บทที่ 199 เทพมาเยือนเมืองชุยเสวี่ย
“ตาย…ตาย…”
“ตายซะ!!”
เวลานี้ ดวงตาของฉู่อวิ๋นเป็สีดำสนิท เขามองขึ้นไปยังผู้คนรอบๆ หลุมอย่างเยือกเย็น เจตนาฆ่าอันโกรธเกรี้ยวปกคลุมจิตใจของเขาไปจนหมด!
ระหว่างคิ้วของเขาเปล่งแสงสีดำจางๆ หมู่เมฆสั่นไหว ดูน่ากลัวมากจนไม่มีใครกล้าทำอะไรบุ่มบ่าม
ขณะเดียวกัน ณ จัตุรัสศาลเ้า
ทุกคนดูประหลาดใจและไม่มั่นใจ เมื่อมองไปที่ฉู่อวิ๋นในหลุมลึกกำลังกอดฉู่ซินเหยาที่อ่อนแอไว้ในอ้อมแขน พวกเขาต่างมองหน้ากัน ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี
“อะไรกัน?… ควรทำอย่างไรดี? ตีผิดคนแล้ว! คนงามมารับผนึกหงส์สีเืแทนเ้าเด็กหนุ่มนั่นจริงหรือ?” หลายคนตื่นตระหนกและมองไปรอบๆ ใกล้หลุม พวกเขาทั้งหมดพบว่าพลังของฉู่ซินเหยานั้นราวกับใยแมงมุมที่ใกล้ขาด
ในเวลาเดียวกัน ทุกคนก็สับสนและงงงวย ฉู่ซินเหยาเรียกได้ว่าเป็สตรีอ่อนแอ จะสามารถต้านทานผนึกหงส์สีเืได้อย่างไร?
แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือนางหยุดมันได้จริงๆ! อีกทั้งิญญาไม่ได้กระจัดกระจาย แม้จะตาย แต่ร่างกายกลับไม่แหลกลาญ นี่เป็ปริศนาใหญ่ที่ทำให้ผู้ชมทั้งหมดประหลาดใจ
“ดูท่าแล้ว เื่แย่งเ้าสาวครั้งนี้คงไม่ใช่เื่ธรรมดา!” มีคนถอนหายใจ คิดถึงฉู่ซินเหยาที่เสียสละชีวิตของตนเพื่อช่วยฉู่อวิ๋น และกำลังคาดเดาถึงความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่
“คนงามมีกลิ่นหอมจาก์[1]จริงๆ นางเริ่มเข้าไปต่อต้านผนึกหงส์สีเืก่อน นางจะตายหรือไม่? น่าสงสารจริงๆ” บางคนเห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของฉู่ซินเหยาแล้วก็แอบถอนใจอย่างเงียบๆ
แต่ผู้คนจำนวนมากแสดงสีหน้าเคร่งขรึม เหล่านี้เป็กองกำลังพันธมิตรของตระกูลเสวี่ยและตระกูลฉู่ ซึ่งอย่างน้อยก็มีครึ่งหนึ่ง
เมื่อเห็นว่าฉู่อวิ๋นหลบหนีจากการถูกฆ่ามาได้แล้วสามครั้ง และตอนนี้ ฉู่ซินเหยาก็เข้ามีส่วนด้วย คนเหล่านี้ก็โกรธมาก ้าจะฆ่าเขาทันที
นอกจากนี้ เมื่อผู้แข็งแกร่งที่เหลือเห็นว่าคนที่ประสบเหตุคือฉู่ซินเหยา พวกเขาก็พ่นลมอย่างเ็าและกลับไปต่อสู้แย่งชิงร่างิญญาของโยวกู่จือต่อทันที
“เ้าหนูฉู่!!” โยวกู่จือเรียกฟ้าเรียกฝนเข้าโจมตีผู้แข็งแกร่งที่เข้ามา พลางจ้องมองไปยังที่ฉู่อวิ๋นที่อยู่ในหลุม แต่เมื่อเขาเห็นแสงสีดำส่องสว่างระหว่างคิ้วของเขา เขาก็รู้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติ
“รัศมีที่สาวน้อยฉู่เปล่งออกมาเมื่อกี้...คือ?!” ในเวลาเดียวกัน ผู้าุโก็ใเช่นกัน เมื่อเขาเห็นฉู่ซินเหยาที่ใบหน้าซีดเซียว เขาก็นึกถึงความลับบางอย่าง
“สัตว์ประหลาดเฒ่า รีบมอบตัวมาเสียดีๆ!”
“เป็โอสถขัดเกลาให้ข้า ดีกว่าใช้ชีวิตอย่างไร้เกียรติ!”
แต่ในไม่ช้า ผู้แข็งแกร่งทั้งหมดก็รุมโจมตีต่อไป รัศมีแห่งพลังจิตของโยวกู่จือสว่างวาบทันที เขาทำได้เพียงต่อสู้เคียงบ่ากับหลิงจื้อต่อไป
แน่นอนว่าเมื่อเห็นว่าฉู่ซินเหยากำลังจะตาย คนที่โกรธแค้นที่สุดคือตระกูลเสวี่ย ฉู่เจิ้นหนานและคนที่เกี่ยวข้อง
“ซินเหยาจะพุ่งออกไปได้อย่างไร?! นาง... ปิดกั้นผนึกหงส์สีเืโดยที่ร่างกายและจิติญญาไม่แหลกสลาย” จิ้งจอกเฒ่าเ้าแผนการ ยามนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน เขาตื่นตระหนกเล็กน้อย ดวงตาเบิกกว้าง ตัวสั่น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาเห็นรูปลักษณ์ที่น่าสะพรึงกลัวของฉู่อวิ๋นและภาพที่แล่นฉิวผ่านไปอย่างต่อเนื่อง ลำคอของฉู่เจิ้นหนานก็ตีบตัน เหงื่อตกหลายหยด
“ใต้เท้าฉู่! ฉู่อวิ๋นทำร้ายฉู่ซินเหยาถึงขนาดนี้แล้ว ท่านต้องทวงความยุติธรรมให้ข้านะ!” เสวี่ยหานเฟยเดินกะเผลก ดูกังวลมากเช่นกัน เขา้ากำจัดฉู่อวิ๋นและพาตัวฉู่ซินเหยาไป
แต่ฉู่เจียงสีหน้ายากจะมอง เขาไม่พูดอะไรอยู่ครู่หนึ่ง แปลกใจที่ฉู่ซินเหยาสามารถปิดกั้นผนึกหงส์สีเืได้ แต่เขาไม่สนใจฉู่อวิ๋นมากนัก
“ท่านทูต! สถานการณ์ไม่ดีแล้ว ค่ำคืนยิ่งยาวนานความฝันยิ่งมากมาย[2] ทำไมไม่ปล่อยให้เ้าเมืองคนนี้ดูแลเื่ของเด็กหนุ่มคนนี้แทนเล่า?” ในทางกลับกัน เสวี่ยจิงหงกลับตื่นตัวมาก ถามด้วยน้ำเสียงเข้ม
“ไปเถอะ! เขาไม่มีพลังปราณแล้ว จัดการได้ง่าย” ฉู่เจียงพยักหน้า แต่ตัดสินใจในใจ พึมพำกับตัวเอง “สาวน้อยคนนั้นลึกลับเกินไป ต้องพานางกลับไปที่เชื้อสายหลักให้ได้!”
ทันใดนั้น เสวี่ยจิงหงก็สั่งให้ทหารขั้นมหาสมุทรหลายคนบุกเข้าไปในหลุมลึกเพื่อโจมตีฉู่อวิ๋น แล้วพาฉู่ซินเหยากลับมา
ยามที่นักรบหลายคนกำลังจะะโลงไปในหลุม ทุกคนต่างก็เฝ้ามองอยู่
“ไสหัวไป!!!”
ทันใดนั้น ฉู่อวิ๋นพูดเสียงแหบแห้ง เงยหน้าขึ้น และจ้องมองไปที่นักรบ ด้วยเสียง “ปัง” นักรบเหล่านี้ถูกแรงกดดันมหาศาลบีบอัด อวัยวะภายในะเิ เืพุ่งทะลักไปทั่วพื้นดิน!
“เขา...เขาไม่ได้สูญเสียพลังปราณไปหรอกหรือ? แค่มองเพียงครั้งเดียว ก็ขับไล่นักรบขั้นมหาสมุทรได้แล้ว!”
ทุกคนตกตะลึง มองเข้าไปในหลุมลึกแล้วอ้าปากค้าง
แต่ในขณะนี้ ระหว่างคิ้วของฉู่อวิ๋นเริ่มเข้มขึ้นเรื่อยๆ เส้นเืสีน้ำเงินปูดโปน ผมขยับแม้ไร้ลม ราวกับเทพาผู้ผูกพยาบาทที่กลับมาจากนรก น่ากลัวไร้สิ่งใดเปรียบ
“พวกเ้า...ตาย...ตาย!!!”
“อ๊าก-ฮะ-”
ฉู่อวิ๋นกอดฉู่ซินเหยาแน่นอีกครั้งและคำรามขึ้นไปบนฟ้า เสียงของเขาฟังดูไม่เหมือนมนุษย์อีกต่อไป มันแหบแห้ง ทุ้มต่ำ และหวีดแหลม!
ด้วยเสียง “ฟุ่บ” เืสีดำก็ไหลออกมาจากระหว่างคิ้วของเขา!
ในขณะนี้ ทวารศักดิ์สิทธิ์ของฉู่อวิ๋นตกอยู่ในความสับสนวุ่นวายแสนมืดมิด ิญญากระบี่บาป์ยังคงสั่นไหว ปล่อยแสงสีดำออกมาเล็กน้อย โถงกระบี่แปดบัญชรเองก็สั่นเทาเช่นกัน
ทันใดนั้น มองเห็นโลงศพท่ามกลางสมุทรดาราในประตูที่สองส่องแสง เมื่อเสียง “แกร่ก” ดังขั้น รอยแตกก็ปรากฏขึ้นบนประตูหิน
“วุ่บ วุ่บ วุ่บ-”
ทันใดนั้น สายโซ่ศักดิ์สิทธิ์ที่ดูไม่มีจริง มีพลังชีวิตไม่มีที่สิ้นสุดก็ลอดผ่านออกมาจากรอยแตก แสงสีทองสุกใส ข้ามความว่างเปล่า และทำลายผนึกของประตู “พัก” ทันที
จากนั้น สายโซ่ศักดิ์สิทธิ์ก็ทะลุผ่านอากาศและมุ่งหน้าตรงไปยังแผ่นหินที่ชำรุดทรุดโทรมตรงกลางห้องโถง
“เวิ้ง——”
เสียงศักดิ์สิทธิ์ดังกึกก้อง ส่องแสงนับพัน ในเวลานี้ โถงกระบี่แปดบัญชรก็สั่นะเื แผ่นหินขนาดใหญ่เรืองรอง!
ครู่ต่อมา กระบี่บาป์ก็ส่งเสียงพึมพำ วนเป็วงกลม และปล่อยแสงกระบี่ออกมา พุ่งเข้ามาที่กลางคิ้วของฉู่อวิ๋น และสะท้อนขึ้นสู่ท้องฟ้า!
ทันใดนั้น ท้องฟ้าสีครามก็เปลี่ยนสี เต็มไปด้วยเมฆครึ้ม ลมพัดแรง ปรากฏฟ้าผ่าฟ้าร้อง และโลกก็ตกอยู่ในความวุ่นวาย!
“ตาย...ตาย...ตาย!”
ฉู่อวิ๋นคำรามด้วยความโศกเศร้า เ็ป!
ทันใดนั้น เงากระบี่หักก็แวบขึ้นมาด้านหลังเขา แม้ว่าจะเป็เพียงชั่วขณะหนึ่ง แต่ทุกคนที่สังเกตเห็นก็นิ่งอึ้งไปทันที
“เวิ้ง-เวิ้ง-”
จากนั้น เสียงศักดิ์สิทธิ์ลึกลับก็ดังขึ้น พื้นดินสั่นะเืตามจังหวะ
รัศมีลึกลับค่อยๆ เปล่งออกมา ราวกับว่ามันได้ตื่นขึ้นจากกาลเวลาอันยาวนาน และเดินทางผ่านความนิรันดร์ ทำให้ทุกคนในจัตุรัสศาลเ้า และแม้แต่ผู้คนในเมืองต่างก็หายใจลำบาก
นกสีดำบินว่อน สัตว์ร้ายส่งเสียงครวญคราง ต้นไม้เหี่ยวเฉา สิ่งมีชีวิตทั้งหมดหดหู่ราวกับรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก
นี่คือการสั่นะเืจากจิติญญา นี่คือความกลัวจากสัญชาตญาณ นี่คือลางร้ายแสนหายนะ
ในรัศมีร้อยลี้ พลังิญญาลุกล้ำและควบแน่นอย่างรวดเร็วจนกลายเป็ทะเลแห่งจิติญญา มองเห็นได้ด้วยตาเนื้อ คลื่นลูกแล้วลูกเล่า ไหลเข้าสู่เมืองชุยเสวี่ยจากทุกทิศทาง ราวกับสมุทรดาราที่ห้อยกลับหัวและหมุนวนไปทั่ว ตรงเข้าสู่ท้องฟ้าและทะลวงผ่านม่านเมฆ
นี่คือกระแสพลังิญญา!
กระแสพลังิญญาที่ไม่เคยมีมาก่อน! พลังนั้นยิ่งใหญ่และพลุ่งพล่าน จนนักพรตหลายคนในบริเวณใกล้เคียงพากันค่อยๆ หายใจ และหยุดมองดูท้องฟ้า
มีนักพรติญญาผู้แข็งแกร่งที่ปิดด่าน เปิดตาขึ้นมอง ใบหน้าของเขาเคร่งขรึม หัวใจเต้นรัว และมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีนัก
“สถานการณ์ไม่ดี! รีบลงไปฆ่าเด็กนั่นซะ!”
ในเวลานี้ เสวี่ยจิงหงะโอย่างไม่ลังเล เขาสั่งให้นักรบหลายสิบคนรีบเข้าไปในหลุม
“ชึบ ชึบ ชึบ——”
แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกตะลึง คือ ทันทีที่คนกลุ่มนี้ตกลงบนพื้นหลุม พวกเขาก็ถูกโซ่ศักดิ์สิทธิ์สังหาร และกลายเป็ซากศพที่มีเืกระเซ็นอยู่ตามพื้น
ยังไม่ทันได้ตอบโต้เลยด้วยซ้ำ
ทันใดนั้น พลังิญญาจากสิบทิศทางก็ปรากฏขึ้นราวกับคลื่นทะเลปกคลุมท้องฟ้า ทั้งหมดรวมตัวกันบนท้องฟ้าเหนือจัตุรัสของศาลเ้า พวกมันสง่างามเสียจนทุกคนพากันจ้องมอง
ด้วยเสียงดัง “วับ” ทะเลแห่งจิติญญาก็กลายเป็กระแสน้ำ พุ่งตรงไปยังฉู่อวิ๋น ราวกับเสาน้ำขนาดใหญ่ที่เจาะทะลุฟ้าดิน
ฉู่อวิ๋นในยามนี้ยังคงคำราม ดูดซับพลังิญญาที่พลุ่งพล่านอย่างบ้าคลั่ง มวลอากาศทั้งห้าชั้นในจุดตันเถียนของเขาก็กระจัดกระจายในทันที!
สมุทรพลังปราณ...
แก่นแท้กลายเป็ทะเลสาบ...
แก่นแท้กลายเป็มหาสมุทร!
ระดับแรกขั้นมหาสมุทร
ระดับสี่ขั้นมหาสมุทร
ระดับเจ็ดขั้นมหาสมุทร!
ทันใดนั้น ฉู่อวิ๋นก็ทะลวงผ่านเจ็ดระดับ กลับสู่ระดับเจ็ดขั้นมหาสมุทรอีกครั้ง!
เมื่อกระแสพลังิญญาขนาดมหึมานี้หายไป ทุกคนก็ตกตะลึงและพูดไม่ออก
“เด็กหนุ่มคนนี้แปลกเกินไป! เก็บไว้ไม่ได้!”
“ฆ่าเขา!”
เมื่อยังไม่ได้รับคำสั่งจากเสวี่ยจิงหงหรือฉู่เจียง ผู้แข็งแกร่งบางคนที่เต็มไปด้วยแรงอาฆาต เริ่มโจมตีฉู่อวิ๋นที่อยู่ในหลุมก่อน
แต่คนเหล่านี้ยังไม่ได้ทำอะไร สถานการณ์ก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง!
“สูด สูด!!!”
ฉู่อวิ๋นสูดพลังปราณสีขาว ดวงตาของเขามืดมนและดุร้าย ราวกับสัตว์ปีศาจโบราณ โเี้อย่างยิ่ง
ข้างหลังเขา มีเงากระบี่หักปรากฏขึ้น
นี่เป็ครั้งแรกที่เงาิญญายุทธ์ของกระบี่บาป์ปรากฏขึ้น
“นั่นคือิญญายุทธ์เศษเดน?!” ฉู่เจิ้นหนานพึมพำ ยามที่ฉู่อวิ๋นปลุกิญญายุทธ์ เขาเองก็อยู่ด้วย เขาย่อมจำมันได้
ทว่าในไม่ช้า จิ้งจอกเฒ่าก็เริ่มตัวสั่น ดวงตาของเขาเปล่งประกาย
ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น แต่ทุกคนในกลุ่มผู้ชมต่างก็ปิดปากและกรีดร้อง รู้สึกเหลือเชื่อมาก
เพราะแม้ว่าเงาิญญายุทธ์ของกระบี่บาป์จะเก่าแก่และไม่สมบูรณ์ แต่จริงๆ แล้วมันกำลังเปลี่ยนแปลงไป!
“แกร๊ก--”
“แกร๊ก--”
ในความว่างเปล่า ดูเหมือนจะได้ยินเสียงการซ่อมแซมทองคำศักดิ์สิทธิ์ รอยแตกบนกระบี่บาป์ก็ค่อยๆ ผสานกัน
“วิ้ง--”
หลังจากซ่อมแซมรอยแตกร้าวนี้ ทันใดนั้น ทั้งลานก็เกิดความโกลาหล ลมกระโชกแรง ฟ้าร้องลั่น!
เมฆดำทะมึนปกคลุมท้องฟ้า บดบังดวงอาทิตย์ งูสีเงินหลายพันตัวฟาดฟันและส่งเสียงคำราม น่ากลัวอย่างยิ่ง!
ทันใดนั้นคลื่นพลังก็กระจายไปทุกทิศทางโดยมีฉู่อวิ๋นเป็ศูนย์กลาง ทั่วทั้งลานกลายเป็สีเทา เวลาและสถานที่ดูเหมือนจะถูกแช่แข็ง
“เกิด...เกิดอะไรขึ้น?!”
“น่าหดหู่...น่ากลัวมาก!”
ทุกคนมองไปรอบๆ มองเห็นเพียงสภาพแวดล้อมรอบตัวมืดครึ้ม โลกทั้งใบดูเหมือนจะกลายเป็สีเทาแสนหดหู่
“ควับ!”
ในขณะนี้ ฉู่อวิ๋นกอดฉู่ซินเหยาด้วยมือทั้งสองข้าง ดวงตาของเขาเบิกกว้าง และเขาก็ค่อยๆ ลอยขึ้นไปในอากาศจากหลุมลึก ราวกับว่ามีพลังที่ไม่รู้จักช่วยประคองอยู่
ในไม่ช้า เขาก็ยืนอยู่ตระหง่านอยู่บนท้องฟ้า มองเห็นทั่วทั้งจัตุรัส ทรงพลัง เผด็จการและน่าประหลาดใจ
“ฆ่าเขา!”
เมื่อเห็นเช่นนี้ ผู้แข็งแกร่งบางคนไม่อาจนิ่งดูดายต่อไป พลังของพวกเขาพลุ่งพล่านอย่างดุเดือด รีบพุ่งเข้าโจมตีฉู่อวิ๋นกลางอากาศ
แต่พลังปราณแสนเย็นเยียบเ่าั้กลับดับลงในทันทีก่อนจะไปถึงฉู่อวิ๋น ทำให้คนเหล่านี้ตกตะลึง
“พวกเ้า... ล้วนต้องตาย!”
ฉู่อวิ๋นเอ่ยอย่างเ็า ิญญากระบี่บาป์ที่อยู่ข้างหลังเขาแวบวับ ก่อนจะปรากฏเงาขึ้นมาจริงๆ!
เื้ักระบี่บาป์ มองเห็นเงาของกระบี่ั์ที่ปกคลุมท้องฟ้า มันวับแวม ครอบฟ้าคลุมดิน มีพลังอันไร้ขอบเขต
“ตูม--”
จากนั้น ก็มีเสียงะเิดังขึ้น
มองเห็นศาลเ้าชุยเสวี่ยะเิเป็เสี่ยงๆ เผยให้เห็นรูปปั้นหินของเทพธิดาชุยเสวี่ย แต่ไม่นานหลังจากนั้น แสงกระบี่ก็เปล่งประกาย และรูปปั้นหินของเทพธิดาก็กลายเป็ผุยผงในทันที!
กระบี่ ดูเหมือนจะโกรธจัด!
จากนั้นเงาของกระบี่แสนยิ่งใหญ่นั้นก็หายไป เหลือเพียงเงากระบี่หักของกระบี่บาป์
แม้ว่ากระบี่บาป์จะปรากฏขึ้นใน่เวลาสั้นๆ และทุกคนก็เพียงแค่จ้องมองมันเท่านั้น แต่คิ้วของพวกเขากระตุก ิญญายุทธ์ของพวกเขาสั่นเทา!
ทุกคนที่นี่ ต่างมีใจคิดอยากโขกศีรษะคำนับฉู่อวิ๋น
“เมื่อ...เมื่อกี้...สิ่งนั้นคือรูปธรรมิญญาแท้! ตามตำนาน มีเพียงิญญายุทธ์ระดับเก้าระดับสูงสุดเท่านั้นที่สามารถสร้างปรากฏการณ์ที่แปลกประหลาดเช่นนี้ได้!”
“เด็กหนุ่มคนนี้ปลุกิญญายุทธ์เศษเดนขึ้นมาไม่ใช่หรือ? ทำไมเขาถึงทำให้เป็รูปธรรมิญญาแท้ได้!?”
ผู้าุโกลุ่มหนึ่งะโด้วยไม่อยากจะเชื่อ ดวงตาของพวกเขาสั่นเทาด้วยความใ ฉู่เจิ้นหนานเองก็ใเช่นกัน
“ใต้เท้าฉู่! เด็กคนนี้ต้องถูกฆ่า! ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาไม่รู้จบ ทั้งท่านทั้งข้าจะต้องพินาศทั้งคู่แน่!” ฉู่เจิ้นหนานหันไปพูดกับฉู่เจียงทันทีด้วยความกังวลยิ่ง
“องครักษ์เทวัญฟังคำสั่ง! รีบปลิดชีพเขาซะ!” ฉู่เจียงไม่ลังเล ะโออกไปอย่างรวดเร็ว
“ควับ!”
ทันใดนั้น เงาสีเงินทั้งสิบก็พุ่งออกไป เคลื่อนตัวไปทั่วท้องฟ้าด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ ไอสังหารพวยพุ่ง ้าฆ่าฉู่อวิ๋น!
----------
[1] บรรยายถึงกลิ่นหอมอันเข้มข้นและรูปลักษณ์อันละเอียดอ่อนของดอกโบตั๋น ภาษาอาจมีพื้นฐานมาจากราชวงศ์ถัง เื่ “ซ่งจวงเบ็ดเตล็ด” ของหลี่จุน ต่อมามีการใช้เพื่อบรรยายถึงผู้หญิงที่มีรูปร่างหน้าตาสวยงามและท่วงท่าที่สง่างาม
[2] เวลายิ่งยาวนานอุปสรรคยิ่งมาก