เมื่อได้ยินคำพูดของหลี่เฉิง ซ่งอวี้ก็มองไปทางเขาด้วยความแปลกใจ สบตาเขาเงียบๆ คล้ายกำลังยืนยันว่าเขาพูดจริงหรือไม่
ใช่ว่าหลี่เฉิงจะไม่เห็นถึงความสงสัยในแววตาของนาง เขายิ้มบางๆ "ข้ารบกวนเ้ามานานแล้ว ตอนนี้าแของข้าก็หายดีแล้ว จะให้เ้าเลี้ยงดูข้าต่อไปคงไม่ดีกระมัง?"
"ท่าน...ทำนาเป็ด้วยหรือ?" ซ่งอวี้ถามเสียงแ่เบา
นางทำนาเป็เพราะสืบทอดความทรงจำจากร่างเดิม แต่...หลี่เฉิงแค่มองก็รู้แล้วว่าเป็คุณชายที่ไม่เคยลำบากมาก่อน
เมื่อเห็นเช่นนี้ หลี่เฉิงไม่รู้จะร้องไห้หรือหัวเราะดี เขาเป็ชายชาตรี เมื่อทำไม่เป็ก็ไม่อาจเรียนรู้ได้หรือ?
ซ่งอวี้มองเพียงปราดหนึ่งก็อ่านความคิดของเขาออก นางยิ้มบางๆ ไม่ฝืนให้เขาพักผ่อนในเรือนอีก "ได้ เช่นนั้นข้าเก็บของครู่หนึ่ง ประเดี๋ยวท่านออกไปพร้อมกับข้า"
นางถือมื้อกลางวันสำหรับสองคน ส่วนหลี่เฉิงแบกอุปกรณ์ทำนา ทั้งสองเดินมุ่งหน้าไปยังที่นาท้ายหมู่บ้านด้วยกัน
ตอนนี้คือฤดูกาลทำนา ในนาเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย
ซ่งอวี้อยู่ที่นี่มานาน แต่นี่เป็ครั้งแรกที่นางทำนา ตอนที่นางยกจอบขึ้นมาขุดดิน นางอยากจะร้องไห้โดยไม่มีน้ำตา เมื่อพบว่าตนเรี่ยวแรงน้อยยิ่งนัก
นางยกจอบขึ้นแล้วขุดลงบนดิน ขุดลึกเกินไปก็ไม่อาจขยับเขยื้อน ขุดตื้นเกินไปก็ไม่พอใช้งาน ต้องขุดอีกครั้ง แต่จอบนี้กลับหนักยิ่งนัก นางขุดติดต่อกันหลายครั้งถึงกับหมดเรี่ยวแรง
หลี่เฉิงสังเกตเห็นทันทีว่านางขุดดินด้วยความเหน็ดเหนื่อย เขาจึงยื่นมือออกไปแล้วคว้าจอบในมือของซ่งอวี้ "ข้าเตรียมหน้าดินเอง เ้าทำอย่างอื่นเถิด"
ซ่งอวี้พยักหน้า มองไปที่เขาด้วยความเกรงใจ "ลำบากท่านแล้ว"
"ไม่เป็ไร ถึงอย่างไรข้าก็เป็บุรุษ งานหนักเช่นการขุดดิน ข้าควรจะเป็ผู้รับผิดชอบ" หลี่เฉิงพูดด้วยสีหน้ามีเหตุผล
ซ่งอวี้เดินทางทะลุมิติมายังยุคสมัยที่ตนไม่รู้จักและไร้ที่พึ่งพิง นางััได้ถึงความอบอุ่นจากหลี่เฉิงอีกครั้ง จิตใจที่นิ่งสงบในตอนแรก มีความรู้สึกบางอย่างก่อตัวขึ้นช้าๆ
นี่เป็การมาทำนาครั้งแรกของหลี่เฉิงเช่นเดียวกัน ในตอนแรกเขาไม่รู้จะทำเช่นไร แต่หลังจากสังเกตการกระทำของผู้อื่นแล้วลองทำตามหนึ่งครั้ง เขาก็ค่อยๆ ทำได้
ซ่งอวี้ไม่มีเครื่องมือในการขุดดิน จึงทำได้เพียงติดตามอยู่ด้านหลังเขา คอยหว่านเมล็ดลงบนดิน และพรวดดินเพื่อกำจัดวัชพืช
ทั้งสองร่วมมือกันทำงานได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ไม่แพ้คู่สามีภรรยาชาวนาคู่อื่นๆ เลย
ตอนเที่ยงวัน ซ่งอวี้ยืดเหยียดเอวแล้วเช็ดเหงื่อ มองดวงอาทิตย์ที่เจิดจ้าอยู่บนท้องฟ้า แล้วหันไปมองหลี่เฉิงที่เหงื่อไหลโชก นางหยิบน้ำที่อยู่ข้างๆ ยื่นไปตรงหน้าเขา "ดื่มน้ำสักหน่อย พวกเราพักกันประเดี๋ยวหนึ่ง ทานมื้อกลางวันเสร็จค่อยทำงานต่อ"
หลี่เฉิงไม่อิดออด เขารับน้ำแล้วดื่มอึกใหญ่ จากนั้นก็เช็ดคราบน้ำที่เลอะอยู่ริมฝีปาก "อืม"
พวกเขาหาที่ร่มแล้วนั่งลง ซ่งอวี้ไม่รักษาภาพลักษณ์แต่อย่างใด ถอนหายใจเฮือกใหญ่ "เหนื่อยจริงๆ!”
เมื่อได้ยินนางทอดถอนหายใจ หลี่เฉิงก็หัวเราะเบาๆ "โชคดีที่ข้ามากับเ้า มิเช่นนั้น..."
ซ่งอวี้ชะงัก หัวเราะเสียงเบา แล้วถอนหายใจ "จริงด้วย โชคดีที่มีท่าน มิเช่นนั้นไม่รู้ว่าข้าต้องขุดดินถึงปีใดกว่าจะขุดหมด"
นางอดไม่ได้ที่จะคิดถึงเครื่องมือทันสมัยในศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด ไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยเช่นนี้ ทันใดนั้นเอง นางก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ นางคว้าแขนของหลี่เฉิงด้วยความดีใจ "ข้า...ข้าสามารถปรับปรุงอุปกรณ์ได้ จริงด้วย ข้าสามารถปรับปรุงให้ดีขึ้นได้นี่นา!”
หลี่เฉิงฟังนางพูดกับตนเอง แววตาของเขาเปี่ยมไปด้วยความแปลกใจ "ปรับปรุงสิ่งใดหรือ?"
ซ่งอวี้สบตากับดวงตาลุ่มลึกของเขา นางฉุกคิดขึ้นได้กะทันหัน หลี่เฉิงคือคนโบราณอย่างแท้จริง
ดวงตาสีนิลของนางกลอกไปมา พูดจริงครึ่งเท็จครึ่ง "ข้าเพิ่งคิดขึ้นได้ ข้าสามารถปรับปรุงการออกแบบจอบได้ เช่นนี้แม้จะเรี่ยวแรงน้อย ข้าก็สามารถเตรียมหน้าดินได้"
เห็นท่าทีที่เปี่ยมไปด้วยความดีใจของนาง หลี่เฉิงก็เริ่มรู้สึกสนใจ "เ้าเตรียมที่จะปรับปรุงอย่างไร?"
ซ่งอวี้หวนคิดถึงอุปกรณ์ขุดดินที่นางเคยเห็นเมื่อชาติก่อน พบว่ายุคสมัยนี้ใช้จอบในการทำนาทั้งหมด ไม่มีคันไถและพลั่ว
นางจำรูปทรงของคันไถไม่ค่อยได้ แต่รูปทรงของพลั่วนั้นง่ายยิ่งนัก หากทำพลั่วได้สำเร็จ เช่นนั้นยามนางเตรียมหน้าดินเองก็ง่ายขึ้นมาก
หลี่เฉิงไม่รบกวนนางใช้ความคิด เขานั่งกินหมั่นโถวเงียบๆ
ซ่งอวี้ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกว่าทำได้ นางคว้าไม้ที่อยู่ข้างๆ มาหนึ่งอัน แล้ววาดรูปพลั่วออกมา "หลี่เฉิง ท่านคิดว่าเราใช้เ้านี่มาเตรียมดิน ดีหรือไม่?"
หลี่เฉิงมองสิ่งของหน้าตาประหลาดที่นางวาดบนพื้น "นี่คือสิ่งใด"
นางอธิบายอย่างละเอียด "นี่คือพลั่ว โดยทั่วไปเตรียมหน้าดินต้องใช้จอบ แต่จอบต้องยกขึ้นสูง อาศัยเรี่ยวแรงของสองมือ สำหรับสตรีแรงน้อยการใช้จอบนั้นลำบากยิ่งนัก เ้านี่จะช่วยทุ่นแรงได้มาก"
หลี่เฉิงมองพลั่วที่นางวาดบนพื้นอย่างตั้งใจ แต่ยังคงไม่เข้าใจเท่าใดนัก
"เ้านี่ ใช้อย่างไร?"