิงก็ไม่อยากสู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่กับเขาเหมือนกันด้วยเกรงว่าอุดมการณ์วีรบุรุษของเขาจะโผล่ออกมาทำลายแผนการในวินาทีหน้าสิ่วหน้าขวานทว่าสำหรับคบหาเป็มิตรสหาย โจวเฉิงเชื่อมั่นในตัวอีกฝ่ายไม่น้อยไป๋จื้อหย่งคือคนที่แยกแยะบุญคุณกับความแค้นชัดเจน โจวเฉิงเองก็มีพระคุณต่อเขาพอดิบพอดี
น้องสาวของเขาน่าจะคู่ควรแก่การเชื่อใจนะ?
โจวเฉิงอ่านจดหมายซ้ำสองรอบ วางกระดาษจดหมายลงอย่างโหยหาถอดเสื้อนอกออกเพื่อลองสวมเสื้อกั๊กขนแกะ
จากนั้นค่อยลองเสื้อขนเป็ด ไม่ทันไรเขาก็ร้อนจนเหงื่อผุดเต็มใบหน้า
ในหน่วยงานของโจวเฉิงนั้นไม่มีโอกาสให้ใส่เสื้อขนเป็ดจริงๆ โจวเฉิงถอดเสื้อออกมาแขวนไว้อย่างทะนุถนอมนี่เป็ความห่วงใยจากภรรยาเขา จะทำยับหรือสกปรกไม่ได้แต่เสื้อกั๊กสามารถใส่ใต้ชุดเครื่องแบบได้ ทั้งบางและแนบกายโจวเฉิงขยับเขยื้อนก็ไม่กระทบต่อการทำกิจกรรม
เซี่ยเสี่ยวหลานส่งพุทราแห้งมาหนึ่งถุงใหญ่ ซิ่นหยางเหมาเจียนกระป๋องใหญ่ก็มีหลายกระป๋องโจวเฉิงหยิบพุทราแห้งหนึ่งเม็ดยัดเข้าปาก หวานฉ่ำเนื้อหนึบ อีกทั้งเมล็ดพุทรายังเล็กมากอีกด้วยเขารับประทานหมดหนึ่งเม็ด อดไม่ได้ที่จะรับประทานอีกหลายเม็ดถึงจะหยุด—โจวเฉิงมีความลับบางอย่างที่ไม่ควรบอกคนอื่น นั่นก็คือเขาชอบรับประทานของหวาน!
ความโปรดปรานในรสหวานของเขาหนักหน่วงถึงระดับไหนน่ะหรือหมั่นโถวแป้งขาวที่เพิ่งออกจากหม้อ ทาซอสงาหนาหนึ่งชั้นแล้วโรยน้ำตาลทรายป่นอีกหนึ่งชั้น... โจวเฉิงสามารถรับประทานหมดจานใหญ่คนเดียวตอนเขาเป็เด็กก็ชื่นชอบการใช้นิ้วมือจิ้มน้ำตาลทรายรับประทาน เขาเคยโดนครอบครัวอบรมด้วยซ้ำบิดาตำหนิเขาว่าดูอ่อนแอและอ้อนแอ้น โจวเฉิงจึงค่อยๆ แก้ไขนิสัยเสพติดความหวาน
โอ๊ะ หรือจะบอกว่าซุกซ่อนให้มิดชิดกว่าเดิม
เซี่ยเสี่ยวหลานดูออกว่าเขาชอบรับประทานของหวานได้อย่างไร?
หรือเป็เพราะในสถานีรถไฟคราวก่อน ขณะที่ตนซื้อพุทราให้เซี่ยเสี่ยวหลานนั้นใช้เวลาเลือกนานเกินไป?
โจวเฉิงหยิบพุทราแห้งออกมาหนึ่งเม็ดก่อนจะใส่ปากอีกครั้ง
อย่าสนว่าทำไมถึงรู้ อย่างไรเสียคือความเหมาะเจาะพอดีแสดงว่าเซี่ยเสี่ยวหลานถูกลิขิตให้เป็ภรรยาของเขานั่นเอง
โจวเฉิงไม่โปรดชาเท่าไรนักซิ่นหยางเหมาเจียนหลายกระป๋องนี้เขาต้องดื่มถึงเมื่อไรจึงจะหมด? ความห่วงใยของเซี่ยเสี่ยวหลานคงเสียเปล่าหากเขาทิ้งไว้อย่างนั้นโจวเฉิงครุ่นคิด ใช้เวลา่ฟ้ามืดมอบแด่ผู้บังคับบัญชาหนึ่งกระป๋อง
หัวหน้าหยอกเย้าเขา “ได้ยินว่านายมีคนรักแล้ว?”
“ครับ คนอวี้หนาน ใบชานี่เป็ของที่คนรักผมส่งมา ให้คุณลองชิมดู”
มีใบชาทั้งหมดห้ากระป๋อง เหมือนกับพุทราแห้งเซี่ยเสี่ยวหลานตระเตรียมจำนวนมากเพื่อที่โจวเฉิงจะสามารถส่งมอบให้คนอื่นได้สะดวกเพลิดเพลินไปกับของดีคนเดียวเป็พฤติกรรมที่ไม่งามนัก ไม่ว่าหนแห่งใดล้วนจำเป็ต้องสร้างมนุษยสัมพันธ์...แน่นอน เมื่ออยู่ในตำแหน่งแบบไหน ให้ดีที่สุดต้องแบ่งปันของดีท้องถิ่นกับผู้บังคับบัญชาของตนไม่ควรส่งของขวัญข้ามหน้าข้ามตา โจวเฉิงไม่เคยพูดถึงตำแหน่งของเขาให้เซี่ยเสี่ยวหลานรู้เซี่ยเสี่ยวหลานนึกว่าเขาเป็เพียงผู้มาใหม่ อายุแค่ 20 ปี ต่อให้ถูกเลื่อนขั้น อย่างมากก็เ้าหน้าที่รัฐระดับรองเท่านั้น
ทว่าโจวเฉิงมิใช่เ้าพนักงานระดับรอง!
ในหน่วยงานเขาไม่จำเป็ต้องประจบคนมากมาย แม้กระทั่งผู้บังคับบัญชา ก็ต้องเป็คนมีความสามารถปฏิบัติต่อโจวเฉิงตามความเหมาะสม โจวเฉิงถึงจะเคารพอีกฝ่าย
นอกจากผู้บังคับบัญชา โจวเฉิงและเหล่าฟางไม่ค่อยถูกกันอย่างไรเสียความสัมพันธ์กับผู้อื่นก็ไม่ถึงขั้นสนิทชิดเชื้อเขาเลยแบ่งใบชาหนึ่งกระป๋องให้แก่เ้าหน้าที่ที่พอคบค้าสมาคมได้ด้วยดี
ใบชาที่เหลืออีก 3 กระป๋องจะทำอย่างไร?
โจวเฉิงไม่อาจให้ลูกน้อง และจะไม่ให้เหล่าฟางผู้น่ารำคาญเช่นกัน
เขาคิดสักพัก จากนั้นทำการห่อใบชาสองกระป๋อง แบ่งพุทราแห้งออกมาครึ่งหนึ่งอย่างอิดออดส่งกลับไปที่บ้านของตน—ชายหนุ่มได้ภรรยาแล้วลืมมารดาทว่ามีภรรยาก็ทำให้คนเป็ผู้ใหญ่ขึ้นเหมือนกัน โจวเฉิงให้เงินที่บ้านบ่อยครั้ง ทว่ากลับซื้อของไปฝากน้อยแบ่งพุทราแห้งและใบชาให้คนอื่นทำเขาปวดใจ แต่บิดามารดาตนนั้นต้องได้ลิ้มลองแน่นอน
ลูกชายแสนดีอย่างเขาไปตามหาจากที่ไหนได้ ถ้าไม่ใช่เพราะรีบลงมือว่องไวบิดามารดาของเขาจะสามารถมีความสุขกับของฝากจากลูกสะใภ้ล่วงหน้าได้หรือ
ชายตาแลเหล่าฟางที่อยู่ห้องถัดไป ไร้แม้แต่คู่หมายสักคนเกรงว่าบิดามารดาในบ้านคงกังวลเสียผมหงอกหมดแล้ว!
เชิงอรรถ
[1]新郑 ซินเจิ้ง เมืองสังกัดนครเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน
[2]信阳毛尖 ซิ่นหยางเหมาเจียน คือ ชาชนิดหนึ่ง จัดอยู่ประเภทชาเขียวหนึ่งในสิบสุดยอดชาของจีน ถิ่นกำเนิดคือเมืองซิ่นหยาง มณฑลเหอหนาน
