เซียวเฉินมองเฟิงซั่งเยี่ยตรงๆ ด้วยสายตาเ็า ทำให้เฟิงซั่งเยี่ยรู้สึกถึงอันตรายอย่างรุนแรง
ความรู้สึกเช่นนี้ ทำให้จิตใจของเขาไม่สงบ
รู้สึกเหมือนยืนอยู่ตรงขอบเหวแห่งความตาย เหมือนเซียวเฉินมีพลังที่สามารถกำหนดความเป็ความตายของเขาได้
จะให้เขาอยู่ก็อยู่ จะให้เขาตายก็ตาย!
“ขึ้นมา!” เซียวเฉินเอ่ยด้วยเสียงเ็า แววตาเปล่งประกายเจิดจ้า เฟิงซั่งเยี่ยย่อมไม่หดหัว แม้เขารู้ว่าเซียวเฉินมีความสามารถเหนือกว่า แต่ครั้งนี้เขาต้องสู้ ถึงแพ้ก็ต้องแพ้อย่างสง่าผ่าเผย จะอยู่อย่างไร้ความหมายไม่ได้
ผู้มีพร์ ย่อมมีความหยิ่งทะนง!
“เซียวเฉิน...” เฟิงซั่งเยี่ยเพิ่งเอ่ยปาก ยังพูดไม่จบก็กระเด็นลอยไป
ออกนอกเวทีประลองอย่างแรง
เซียวเฉินไม่ออมแรงหมัดนี้เลยสักนิด เขาต่อยเฟิงซั่งเยี่ยจนเืกบปาก กระดูกซี่โครงหักไปหลายซี่
เฟิงซั่งเยี่ยร่วงไปกองกับพื้น ร้องโหยหวน
ภาพนี้ทำให้ทุกคนใสุดขีด
ตอนรอบสิบคน เซียวเฉินใช้สามหมัดเอาชนะเฟิงซั่งเยี่ย แต่ตอนนี้ หมัดเดียวจอด!
นี่คือเซียวเฉินกำลังตบหน้าสถานศึกษาเซิ่งเต้า พวกเขารู้ดีว่า เซียวเฉินกำลังเดือดดาลที่สถานศึกษาเซิ่งเต้าใช้แผนการ ดังนั้น เซียวเฉินจึงระบายโทสะทั้งหมดลงบนตัวเฟิงซั่งเยี่ย จงใจหยามเกียรติเขา
เฟิงซั่งเยี่ยมองเซียวเฉินด้วยสองตาแดงก่ำ
การต่อสู้ครั้งนี้ขายหน้าเกินไปแล้ว เซียวเฉินรังแกกันเกินไป จงใจเหยียดหยามเขา
“เซียวเฉิน เ้ารังแกกันเกินไปแล้ว!” เฟิงซั่งเยี่ยเอ่ยอย่างดุดัน เพราะหมัดนั้นต่อยลงบนทรวงอกจนซี่โครงหัก ดังนั้น เฟิงซั่งเยี่ยจึงพูดจาไม่ต่อเนื่อง บางครั้งยังกระอักโลหิตด้วย ท่าทางอเนจอนาถมาก
เซียวเฉินมองเฟิงซั่งเยี่ยอย่างไม่อินังขังขอบ “ข้ารังแกเ้าหรือสถานศึกษาเซิ่งเต้าของพวกเ้ารังแกสถานศึกษาชางหวงของข้า?”
ระหว่างที่เอ่ยวาจา เซียวเฉินก็มองเขาอย่างเย็นเยียบ “ก่อนหน้านี้ เ้าจงใจยอมแพ้ตอนสู้กับเนี่ยอวิ๋นเหอ ในใจวางแผนการใดอยู่ เ้ากับข้าต่างกระจ่างแจ้งดี ข้าก็แค่ยืมหอกสนองคืนผู้ใช้เท่านั้น ในเมื่อเ้าอยากแพ้ ข้าก็จะส่งเสริมเ้า ถึงกับถูกข้าต่อยทีเดียวกระเด็น ได้แต่บอกว่าเ้าเป็เศษสวะ”
คำพูดของเซียวเฉินทำให้เฟิงซั่งเยี่ยหน้าแดงจัด มีโทสะจนกระอักโลหิตไม่หยุดหย่อน
แต่เซียวเฉินกลับไม่เหลือบแลเขาอีก
ปล่อยให้เฟิงซั่งเยี่ยกลายเป็ตัวตลกในสายตาของทุกคนเพียงลำพัง
เซียวเฉินยิ้มเ็า ในเมื่อพวกเขาคิดจะหยามศักดิ์ศรี เขาก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ตอบโต้
ไม่ปฏิเสธผู้มา ขอเพียงเ้ามีความสามารถนั้น!
“สะใจนัก!” กู้สิงเฉินและฉู่เฉินเฟิงโห่ร้องเสียงดัง พวกเขาเห็นคนของสถานศึกษาเซิ่งเต้าขัดตามานานแล้ว นึกว่าตนเองเป็สถานศึกษาอันดับหนึ่งของแคว้นชางหวง อวดดียังกับอะไรมาตลอด ตอนนี้พ่ายแพ้ในเงื้อมมือของเซียวเฉิน ทำให้พวกเขารู้สึกสาแก่ใจอย่างบอกไม่ถูก
ใบหน้าของซูเฉินเทียนก็มีรอยยิ้ม
ไม่ได้ทำให้เขาผิดหวังจริงๆ เสียด้วย
ใบหน้าของมู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์ก็มีรอยยิ้ม เซียวเฉินยอดเยี่ยมมาก หมัดเดียวก็จัดการไปแล้วหนึ่งคน
“ต่อไปก็ดูศิษย์น้องเล็กชิงชัยกับเนี่ยอวิ๋นเหอ”
เซียวหวงเอ่ยช้าๆ ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
เพราะในความเห็นของเขา แม้เนี่ยอวิ๋นเหอจะไม่ใช่ผู้เข้มแข็งที่สุดของสถานศึกษาเซิ่งเต้าในการประลองห้าสถานศึกษาครั้งนี้ แต่กลับน่าพรั่นพรึงอย่างยิ่ง ความคิดลึกล้ำและมีพร์อย่างน่ากลัว
เสิ่นเล่ยยืนมองเซียวเฉินเงียบๆ อยู่ด้านข้าง เวลานี้ นางไม่หยิ่งทะนงเ็าอีกต่อไป
ทว่าปรากฏเป็ความงามอันสงบนิ่ง
ดุจเซียนในภาพวาด
สูงส่งบริสุทธิ์ และยังมีท่าทางของสาวน้อยอยู่หลายส่วน งามล่มเมือง
รอบแรกเฟิงซั่งเยี่ยสละสิทธิ์ รอบต่อมาสู้แพ้ สุดท้ายถูกจัดอยู่อันดับสาม
ถัดมาเป็การต่อสู้ระหว่างเซียวเฉินกับเนี่ยอวิ๋นเหอ
เป็การต่อสู้ระหว่างสถานศึกษา และเป็ศึกแห่งโชคชะตาเช่นกัน!
คนทั้งสองก้าวขึ้นเวที เผชิญหน้ากันอย่างไม่หวั่นไหว
แต่ในอากาศกลับแผ่ความรู้สึกกดดันมหาศาล
“พี่ใหญ่ ศึกระหว่างเราถูกกำหนดไว้แล้ว...” คำพูดของเนี่ยอวิ๋นเหอดังก้องเวทีประลอง สั่นสะท้านหัวใจของทุกผู้คน สายตาของทุกคนสั่นเทารุนแรง
พี่ใหญ่?
เซียวเฉินกับเนี่ยอวิ๋นเหอเป็พี่น้องกัน?
ไม่ใช่แค่คนทั่วไปเท่านั้น แม้แต่คนที่อยู่บนหอสูงเหนือประตูเมืองก็อึ้งนิดๆ และมีสีหน้าประหลาด
ทางด้านสถานศึกษาชางหวง นอกจากมู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์แล้ว ทุกคนต่างมองหน้ากัน
“เซียวเฉินเป็พี่น้องกับเนี่ยอวิ๋นเหอหรือ?” ผ่านไปนาน เซียวหวงจึงเอ่ยขึ้น
มู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์พยักหน้าเอ่ยช้าๆ “อืม ร่วมบิดาต่างมารดา แต่เหมือนน้ำกับไฟ เซียวเฉินเป็บุตรชายที่ถูกขับออกจากตระกูล เนี่ยอวิ๋นเหอกับมารดาของเขาทำร้ายท่านแม่ของเซียวเฉินจนตาย เซียวเฉินจึงสังหารมารดาของเนี่ยอวิ๋นเหอเพื่อแก้แค้นให้ท่านแม่ ดังนั้น คนทั้งสองเป็ศัตรูสังหารมารดาของอีกฝ่าย...”
ทุกคนเงียบกริบ
“แล้วผลลัพธ์ของการต่อสู้ครั้งนี้เล่า?” เสิ่นเล่ยถาม
มู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์เงียบไปครู่หนึ่ง จึงกล่าวว่า “ระหว่างพวกเขามีชีวิตรอดได้เพียงคนเดียว!”
บนเวทีประลอง เซียวเฉินหัวร่อหยัน “เ้ากลัว? ไม่คิดจะแก้แค้นให้ท่านแม่ของเ้าแล้วหรือ? เ้าไม่คิดแต่ข้าคิด วันนี้ระหว่างเรามีคนรอดชีวิตได้เพียงคนเดียว!”
ฮือฮา!
ประโยคเดียว ทำเอาเอะอะวุ่นวายไปทั้งงาน
สองคนนี้เป็พี่น้องกัน แต่กลับจะสู้แบบไม่ตายไม่เลิกราบนเวทีประลอง!
ในที่สุด ใบหน้าของเนี่ยอวิ๋นเหอก็อึมครึม ดวงตาจับจ้องเซียวเฉินแน่วนิ่ง “ความแค้นสังหารมารดา มิอาจอยู่ร่วมฟ้า” ว่าแล้วก็มองไป๋เยี่ยพลางเอ่ยช้าๆ “ผู้าุโ วันนี้ต่อหน้าคนนับหมื่น ผู้เยาว์เนี่ยอวิ๋นเหออยากเชิญท่านมาเป็ประจักษ์พยาน ข้ากับเซียวเฉินมีความแค้นสังหารมารดาต่อกัน การต่อสู้ในวันนี้ หากไม่ตายจะไม่เลิกรา ไม่ว่าฝ่ายใดถูกสังหาร อีกฝ่ายจะไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น”
คำพูดของเนี่ยอวิ๋นเหอทำให้ไป๋เยี่ยขมวดคิ้ว
“เซียวเฉิน เ้ากล้ารับคำท้าหรือไม่?”
เซียวเฉินยิ้ม “ความแค้นสังหารมารดา มิอาจอยู่ร่วมฟ้า ข้ารับคำท้าการต่อสู้ตัดสินเป็ตายในครั้งนี้”
ว่าแล้ว เซียวเฉินก็มองคนนับหมื่นด้านล่างเวที “วันนี้ขอให้ทุกท่านเป็ประจักษ์พยานด้วย”
สภาวะของคนทั้งสองในชั่วขณะนี้เปลี่ยนเป็แข็งแกร่งอย่างประหลาด เหมือนจะพุ่งทะยานดุจธนูหลุดจากแล่ง ต่อสู้และสังหารอีกฝ่ายให้ตาย
ไป๋เยี่ยมองเซียวเฉิน จากนั้นเอ่ยช้าๆ “ได้ ข้าจะเป็พยานให้พวกเ้า”
คนทั้งสองยิ้มทันที
จากนั้นปล่อยพลังเสวียนออกมาอย่างบ้าคลั่ง
ตูม!
ด้านหลังของเซียวเฉินมีทะเลเพลิงลุกท่วมฟ้า คลื่นเพลิงผลาญนภา สูงถึงร้อยจั้ง อัคคีสีแดงม่วงเผาท้องฟ้าครึ่งหนึ่งเป็สีแดงฉาน แม้แต่อากาศก็เต้นระริก ราวกับวินาทีถัดไปจะทนรับอุณหภูมิร้อนสุดขีดไม่ได้ คลื่นความร้อนมีเสียงปะทุลั่นและถาโถมเข้าใส่ อุณหภูมิอากาศในงานพุ่งพรวดในชั่วขณะนี้
กี๊ซ!
ถัดมา วิหคเทพหงสาขนาดั์สยายปีกโผสู่นภา แผ่อานุภาพกดดันอันไร้ที่สิ้นสุด
เซียวเฉินใช้คัมภีร์หงสาานิรวาณเป็ครั้งแรกในงานประลองห้าสถานศึกษา
เนี่ยอวิ๋นเหอมีสีหน้าเคร่งขรึม
จากนั้น ด้านหลังมีแสงสีเขียวรัศมีหมื่นจั้งปรากฏขึ้น ัเขียวทะยานสู่นภา แยกเขี้ยวกางกรงเล็บ
ัเขียวแหงนหน้าคำรามดังเป็ระลอก อานุภาพัแผ่ไพศาล
เป็สัตว์เทพแห่งาเหมือนกัน จึงมีอานุภาพกดดันเช่นเดียวกัน
ฉากนี้ทำเอาทุกคนอ้าปากค้างมองภาพตรงเบื้องหน้า
มหาสัตว์เทพสองตัวชิงชัยกันกลางอากาศ ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมอ่อนข้อ
ัเขียวและหงสาเป็สัตว์เทพระดับสูงสุดเมื่อครั้งาเช่นกัน ัเขียวเป็หัวหน้าสัตว์มงคลทั้งสี่ พิทักษ์บูรพทิศ ได้รับการขนานนามว่าเป็นายแห่งตะวันออก ส่วนหงสาก็ถือกำเนิดในยุคา มีอัคคีเทพนิรวาณ ไม่ตายไม่ดับสูญ เป็ราชันแห่งร้อยวิหค หัวหน้าร้อยสรรพสัตว์ มีความสามารถแข็งแกร่งเช่นกัน
“พี่ใหญ่ ท่านใช้เคล็ดวิชาสัตว์เทพ ข้าก็มีเช่นกัน ดูสิว่าวันนี้หงสาของท่านหรือัเขียวของข้าจะร้ายกาจกว่ากัน” เนี่ยอวิ๋นเหอเอ่ยช้าๆ แววตาหยิ่งทะนง
แต่เซียวเฉินกลับดูแคลน
เคล็ดวิชาของเนี่ยอวิ๋นเหอคือขั้นดินระดับสูงสุด ส่วนคัมภีร์หงสาานิรวาณของเซียวเฉินคือเคล็ดวิชาขั้นศักดิ์สิทธิ์
ทั้งสองฝ่ายเทียบกันไม่ติดเลย
แตกต่างกันราวเมฆกับดิน
“เนี่ยอวิ๋นเหอ วันนี้ข้าต้องฆ่าเ้าให้ได้!”