แม้จะไม่อยากก็ต้องอยาก วันนี้ท่าทางของตระกูลเซี่ยช่าง ‘อ่อนโยน’ ครั้นอยากจะเอะอะแค่ไหน แต่ก็ต้องควบคุมไว้ให้มีขอบเขต
จักรยาน 28 นิ้วทำเอาคนบ้านเซี่ยตะลึงงัน
ที่คนตระกูลเซี่ยรังแกหลิวเฟินและไม่สนความเป็ความตายของเซี่ยเสี่ยวหลานเหตุเพราะไม่มีใครออกรับหน้าแทนพวกเธอ เมื่อก่อนหลิวหย่งก็ใส่ใจทว่าตัวเองดันยากจนเสียส่งเสียงก๊องๆ[1] ย่อมยืนหยัดช่วยยังไม่ไหวมาตอนนี้เขายินดีสนับสนุนเซี่ยเสี่ยวหลานและมารดา ถือว่าต้องพอมีกำลังอยู่บ้างเหล่าสตรีบ้านเซี่ยที่รับมือยากถึงได้ยอมถดถอย
แม่เฒ่าเซี่ยมิได้ตำหนิติเตียน เพราะในวันสองวันนี้เซี่ยต้าจวินก็จะกลับมาแล้ว
รอให้เซี่ยต้าจวินกลับมา ขี้คร้านหลิวเฟินจะต้องกลับมาอ้อนวอนเองเซี่ยเสี่ยวหลานรักจะหนีไปไหนก็ไป อย่างไรเสียก็เป็แค่หญิงสำส่อนที่ิ่เกียรติวงศ์ตระกูล หากหลิวเฟินจะไสหัวไปด้วยก็ยิ่งดีหญิงที่ให้กำเนิดลูกชายไม่ได้แบบนี้ ไว้ค่อยหาภรรยาใหม่ให้เซี่ยต้าจวินยังดีกว่า
ตระกูลเซี่ยไม่ถึงกับร่ำรวย แต่บ้านเซี่ยมีหงส์ฟ้าทองยังต้องกังวลเื่จะไม่มีคนตบแต่งกับเซี่ยต้าจวินหรือ?
หญิงชราเซี่ยวางแผนเสร็จสรรพไม่แลว่าเซี่ยเสี่ยวหลานจะนำเสื้อผ้าเก่าย้ายไปไหน นางเห็นทั้งสามกำลังจะจากไปปากก็บ่นอุบอิบ
“ออกจากตระกูลเซี่ยแล้ว อยากกลับมาก็ยากหน่อยนะ!”
หลิวหย่งผู้พิฆาตจากไป คนอื่นถึงกล้าโผล่ออกมา
“คุณแม่ ยอมให้พวกหล่อนไปจริงหรือ?”
อาสะใภ้สามพินิจ อย่างน้อยควรเรียกให้หลิวเฟินกลับมาทำงาน
หญิงชราเซี่ยชี้แจงความคิดของตนอย่างภูมิอกภูมิใจสะใภ้สามหวังจินกุ้ยย่อมประจบประแจงเสียหน่อย
“ถ้าอย่างนั้นต้องแต่งพี่สะใภ้รองคนใหม่ที่สู้งานหน่อยเถอะค่ะ!”
สะใภ้ใหญ่จางชุ่ยกลับไม่เต็มใจนักลูกสาวเธอสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้เพราะมีความสามารถ อีกหน่อยต้องดูแลคนทั้งบ้านแม้แต่ภรรยาใหม่ของเซี่ยต้าจวินก็ยังต้องโอบอุ้มไว้หรือ? สำนึกความเป็คนตระกูลเซี่ยของจางชุ่ยนั้นต่ำเตี้ยแต่ไร้ข้อกังขาว่าเธอคือสะใภ้ที่หลักแหลมที่สุด หลิวเฟินเป็วัวแก่ของบ้านแม้ทำงานหนักแต่กลับไม่เป็ที่โปรดปราน หวังจินกุ้ยคือประทัดที่จุดก็ลุกไหม้ [2] แล้ว จะประจบประแจงยังให้ตรงจุดเสียหน่อยยังมิได้เลย
จางชุ่ยรวบรัดเบี่ยงเบนหัวเื่สนทนา
“นี่ไม่รู้ว่าจื่ออวี้ถึงวิทยาลัยหรือยังเด็กคนนี้นี่ไม่ส่งโทรเลขมาบอกกล่าวกันบ้าง”
“โทรเลขน่ะแพง จื่ออวี้ประหยัดหรือไม่มีเงินกันนะถ้าอย่างนั้นน่าจะให้เงินหลานไปเรียนเพิ่มขึ้นอีกหน่อย!”
หว่างคิ้วของแม่เฒ่าเซี่ยยับย่นเสียจนบี้แมลงวันให้ตายได้
หวังจินกุ้ยแอบเบะปาก เอาเงินทั้งบ้านติดตัวไปขนาดนั้นยังไม่พอส่งโทรเลขอีกหรือ?
แม่เฒ่าเซี่ยคิดว่าเซี่ยจื่ออวี้เข้าเมืองหลวงเรียนมหาวิทยาลัยจะต้องเจอกับเื่ขุ่นข้องหมองใจแน่ในใจพลันรู้สึกไม่ดี จึงได้ตัดสินใจอีกเื่หนึ่ง “สามพี่น้องไปซ่อมคันกั้นน้ำ ได้เงินค่าแรงมาก็รีบส่งให้จื่ออวี้เสีย!”
จางชุ่ยทำเป็ประวิงปฏิเสธสองสามคำตามมารยาทในเมื่อแม่เฒ่าเซี่ยยืนยันจะให้ จางชุ่ยก็ทำได้เพียงอิดออดยอมรับน้ำใจของคุณย่าแทนลูกสาว
นี่มันช่างแซ่เดียวกันคนละชะตากรรมจริงๆเซี่ยเสี่ยวหลานชนเสาขนาดนั้นยังไม่ได้ไปโรงพยาบาล เงินทองของบ้านเซี่ยกลับใช้จ่ายให้ผู้พี่ของเธอเซี่ยจื่ออวี้หากเซี่ยเสี่ยวหลานได้อยู่ฟังในเหตุการณ์ด้วยแล้วเกรงว่าเธอต้องได้เปิดศึกกับหญิงชราเซี่ยสักยกหนึ่ง
คนตระกูลเซี่ยไม่รักใคร่เธอ แต่เธอก็มีคนคอยห่วงใยอยู่
อย่างน้อยมีหลิวหย่งคนหนึ่งที่ห่วงเธอ “ที่แบบนี้จะไปอยู่ได้อย่างไรทำไมเมื่อวานเสี่ยวหลานกับแม่ไม่มาหาลุงเล่า?”
บ้านเซี่ยเืเย็นเหลือเกิน โทษเสี่ยวหลานจนเธอไม่เหลือทางเลือกแต่ไหนแต่ไรเสี่ยวหลานทนลำบากไม่เป็จะย้ายออกมาอยู่บ้านเส็งเคร็งริมแม่น้ำได้อย่างไร? หลิวหย่งขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ความชิงชังต่อตระกูลเซี่ยเพิ่มขึ้นจนถึงขีดสุด
“รีบเก็บของเถอะ กลับบ้านกับฉันนี่แหละ!”
หลิวเฟินลังเล “ต้าจวินกลับมาจะทำอย่างไรเล่า?”
หลิวหย่งยังคงผิดหวังที่เหล็กไม่กลายเป็เหล็กกล้า
“เธอปกป้องเซี่ยต้าจวินทุกประการเชียว ในฐานะพี่ชายฉันไม่มีความเห็นอย่างไรเสียเขาก็สามีเธอ! แต่นอกเหนือจากเป็สามีเธอแล้วเขาก็เป็พ่อของเสี่ยวหลานด้วย เขาได้ทำหน้าที่พ่ออย่างสมควรแล้วหรือ? ขนาดฉันยังรู้เื่เสี่ยวหลาน เซี่ยต้าจวินหูหนวกไม่รับรู้หรืออย่างไร? ”
หลิวหย่งโกรธเสียจนทำอะไรไม่ถูก
เซี่ยเสี่ยวหลานรีบส่ายหัวให้ลุงของเธอ ส่งสัญญาณว่าไม่ต้องพูดแล้ว
หลิวเฟินมีระบบความคิดเคยชินที่สะสมมาหลายปี แค่ย้ายออกมากับเซี่ยเสี่ยวหลานได้ก็ถือว่ากล้าหาญชาญชัยมากแล้ว
“ลุง ฉันอยากทำธุรกิจสักหน่อย ลุงว่าพอจะได้ไหม?”
เซี่ยเสี่ยวหลานเก็บสัมภาระพลางแจกแจงแผนขายไข่ไก่เก็งกำไรของตนให้กับหลิวหย่งฟังเธอคิดว่าลุงเธอนั้นเป็ผู้ที่มีหูตากว้างไกลหายากพูดจากระทำสิ่งใดได้ชัดเจนแจ่มแจ้ง ไม่มีท่าทางโง่เขลาอวดรู้
เมื่อฟังจนจบหลิวหย่งยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นในทันทีเขาควักต้าเฉียนเหมิน [3] ห่อใหญ่ออกมาจากกระเป๋าจุดบุหรี่ให้ตัวเองหนึ่งมวน
หลิวหย่งสูบได้ครึ่งมวนถึงได้กล่าว “ลุงว่ากันตามตรงนะ หลานอยากหาเงินถือเป็เื่ดีแสดงว่าหลานฉลาดและมีเหตุผล แต่ธุรกิจนี้น่ะไม่ค่อยเหมาะเท่าไร”
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ขัดสิ่งที่หลิวหย่งพูดชาติก่อนเธอสามารถปีนขึ้นสู่ตำแหน่งระดับผู้บริหารระดับสูงได้นั้นนอกจากเพราะมีปณิธานอันแน่วแน่แล้ว ก็เพราะว่าเธอไม่เคยทะนงว่าตนฉลาดเฉลียว
ยุค 80 นี้มันล้าหลังพอตัวแต่อย่างไรเสียต้องมีคนปราดเปรื่องอยู่แน่
หากเซี่ยเสี่ยวหลานด่วนตัดสินว่าคนเหล่านี้หัวทึบไม่ช้าก็เร็วเธอได้หกคะเมน [4] แน่
“ลุงว่าต่อเลย ฉันฟังอยู่”
เมื่อเห็นว่าภาวะอารมณ์ของเซี่ยเสี่ยวหลานมีการพัฒนาขึ้นมากหลิวหย่งจึงได้หัวเราะ “ถ้าลุงพูดอะไรไม่ถูกก็อย่าเพิ่งโกรธกันนะลุงแค่แนะนำน่ะ ธุรกิจนี้งานหนักกำไรน้อย เผลอๆ อาจเกิดเื่เข้าใจผิดได้เราเปลี่ยนไปทำธุรกิจที่ใช้เงินน้อยกว่านี้หน่อยดีไหม?”
ชาวสวนเข้าเมืองขายไข่ไก่เล็กๆ น้อยๆ ใช้ตะกร้าหิ้วเอาก็ได้แล้ว
หากจะส่งไข่ไก่มากกว่า 100 ใบเข้าเมืองไปขายในคราเดียว ระบบขนส่งขลุกขลักมากการรับซื้อไข่เองก็เป็เื่ที่ไม่สะดวกเท่าไร
ไข่ไก่แตกง่ายเก็บรักษายากถ้าไข่ที่ส่งเข้าเมืองไม่ได้ขายหมดในชั่วอึดใจเล่า?
ไม่ต้องพูดถึงหน้าตาของเซี่ยเสี่ยวหลานที่ดูเรียกร้องความสนใจคนนักหลิวหย่งไม่วางใจให้เธอไปตรงนั้นทีตรงโน้นทีเพื่อรับซื้อไข่ไก่งานแบบนี้ต้องทำั้แ่รุ่งสางยันดึกดื่น ได้แค่ค่าเหนื่อยเท่านั้นเหมาะกับผู้ชายทำมากกว่า ไม่เหมาะสำหรับสาวรุ่นอย่างเซี่ยเสี่ยวหลานโดยเฉพาะอย่างยิ่งหญิงสาวที่สวยจรุงจิตเช่นนี้
ปัญหาเหล่านี้เซี่ยเสี่ยวหลานได้พิจารณาไว้แล้ว
หลังจากที่ยินดีปรีดาในตอนแรกเธอเริ่มตระหนักถึงข้อดีข้อด้อยของใบหน้านี้แล้ว
บ้านประตูหญ้า [5] มากสาวงามย่อมเลี้ยงดูปูเสื่อไม่ไหวสมัยศักดินานั้นสาวงามจากครอบครัวแร้นแค้นจะเสนอตัวรับใช้ชนชั้นสูงส่วนหญิงสาวจากครอบครัวมีอันจะกินมักหลบซ่อนตัว ไปไหนมาไหนต้องมีพิธีรีตองถึงจะรับประกันความปลอดภัยได้
ตอนนี้เซี่ยเสี่ยวหลานไม่มีฐานะดังข้างต้นทำได้เพียงซื้อกรรไกรไว้ป้องกันตัวสักเล่ม
สิ่งที่หลิวหย่งพูดล้วนเป็ข้อเท็จจริงเซี่ยเสี่ยวหลานยิ้มอย่างขมขื่น
“ฉันมีทุนน้อย ทำได้แค่พึ่งธุรกิจไข่ไก่เลี้ยงชีพตัวฉันกับแม่ไปก่อนฉันพาแม่ออกจากบ้านเซี่ยมาไม่ใช่เพื่อให้หวาดหวั่นเื่ปากท้องลูกสาวคนอื่นเป็หงส์ฟ้าทอง แม่ฉันก็คงมีแต่ลูกเวรลูกกรรมล่ะมั้ง [6] ? สักวันฉันจะต้องทำให้แม่มีชีวิตดีๆ ลุง เมื่อก่อนฉันมันโง่งมนักทำให้เสียใจอยู่เรื่อย! ”
ชายชาตรีอย่างหลิวหย่งยังรู้สึกแสบจมูกขึ้นมาหลิวเฟินจะกลั้นอยู่ได้เยี่ยงไร
มารดาร้องไห้โฮพลางปฏิเสธ
“ใครบอกว่าเป็ลูกเวรลูกกรรมกัน? แม่จะเป็อย่างไรก็ช่าง ที่สำคัญคือลูกจะต้องอยู่ดีกินดีต่างหากเล่า!”
สามคนร่วมสายเืแทบจะร้องห่มร้องไห้ด้วยกันแล้วเซี่ยเสี่ยวหลานใช้โอกาสนี้แถลงไขความในใจให้คนใกล้ชิดรับรู้ เธอจะ ‘กลับตัวกลับใจ’ เป็คนใหม่แล้ว
หลิวหย่งเห็นหลานสาวเจตนาซื่อตรง จึงไม่ยั้งเธออีก
“หลานจะทำธุรกิจนี้ก็ต้องใช้เงินทุนสักกี่สิบหยวนทีเดียวถ้าขาดเงินเท่าไร เดี๋ยวลุงเติมให้เอง!”
เซี่ยเสี่ยวหลานยังขาดเงินทุนอีกเท่าไรหรือ?
เธอมีในกระเป๋าแค่ 6 หยวน ประธานเซี่ยเผยให้เห็นสีหน้ากระอักกระอ่วนที่ไม่ได้มีให้เห็นบ่อยๆ
เชิงอรรถ
[1]穷的叮当响 ยากจนเสียดังก๊องๆหมายถึง จนมาก มีที่มาจากคนจนไม่มีแม้แต่เงินซื้อข้าวสารกรอกหม้อเวลาเคาะถ้วยชามที่ว่างเปล่าจะส่งเสียงก๊องๆ
[2]一点就燃的炮仗 ประทัดที่จุดก็ลุกไหม้เปรียบเปรยถึงคนที่มีอารมณ์วู่วาม พลุ่งพล่านได้ง่าย
[3]大前门 ต้าเฉียนเหมิน คือ ชื่อทางการค้าของบุหรี่จีน
[4]跌跟头 หกคะเมน เปรียบเปรยว่าได้รับความพ่ายแพ้ล้มเหลว
[5]蓬门 บ้านประตูหญ้า หมายถึง จนมากมีที่มาจากแร้นแค้นเสียจนต้องนำหญ้าชนิดหนึ่งมามุงประตูแทน
[6]ลูกเวรลูกกรรม หมายถึง ลูกที่มักทำให้พ่อแม่เสียใจหรือลำบาก