คู่หูเจียงไหวที่อยู่ไม่ไกลประหลาดใจที่เห็นท่าทีของเย่เฟิง แม้พวกมันจะหัวรุนแรง แต่งานจัดแสดงสินค้าแห่งนี้ถูกดูแลโดยตระกูลหลง พวกมันไม่กล้าสร้างปัญหาที่นี่ จึงไม่กล้าทำอะไรผลีผลาม
ส่วนชายร่างผอมที่ถูกขู่โดยเย่เฟิงก็ไม่ต่างกัน เพราะเขาเป็คนเริ่มก่อน ถ้ากลายเป็เื่ใหญ่ขึ้นมาแล้วรู้ถึงหูตระกูลหลงว่าพวกมันสามคนร่วมมือกันหลอกคนอื่นล่ะกัน พวกมันตายแน่
หลังจากนั้นไม่นานเย่เฟิงก็ได้รับคำตอบที่น่าพอใจจากชายร่างผอม ในประเทศจีนแห่งนี้มียุทธจักรหลบซ่อนอยู่เื้ั มีทั้งผู้ฝึกวรยุทธ์และคนที่ไม่สามารถฝึกได้เช่นชายร่างผอมคนนี้หรือชายร่างอ้วนคนนั้น ปัจจุบันกลุ่มนิกายใหญ่หรือตระกูลเก่าแก่ต่างหวงแหนวิชาฝึกของตัวเอง ผู้คนภายนอกจึงไม่สามารถเข้าถึงวรยุทธ์อีกทั้งไม่สามารถฝึกได้ หากใครทำให้วิชารั่วไหลจะถือว่าคนคนนั้นเป็ผู้ทรยศ ดังนั้นผู้ฝึกวรยุทธ์ที่ฝึกฝนวรยุทธ์ที่แท้จริงจึงได้รับความเคารพนับถือ
ผู้ฝึกวรยุทธ์จะมีความแข็งแกร่งเช่นเดียวกับผู้ที่อยู่ในโลกเทวะ พวกเขาจะถูกแบ่งตามปีของการบ่มเพาะพลัง เพียงแต่ผู้ฝึกวรยุทธ์จะใช้พลังภายในแทนพลังชี่ พลังประหลาดที่เย่เฟิงััได้จากร่างกายของหญิงสาวคนนั้นเป็พลังภายใน ซึ่งมีความแข็งแกร่งเพียงครึ่งหนึ่งของพลังชี่ ดังนั้นตอนนี้เย่เฟิงมีพื้นฐานการบ่มเพาะหนึ่งปีครึ่ง เขาสามารถต่อสู้กับผู้ฝึกวรยุทธ์ที่ฝึกฝนมาสามปีได้!
แน่นอน มีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะไปสู้ เย่เฟิงเชื่อว่าวิชาในยุทธจักรต่างด้อยกว่าวิชาในโลกเทวะแน่นอน ดังนั้น ด้วยย่างก้าวไร้เงา รวมทั้งกระบี่แดงของแหวนกระบี่ัโบราณที่ควบแน่นจากพลังชี่ หากเขาลอบจู่โจมผู้ที่มีระดับวรยุทธ์สูงกว่าก็น่าจะเป็ไปได้
สุดท้าย เขาถามถึงเื่ของตาเฒ่าหวง แล้วเดินจากมาอย่างพึงพอใจ
คู่หูเจียงไหวสังเกตเย่เฟิงอยู่ห่างๆ พวกเขาจำชายสวมหน้ากากคนนี้ไว้อย่างแม่นยำ ไอ้เวรนี่ถึงกับกล้าฉีกหน้าพวกเขา หากจบงานจัดแสดงนี้เมื่อไร พวกเขาจะตามไปฆ่ามันทิ้งเสีย!
……......
เย่เฟิงกลับสถานที่จัดงานและไม่นานก็พบตาเฒ่าหวงยืนหลับตาพักผ่อนในร้านหนึ่ง เขาสวมชุดคลุมสีเทา มีผมเปียและเคราสีขาว ชายชราประสานมือของเขาอย่างแรง เย่เฟิงรับรู้ได้ทันทีว่ามือคู่นั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง แสดงให้เห็นว่าชายคนนี้ฝึกวิชากังฟูมานาน
ตาเฒ่าหวงเป็เพื่อนเก่าของโอวเอ และเป็คนให้จดหมายเชิญแก่โอวเอเช่นกัน ชายชรามาจากเขาเทียนจู้ มณฑลเจ้อเจียง ปัจจุบันอายุหกสิบห้าปี เขาเริ่มฝึกวรยุทธ์ตอนอายุสี่สิบ เวลานี้มีระดับวรยุทธ์สามสิบปี และเชี่ยวชาญการใช้วิชาฝ่ามือ
วิธีที่เย่เฟิงใช้ออกจากสถานการณ์แบบนั้นคือการพึ่งพาตาเฒ่าหวงคนนี้นั่นเอง นอกจากตาเฒ่าหวง ตรงนั้นยังมีชายหนุ่มท่าทางฉลาดเฉลียวคนหนึ่งยืนทักทายคนที่มางาน ดูเหมือนว่าเขาจะเป็ลูกศิษย์ของตาเฒ่าหวง
เย่เฟิงก้าวไปข้างหน้า ทันใดนั้นสายตาก็กวาดไปเจอใบมีดสีดำที่แตกหักอันหนึ่งซึ่งดึงดูดเขามาก “มันคืออาวุธ์จริงหรือนี่?”
ในโลกเทวะ ผู้ฝึกวิถีเซียนจะใช้อาวุธวิเศษ แต่อาวุธวิเศษนั้นหายากและไม่ใช่ทุกคนจะมีได้ อาวุธแบ่งออกเป็สองระดับคืออาวุธธรรมดาและอาวุธ์
ตัวอย่างของอาวุธธรรมดา คือ มีดในครัว มีดปอกผลไม้ มีดสับเนื้อ เป็ต้น ส่วนอาวุธ์เป็สิ่งที่ทรงพลังกว่านั้น มันสามารถตัดเหล็กกล้าได้อย่างง่ายดายเหมือนตัดโคลน เช่น กระบี่โบราณที่มีชื่อเสียงสิบอันดับแรกในอดีต จากการประเมินของเขา อาวุธปืนธรรมดาในโลกนี้ก็น่าจะอยู่ในระดับนี้
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือใบมีดหักสีดำที่หน้าแผงของตาเฒ่าหวงทรงพลังพอๆ กับปืนพกธรรมดา น่าเสียดายที่มันเป็เพียงอาวุธที่แตกหักจึงขายไม่ออก
“ว่าไงพ่อหนุ่มคนนี้” ชายหนุ่มท่าทางฉลาดเมื่อเห็นเย่เฟิงเข้ามาจึงรีบยิ้มและแนะนำสินค้า “ดาบเฮยจินติดตามอาจารย์มาหลายปีแล้ว แม้มันจะพังทลายไป แต่ก็ยังอยู่ในระดับอาวุธ์ หาก้า ผมสามารถขายให้คุณในราคาร้อยล้าน”
เมื่อได้ยินคำว่าร้อยล้าน เย่เฟิงถึงกับเดาะลิ้น ร้อยล้านเลยหรือ? ดูเหมือนผู้ฝึกวรยุทธ์จะร่ำรวยจริงๆ แค่ดาบหักก็ขายได้ราคาสูงมาก ถ้ามันสมบูรณ์จะไม่ได้ในราคาหนึ่งพันล้านแปดพันล้านเลยเหรอ? ไม่น่าแปลกใจที่คนอื่นๆ ที่มาแผงนี้ส่ายหัวและเดินจากไป เห็นได้ชัดว่าใบมีดหักไม่คุ้มกับราคา สาเหตุที่ราคาแพงเป็เพราะตาเฒ่าหวงยังผูกพันกับดาบอยู่
“ไม่ล่ะ ผมแค่เดินดูไปเรื่อยๆ เท่านั้น” เย่เฟิงยิ้มพร้อมส่ายหัว จากนั้นถามอีกฝ่าย “ผมมียาผสมบางชนิดมาขาย แต่ไม่มีแผง ผมขอใช้แผงของคุณได้ไหม? แล้วจะให้ส่วนแบ่งสามสิบเปอร์เซ็นต์ของราคาทั้งหมด”
เมื่อครู่เขาเดินดูแล้วรอบหนึ่ง ไม่เห็นใครขายยาผสมเลย ทำให้เย่เฟิงขบขันในใจ ครึ่งเดือนที่แล้วเขาให้แก๊งอสรพิษ์ช่วยหาสมุนไพรหายากและราคาสูงมากมาย สุดท้ายจึงใช้ทักษะจากโลกเทวะกลั่นมันเป็ยาผสม ยาเหล่านี้มีฤทธิ์ห้ามเืและสลายเืคั่ง รักษาอาการาเ็ภายในและาแต่างๆ รวมทั้งฟื้นฟูพลังชี่ แน่นอนว่ามียาฟื้นฟูพลังชี่ไม่มากนัก เขาจึงเก็บยาเหล่านี้ไว้ใช้เอง แต่ยาอื่นๆ สามารถนำไปขายเพื่อหาเงินได้
“คือ…” ชายหนุ่มลังเลเล็กน้อยและกล่าวว่า “เื่นี้ต้องให้อาจารย์ของผมตัดสินใจ”
ยาผสมถือเป็ของล้ำค่าในยุทธจักร แต่ชายสวมหน้ากากคนนี้กลับบอกว่าจะขายมันหรือ? อีกทั้งเขายังไม่แน่ใจว่ายาผสมของชายคนนี้จะเป็ของจริงหรือไม่ หากมีใครซื้อไปใช้แล้วเกิดปัญหา อาจต่อว่าคนจากเขาเทียนจู้ก็เป็ได้
เย่เฟิงเหลือบมองตาเฒ่าหวงที่กำลังหลับตาอย่างสงบพลางคิดว่าคงจะดีกว่าถ้ามีคนทดลองยาในเวลานี้ ผลหลักของยาคือเติมพลังชี่ที่ไม่มีใครสามารถเรียนรู้ได้และมีผลดีเยี่ยมต่ออาการาเ็ภายในและภายนอกทั่วไป
ขณะที่เขาคิดเช่นนี้ สถานที่จัดงานก็วุ่นวาย มีคนสองคนทะเลาะกันหน้าแผงที่อยู่ไม่ไกลจากเย่เฟิง ชายผิวคล้ำและชายร่างอ้วนวัยกลางคนในชุดสูททะเลาะกันเพราะเื่บางอย่าง ดูเหมือนว่าจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
“เข้าไปเติมเชื้อไฟให้พวกนั้นหน่อยดีไหม? หากมีใคราเ็ขึ้นมาจะได้ใช้โอกาสนี้ทดสอบผลของยาผสม หากมันได้ผลดีจะได้โฆษณาสินค้าไปในตัว” เย่เฟิงคิดในใจ แต่เมื่อเขาขยับตัวก็มีเสียงสดใสคมชัดของผู้หญิงดังขึ้นจากประตูห้องโถง “พวกคุณคิดจะสร้างปัญหาในงานที่ตระกูลหลงของพวกเราเป็เ้าภาพ ไม่อยากมีชีวิตกันแล้วหรือ?”
เสียงคมชัดของผู้หญิงดึงดูดความสนใจของทุกคนในงานทันที เมื่อเย่เฟิงเงยหน้าก็พบว่าน้ำเสียงนี้เป็ของหญิงสาวใบหน้ารูปไข่คนนั้น เธอเดินเข้ามาในห้องพร้อมคนหลายคน พวกเขาเข้ามาหาชายสองคนที่กำลังทะเลาะกัน
“ตระกูลหลงมาแล้ว!”
“นั้นหลงหว่านเอ๋อร์!”
ผู้คนต่างส่งเสียงครั้งแล้วครั้งเล่า
ในที่สุด เย่เฟิงก็ได้รู้ชื่อของเธอ นั่นก็คือหลงหว่านเอ๋อร์ เขาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงัันุ่มนิ่มและยืดหยุ่นขณะหยิบหญ้าจินเย่ที่หน้าอกของเธอในโรงแรมวันนั้น...
ดูเหมือนหลงหว่านเอ๋อร์จะเป็ที่นับหน้าถือตา?
“หึ คนส่วนใหญ่อาจเกรงกลัวตระกูลหลง แต่ผมไม่กลัว” น้ำเสียงเ็าดังจากชายหนุ่มผิวดำ ซึ่งกำลังทะเลาะวิวาทก่อนหน้านี้ เขาแสดงท่าทีอวดดีเมื่อมองหลงหว่านเอ๋อร์
เมื่อคำพูดหลุดจากปาก หลายคนในห้องก็แตกตื่น
“งั้นหรือ?” หลงหว่านเอ๋อร์ยิ้มบางขณะเดินเข้าไปหาเขา
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้