จากนั้นก็พยักหน้า“อืม เ้าพูดถูก สตรีเช่นพวกเราไม่ดีก็ตรงนี้แหละนะ เื่เรียนหนังสือนั้นไม่มีส่วนของพวกเราหรอกแต่ว่านะน้องหก สตรีไม่มีความรู้เป็เื่ธรรมดา ต่อไปเ้าเติบโตขึ้นแล้วค่อยหาคนดีๆ จะดีกว่าเ้าไปเรียนมากนัก”
น้องหกไม่เห็นด้วยกับคำพูดของนาง แต่ไม่ได้กล่าวแย้ง เพียงปรายตามองไปยังบัณฑิตกับรองผู้ใหญ่บ้านที่อยู่ไม่ไกลเมื่อลมพัดผ่าน พวกนางทั้งสองจึงได้ยินเสียงดังลอยมา
“ขอแค่ท่านหลินมาที่นี่ คนในหมู่บ้านปาเจียวของพวกเราสามารถแก้ปัญหาเื่ที่พักของท่านกับมารดาได้ส่วนเื่การสอนพวกเราสามารถจัดเวลามาให้”
คำพูดของรองผู้ใหญ่บ้านแฝงไปด้วยความประจบลูกสาวสามคนของเขาถึงวัยที่จะเรียนหนังสือนานแล้ว แต่เพราะไกลเกินไป จึงไม่ได้ไปเรียนเสียที
หากสามารถช่วยท่านหลินได้ และให้ที่พักพวกเขา…
ยิ่งรองผู้ใหญ่บ้านคิดเท่าใดยิ่งรู้สึกว่าเื่นี้มีความเป็ไปได้
“เื่นี้…ข้า…” ขณะหลินจวินเซิงกำลังจะพูดว่าข้าจะนำไปพิจารณากลับได้ยินเสียงดังจากไม่ไกลว่า “ช่วยด้วย ช่วยด้วย มีคนตกน้ำ”
ทั้งสองคนเงยหน้าขึ้นมาดูพลันเห็นตะกร้าเล็กลอยอยู่บนน้ำมีหัวคนกำลังผลุบๆ โผล่ๆ อยู่ในน้ำ ริมฝั่งยังมีสตรีวัยกลางคนกำลังร้องขอความช่วยเหลืออย่างร้อนใจ
“แย่แล้ว มีคนตกน้ำ” หลินจวินเซิงพอเห็นจึงรีบวิ่งไปที่ริมแม่น้ำทันที
ก่อนหน้านี้น้องหกมองพวกเขาด้วยความตั้งใจมากโดยไม่ทันระวังว่าหินที่เท้าจะแยกออก เมื่อหันไปมองเื่ราวทั้งหมดก็เกิดขึ้นแล้ว
โชคดีที่พวกหลินจวินเซิงอยู่ห่างจากตรงนี้ไม่ไกล อีกทั้งจุดที่น้องหกตกน้ำนั้นไม่ได้ลึกมากป้าฝูเห็นคนตกลงไปในน้ำ ใสติหลุดจนร้องเรียกออกมาเสียงดัง
ตอนที่หลินจวินเซิงลงไปในน้ำ มือของเด็กน้อยก็จับแขนเสื้อของเขาเอาไว้แน่น
ลากเด็กน้อยขึ้นมาบนฝั่ง ดูจากท่าทางของนางที่แม้จะใ แต่ดวงตาทั้งสองข้างยังสามารถขยับได้ดังนั้นหลินจวินเซิงจึงวางนางลง ตอนนี้ทั้งตัวของเขาเปียกไปหมด
“ไอ๊หยา นี่แม่หนูสกุลเฉินที่เพิ่งย้ายมาไม่นานนี่นา เด็กคนนี้ เหตุใดจึงไม่ระวังเลยเล่า”รองผู้ใหญ่บ้านจ้าวเป่าเฉียงถอนหายใจออกมาตอนนั้น
“น้องหก มา มาหาป้า” ป้าฝูพุ่งเข้าไปพร้อมขอบคุณหลินจวินเซิงไปด้วย ก่อนจะรับน้องหกมาแต่น้องหกที่ยังไม่หายจากอาการใเมื่อครู่ มือจึงจับเสื้อของหลินจวินเซิงไม่ยอมปล่อย
นางที่ยังรู้สึกวิตกกังวล ตอนนี้มีเพียงความคิดเดียวเท่านั้น คือจับต้นหญ้าที่ช่วยชีวิตตนเองไว้ให้แน่น
ป้าฝูมองเด็กคนนี้พลันรู้สึกไม่ดีขึ้นมา ทั้งยังพูดขอโทษไม่หยุด อยากดึงมือเล็กๆของนางออก
แต่มือของน้องหกยังไม่ยอมปล่อย
“เด็ก เด็กคนนี้นี่…ตอนนี้ไม่เป็อะไรแล้ว มีป้าฝูอยู่ น้องหกเ้าวางใจแล้วปล่อยมือเถิด”
ป้าฝูพูดปลอบใจ รองผู้ใหญ่บ้านเข้ามาปลอบด้วย
กลับเป็หลินจวินเซิงที่มองแม่หนูน้อยน่ารักซึ่งกำลังใอยู่ในอ้อมแขนของเขาคางแหลมขาวซีด ทำให้ใจของเขาร้อนรนขึ้นมาคิดไปถึงน้องสาวที่ตายจากไปเมื่อหลายปีก่อน
จึงกอดเด็กหญิงแน่นขึ้นเล็กน้อยอย่างไม่เป็ธรรมชาติ “ไม่เป็ไรขอรับข้าจะอุ้มนางกลับไปที่เรือน เด็กคนนี้ ไม่ถือว่าตัวหนักมาก ข้าแบกไหว”
เขารู้ว่ารองผู้ใหญ่บ้านกับสตรีวัยกลางคนกังวลว่าร่างกายของเขาอ่อนแอเกินไปดังนั้นหลินจวินเซิงจึงรีบอุ้มน้องหกเดินไปตามทาง
ป้าฝูกับรองผู้ใหญ่บ้านมองตากัน ก่อนที่รองผู้ใหญ่บ้านจะพูดออกมา “เฮ้อก็ได้ ข้าจะไปเรือนของพวกนางพอดี จะได้พาเด็กไปส่งด้วย แม่นางสกุลฝูเ้ากลับไปเถิด”
ป้าฝูไม่มีใจจะซักผ้าต่อแล้ว จึงถอนหายใจออกมาหันกลับไปหยิบตะกร้าก่อนจะเดินกลับด้วยกัน
เฉินเนี้ยนหรานที่กำลังง่วนอยู่กับการทำกับข้าว เมื่อเห็นชายแปลกหน้ากำลังอุ้มน้องสาวของตนเองเข้ามาก็ใจนหน้าเปลี่ยนสี
“น้องหก!”
หลินจวินเซิงเงยหน้าขึ้นมาสบเข้ากับดวงตาเปล่งประกายคู่นั้นวินาทีที่เห็นนาง ท่าทางของหลินจวินเซิงถึงกับชะงักไป
ต่อมาความดีใจก็แล่นผ่านไป “นาง นางแค่…ใเพราะตกน้ำหลังจากอาบน้ำให้นางแล้ว ค่อยเปลี่ยน…ชุดใหม่ก็พอ ไม่…ไม่มีทางมีปัญหาแน่นอน”ยามนี้หลินจวินเซิงซึ่งเดิมทีเป็คนพูดจาฉะฉาน กลับพูดติดอ่างขึ้นมา
เพียงแต่หลายคนที่เข้ามาไม่ได้สังเกต รองผู้ใหญ่บ้านรีบกระแอม “นั่นใครนะน้องสาวสกุลเฉิน เ้ารีบมารับน้องสาวของเ้าไป กับข้าวนี่ทานช้าหน่อยกไม่เป็ไร”
ป้าฝูที่ตามเข้ามาด้วย เมื่อเห็นกับข้าวอยู่บนเตา จึงวางตะกร้าแล้วเข้าไปช่วย
ซึ่งเฉินเนี้ยนหรานที่ตอนนี้กำลังเป็ห่วงน้องหกไม่ได้สนใจปฏิเสธ
ก่อนจะพาน้องหกเข้าไปในห้องน้ำ ถึงได้พบว่าชายที่อุ้มนางกลับมาตัวเปียกไปทั้งตัวเช่นกัน
“เื่นี้ ท่านตัวเปียกไปทั้งตัว หากไม่เปลี่ยนเสื้อผ้า เกรงว่าจะไม่สบาย”เฉินเนี้ยนปรายตามองเสื้อผ้าที่เปียกชื้นของหลินจวินเซิง
รองผู้ใหญ่บ้านเมื่อเห็นโอกาสจึงรีบเดินออกไปด้านนอก “เ้าน่ะรีบต้มน้ำอุ่นหน่อยเถิด ข้าจะไปเอาเสื้อผ้ามาให้ท่านหลิน อีกเดี๋ยวมาทานข้าวที่เรือนของเ้ากันให้หมดนี่แหละ”
เฉินเนี้ยนหรานรีบพยักหน้า “ได้ ได้ รองผู้ใหญ่บ้านช่างรอบคอบนักเอาตามที่ท่านว่าเ้าค่ะ เช่นนั้น คุณชายนั่งตรงนั้นก่อนนะเ้าคะ ข้าจะไปต้มน้ำ”
หม้อที่เดิมทียังตุ๋นผักอยู่ ตอนนี้เพราะเกิดเื่กับน้องหกเฉินเนี้ยนหรานจึงรีบไปตักผักออกมาไว้ด้านข้าง
แล้วรีบต้มน้ำ ป้าฝูเล่าเื่ตอนนั้นออกมาให้ฟัง
“ข้ามองไปทางพวกคุณชายเขา ไม่คิดว่าน้องหกจะยืนไม่ดี เฮ้อ ต้องโทษข้ายังดีที่แม่หนูไม่เป็อะไร ไม่เช่นนั้นข้าคงรู้สึกไม่ดี”
เฉินเนี้ยนหรานหวาดหวั่นมาก ขณะมองไปทางหลินจวินเซิงอีกครั้งแววตาจึงเต็มไปด้วยความซาบซึ้ง
ดวงตานางเดิมทีก็เปล่งประกายระยิบระยับอยู่แล้ว ในตอนนี้ยังใช้สายตาซาบซึ้งมองมายังตนหลินจวินเซิงรู้สึกว่าหัวใจดวงนี้เต้นกระหน่ำอย่างห้ามไม่อยู่
เขาจำได้ ตอนอยู่ในเขตเขาเคยเห็นสตรีนางนี้ร้องเรียกลูกค้าเข้ามาซื้อของเสียงที่ร้องเรียกนั้นช่างสดใสจริงๆ
ตอนนั้นเพียงรู้สึกว่าการได้ฟังนางร้องเรียกลูกค้าและมองร่างของนางล้วนเป็การเสพสุขอย่างหนึ่งขณะอยู่ในความฝันก็เคยเกิดอารมณ์เพราะนาง
ทว่านี่เป็ความลับของเขาเพียงคนเดียว ใครจะคิด เพราะในหมู่บ้านจะประสบภัยพิบัติการออกมาหาที่พักในครั้งนี้ กลับพบว่านางอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้
นี่ หรือจะเป็พรหมลิขิต อย่างไรหลินจวินเซิงก็เป็บัณฑิต อีกทั้งอายุประมาณยี่สิบปีเนื่องจากครอบครัวยากจน แม้เขาจะเป็คนเก่ง แต่เพราะมารดาตาบอด บวกกับความยากจนของครอบครัวเื่แต่งงานจึงไม่เกิดขึ้นเสียที
รวมถึงเขามีมาตรฐานสูง รู้สึกว่าตนเป็คนเก่ง แม้หาสตรีจากชนบทมาจะต้องหาคนที่สามารถสนับสนุนครอบครัวได้ คิดคำนวณได้ และหน้าตาต้องงดงาม ขณะไปซื้อหมึกในเขตสายตาพลันมองไปเห็นเฉินเนี้ยนหราน
เพียงแต่ เขายังไม่ได้สืบหาข้อดีของนางให้มากกว่านี้ ที่เรือนดันประสบภัยร้ายเสียก่อน
ดังนั้นจึงมีความคิดที่จะหาหมู่บ้านล้าหลังเพื่อมาเป็อาจารย์
ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากเป็อาจารย์ในเขต หรือในเมืองเล็กๆ แต่เพราะพวกเขารับสมัครเพียงคนที่อยู่ในเขตหรือคนที่มีอนาคตสักหน่อย ดังนั้นสถานที่ที่เขาสามารถอยู่ได้ และสถานที่นั้นต้องเป็อย่างหมู่บ้านปาเจียวที่รีบร้อนหาอาจารย์สักคนและไม่ต้องจ่ายเงินค่าเล่าเรียนมากเขาจึงจะสามารถอาศัยอยู่ได้อย่างสงบ
“คุณชายหลิน เชิญดื่มชาก่อนเ้าค่ะ” ในเรือนยังต้มน้ำร้อนไว้เฉินเนี้ยนหรานเอาดอกเก๊กฮวยป่าที่เก็บมาได้ใส่ลงไปในกาชา
เพิ่งจะยกขึ้น หลินจวินเซิงพลันได้กลิ่นหอมอ่อนๆ เหมือนคนตรงหน้าที่ยืนส่งยิ้มให้หลินจวินเซิงเดิมทีไม่ได้กระหายน้ำ ในตอนนี้กลับรู้สึกกระหายขึ้นมาทันที
“ชาดี ไม่เลวเลย ไม่เลว”
ป้าฝูที่อยู่ด้านข้างได้ยินก็รู้สึกแปลกใจขึ้นมา “โอ้ ชาดีอะไรหรือที่ทำให้คุณชายชมออกมาได้?”
เฉินเนี้ยนหรานหัวเราะ หมุนตัวไปทดสอบอุณหภูมิของน้ำเมื่อเห็นว่าน้ำยังร้อนอยู่ “ไม่ใช่ของหายากอะไรหรอกเ้าค่ะ เพียงเห็นว่าด้านนอกมีดอกเก๊กฮวยป่าบานอยู่จึงเก็บดอกมันมาทำชา คุณชายหลินเป็คนช่างเลือก คงรู้สึกว่าดอกไม้นี้รสชาติเบา จึงนึกชอบมันขึ้นมากระมัง”
เสียงใสนุ่ม อ่อนโยนพร้อมทั้งรอยยิ้มงดงามของนางทำให้หลินจวินเซิงที่ทั้งตัวเปียกชื้นรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา
“ชาดีจริงๆ แม้จะเป็ดอกเก๊กฮวยป่าง่ายๆ แต่เมื่อแม่นางลงมือรู้สึกว่ามันมีกลิ่นหอมหลงเหลืออยู่ในปาก”
คำพูดของบัณฑิต พูดออกมาได้ดูดีมีความรู้ เฉินเนี้ยนหรานยิ้มแล้วแก้คำ“ไม่ใช่แม่นางเ้าค่ะ ข้าเป็สตรีที่แต่งงานแล้ว”
การเน้นย้ำนี้ ทำเอาหลินจวินเซิงที่ได้ยินถึงกับชะงักไป “หา?”
เมื่อเห็นท่าทางใของเขา ราวกับเห็นมนุษย์ต่างดาว เฉินเนี้ยนหรานจึงหัวเราะออกมา“อืม ข้าเป็สตรีที่ถูกสามีทิ้ง ทำให้คุณชายเห็นเื่ตลกแล้ว” รอยยิ้มสดใสนั้นเมื่อปรากฏอยู่ในสายตาคน ก็ให้รู้สึกเ็ป
หลินจวินเซิงลำบากใจ รู้สึกราวกับหัวใจถูกควักออกไป เ็ปเป็ความรู้สึกอึดอัดพูดไม่ออก รู้สึกเพียงว่าสตรีหน้าตางดงามเช่นนี้กลับมีชื่อเสียงไม่ดี สตรีที่ถูกสามีทอดทิ้ง รู้สึกเหมือน…หยกสวยชิ้นหนึ่งเปลี่ยนไปเป็หยกที่มีรอยตำหนิ
เฉินเนี้ยนหรานหาได้สนใจบัณฑิตมีความรู้ตรงหน้า เพียงชั่ววินาทีทำให้ตนเองที่เป็แม่นางใสบริสุทธิ์เปลี่ยนเป็สตรีแต่งงานแล้วมีชื่อเสียงยอดแย่
นางเพียงรู้สึกซาบซึ้งและทำในสิ่งที่ควรกระทำ
หลังจากยกน้ำของหลินจวินเซิงไปอีกห้องหนึ่งแล้ว รองผู้ใหญ่บ้านก็เอาเสื้อผ้าผู้ชายมาให้ยืม
เมื่อดูแลหลินจวินเซิงอย่างดีแล้ว น้องห้ากับหนิวซื่อสองสามีภรรยาก็กลับมาเมื่อได้ยินว่าน้องหกเกิดอุบัติเหตุ น้องห้าใทิ้งของในมือวิ่งเข้าไปในเรือน
เฉินเนี้ยนหรานไม่ได้ให้นางเข้าไป แต่ให้นางกับพวกหนิวซื่อไปทำอาหาร
เพราะมีป้าฝูคอยช่วยเหลือ ดังนั้นนางจึงสามารถหาเวลามาดูแลน้องหกได้
น้องหกที่อยู่ในถังอาบน้ำ ยังขดตัวด้วยความหวาดกลัว เด็กน้อยคนนี้กลัวน้ำกลัวมาั้แ่เด็ก
จากที่ได้ยินมา ตอนเด็กๆ ตกลงไปน้ำด้วยความไม่ตั้งใจ แม้จะถูกช่วยขึ้นมาได้แต่นับแต่นั้นมาเด็กน้อยก็กลัวแม่น้ำมาก อุบัติเหตุในวันนี้ดูเหมือนจะเกิดขึ้นกะทันหันนัก
“ต่อไปอย่าไปที่ริมแม่น้ำอีกเลย” เมื่อเห็นท่าทางตื่นกลัวของนาง เฉินเนี้ยนหรานทั้งเสียใจทั้งปวดใจ
“ท่านพี่ ฮือ ข้ากลัว กลัวว่าข้าจะไม่ได้เจอท่านอีก”เด็กน้อยใจนิญญาแทบหลุดลอย เข้ามาจับแขนเสื้อของนางร้องไห้จ้า
เพราะใมาก หลังจากร้องไห้เสร็จก็เงียบลง เพียงครู่เดียวก็นอนหลับไปในอ่างน้ำ
หลังจากวางนางลงบนเตียงแล้ว เฉินเนี้ยนหรานยื่นมือไปลองจับหน้าผากเมื่อมั่นใจแล้วว่าตัวไม่ร้อน จึงห่มผ้าให้นางแล้วเดินออกไป
