จางซื่อป้อนน้ำขิงให้จ้าวหงฮวา ผ่านไปอีกสักพักก็ป้อนน้ำดอกพูกงอิงให้
จากนั้นป้าสองจ้าวนำผ้าห่มจากห้องตัวเองมาห่มให้จ้าวหงฮวา จ้าวสุ่ยเซิงกลับมาแล้วก็รีบให้จางซื่อน้ำยาไปต้ม ต้มเสร็จแล้วป้อนให้
คืนวันนั้น ป้าสองจ้าวเป็ห่วงจ้าวหงฮวา ให้จางซื่อนอนเป็เพื่อนและจะได้ดูแลไปด้วย
ป้าสองจ้าวนอนบนเตียงแล้วพลิกไปมาพร้อมกับถอนหายใจ ทำอย่างไรก็นอนไม่หลับ
นางนอนไม่หลับ แต่จ้าวเฉียนไหลล้มตัวนอนบนหมอนได้ไม่นานก็ส่งเสียงกรนเหมือนปกติ
ทำเอาป้าสองจ้าวหยิกเอวเขาเต็มแรงด้วยความโมโห
“โอ๊ย…” จ้าวเฉียนไหลเจ็บจนร้อง “ทำกระไรของเ้า?”
“ฟ้าจะถล่มลงมาอยู่แล้วยังหลับลงอีก!” ป้าสองจ้าวหยิกเพิ่มอีกครั้ง
จ้าวเฉียนไหลร้องอีกครั้งเช่นกัน “เช่นนั้นจะให้ข้าทำอย่างไรเล่า ข้าไม่นอนแล้วเื่นี้จะคลี่คลายหรือ? คนเราต้องกินต้องนอน ต่อให้ร่างกายทำจากเหล็กก็ยังทนไม่ได้...”
“ลุกขึ้น ออกไปๆ อย่ามานอนบนเตียงข้า!”
“ได้ ข้าไปล่ะ” จ้าวเฉียนไหลลุกขึ้นใส่เสื้อผ้า ย้ายไปนอนกับลูกรอง
ป้าสองจ้าวะโใส่หลังเขา “ข้านี่มันซวยจริงๆ ถึงได้แต่งงานกับคนไม่เอาไหนแบบเ้า! ทั้งบ้านมีแต่ลูกรองที่พึ่งพาได้…”
บ้านหลิน
“ข้าว่าเราไม่ต้องไปสนใจสามีของลูกใหญ่แล้ว!” เกิดเื่ใหญ่ขนาดนี้ งานเลี้ยงฉลองปีใหม่ถูกทำลาย หลินฟาไฉเกือบตายด้วยความโมโห
โจวเอ้อร์เหนิงขายหน้าต่อหน้าคนทั้งหมู่บ้าน บ้านหลินยังจะมีหน้าจัดงานเลี้ยงต่อได้อย่างไร?
ทั้งยังทำให้พ่อครัวที่มาจากในตำบลได้เห็นเื่ตลก
เขาพอจะจินตนาการออกว่าเื่น่าขายหน้านี้คงร่ำลือไปทั่วตำบล
“จะไม่สนใจได้อย่างไร” จางซื่อกล่าว “พวกเรายิ่งไม่สนใจก็เท่ากับแสดงออกว่าพวกเราร้อนตัว เื่นี้พวกเราทำได้เพียงแก้ตัวว่าสามีลูกใหญ่ถูกใส่ร้าย รอให้เขาหายดีแล้วออกไปอธิบายเองจะดีที่สุด ดังนั้น ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องรักษาชีวิตสามีลูกใหญ่ไว้ให้ได้ วันพรุ่งเช่าเกวียนมาส่งเขาไปโรงหมอในอำเภอเถิด ยิ่งหายดีไวเท่าไร พวกเราก็จะยิ่งรู้ความจริงไวเท่านั้นว่าเกิดกระไรขึ้นกันแน่ เพราะอย่างไรเสีย…ข้ารู้สึกว่าสามีลูกใหญ่เป็คนซื่อสัตย์ ต่อให้กินดีหมีก็ไม่กล้าทำเช่นนี้ เราต้องตรวจสอบเื่นี้ให้กระจ่าง รู้ให้ได้ว่าผู้ใดกันที่อยู่เื้ั ไม่พูดถึงอย่างอื่น หากกระท่อมไม่มีควันลอยโขมง ทุกคนคงไม่ไปดู แต่นอกจากโจวเอ้อร์เหนิงแล้วไม่มีผู้ใดอยู่ในกระท่อมอีก เช่นนั้นควันนี้มาจากที่ใด? มีคนปองร้ายบ้านหลิน…”
ทุกคนในบ้านหลินได้ยินจางซื่อพูดเช่นนี้ก็เห็นด้วย หลินซย่าจื้อเอ่ยปากสบถ
สวี่ซื่อสบถเช่นกัน คำพูดหยาบคายมาก หลินชุ่ยฟังแล้วขมวดคิ้ว
หลินฮั่วเห็นหลินชุ่ยขมวดคิ้วก็เข้าไปดึงแขนเสื้อหลินซย่าจื้อ “ท่านแม่…” ตอนนี้นางเลียนแบบหลินชุ่ยทุกอย่าง มองว่าหลินชุ่ยมาจากในอำเภอ จะยกมือหรือก้าวขาก็เหนือกว่าสตรีสาวในหมู่บ้านทั้งสิ้น
หลินชุ่ยแค่ขมวดคิ้ว นางก็รู้ทันทีว่าแม่ตัวเองหยาบคายเกินไป รู้สึกขายหน้า
“ซย่าจื้อ พี่ใหญ่ ข้าขอสาบานว่าไม่เคยพูดถึงพวกท่านในทางที่ไม่ดีให้หลินหวั่นชิวฟัง วันนี้หลินหวั่นชิวจงใจพูดให้พวกเราแตกคอกัน เนื่องจากตอนนั้นมีแขกอยู่มาก อีกทั้งข้ากลัวว่านางจะพูดจาหยาบคายกว่าเดิม ข้าจึงยอมไม่โต้เถียงกับนาง เพราะโต้เถียงกันไปก็มีแต่บ้านหลินของเราที่จะขายหน้า ไม่ว่าพวกท่านจะเชื่อหรือไม่ข้าก็ต้องอธิบาย ครอบครัวเดียวกันจะอยู่ร่วมกันโดยมีความคับข้องใจไม่ได้ เพราะหากเป็เช่นนั้น…หลินหวั่นชิวคงได้สมใจ”
“แม่รอง ข้าไม่โกรธท่าน ไม่เชื่อคำพูดนังชั่วนั่นเช่นกัน ข้าว่าหัวใจนังนั่นเป็สีดำ พวกเราไม่ควรไปเอาใจนาง ถึงตอนนี้ความเป็อยู่นางจะดีอย่างไรก็ไม่เห็นพวกเราในสายตา พูดจาหาเื่ทุกประโยค วันหน้าจะพึ่งพาได้หรือ? ฝันเอายังดูมีความเป็ไปได้มากกว่า”
“นังนั่นมันลูกทรพี ข้าควรบีบคอนางให้ตายั้แ่คลอดออกมา จะได้ไม่ต้องโตมาเป็ตัวหายนะเช่นนี้”
“นั่นน่ะสิ เื่วันนี้อาจเป็ฝีมือนางด้วยซ้ำ มิเช่นนั้นจะเป็ผู้ใดในหมู่บ้านกันเล่าที่มีความแค้นกับบ้านพวกเรา?” หลินซย่าจื้อต่อบทสวี่ซื่อ
จางซื่อหลุบตาลง ใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดปาก “ตอนนี้อย่าเพิ่งด่วนสรุป รอให้สามีลูกใหญ่หายดีก่อนค่อยให้เขาพูดเอง”
โจวเอ้อร์เหนิงจำเป็ต้องหายดี เขาเป็หมากตัวสำคัญ
ไว้โจวเอ้อร์เหนิงหายดีแล้ว เขาจะได้ประกาศต่อหน้าชาวบ้านและเจียงหงหย่วนว่าหลินหวั่นชิวยั่วยวนตัวเองและทำร้ายเขา
เมื่อนั้นเจียงหงหย่วนยังจะเก็บหลินหวั่นชิวไว้อีกหรือ?
นางได้แค่หันกลับมาพึ่งบ้านแม่
“ซย่าจื้อ เ้ามาที่ห้องข้าหน่อย ข้าจะให้เงินเ้าไว้ วันพรุ่งเ้าพาสามีไปหาท่านหมอกู่ที่โถงดีงามในอำเภอ บอกเขาว่าข้าเป็คนส่งเ้ามา เขาจะช่วยรักษาสามีเ้าให้ เ้าเก็บเงินนี้ไว้ใช้เอง ท่านหมอกู่จะจดค่ารักษาสามีของเ้าไว้ ถึงเวลาแล้วข้าจะไปจ่ายบัญชีให้”
จางซื่อพูดจบก็ลุกขึ้น หลินซย่าจื้อตามนางไปเอาเงิน
จางซื่อให้เงินมาสิบตำลึง
หลินซย่าจื้อดีใจมาก คิดกับตัวเองว่าจะเก็บไว้ให้จินเป่าห้าตำลึง
แค่มีเงินให้นาง เื่ของโจวเอ้อร์เหนิงก็กลายเป็เื่เล็ก ถึงอย่างไรเสียก่อนหน้านี้บ้านหลินก็มีลูกสาวที่ชื่อเสียงฉาวโฉ่ไปแล้วสองคน…นี่เรียกว่าเห็บหมัดเยอะจนไม่เจ็บไม่คันแล้ว
ณ อำเภอ
หงป๋อถูกเจียงไฉรับกลับมาจากบ้านหมอฉู่ เขาถูกพาไปที่ห้องของหลินหวั่นชิว เห็นหลินหวั่นชิวที่หน้าซีดขาวมีผ้าพันบนศีรษะและมีเืซึมก็ใจเสียทันที
“พี่สะใภ้…พี่สะใภ้เป็กระไรไปขอรับ?” เขาพุ่งตัวไปข้างเตียง จับมือหลินหวั่นชิวถาม
เด็กหนุ่มมือเย็นมาก หลินหวั่นชิวขมวดคิ้วถาม “เหตุใดใส่เสื้อผ้าแค่นี้ ประเดี๋ยวออกไปแล้วใส่เสื้อคลุมเพิ่มด้วย”
เจียงหงป๋อร้อนใจจนจะร้องไห้อยู่แล้ว “พี่สะใภ้ เกิดกระไรขึ้นกับท่าน? สะดุดล้ม? หรือว่ามีคนรังแกท่าน?”
หลินหวั่นชิวเห็นเขามีท่าทีร้อนรนก็รู้สึกอบอุ่นในใจ นี่ก็คือน้องชาย น้องชายที่รู้ความ น้องชายที่รู้จักเป็ห่วงตัวเองเป็กระไรที่น่ารักที่สุดแล้ว
หลินหวั่นชิวเปิดผ้าบนศีรษะและขยับเข้าใกล้ไปให้หงป๋อดู “ของปลอมน่ะ ข้าทาแป้งให้หน้าดูซีด แต่เ้าห้ามบอกคนอื่นนะ บอกแค่ว่าข้าาเ็หนักยังไม่ได้สติเป็พอ”
“เช่นนั้นหมายความว่ามีคนรังแกพี่สะใภ้ ท่านถึงต้องแสร้งทำเป็าเ็” หงป๋อตรวจสอบหน้าผากหลินหวั่นชิวอย่างละเอียด หลังจากแน่ใจแล้วว่าหน้าผากที่เต็มไปด้วยคราบเืไม่ได้มีแผลก็รับผ้าจากมือหลินหวั่นชิวมาช่วยพันกลับไปอย่างเบามือ
หลินหวั่นชิวไม่เห็นสายตาที่เย็นลงอย่างฉับพลันของเด็กหนุ่ม เย็นราวกับก้อนน้ำแข็ง
“พี่สะใภ้บอกข้าได้หรือไม่ว่าผู้ใดรังแกท่าน?”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้