หลัวเลี่ยไม่สนใจว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร แน่นอนเขาไม่รู้ว่าผู้ชมได้ขยายจากในสนามประลองัออกมาด้านนอกแล้ว และจำนวนผู้ติดตามที่ถูกดึงดูดให้เข้ามาดูก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เขายังคงฝึกฝนพัฒนาหมัดพญาัประจัญบานในสนามประลองัแท้จริง เพื่อยกระดับทักษะการต่อสู้นี้ให้ถึงระดับถ่องแท้โดยเร็วที่สุด
การฝึกฝนด้วยความแน่วแน่ จะทำให้พัฒนาเร็วขึ้นมาก
เมื่อเขาไปถึงระดับเชี่ยวชาญ ร่างของหลงเยียนหรันก็ปรากฏขึ้นอีกครั้งในสายตาของเขา
“เขาเชี่ยวชาญหมัดพญาัประจัญบานแล้ว องค์หญิงสามโปรดระวัง!”
ครั้งนี้หลงโต่วไห่ หนึ่งในสี่แม่ทัพใหญ่ของเผ่าั ยอมรับอย่างไร้ยางอายว่าเขาเองก็กังวลเช่นกัน
ความกังวลทั่วไปแผ่ไปทั่วทั้งสนาม
เดิมทีหลงเยียนหรันผู้ซึ่งถูกะเิสามครั้งติดต่อกัน ได้วางแผนที่จะใช้ไพ่ตายของนาง แต่เมื่อนางได้ยินคำพูดของหลงโต่วไห่ นางก็ตกตะลึงเล็กน้อย แม้แต่ัอัจฉริยะที่แท้จริงเช่นนาง ยังใช้เวลาถึงหนึ่งปีในการฝึกฝนจนถึงระดับเริ่มต้น
สิ่งนี้เป็ผลให้นางเสียสติอีกครั้ง และนางก็โชคร้ายอีกครั้ง
ทันทีที่เสียงกลไกประกาศให้เริ่มต้นการต่อสู้ดังขึ้น หลัวเลี่ยก็ยกมือขึ้น และชกหมัดพญาัประจัญบานออกไป
หลงเยียนหรันผู้ซึ่งมีปฏิกิริยาช้าไปหนึ่งก้าวก็ลอยออกไปอีกครั้ง
ครั้งที่สี่
“บัดซบ!”
สิ่งนี้ทำให้หลงโต่วไห่สบถออกมา และตบตัวเองอย่างรุนแรง
ผู้ชมต่างมองหน้ากันด้วยความตกตะลึง จากนั้นจึงโห่ร้องดังกึกก้อง
มีเพียงสมาชิกของเผ่าัเท่านั้นที่ดูไม่พอใจ และด่าว่าหลัวเลี่ยไร้ยางอาย
เกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ การตอบสนองของหลัวเลี่ยคือการแสดงหมัดพญาัประจัญบานต่อไปอย่างรวดเร็ว และครั้งนี้เขาไปถึงระดับหลอมรวมแล้ว ในตอนนั้นเอง หลงเยียนหรันก็ปรากฏตัวในสนามประลองัแท้จริงเป็ครั้งที่ห้า
“ระดับหลอมรวม...”
หลงโต่วไห่พึมพำอีกครั้งโดยไม่รู้ตัว และทันทีที่ตระหนักได้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาก็รีบปิดปากของตนเอง
ครั้งนี้หลงเยียนหรันสงบลง นางไม่สนใจสิ่งเร้าภายนอก
ในเวลานี้นางมาถึงจุดสูงสุดอย่างแท้จริง
“ข้าจะไม่พ่ายแพ้อีก ไม่มีใครสามารถเอาชนะข้าติดต่อกันห้าครั้งได้”
“วันนี้ ข้าจะให้เ้าได้ลิ้มรสวิชาลับของเผ่าั”
“วิชาลับเผ่าั!”
หลงเยียนหรันประสานมือที่เปลี่ยนรูปร่างลงบนหน้าอกของนาง และร่างกายของนางปั่นป่วนด้วยพลังงานั สั่นะเืด้วยความถี่ที่ไม่เหมือนใคร สิ่งนี้ขึ้นอยู่กับร่างกายและสายเืของตนจากเผ่าั เป็วิชาลับที่มีเพียงเผ่าัเท่านั้นที่เชี่ยวชาญ
ทันใดนั้นนางก็ผลักมือออกไปข้างหน้า
โฮก!
เสียงคำรามของัสั่นะเืดังออกมา
จู่ๆ ัที่มีสามกรงเล็บ ลำตัวสีน้ำเงินเข้มยาวสองเมตร ก็ปรากฏตัวขึ้น ก่อนที่มันจะกลืนกินหลัวเลี่ยด้วยเขี้ยวและกรงเล็บของมัน
การกลืนกินของัสามกรงเล็บกักขังอากาศรอบๆ หลัวเลี่ยทันที มัน้าที่จะกลืนกินเขาจริงๆ เขาไม่มีพลังที่จะต่อต้านและจะถูกกลืนกินแล้ว
“ข้าจะสู้!”
หลัวเลี่ยยกมือขึ้น และส่งหมัดพญาัประจัญบานในระดับพลังหลอมรวมออกไป
ตูม!
การกักขังที่มองไม่เห็นแตกเป็เสี่ยงๆ
เขาก้าวไปข้างหน้าสองก้าว เดินไปรอบหัวของัสามกรงเล็บ มือของเขาข้างหนึ่งจับเข้าที่เขาของมัน ส่วนมืออีกข้างจับเข้าที่ท้อง แล้วออกแรงดึงอย่างรุนแรง
ผลัวะ!
ร่างของัสามกรงเล็บขาดออกจากกัน
หลงเยียนหรันซึ่งใช้วิชาลับเผ่าัเสร็จก็รู้สึกเหนื่อยมากเกินไป ก่อนที่นางจะฟื้น หลัวเลี่ยก็ได้มายืนอยู่ตรงหน้านางแล้ว และต่อยนาง
หลงเยียนหรันถูกะเิร่างเป็ครั้งที่ห้า
โหดมาก!
หลัวเลี่ยไม่เคยมีความคิดที่จะเมตตาหลงเยียนหรัน เพราะเป็นางที่หาเื่ก่อนเอง
หลังจากเสร็จสิ้นการต่อสู้แล้ว เขาก็ได้ฝึกฝนหมัดพญาัประจัญบานต่อไป
ด้วยรูปลักษณ์ที่เรียบง่าย สบายๆ ดูผ่อนคลายนั้น ทำให้ผู้ชมพูดไม่ออก นี่ไม่ใช่การต่อสู้แต่อย่างใด แต่คล้ายว่าเป็การเล่นของผู้ใหญ่กับเด็กซน เพราะพวกเขาไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันเลย
หลงโต่วไห่จ้องมองหลัวเลี่ยเขม็ง เขาไม่อยากจะเชื่ออีกต่อไป หลัวเลี่ยสามารถฝึกฝนหมัดพญาัประจัญบานจนใกล้เข้าสู่ระดับถ่องแท้ได้อย่างรวดเร็ว
เป็ตามที่เขา้า มันง่ายมากสำหรับหลัวเลี่ยในการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ให้ไปถึงระดับหลอมรวม แต่มันไม่ง่ายเลยที่จะฝึกฝนให้ถึงระดับถ่องแท้ และเมื่อหลงเยียนหรันปรากฏตัวเป็ครั้งที่หก เขาก็ยังคงอยู่ที่ระดับหลอมรวม แต่ก็นับว่ามีความคืบหน้ามากแล้ว
“เ้ายังกล้ามา” หลัวเลี่ยอึ้งเล็กน้อยกับความดื้อรั้นของหลงเยียนหรัน
ความรู้สึกถูกะเิห้าครั้งในการประลองนี้ เท่ากับััได้ถึงความเ็ปของการะเิร่างห้าครั้งอย่างแท้จริง
หลงเยียนหรันกัดฟัน และพูดว่า “ข้าจะต้องเอาชนะเ้าได้อย่างแน่นอน!”
“เช่นนั้นเ้าก็ัักับความรู้สึกที่ร่างกายถูกะเิจนสลายต่อไปเถิด” หลัวเลี่ยยังคงโจมตีโดยไม่ลังเล
ในครั้งที่หก หลงเยียนหรันยืนหยัดอยู่ได้เป็เวลาสองวินาที
ครั้งที่เจ็ด สามวินาที
ครั้งที่แปด สี่วินาที
ครั้งที่เก้า สองวินาที
สี่ครั้งติดต่อกัน หลัวเลี่ยเริ่มโจมตีก่อน ไม่ให้โอกาสนางได้ใช้วิชาลับเผ่าัที่ทรงพลังด้วยซ้ำ อย่างมากที่สุด นางร่ายได้เพียงครึ่งทางของวิชาลับ และสิ่งที่เป็จุดบกพร่องของวิชาลับเผ่าัคือต้องใช้เวลาเล็กน้อยในการร่าย
หลงเยียนหรันถูกโจมตีเก้าครั้งติดต่อกันโดยไร้การต่อต้านใดๆ และในการปรากฏตัวครั้งที่สิบ หลงเยียนหรันก็ไม่มีความขุ่นเคืองและความโกรธที่นางมีมาก่อนอีกต่อไป
“เ้าแข็งแกร่งมาก ข้าขออภัยสำหรับการพูดหยาบคายกับเ้า”
คนที่มีบุคลิกแข็งแกร่ง และมีความนับถือตนเองสูงเช่นหลงเยียนหรัน ที่แสนภาคภูมิใจในตนเอง ได้ถูกหลัวเลี่ยขัดเกลาอย่างสมบูรณ์
หลัวเลี่ยยิ้มเบาๆ “เ้ายังคงปรากฏตัวที่นี่ เ้า้าต่อสู้ต่อไปหรือไม่?”
“ข้าไม่เคยยอมรับความพ่ายแพ้ ที่แพ้เป็เพราะข้าฝึกฝนเพียง่ระยะเวลาสั้นๆ ยังมีความสามารถพิเศษอีกมากมายที่เป็เอกลักษณ์เฉพาะของเผ่าั ที่ข้ายังไม่ได้ฝึกฝน ดังนั้นเพียงเพราะในตอนนี้เ้าสามารถเอาชนะข้าได้ ก็ไม่ได้หมายความว่า เ้าจะสามารถเป็คู่ต่อสู้ของข้าได้ในอนาคต” หลงเยียนหรันหยิบหอกสีขาวเงินออกมาจากกระเป๋าเฉียนคุณของตน “แม้ว่าข้าจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ แต่ข้าก็ยัง้าเอาชนะเ้าสักครั้ง เพื่อคลายความคับข้องใจที่ถูกเ้าโจมตีเก้าครั้งติดต่อกัน แม้ว่าข้าจะไม่ทำตามกฎของเผ่าั แล้วใช้อาวุธวิเศษ ข้าก็ไม่ลังเลที่จะทำ”
ในโลกของภพจิตั เหล่าัผู้หยิ่งยโสไม่เคยฉวยโอกาส จึงมีแต่การต่อสู้ที่ยุติธรรมเสมอ
แต่กฎไม่ใช่แบบนี้ แท้จริงแล้วทุกคนสามารถใช้อาวุธและสมบัติวิเศษได้ตามใจชอบ เพราะพวกมันแสดงถึงความแข็งแกร่งของเ้าของเช่นกัน
อาวุธวิเศษของหลงเยียนหรันคือหอกเงินขาว หอกเงาจันทร์!
ครั้งนี้เป็ตาของหลัวเลี่ยบ้างที่จะต้องระมัดระวัง
หากมีการกล่าวว่า หลัวเลี่ยเอาชนะหลงเยียนหรันอย่างง่ายดาย ส่วนหนึ่งเป็เพราะพลังป้องกันของเขาเองมีบทบาทสำคัญ เช่นเมื่อเขาต่อสู้กับหลงเยียนหรัน ทำไมหลงเยียนหรันจึงได้รับาเ็สาหัส หรือแม้แต่ถูกะเิโดยตรง แต่เขากลับสบายดี เพราะพลังป้องกันของเขานั้นไม่ธรรมดา ถึงจุดที่ฟันแทงไม่เข้าแล้ว และการต้านทานโดยธรรมชาติก็ทรงพลังอย่างมาก
เพียงว่าการฟันแทงไม่เข้าของเขานั้น หมายถึง ดาบ ปืน และง้าวธรรมดา ไม่ได้หมายรวมถึงสมบัติหรืออาวุธวิเศษ
“ข้าต้องเอาชนะเ้าให้ได้ก่อน ถึงจะรู้สึกดีขึ้น”
หลงเยียนหรันร่ายรำหอกเงาจันทร์ ราวกับว่ามีแสงจันทร์ส่องอยู่บนหัวของนาง หอกเงาจันทร์มีส่วนโค้งที่สง่างาม ปลายหอกแทงทะลุอากาศ เกิดเสียงเสียดสีกับอากาศ โจมตีหลัวเลี่ยอย่างดุเดือด
ถ้าหลัวเลี่ยมีพลังวรยุทธ์อยู่ในระดับหยินหยางหรือระดับแก่น์ เขาจะกล้าใช้หมัดของตนเพื่อบังคับให้หอกเงาจันทร์สั่น
แต่ตอนนี้เขาเป็เพียงระดับผู้ฝึกตนระดับที่ห้าเท่านั้น ยังมีพลังด้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับอาวุธวิเศษ
ดังนั้นหลัวเลี่ยจึงรีบหยิบคันธนูซวนิออกจากกระเป๋าเฉียนคุณ ซึ่งเขาเคยเห็นมันแค่ตอนที่หลิวหงเหยียนมอบมันให้เป็ของขวัญ หลังจากนั้นเขาก็ไม่เคยหยิบมันออกมาดูอีกเลย
ธนูซวนิถือเป็อาวุธวิเศษ
เพียงแต่ว่าหลัวเลี่ยไม่เคยฝึกยิงธนู ดังนั้นเขาจึงหยิบคันธนูซวนิออกมา จับตรงมุม แล้วออกแรงทุบลงไป
ตึง!
ธนูซวนิโค้งลงและโจมตีไปที่หอกเงาจันทร์
อาวุธวิเศษปะทะอาวุธวิเศษ นี่เป็การวัดความแข็งแกร่งที่แท้จริง
เมื่อพูดถึงทักษะของหลงเยียนหรันนั้นยอดเยี่ยมมาก แต่นางไม่สามารถใช้ทักษะของนางได้เลย เพราะหลัวเลี่ยใช้คันธนูทุบและขว้างหอกเงาจันทร์ของนางออกไป พลังนั้นยอดเยี่ยมเกินไป
ตูม!
หอกเงาจันทร์ถูกทุบลงกับพื้น
หลัวเลี่ยกำมือ ก่อนจะโยนคันธนูซวนิออกไป
ธนูซวนิหมุนอย่างรวดเร็วไปทางหัวของหลงเยียนหรัน นางรีบก้มหัวลง
ในทางกลับกัน หลัวเลี่ยรีบวิ่งไปข้างหน้าและคว้าคันธนูซวนิ เขาดึงสายธนูรัดคอหลงเยียนหรัน และพูดอย่างเ็า “ครั้งที่สิบ!”
ด้วยการดึงอย่างแรง คันธนูซวนิจึงขยับและตัดศีรษะของหลงเยียนหรัน
หลงเยียนหรันสลายไป และถูกส่งออกนอกสนาม
“การต่อสู้สนามที่เจ็ดของสนามประลองัแท้จริง ผู้ชนะ : มีัอยู่ในเป้า สถิติ : การต่อสู้สิบครั้ง ชัยชนะสิบครั้ง การพ่ายแพ้เป็ศูนย์”
“ผู้เริ่มต้นได้รับชัยชนะในการประลองสิบครั้งติดต่อกัน จึงได้รับรางวัลหยดเืัระดับวังชะตาหนึ่งขวด”