หลิวหย่งมิได้เยาะเย้ยหลานสาว
ถ้าไม่ใช่เพราะจวนตัวจนไม่มีหนทางจะมีใครยินดีจากบ้านไปโดยไร้เงินสักเฟินเดียวกัน?
ต่อให้เลือกอยู่บ้านเซี่ยต่อไปกล้ำกลืนฝืนทนความอัปยศอดสูก็มีชีวิตได้ แต่ถ้าบ้านไร้ชายคาให้หลบลมฝน สมาชิกในบ้านเป็ปฏิปักษ์ต่อกันแล้วมันจะเป็บ้านแบบไหนกัน! หลิวหย่งกลับคิดว่าเซี่ยเสี่ยวหลานมีความกล้าคนว่ากันว่าหลานชายมักเหมือนลุง เดิมทีเขาเอ็นดูเซี่ยเสี่ยวหลานเป็พิเศษอยู่แล้วยิ่งตอนนี้มองหลานสาวอย่างไรก็มีแต่ส่วนดีไปหมด
หลิวหย่งล้วงน้ำหนึ่งใจเดียว [1] จำนวนหนึ่งออกมาจากกระเป๋า
“เงิน 50 หยวนส่วนนี้หลานเอาไปก่อนจะดำเนินธุรกิจอย่างไรเอาไว้พวกเรามาปรึกษาหารือกันสักหน่อย ถ้าเงินไม่พอสักสองสามวันลุงค่อยรวบรวมมาให้อีก”
ธนบัตร 10 หยวนเป็ธนบัตรที่มีค่าสูงสุดในปัจจุบันแล้วถูกมวลชนเรียกว่า ‘น้ำหนึ่งใจเดียวกัน’
หลิวเฟินตื่นใ “พี่ใหญ่ เอาเงินมาจากไหน?”
ทั้งจักรยานคันใหม่ ทั้งเงินอีกกี่สิบหยวนที่ให้เซี่ยเสี่ยวหลานฐานะทางการเงินของบ้านหลิวเป็อย่างไรมีหรือหลิวเฟินจะไม่รู้? อันที่จริงก็ยากจนมากนั่นแหละ เมื่อก่อนหลิวหย่งไม่เป็โล้เป็พายพอสองปีมานี้ครอบครัวแทบจะอยู่ไม่ไหว เขาถึงปรับปรุงตัวไปเรียนรู้งานก่อสร้าง หนึ่งปีเรียนจบสองปีกลายเป็นายช่างใหญ่ มีฝีมือตรงนี้แล้วเลยช่วยให้บ้านหลิวอยู่สบายขึ้นสักหน่อยแต่งานก่อสร้างไม่ได้มีทุกวัน หลิวหย่งไม่เหมือนคนงานที่มีประกันค่าแรงเขาจึงรายได้ไม่ค่อยแน่นอน
หลิวหย่งทราบดีว่าน้องสาวตนนั้นเข้าใจยาก เลยไม่พูดอะไรมากนักเพียงแต่ให้เซี่ยเสี่ยวหลานรับเงินเอาไว้
“ขอบคุณลุงมากนะ เงินนี่ถือว่าฉันยืมเถอะ”
ตอนนี้เรียกได้ว่าเธอตัวเปล่า ด้วยเงินทุนริเริ่ม 50 หยวนก้อนนี้ เธอสามารถคว้าโอกาสจาก่ฤดูทำไร่นาเพื่อหาเงินได้แล้วเธอจะคืนลุงเพิ่มเป็เท่าตัวเธอดื้อด้านไม่ให้หลิวหย่งช่วยเหลือ และไม่ยอมให้แม่มาลำบากด้วยแน่!
หลิวหย่งหัวเราะร่วน
เขาช่วยเซี่ยวเสี่ยวหลานนำสัมภาระมัดไว้กับที่นั่งซ้อนของจักรยาน
สมบัติทั้งหมดของสองแม่ลูกก็มีแค่มันเทศ เสื้อผ้าส่วนตัวรวมถึงของใช้ทั่วไปที่เพิ่งซื้อมาวันนี้ ยังไม่ทันเดินถึงปากทางหมู่บ้านก็มีคนถือชามมาเรียกรั้งเซี่ยเสี่ยวหลานเอาไว้
“พ่อเธอกลับมาแล้ว!”
“เซี่ยต้าจวินตีพวกเธอตายแน่...”
มีความสุขบนเื่ทุกข์ของคนอื่น ไม่มีแม้แต่ความหวังดีให้กันเลยชาวบ้านต้าเหอนี่ช่างไม่เป็มิตรเสียจริงๆราวกับเซี่ยเสี่ยวหลานไปขุดหลุมศพบรรพบุรุษพวกเขามาอย่างไรอย่างนั้น!
ประตูใหญ่บ้านเซี่ยเปิดอ้าอยู่ ชายร่างกำยำผู้หนึ่งเดินออกมา
“พวกเธอจะไปไหน ลูกทะเลาะกับย่าที่บ้านหรือ?”
เขากล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มดัง บนแขนล้วนเป็กล้ามเนื้อมัดโตส่วนสูงที่ประเมินด้วยสายตาได้ประมาณร้อยแปดสิบคนคนนี้ก็คือพ่อบังเกิดเกล้าของเซี่ยเสี่ยวหลาน เซี่ยต้าจวิน
ดูแล้วความสูงของตนเองคงจะได้มรดกมาจากเขา อยู่ในยุค 80 แล้วสามารถสูงได้มากกว่าร้อยหกสิบ เซี่ยเสี่ยวหลานเองก็ภูมิใจในตัวเองมากทีเดียว
หลิวหย่งไม่เปิดโอกาสให้เซี่ยเสี่ยวหลานได้กล่าวอะไรคว้าถุงมันเทศได้ก็ขว้างใส่เซี่ยต้าจวินไปทีหนึ่ง “ไอ้ลูกหมา ฉันยังคิดอยู่ว่าจะคิดบัญชีกับแกวันไหนดีแล้วแกก็โผล่หัวออกมาเอง!”
“ใครทะเลาะกับใคร?”
“เมียแกกับลูกสาวโดนคนข่มเหงจนเกือบตายแกเป็พ่อประสาอะไรยังเสแสร้งไม่รู้เื่?”
“ไอ้สารเลว พวกเธอจะไปทะเลาะกับใครได้น้องสาวฉันแต่งกับแกนี่ซวยไปแปดชาติจริงๆ ”
หลิวหย่งเป็เพียงชายร่างเล็กกว่า ตัวสูงไม่ถึงร้อยเจ็ดสิบด้วยซ้ำ
ทว่าพอะเิอารมณ์แล้ว ก็ปะทะกันจนเซี่ยต้าจวินไม่อาจโต้กลับ
แน่นอน แขนของเซี่ยต้าจวินยังวุ่นกับการปกป้องหัวตัวเองยังไม่ได้ปะทะกับหลิวหย่งจริงๆ จังๆ แต่อย่างใด
“พี่ใหญ่ คุยกันดีๆ เถอะ!”
“ฉันจะบอกอะไรให้นะ ไอ้สารเลว ตัวใหญ่เปล่าแต่ไม่มีหัวใจอยู่มาหลายสิบปีจนปูนนี้ ถ้าไม่รู้จักรักลูกสาวตัวเอง ฉันจะดูแลแทนแกเอง!”
หลิวเฟินกระวนกระวายหนักขึ้นเธอจะเข้าไปห้ามทัพก็ถูกเซี่ยเสี่ยวหลานรั้งไว้
สายตาเยือกเย็นของเซี่ยเสี่ยวหลานมองเซี่ยต้าจวินที่ยังไม่ตอบโต้ั้แ่ต้นจนถึงตอนนี้เธอยังพอมีความเชื่อมั่นในตัวเขาอยู่บ้าง หากเซี่ยต้าจวินยังทำลุงเธอได้ลงเซี่ยเสี่ยวหลานก็ไม่รู้จะกล่าวอะไรอีก มิใช่ว่าผู้ชายห้ามมีอารมณ์โมโหโลกนี้มีพวกเหลือเดน มีผู้ชายอุดมปัญญาและก็มีพวกหุนหันพลันแล่นที่พูดไม่ทันขาดคำก็ลงไม้ลงมือ
ภูผาวารีที่ยากแค้นหล่อเลี้ยงพวกดื้อด้าน [2] วิถีผู้คนเขตอันชิ่งเหี้ยมหาญมาโดยตลอด
แต่การอยู่ที่แจ้งลงมือกับคนอื่นกับการกลับไปลงมือกับภรรยาที่บ้านโดยพื้นฐานถือว่าคนละเื่เลย
เซี่ยเสี่ยวหลานดูแคลนผู้ชายที่รุนแรงกับคนในครอบครัวสุดหัวใจ
หลิวหย่งทำเอาตัวเองเหนื่อยจนหอบแฮ่กพี่น้องของเซี่ยต้าจวินวิ่งออกมาแยกทั้งสองคนออกจากกันลุงกับอาของเซี่ยเสี่ยวหลานรัดหลิวหย่งจนหมดท่าทว่าหลิวหย่งยังคงออกหมัดออกเท้าไม่ยอมแพ้
อย่างไรเสียความเหี้ยมหาญของหลิวหย่งก็ทำให้ชาวบ้านที่มาสอดรู้ใกันไปหมดเมื่อครู่ทำเป็เสียดสี ตอนนี้หดหัวเป็เต่าโดยสิ้นเชิง
หน้าของเซี่ยต้าจวินบวมเป่ง เขาถุยน้ำลายที่ปนเืออกมา
“ฉันไม่อยากเถียงกับแก แค่จะพูดเื่เสี่ยวหลานเธอไม่ควรทะเลาะกับย่า ย่าอารมณ์ขุ่นจนล้มหมอนนอนเสื่อแล้ว”
หญิงชราเซี่ยเป็แม่เลี้ยงเดี่ยวที่ดูแลลูกสามคนจนเติบใหญ่เซี่ยต้าจวินไม่สนใจใยดีภรรยาตัวเอง แต่เชื่อฟังมารดาตนทุกประการ
เซี่ยเสี่ยวหลานได้แต่คิดหากเธอเป็ตัวเ้าของร่างนี้เองแล้วได้ยินคำพูดเหล่านี้คงโกรธแทบตาย
เธอรักและเคารพหลิวเฟิน รู้สึกสนิทกับหลิวหย่ง เพราะเซี่ยเสี่ยวหลานในชาติที่แล้วขาดความห่วงหาอาทรจากครอบครัวทั้งสองคนช่างดีต่อเธอเหลือเกิน แต่สำหรับเซี่ยต้าจวินน่ะหรือเซี่ยเสี่ยวหลานไม่รู้สึกอะไรเลยแม้แต่นิด ต่อให้ ‘เซี่ยเสี่ยวหลาน’ ติดค้างตระกูลเซี่ยจริง เธอก็ได้ชดใช้ให้ด้วยชีวิตไปแล้ว ตอนนี้ยังจะเอาอะไรอีกเล่า?
“ลุง พวกเราไปกันเถอะ”
จริงๆ แล้วเซี่ยเสี่ยวหลานอยากด่าเซี่ยต้าจวินสักรอบ คิดไปคิดมาเธอกลับี้เีจะเปลืองน้ำลาย
เซี่ยต้าจวินเห็นเธอไม่หือไม่อือก็จริงทว่าไม่อาจข่มไฟโทสะในใจลงได้เลย
“นังลูกคนนี้นี่...”
เขาเดินมาดึงแขนเซี่ยเสี่ยวหลานเสียจนตัวเธอโซเซไปชั่วครู่
เซี่ยเสี่ยวหลานหันมา เธอใช้ใบหน้าไร้สีสันไร้อารมณ์มองมายังเขา “ย่าบอกว่าฉันอยู่ไปรังแต่จะทำให้ตระกูลเซี่ยขายหน้าคนอย่างฉันควรรีบตายไปเสีย ฉันโขกหัวจนแตกแม่คุกเข่าขอร้องย่าให้ส่งฉันไปโรงพยาบาลแม่โขกหัวจนบวมถึงได้เชิญหมอมาห้ามเืให้ฉันได้ถ้าพ่อคิดว่าฉันกตัญญูรู้คุณไม่พอ ฉันก็จะเอาชีวิตที่เก็บได้นี้คืนให้ตระกูลเซี่ยไปเสียดีหรือไม่?”
กรรไกรป้องกันตัวของเซี่ยเสี่ยวหลานจรดอยู่ที่ลำคอของเธอใบมีดคมกริบได้เชือดเฉือนเข้าเนื้อไปแล้ว
ความมุ่งมั่นนั้นถูกซ่อนอยู่ภายใต้น้ำเสียงราบเรียบทว่ากลับทำให้คนได้ยินอกสั่นขวัญแขวนได้
เธอตั้งใจจะแทงเข้าคอตัวเองจริงๆ
เซี่ยต้าจวินใแล้วแก้ตัวไปตามเื่ “ก็ไม่เห็นเป็อะไร บ้านเรามีเงินส่งลูกไปโรงพยาบาลที่ไหนกันทำไมลูกไม่หัดเรียนรู้เข้าใจโลกเหมือนจื่ออวี้เขาบ้าง...”
เซี่ยเสี่ยวหลานใช้สายตาเยาะเย้ยที่จะขำก็ไม่ขำมองเขาเซี่ยต้าจวินยิ่งพูดยิ่งรู้สึกตัวเล็ก
ทำไมที่บ้านถึงไม่มีเงินก็เพราะเซี่ยจื่ออวี้ผู้ฉลาดเฉลียวนำเงินทั้งบ้านไปด้วยแล้วอย่างไรเล่าเซี่ยต้าจวินรักหลานสาวจนเคยชินแค่ไหนแต่กับเื่นี้แล้วเขาเองก็คิดว่าสิ่งที่แม่เฒ่าเซี่ยทำไม่ค่อยสมควรนักความรู้สึกผิดกับอารมณ์หลากหลายผสมเข้าด้วยกันจนผลักดันเซี่ยต้าจวินให้ะโออกมา
“เขาเป็ย่าลูก ด่าลูกไม่กี่คำ ลูกก็ควรเชื่อฟังดีๆ สิ! ถ้าลูกไม่ทำเื่อุบาทว์อับอายขายหน้าแบบนั้นย่าจะด่าลูกได้ไหมเล่า?”
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ได้จะรนหาที่ตายนะแต่ในตอนนี้เธออยากเอากรรไกรจัดการท่อนไม้เซี่ยต้าจวินนี้ให้จบเื่ไปเสียจริง!
แต่มีคนที่ไวกว่าเธอแล้วหลิวเฟินตัวจ้อยผลักคนล่ำสันกำยำอย่างเซี่ยต้าจวินจนพ้นทาง
“ฉันทนพวกคุณมามากแล้ว... ทนพวกคุณข่มเหงเสี่ยวหลาน...”
เธอหวาดกลัวจนสั่นสะท้านไปทั้งร่าง
แต่เธออยากปกป้องลูกสาวของตน นี่คือสัญชาตญาณของคนเป็แม่!
เชิงอรรถ
[1]大团结 น้ำหนึ่งใจเดียวกัน คือ ชื่อของธนบัตรสิบหยวน เนื่องจากลายบนธนบัตรคือภาพของเหล่าตัวแทนประชาชนจากแต่ละมณฑลกำลังเดินออกจากรัฐสภาประชาชนสื่อถึงประชาชนมาหารือกันเพื่อประชาชน จึงเรียกธนบัตรนี้ว่า น้ำหนึ่งใจเดียวกัน(ต้าถวนเจี๋ย)
[2]穷山恶水出刁民 ภูผาวารีที่ยากแค้นหล่อเลี้ยงพวกดื้อด้านเปรียบเปรยว่าสภาพแวดล้อมที่ไม่ค่อยดีอาจจะส่งผลต่อนิสัยใจคอกับการกระทำของคนที่อยู่อาศัย