ศพของหลี่หวู่หลิงร่วงหล่นจากฟากฟ้าพร้อมกับเืสาดกระจายเป็จำนวนมาก ฉากนี้ดูน่าอนาถเมื่อแสงตะวันยามเช้าสาดส่อง หลี่หวู่หลิงที่เพิ่งจะทะลวงสู่ขอบเขตแก่นแท้์พร้อมทั้งบ่มเพาะทักษะมาร และเจียงเฉินที่มีตราประทับัสี่สิบดวง เพียงเท่านี้ทั้งสองก็ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกัน เจียงเฉินยังไม่แสดงขวานอัสนีบาตออกมาด้วยซ้ำ
"เยี่ยม!"
ท่ามกลางผู้คน หวงเจิ้งะโออกมาเสียงดัง
"ศิษย์พี่เจียงทรงพลังยิ่ง!"
หวังหยุนะโออกมาเสียงดัง ไม่เพียงแต่สองคนนี้เท่านั้น ในเวลานี้เหล่าศิษย์ทุกคนที่ได้เห็นเจียงเฉินได้สังหารหลี่หวู่หลิง ก็ไม่สามารถเก็บอาการตื่นเต้นไว้ได้ ศิษย์นอกจากนิกายเซวียนอี้ได้สังหารศิษย์ในของนิกายเทียนเจี้ยน ช่างเป็เื่น่ายินดีสำหรับนิกายเซวียนอี้ยิ่งนัก
หลังจากที่กวนอี้หยุน ซึ่งเป็ความภาคภูมิใจของนิกายเซวียนอี้ได้พ่ายแพ้ให้กับหนานเป่ยเฉาในกระบวนท่าเดียว เงามืดได้เข้าไปบดบังจิตใจของศิษย์นิกายเซวียนอี้ทุกคน เมื่อพวกเขาได้พบเจอใครสักคนในนิกายอัคคีผลาญฟ้า พวกเขาจะรู้สึกต่ำต้อยกว่าพวกมัน
อย่างไรก็ตาม ศักยภาพที่เจียงเฉินได้แสดงออกมาในวันนี้ พวกเขาได้เห็นถึงความหวังของนิกายเซวียนอี้ เงาได้ถูกลบเลือนออกไปจากจิตใจของพวกเขา นี่มันสุดยอดอัจฉริยะ แม้แต่หนานเป่ยเฉาก็ไม่สามารถสังหาผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้์ได้ขณะที่อยู่แก่นแท้มนุษย์
ดังนั้นแม้ว่าเจียงเฉินจะเป็เพียงศิษย์นอก แต่เขาได้จุดประกายจิติญญาของศิษย์นิกายเซวียนอี้ทุกคน และเขาก็ได้เป็หนึ่งในตัวแทนของนิกายเซวียนอี้ ภายในใจของศิษย์ทั้งหลาย ในที่สุดนิกายเซวียนอี้ก็มีผู้ที่สามารถสู้กับหนานเป่ยเฉาได้เสียที
"อนาคตของชายคนนี้ไร้ขอบเขต ไม่ใช่คนที่ข้าจะเทียบได้"
ต้วนหลี่บ่นพึมพำกับตัวเอง ในตอนนี้มีเพียงแต่คนโง่เท่านั้นที่ไม่สามารถเห็นศักยภาพที่ยิ่งใหญ่ของเจียงเฉิน
"ศิษย์พี่ศิษย์น้องทั้งหลาย ข้าขอให้พวกเ้าช่วยกระจายคำพูดเหล่านี้ออกไป!จากนี้ไปไม่ว่าศิษย์คนไหนของนิกายเทียนเจี้ยนกล้ามาตอแยข้า ข้าจะสังหารมันผู้นั้น!"
ขณะที่เจียงเฉินอยู่บนฟ้า เสียงของเจียงเฉินดังก้องทำให้ศิษย์นิกายเซวียนอี้ได้ยินอย่างชัดเจน จากนั้นเจียงเฉินกระพือปีกโลหิตของเขาบินกลับไปในนิกายเซวียนอี้ หายไปต่อหน้าพวกเขาทั้งหมด
ใครมาตอแยก็สังหารคนนั้น นี่มันโอหังเกินไปแล้ว! ในแคว้นฉี ไม่เคยมีผู้ใดกล้าพูดคำพูดเหล่านี้มาก่อน ตั้งตนเป็ศัตรูกับทั้งนิกาย คำประกาศกร้าวเช่นนี้มีเพียงเจียงเฉินเท่านั้นที่กล้าทำเช่นนี้
"ทรงอำนาจยิ่ง!ทรงอำนาจสุดๆ!จากนี้ต่อไปศิษย์พี่เจียงจะเป็แบบอย่างของข้า!"
"ก่อนหน้านี้ข้ามีเพียงศิษย์พี่าาปีศาจน้อยฮันหยานเป็แบบอย่างเท่านั้น แต่จากนี้ไปข้าได้แบบอย่างเพิ่มอีกคน!ในอนาคต ทั้งคู่จะเป็เป้าหมายของข้า"
"พวกเรา รีบไปกระจายคำพูดของศิษย์พี่เจียงเร็วเข้า!ให้พวกนิกายเทียนเจี้ยนได้รู้ว่านิกายเซวียนอี้มิใช่ผู้ที่สามารถตอแยได้!"
ภายใต้การนำของหวังหยุนและหวงเจิ้ง บรรยากาศของเหล่าศิษย์นิกายเซวียนอี้ได้ร้อนระอุยิ้งขึ้น แม้เจียงเฉินจะมีท่าทีหยิ่งยโสและอวดดีเพียงใดแต่ก็ไม่ได้ทำให้พวกเขารู้สึกรังเกียจแม้แต่น้อย ความจริงมันได้ทำให้เขาได้กลายเป็แบบอย่างของใครหลายคน
"ศิษย์พี่ต้วน ศิษย์น้องเจียงแข็งแกร่งยิ่งนัก เขาสามารถสังหารหลี่หวู่หลิงได้ ในความคิดของข้า หลี่หวู่หลิงเพิ่งจะทะลวงสู่ขอบเขตแก่นแท้์มาได้ และรากฐานของมันยังไม่เสถียรดี ดังนั้นเขาจึงไม่อาจเทียบได้กับผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้์ที่แท้จริง หากว่าเปลี่ยนเป็ข้าสู้กับเจียงเฉิน ศิษย์พี่คิดว่าข้าจะชนะหรือไม่?"
หนึ่งในศิษย์แก่นแท้์ขั้นต้นมาหาต้วนหลี่ และถามขึ้น
ต้วนหลี่จ้องไปยังศิษย์คนนั้นแล้วพูดว่า
"หากเ้าได้สู้กับเจียงเฉิน ข้าไม่อาจบอกได้ว่าใครจะเป็ผู้ชนะ แต่ข้าขอบอกเ้าอย่างหนึ่ง เ้าอย่าได้ไปตอแยเขา คนผู้นี้ไม่สามารถตอแยด้วยได้"
ต้วนหลี่เตือนเขา จากนั้นเขาก็บินกลับไปยังนิกายเซวียนอี้ ศิษย์แก่นแท้์อีกสองคนต่างมองกันและกันจากนั้นก็บินกลับไปนิกายเซวียนอี้เช่นกัน
"หวงเจิ้ง เ้าบอกใครสักคนให้จัดการเผาศพหลี่หวู่หลิง ส่วนที่เหลือแล้วแต่เ้า จะทำอะไรก็ทำ"
หวังหยุนบอกหวงเจิ้ง จากนั้นเขาก็โบกมือของเขาให้กับคนที่ยังคงรวมตัวอยู่ที่นี่ ให้สัญญาณว่า เื่ทุกอย่างจบลงแล้ว
การแข่งขันประจำปีแคว้นฉีได้สร้างชื่อเสียงให้เจียงเฉิน และการต่อสู้ในวันนี้เจียงเฉินแสดงให้ศัตรูของเขาได้เห็นถึงอำนาจของนิกายเซวียนอี้ เหล่าผู้คนที่ได้ชมการต่อสู้ครั้งนี้ตกตะลึงยิ่งกว่าได้ยินจากผู้อื่นเสียอีก หลังจากวันนี้ที่สังหารหลี่หวู่หลิง สถานะของเจียงเฉินในนิกายเซวียนอี้ก็ไม่อาจมีผู้สั่นคลอนมันได้อีก
หลังจากสังหารหลี่หวู่หลิง เจียงเฉินได้มุ่งตรงกับไปยังที่พักของเขา เขาได้ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของหุบเขา ลมโชยพัดผ่านชุดสีขาวของเขา เขาสงบเยือกเย็นทั้งๆที่เขาเพิ่งจะสังหารคนมาหมาดๆ เจียงเฉินรู้เส้นทางที่เขาจะเดินต่อไปและในอนาคตต้องมีคนอีกมากมายที่เขาต้องสังหาร
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ได้มีชายคนหนึ่งปรากฏตัวข้างเจียงเฉิน ชายผู้นั้นคือกวนอี้หยุน
"ศิษย์น้องเจียง ดูจากกลิ่นอายของเ้าแล้ว เ้าคงทะลวงแก่นแท้มนุษย์ขั้นกลางแล้วสิ!ข้าเพิ่งได้ยินมาว่าเ้าได้สังหารหลี่หวู่หลิง ซึ่งเป็ผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้์มาได้!เ้านี่ไม่ธรรมดาจริงๆ เ้าได้กลายเป็แบบอย่างให้แก่บรรดาศิษย์นับไม่ถ้วนแล้วนะ"
ข่าวการต่อสู้ของเจียงเฉินกับหลี่หวู่หลิง ได้กระจายไปทั่วทั้งนิกายเซวียนอี้ แม้แต่ศิษย์ในที่ไม่สนใจเื่ภายนอกยังได้รับทราบข่าวนี้
"ศิษย์พี่กวน ไม่ใช่ว่าท่านกำลังอยู่ระหว่างปิดด่านฝึกตนเพื่อทะลวงเข้าสู่ขอบเขตแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์มิใช่หรือ?เหตุใดท่านถึงออกมาไวนักเล่า?"
เจียงเฉินหรี่ตา เขาได้ตรวจสอบกวนอี้หยุนแต่ก็พบว่าเขายังคงอยู่ขอบเขตแก่นแท้์ขั้นสูงสุด แสดงว่าการเก็บตัวบ่มเพาะพลังของเขาคงจะไม่สำเร็จ
"การทะลวงสู่ขอบเขตแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์ มันไม่ใช่เื่ง่ายดายเช่นนั้น ข้าได้คิดอย่างถี่ถ้วนแล้วว่าการปิดด่านฝึกตนไม่อาจช่วยข้าได้ ในการที่จะทะลวงผ่านไปได้ ข้าจำเป็ต้องอาศัยโอกาสและจังหวะที่เหมาะสม ข้าจะออกเดินทางไปจากนิกายเซวียนอี้ในวันรุ่งขึ้นเพื่อหาโอกาสที่จะทะลวงผ่านไปให้จงได้"
กวนอี้หยุนพูดออกมาพร้อมรอยยิ้ม
"ศิษย์พี่กวนมีแผนเช่นไรหรือ?"
เจียงเฉินถามด้วยความอยากรู้
ท่าทางของกวนอี้หยุนได้เปลี่ยนเป็ยืดอกอย่างภาคภูมิ และพูดออกมา
"ข้าเตรียมที่จะไปยังนรกอเวจี"
"นรกอเวจี?มันเป็สถานที่แบบไหนหรือ?"
เจียงเฉินถามด้วยความงุนงง
นี่ไม่แปลกสำหรับเจียงเฉิน เนื่องจากเขาไม่คุ้นเคยกับแคว้นฉี มันก็เป็เื่ปกติที่เขาจะไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับนรกอเวจี หากมีใครสักคนได้ยินชื่อนี้ เพียงแค่ชื่อเท่านั้นก็เพียงพอแล้วที่จะให้พวกเขาหน้าซีดราวกับกระดาษ
"ศิษย์น้องเจียงคงไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับนรกอเวจีมาก่อน เช่นนั้นข้าจะบอกแก่เ้าเอง ในความจริงข้าก็รู้เกี่ยวกับมันมาบ้าง แต่ไม่เคยที่จะเข้าไปมาก่อน ทั่วทั้งแคว้นฉียังไม่มีใครที่จะกล้าเข้าไป"
กวนอี้หยุนมีท่าทางเคร่งเครียด น้ำเสียงขณะที่พูดเต็มไปด้วยความหวาดกลัวต่อนรกอเวจี
"นรกอเวจีนั้นตั้งอยู่ในสถานที่พิเศษในเขตทวีปตะวันออก จะมีจุดหนึ่งเชื่อมต่อเข้ากับทั้งยี่สิบแปดแคว้นในทวีปตะวันออก โดยนิกายใหญ่ทั้งหมดของทุกแคว้น ต่างมีประตูอาคมโบราณที่สามารถส่งคนเข้าสู่ห้วงนรกอเวจีได้ แต่อย่างไรก็ตาม หาได้ยากที่จะมีใครตั้งใจเข้าไปฝึกตนในนรกอเวจี นรกอเวจีใกล้เคียงกับความตายสมชื่อของมัน มีข่าวลือมาว่าที่นั่นสภาพแวดล้อมเลวร้ายอย่างมาก มีกลิ่นเน่าเหม็นและเต็มไปด้วยเหล่าปีศาจในดินแดนเ่าั้ ความจริงที่แห่งนี้เป็ดินแดนที่ไร้ซึ่งความหวัง ด้วยการบ่มเพาะของข้าในตอนนี้ เมื่อได้เข้าสู่นรกอเวจีก็แทบจะตายในทันที ไม่เพียงแต่ข้าเท่านั้น ยังหมายถึงความตายของเหล่าผู้เชี่ยวชาญแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย"
นรกอเวจีแห่งนี้ เป็สถานที่พิเศษในทวีปตะวันออก และยังเป็สถานที่ฝึกฝนสำหรับหนึ่งร้อยนิกายและตระกูลทั้งหมดในยี่สิบแปดแคว้นทวีปตะวันออก อย่างไรก็ตาม มันเหมือนกับชื่อนรกอเวจี นั้นเป็นรกที่แท้จริงสำหรับผู้ฝึกตน
คนทั่วไปไม่กล้าที่จะย่างเข้าสู่นรกอเวจีโดยไร้เหตุผล พวกที่เข้าไปทั้งหมดมีแต่ผู้โเี้ในบรรดาผู้โเี้ ในนิกายใหญ่บางแห่ง ศิษย์ที่ทำความผิดใหญ่หลวงจะถูกส่งไปยังนรกอเวจี นี่เป็การลงทัณฑ์ที่โเี้ที่สุด
อย่างไรก็ตามเหล่าผู้คนที่สามารถออกมาจากนรกอเวจีได้ ทั้งหมดคือเหล่าผู้ที่ก้าวผ่านบททดสอบของชีวิตและความตายมาได้ อนาคตของพวกเขาต้องประสบความสำเร็จอย่างไร้ที่สิ้นสุดเป็แน่
"ไม่คิดเลยว่าในทวีปตะวันออกจะมีสถานที่พิเศษเช่นนี้อยู่ด้วย"
เจียงเฉินพึมพำกับตัวเอง นรกอเวจีเป็สถานที่คนทั่วไปสามารถเข้าไปได้ แต่กวนอี้หยุนมีความกล้าที่จะเผชิญกับมัน ด้วยความกล้าหาญนี้ เขาได้ทำให้เจียงเฉินชื่นชม
"ศิษย์พี่กวน นรกอเวจีเป็สถานที่อันตรายอย่างมาก ท่านควรที่จะพิจารณาดูอีกครั้ง อย่าได้วู่วาม"
เจียงเฉินเตือน
"ฮ่าฮ่า ศิษย์น้องเจียง เ้าก็รู้ว่าโอกาสกับอันตรายมันเป็ของคู่กัน แน่นอนว่านรกอเวจีเป็สถานที่อันตรายอย่างมาก แต่มันก็มีโอกาสมากมายเช่นกัน ข้ากวนอี้หยุน ไม่้าที่จะเป็คนไม่ประสบความสำเร็จ การเดินทางไปยังนรกอเวจีครั้งนี้ช่างหัวมันปะไร หากข้าตายหรือกลับมาโดยยังมีชีวิตรอด ข้าไม่เสียใจซักนิด"
กวนอี้หยุนพูดออกมาด้วยเสียงดังฟังชัด
เจียงเฉินผงกศีรษะของเขาอย่างเงียบๆ ในระหว่างการแข่งขันประจำปีแคว้นฉี เขาก็ได้พบกับกวนอี้หยุน เขาเป็คนหัวแข็งไม่ยอมใครและยังเป็บุรุษที่แน่วแน่ การตัดสินใจที่จะเข้าไปยังนรกอเวจีไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปสามารถทำได้
"ดี เกิดเป็ชายชาตรีควรมีความฝันที่ยิ่งใหญ่!หากไม่ประสบความสำเร็จ มันก็ไม่มีความหมายแต่อย่างใด!ไม่ต้องพูดถึงชีวิตที่ยืนยาว พวกเรา้าชีวิตที่มีเกียรติ!แม้ว่าชีวิตของเราจะเหมือนกับดาวตกที่ส่องประกายแสงสว่างเพียงระยะเวลาสั้นๆ แต่เราก็ได้มีชีวิตที่แสนวิเศษในโลกใบนี้!"
เจียงเฉินสนับสนุนการตัดสินใจของกวนอี้หยุน เพราะว่าเขาก็สนใจในนรกอเวจีเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามระดับการบ่มเพาะพลังของเขาตอนนี้ยังอ่อนแอยิ่งนัก ในอนาคตหากเขามีโอกาสเขาจะต้องเข้าไปยังนรกอเวจีแน่นอน
"ฮ่าฮ่า ศิษย์น้องเจียงพูดได้ดี ด้วยความสามารถและศักยภาพของเ้า ไม่ด้อยไปกว่าหนานเป่ยเฉา ในอีกหนึ่งปี เ้าชนะแน่!"
กวนอี้หยุนวางมือบนไหล่ของเจียงเฉิน จากนั้นเขาก็พูด
"จริงสิ ข้ามาที่นี่เพื่อแจ้งอะไรบางอย่าง"
"อะไรหรือ ศิษย์พี่กวน?"
เจียงเฉินจ้องมอง
"ท่านผู้นำนิกาย้าพบเ้า ข้าจะพาเ้าไปหาท่านผู้นำเอง"
กวนอี้หยุนพูดขึ้น
"ผู้นำนิกาย?"
เจียงเฉินหรี่ตาลง ตัวเขาเป็เพียงศิษย์ตัวเล็กๆจากสายนอก ไม่ควรที่จะอยู่ในสายตาของผู้นำนิกาย
"ศิษย์น้องเจียง นี่เป็โอกาสอันดีเชียวนะ ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็เกียรติอย่างมาก เ้าควรรู้ว่า ท่านผู้นำนิกายเป็บุรุษที่อยู่จุดสูงสุดของนิกายเรา คนเช่นเขาโดยปกติศิษย์นอกไม่อาจได้พบ แต่เ้าต่างออกไป!เ้าเป็ถึงผู้ชนะเลิศการแข่งขันประจำปีแคว้นฉี และเ้ายังจะต้องสู้กับหนานเป่ยเฉาในปีถัดไปอีกด้วย เ้าจึงได้รับการยอมรับของท่านผู้นำนิกาย!ยิ่งไปกว่านั้น วันนี้เ้ายังได้สังหารหลี่หวู่หลิงที่อยู่ขอบเขตแก่นแท้์ด้วยระดับการบ่มเพาะเพียงแก่นแท้มนุษย์ขั้นกลางเท่านั้น!ด้วยความสำเร็จทั้งหมดนี้ แน่นอนว่านิกายเซวียนอี้จะต้องสนับสนุนทรัพยากรบ่มเพาะพลังให้เ้ามากมายแน่"
กวนอี้หยุนอธิบายให้เจียงเฉินฟัง
เจียงเฉินผงกหัวของ สิ่งที่กวนอี้หยุนพูดมาสมเหตุสมผล ดูเหมือนว่าการต่อสู้ของเขาในวันนี้จะดึงดูดความสนใจของผู้นำนิกายมาได้ ดังนั้นจึง้าพบด้วยตนเอง
อัจฉริยะไร้ที่เปรียบ หากว่าได้รับการสนับสนุนเป็อย่างดี ต่อไปเขาจะกลายเป็ความหวังของนิกาย
"ตกลง ข้าไปพบผู้นำนิกายพร้อมท่าน"
ั้แ่ที่เขาได้เข้ามาอยู่ในนิกายเซวียนอี้ เขาจำเป็ต้องปรับตัวตามสถานการณ์ การพบกับผู้นำนิกายที่นั่งอยู่ในตำแหน่งสูงส่ง ไม่ใช่เื่แย่อะไร
"ไปกันเถอะ หลังจากส่งเ้าแล้ว ข้าจำเป็ต้องเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางไปยังนรกอเวจี มันอาจจะเป็การพบกันครั้งสุดท้ายของเราก็เป็ได้"
บนใบหน้ากวนอี้หยุนเผยถึงความสุข
"ท่านสบายใจได้ พวกเราจะต้องพบกันอีกแน่"
เจียงเฉินพูด
