ป่าต้นไม้แห้งเหี่ยวนั้นเป็เพียงแค่ชื่อเท่านั้นแต่มันไม่ได้มีต้นไม้แห้งเหี่ยวจริงๆเป็เพียงเพราะสีของป่าที่ออกเป็สีเหลืองอ่อนเสียมากกว่าเมื่อมองออกไปจะดูคล้ายเหมือนถูกไฟไหม้ เขาเองไม่รู้เหตุผลเหมือนกันแต่คิดว่าไม่น่าจะเป็เพราะป่าไม้นี้เป็โรค หรือไม่ได้รับการดูแลแต่อย่างใดแต่กลับกันต้นไม้ที่นี่ส่วนใหญ่ต้นสูงใหญ่ แตกกิ่งก้านใบอย่างอุดมสมบูรณ์
ดูเหมือนจะมีเสียงของการต่อสู้เกิดขึ้นซึ่งดึงดูดความสนใจของฉินโจ้ว ปกติแล้วเขาเป็คนที่มีนิสัยรอบคอบ พูดไม่ค่อยเก่งและรักสันโดษดังนั้นสถานที่ที่เขาเลือกในการเพิ่มระดับจะต้องเป็ที่ค่อนข้างวิเวกไม่ค่อยมีผู้คนซึ่งบริเวณป่าต้นไม้แห้งเหี่ยวนี้เป็ที่ซึ่งเต็มไปด้วยมอนสเตอร์ระดับสูงผู้เล่นทั่วไปมักจะไม่เข้ามาที่นี่ได้ง่ายนักเพราะที่แห่งนี้อยู่ลึกเข้ามาในใจกลางของป่าต้นไม้แห้งเหี่ยวถึง 10 ลี้มันเป็ที่ค่อนข้างอันตรายพอสมควร และเขาก็ไม่เห็นผู้เล่นมานานพอสมควรแล้ว
ฉินโจ้วเดินลึกเข้าไปอีกราว100 เมตร เมื่อมองผ่านกิ่งไม้และใบไม้ เขาก็พบกับผู้เล่นกลุ่มหนึ่งจำนวน 5 คนกำลังต่อสู้กับหมาป่าั์สวมเกราะสีคราม เป็ผู้ชายสามและผู้หญิงสองคนระดับเลเวลอยู่ระหว่าง 36-39ถ้าดูจากเลเวลแล้วถือว่าเป็กลุ่มที่มีความแข็งแกร่งในระดับหนึ่งซึ่งในขณะนี้ผู้เล่นส่วนใหญ่น่าจะอยู่ที่ประมาณเลเวล 35
ในกลุ่มผู้เล่นชายทั้งสามคนนั้นประกอบด้วยนักรบ ขโมย และเมจธาตุดิน ส่วนผู้หญิงอีกสองคนนั้นเป็นักบวชและนักธนูซึ่งเป็กลุ่มที่มีรูปแบบมาตรฐานมีความพร้อมทั้งรุกและรับ
นักรบมีระดับสูงสุดอยู่ที่เลเวล39 อาวุธที่ใช้เป็ดาบเหล็กกล้าแบบถือสองมือ ซึ่งเป็ผู้นำอยู่ด้านหน้าสุดเมื่อมองดูแล้วโจ้วก็พบว่านักรบผู้นั้นไม่สามารถรับมือกับหมาป่าั์สวมเกราะสีครามได้เพราะว่าเขายังไม่แข็งแกร่งมากพอเนื่องจากเขาถูกกระแทกจนต้องถอยหลังทุกครั้งที่ถูกโจมตี แต่ก็ยังเป็โชคดีที่รูปแบบของกลุ่มค่อนข้างจะสมบูรณ์โดยที่เมจธาตุดินจะคอยใช้ทักษะ ''ทรายดูด'' อย่างต่อเนื่องเพื่อลดความเร็วของหมาป่าั์สวมเกราะสีครามลงโดยทั้งนักรบและเมจมีหน้าที่คอยฉุดรั้งหมาป่าั์สวมเกราะสีครามเอาไว้
ส่วนขโมยมีหน้าที่ก่อกวนมีดสั้นที่ดูเหมือนจะเป็อุปกรณ์ที่สูงกว่าระดับเงิน ท่าทางคมไม่ใช่เล่นและด้วยทักษะที่ทำให้เร่งการเสียเืเพิ่มมากขึ้นซึ่งทำให้การโจมตีทุกครั้งสร้างความเสียหายให้กับหมาป่าั์สวมเกราะสีครามได้มากขึ้นและไม่ให้มันสามารถหลบหนีไปได้ขโมยนั้นมีความว่องไวสูงและโจมตีได้ตรงจุด เขาจึงไม่ยอมให้หมาป่าั์สวมเกราะสีครามเข้าถึงตัวเขาได้ง่ายๆและเขายังสามารถขัดขวางการโจมตีต่อเนื่องของหมาป่าั์สวมเกราะสีครามที่โจมตีใส่นักรบได้อีกด้วยนับว่าได้ช่วยปกป้องพวกพ้องได้ในเวลาเดียวกันช่างเป็ขโมยที่มีความสามารถสูงอย่างแท้จริง
ระดับของนักบวชต่ำสุดอยู่ที่เลเวล36 เท่านั้น แต่ความสามารถในการใช้ทักษะการรักษาชีพของเธอไม่ธรรมดาเลยความแม่นยำของเธอดูเหมือนจะมากกว่า 80% ซึ่งเป็ตัวเลขที่สูงมากโดยทั่วไปแล้วอัตราความสำเร็จของภารกิจนักบวชจะอยู่ที่ 55ถ้าคุณ้าเป็นักบวชที่ทรงพลัง คุณไม่เพียงต้องฝึกฝนอย่างหนักแต่ยังต้องมีพร์อีกด้วย ซึ่งเื่นี้ไม่สามารถบังคับกันได้ดังนั้นคงพูดได้ว่าไม่ใช่ว่าทุกคนก็สามารถเป็นักบวชที่ทรงพลังได้ที่สำคัญที่สุดก็คือ นักบวชคนนี้ช่างสวยเหลือเกินส่วนใหญ่นักบวชที่หน้าตาดีมักจะเป็ที่ชื่นชอบของผู้คนในเกม
ส่วนที่โจมตีออกมามากที่สุดก็คือนักธนู ที่ยืนอยู่หลังสุดนั่นเอง เป็สาวน้อยหน้าตาสะสวยที่มีใบหน้ารูปไข่ผมยาวสลวยสวยเหมือนเมฆ ผิวขาวเนียนอมแดง หน้าอกตั้งตระหง่านดูอวบอิ่ม เอวคอดขาแม้จะดูผอมและยาวไปบ้าง แต่ก็สมส่วนดี รูปร่างกะทัดรัด ความสูงไม่มากนักราว 160เิเ อาจเป็เพราะขาที่เรียวยาวจึงทำให้ดูสูงกว่าความเป็จริงแต่ก็ดูโดดเด่นเวลาอยู่ท่ามกลางฝูงชน
ก่อนจะมีแสงสีแดงสว่างวาบขึ้นมา
เป็ลูกธนูเพลิงที่ยิงเข้าใส่หมาป่าั์สวมเกราะสีครามฉินโจ้วรับรู้ได้ถึงอากาศที่กำลังถูกเผาไหม้ เขาประหลาดใจมากทันใดนั้นเองเขาก็ได้ยินเสียงะเิดังขึ้น แต่เป็ลูกธนูที่ะเิออกก่อนจะสร้างาแขนาดใหญ่ไว้บนร่างของหมาป่าั์สวมเกราะสีคราม ทั้งเืและเนื้อของมันหายไปบางส่วนและพลังชีวิตลดลงไปมากกว่า 1,000 หน่วย
ทำให้ฉินโจ้วรู้ได้ทันทีว่าเธอคือนักธนูสายเวทซึ่งเป็อาชีพที่ค่อนข้างหาได้ยาก นักธนูสายเวทนั้นเป็นักธนูประเภทหนึ่งความแตกต่างก็คือ สามารถที่จะเพิ่มเวทโจมตีใส่ลงในลูกธนูธรรมดาทั่วไปได้มันจะมีความรุนแรงมากกว่าถึงสิบเท่า ซึ่งนักธนูทั่วไปก็สามารถทำแบบนี้ได้เช่นกันด้วยการเริ่มที่อุปกรณ์คือ ซื้อลูกธนูเวทโดยที่ความรุนแรงนั้นจะขึ้นอยู่กับคุณภาพของเวทมนตร์ของลูกธนูเวทและแน่นอนว่าคงต้องใช้จ่ายเป็เหรียญทองจำนวนไม่น้อย
ซึ่งนักธนูสายเวทนั้นมีอยู่หลายประเภทยกตัวอย่างเช่น นักธนูสายเวทไฟ เวทน้ำแข็ง เวทแห่งความมืด และอื่นๆ อีกมากมายซึ่งแน่นอนว่าเด็กสาวที่อยู่ด้านหน้านี้เธอเป็นักธนูสายเวทไฟอย่างไรก็ตามฉินโจ้วนั้นไม่เคยเห็นนักธนูประเภทดังกล่าวมาก่อนทำให้เขารู้สึกสนใจเป็อย่างมาก
นับว่ากลุ่มนี้มีความกล้าหาญที่เข้ามาในป่าต้นไม้แห้งเหี่ยวแห่งนี้เพื่อจัดการกับหมาป่าั์สวมเกราะสีครามเขาเดาว่าคงจะต้องอาศัยผู้หญิงคนนี้มากพอสมควรลูกธนูนั้นเพียงพอที่จะเจาะทะลุการป้องกันของหมาป่าั์สวมเกราะสีครามได้
มีหลุมเืขนาดใหญ่ปรากฏอยู่บนร่างของมันหมาป่าั์สวมเกราะสีครามนั้นได้รับความเ็ป ถึงแม้ว่ามันจะแข็งแกร่งแต่ก็แทบจะยืนอยู่ไม่ไหว ก่อนจะส่งเสียงหอน ร้องออกไปด้วยความเ็ปซึ่งเสียงนั้นแผ่กระจายออกไปเป็วงกว้างในป่า
"ไม่ดีแล้วมันกำลังร้องเรียกพวก รีบจัดการมันเดี๋ยวนี้"
นักรบร้องะโขึ้นก่อนจะพุ่งเข้าใส่พร้อมกับเรียกใช้ทักษะของเขามีพลังิญญาสีขาวขนาดราวสามฉื่อพุ่งออกมาจากดาบเหล็กกล้าสองมือดูเหมือนว่าตัวดาบจะมีการขยายขนาดให้ยาวขึ้นจากอากาศก่อนที่พลังิญญาสีขาวขนาดสามฉื่อจะพุ่งตรงเข้าไปตัดปากของหมาป่าั์สวมเกราะสีครามซึ่งเกือบจะโดนเข้าที่สมอง ปากของหมาป่าั์สวมเกราะสีครามถูกแบ่งออกเป็สองส่วนทำให้เืสาดกระจายไหลนองเต็มพื้น
ดูเหมือนว่านักรบนั้นจะมีทักษะที่ค่อนข้างน้อยที่ใช้โจมตีแบบเห็นผลได้แค่หนึ่งทักษะไม่สามารถใช้ต่อเนื่องเพื่อช่วยเพิ่มผลลัพธ์ในการรบแต่กลับทำให้ตัวเองต้องถอยกลับมาด้วย มันทำให้ฉินโจ้วรู้สึกเสียใจยิ่งนักถ้ามีการต่อสู้เพิ่มขึ้นมามากกว่านี้ การศึกครั้งนี้ก็คงจะจบลงแล้ว
ถึงแม้ว่าหมาป่าั์สวมเกราะสีครามจะกำลังเ็ปจนทำให้มันรู้สึกคลุ้มคลั่ง กัดฟันแน่นจนเขี้ยวของมันเริ่มหักเืเริ่มหยดไหลนองพื้น เมื่อมองดูแล้วรู้สึกสยองพร้อมทั้งน่าหวาดกลัวก่อนที่มันจะหลุดออกจากทักษะ ''ทรายดูด'' และวิ่งตรงไปข้างหน้าโดยไม่สนใจการโจมตีจากขโมยมันพุ่งเข้าใส่อย่างรวดเร็ว เห็นเป็เพียงแสงเงาสีครามสว่างวาบก่อนที่นักรบจะถูกหมาป่าั์สวมเกราะสีครามกัดเข้าที่ต้นขาอย่างจังเสียงกระดูกแตกดังขึ้น ก่อนจะตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของนักรบซึ่งเกือบจะทำให้เขาหมดสติ ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคุมสติได้ก่อนจะตัดสินใจกลิ้งหลบออกไปทางด้านข้างทั้งๆที่ยังเจ็บอยู่ซึ่งเป็เวลาเดียวกับที่หมาป่าั์สวมเกราะสีครามจะเข้าไปกัดเป็ครั้งที่สองจึงกัดพลาดไป และนั่นทำให้เกิดช่องว่างสำหรับการโจมตีเมื่อมองจากความสามารถเท่าที่เห็น ดูเหมือนว่าบุคคลผู้นี้โดยรวมถือว่าแข็งแกร่งพอสมควร
ขโมยจึงพุ่งเข้าไปหาหมาป่าั์สวมเกราะสีครามเพื่อหาโอกาสโจมตีซ้ำ
วงแหวนแห่งแสงสองวงลอยอยู่เหนือหัวของนักรบอันหนึ่งคือ ''ลดความเ็ป'' ส่วนอีกอัน''การรักษาชีพ'' แต่โชคดีที่นักบวชใช้ทักษะรักษาชีพได้ทันเวลาไม่อย่างนั้นแล้วนักรบคงจะเืออกจนหมดตัว และก็คงเ็ปจนตายอย่างแน่นอน
ฟิ้ววว...
นักธนูยิงลูกธนูออกไปพร้อมกันสองดอกเพื่อโจมตีใส่หมาป่าั์สวมเกราะสีครามในตำแหน่งเดียวกันถึงแม้ว่าจะมีชิ้นเนื้อหลุดปลิวออกไปก็ตาม แต่ก็ยังไม่โดนจุดสำคัญ
''ทักษะหนามดิน''
เมจธาตุดินได้ใช้ทักษะธาตุดินที่มีชื่อเสียงในการโจมตีมีหนามแหลมจำนวนมากพุ่งขึ้นออกมาจากพื้นดิน รัศมีครอบคลุมราว 5 เมตรซึ่งพวกมันแทงทะลุเข้าสู่ร่างกายของหมาป่าั์สวมเกราะสีครามที่กำลังได้รับาเ็อยู่ถ้ามันไม่ได้รับาเ็ หมาป่าั์สวมเกราะสีครามก็คงไม่กลัวการโจมตีจากหนามเหล่านี้แม้แต่น้อยปัญหาก็คือตอนนี้มันได้รับาเ็อยู่ สถานการณ์ไม่ค่อยสู้ดีนักมันต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการออกจากวงหนามเ่าั้ส่งผลให้เนื้อหลายสิบจินหลุดหายไปด้วย
ทันทีที่หลุดออกจากหนามดินเวทโจมตีแรกก็มาถึง ลูกธนูสีแดงพุ่งเข้าใส่ร่างก่อน ในขณะที่กำลังจะะเิขึ้นขโมยจึงสบโอกาสก่อนจะใช้การโจมตีห้าครั้งติดต่อกันทันทีหลังจากนั้นเขาก็รีบถอยออกมาก่อนะโขึ้นในเวลาเดียวกันว่า
"เร็วเข้าทำลายเกราะได้แล้ว"
ดูเหมือนว่ามีดสั้นของเขาจะมีคุณสมบัติที่สามารถทำลายเกราะการป้องกันได้มีโอกาสแค่ 1% ที่จะทำลายเกราะการป้องกัน ถึงแม้ว่าความเป็ไปได้มันจะต่ำมากแต่ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้วก็ต้องถือว่าโชคดี
"ผ่าครึ่งจันทรา"
เสียงะโก้องของนักรบก่อนที่ดาบเหล็กกล้าสองมือจะตวัดวาดออกไปเป็แนวโค้งคล้ายกับความคมของดาบตัดผ่านร่างของหมาป่าั์สวมเกราะสีคราม ''ตัดครึ่งจันทรา'' สิ้นเสียงะโร่างของหมาป่าั์สวมเกราะสีครามก็ถูกแบ่งออกเป็สองส่วน ลำไส้เครื่องในกระจายเกลื่อนเต็มพื้น คงไม่สามารถตายได้มากกว่านี้อีกแล้วก่อนจะมีเหรียญทองแดงนับสิบร่วงหล่น พร้อมด้วยอุปกรณ์ระดับเหล็กดำที่ตกอยู่
ทั้งห้าคนก็ต่างโล่งใจในที่สุดก็จัดการมันลงได้ ในขณะที่กำลังจะฉลอง ก็กลับพบว่าต้นไม้ใบหญ้ารอบๆต่างพากันสั่นไหวไปมา กิ่งก้านและใบไม้ต่างปลิวกระจายก่อนจะพบว่ามีหมาป่าั์สวมเกราะสีครามค่อยๆ ก้าวออกมาทีละตัวสองตัวต่างกัดฟันแน่นจนเกิดรอยแตก พวกมันส่งเสียงร้องที่น่ากลัวดังออกมากะด้วยสายตาคร่าวๆ แล้วมีไม่น้อยกว่าสามสิบตัวในขณะที่พวกมันรีบตรงมาที่ทั้งห้าคนยืนอยู่อย่างรวดเร็วและดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เวลานี้ไม่ต้องคิดก็รู้ได้ว่า พวกเขาถูกฝูงหมาป่าั์ล้อมเอาไว้หมดแล้ว
รอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าของพวกเขาที่กำลังเบ่งบานเมื่อครู่เปลี่ยนเป็หวาดวิตกไปในทันใด สีหน้าของนักบวชซีดเผือดอุปกรณ์ที่ร่วงหล่นอยู่นั้นเป็สิ่งที่เธอชอบมากแต่ในเวลานี้เธอกลับลืมเื่อุปกรณ์ที่อยู่ใต้เท้าของเธอไปจนหมดสิ้นจนไม่กล้าแม้แต่จะขยับเขยื้อนไปไหน
"พวกนายรีบถอยเร็วเดี๋ยวฉันจะคุ้มกันไว้ให้"
เมื่อนักรบพบว่าด้านหลังของเขานั้นไม่มีหมาป่าั์สวมเกราะสีครามอยู่แสดงให้เห็นว่าการล้อมกรอบของศัตรูนั้นยังไม่สมบูรณ์ซึ่งยังพอมีโอกาสที่จะหนีรอดได้ จึงรีบตัดสินใจอย่างรวดเร็วในการออกคำสั่งในเวลาเดียวกันนั้นเขาก็ยกดาบขึ้นขวางมองไปทางด้านหน้าเพราะว่าขาหักจึงไม่สามารถยืนขึ้นได้ ทำได้แค่เพียงนั่งลงแล้วจ้องมองไปทางฝูงหมาป่าั์สวมเกราะสีคราม ด้วยดวงตาที่แน่วแน่แต่ภายในใจเต็มไปด้วยความตื่นกลัว
อาจเป็เพราะหมาป่าั์สวมเกราะสีครามกำลังรีบร้อนหรืออาจเป็เพราะว่ากลุ่มผู้เล่นทั้งห้าคนนี้นั้นไม่ได้อยู่ในสายตาของหมาป่าั์สวมเกราะสีครามั้แ่ต้นถึงอย่างไรการล้อมกรอบตอนนี้ทำได้แค่เพียงสามทิศทางเท่านั้นทางด้านที่หันเข้าป่าต้นไม้แห้งเหี่ยวไม่มีหมาป่าั์สวมเกราะสีครามอยู่ ถ้าหนีไปั้แ่ตอนนี้ก็อาจจะหนีพ้นทั้งสี่คนอย่าเพิ่งยอมแพ้สิ
"ไม่มีทาง"
ทั้งสี่คนที่เหลือต่างพูดปฏิเสธขึ้นพร้อมกันถ้าจะให้ยอมแพ้และทิ้งเพื่อนแล้วหลบหนีไป พวกเราไม่มีวันที่จะทำแบบนั้นได้หรอกเมจธาตุดินหัวเราะก่อนที่จะพูดว่า "มันจะเป็เื่ใหญ่อะไรกันนักเชียวกับแค่ลดระดับลงหนึ่งเลเวลอย่างมากก็ใช้เวลาอีกสองสามวันเพื่อฝึกฝนใหม่ มันจะไปยากอะไรจริงไหม หัวหน้าผมจะอยู่เป็เพื่อนคุณเอง"
ฟิ้ววว...
ลูกธนูเวทไฟถูกยิงออกมาก่อนจะตรงเข้าไปที่ดวงตาของหมาป่าั์สวมเกราะสีครามที่อยู่ตรงหน้าการโจมตีนี้ค่อนข้างแม่นยำและเข้าที่จุดสำคัญพอดีแรงะเิอย่างรุนแรงทำให้ศีรษะของหมาป่าั์หายไปครึ่งหนึ่งและพลังชีวิตก็ลดลงไปครึ่งหนึ่งด้วยเช่นกันซึ่งการโจมตีดังกล่าวทำให้ฝูงหมาป่าเกิดความโกรธแค้นขึ้นอีกฉับพลันฝูงหมาป่าจึงเร่งความเร็วขึ้นก่อนจะพุ่งตรงเข้าใส่ราวกับกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก
ตอนนี้ถึงอยากจะหนีก็คงไม่ได้แล้ว
"ทักษะกำแพงดิน"
กำแพงดินโผล่ขึ้นมาจากพื้นดินก่อนจะปิดกั้นด้านหน้าด้านซ้ายและด้านขวา เป็กำแพงที่หนา 2 เมตร สูง 3 เมตร และยาว 1.5 เมตรมีส่วนประกอบจากหินที่ไม่ทราบชื่อ ความแข็งแรงไม่น้อยกว่ากำแพงทั่วไป
ทันทีที่กำแพงทั้งสามด้านปรากฏขึ้นพร้อมกันพลังจิตของเมจธาตุดินก็ลดลงเกือบครึ่งหนึ่งทันที จึงรีบกลืนยาน้ำเงินอย่างรวดเร็ว
"เอ้า...นี่ยาฟื้นฟู"
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่กลุ่มนี้ต้องพบเจอกับสถานการณ์อันตรายเช่นนี้ดังนั้นจึงทำให้ไม่ตื่นตระหนกมากนัก นักบวชเข้ามาหานักรบเป็อันดับแรกก่อนจะส่งยาฟื้นฟูให้นี่ไม่ใช่ยาฟื้นฟูทั่วไป แต่เป็ ''ยาฟื้นฟูร่างกาย''ซึ่งสามารถเยียวยารักษาร่างกายได้ มันไม่เพียงแต่มีค่าแต่ยังหายากอีกด้วย ซึ่งในเวลานี้ไม่ใช่เวลาจะมาคิดมากตราบใดที่นักรบสามารถฟื้นฟูจากอาการาเ็ได้พวกเขาก็จะมีโอกาสมากขึ้นที่จะรอดชีวิตไปได้
แต่ว่านักรบเกิดความลังเล"ยาฟื้นฟูร่างกาย" นี่มีค่ามากกว่า 50 เหรียญทองเลยนะ นี่มันไม่ใช่น้ำแต่มันคือเงิน กลุ่มของเราั้แ่เข้าเกมมาก็เพิ่งจะรวบรวมเงินได้ 100เหรียญทองเท่านั้น และยาขวดนี้ก็มีค่าครึ่งหนึ่ง ถ้ามันไม่ใช่เื่ฉุกเฉินก็กลับไปที่เมืองัและค่อยหานักบวชชั้นสูงใช้เวทฟื้นฟูร่างกายให้ก็ได้อย่างไรราคามันก็ต้องถูกกว่ายาฟื้นฟูร่างกายอยู่แล้วและที่สำคัญเราจะหลบหนีได้สำเร็จหรือเปล่าก็ไม่รู้หลังจากที่กินยานี้เข้าไปถ้าผลลัพธ์ยังเป็เหมือนเดิมก็เท่ากับว่าไม่คุ้มเลย แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ต้องกินยาฟื้นฟูร่างกายอยู่ดี
เพราะว่าพวกเขาเป็กลุ่มเดียวกันความรู้สึกของกลุ่มไม่สามารถใช้เงินมาตัดสินได้ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจดื่มยาเข้าไป
เวลาที่ยาฟื้นฟูร่างกายทำงานนั้นคือ10 วินาที แต่ถ้ามีนักบวชคอยช่วยให้การรักษาไปพร้อมกัน เวลาก็จะลดลงครึ่งหนึ่งนั่นก็คือ 5 วินาที ซึ่งเวลานี้นับว่าไม่นานเลยแต่สำหรับห้าคนนี้นั้นกลับรู้สึกว่านานมากกว่า 5 ชั่วโมงเสียอีก
1วิ... 2 วิ... 3 วิ...
ผ่านไปเพียงแค่สามวินาทีก็มีเสียงร้องคำรามดังขึ้น กำแพงทั้งสามด้านพังถล่มลงมาฝุ่นกระจายฟุ้งใน่เวลานั้นเองหมาป่าั์สวมเกราะสีครามก็วิ่งฝ่าฝุ่นเข้ามาขโมยจึงใช้ทักษะการโจมตีห้าครั้งใส่หมาป่าั์สวมเกราะสีครามในขณะที่อีกด้านหนึ่งหมาป่าั์สวมเกราะสีครามอีกตัวได้ย่องเข้ามาอย่างเงียบๆโดยไม่ได้คาดคิด ก่อนจะตรงเข้ามากัดที่หัวของเขา ทำให้ขโมยถูกสังหารทันที
ก่อนที่หมาป่าั์สวมเกราะสีครามตัวที่โจมตีจะอ้าปากและฉีกกระชากร่างของเขาอีกครั้งในเวลานี้ทั้งเืและเนื้อกระจัดกระจายไปทั่ว เืนองไปทั่วบริเวณ
"เ้าแมงป่อง..."
นักธนูสาวะโออกมาเธอรู้สึกเสียใจและโกรธมาก เธอง้างสายและหยิบลูกธนูขึ้นมาก่อนจะยิงลูกธนูเวทสายฟ้าออกไป ทะลุผ่านศพตรงไปที่ปากของหมาป่าั์สวมเกราะสีครามผ่านไปที่หลอดอาหารและเข้าไปภายในท้อง ก่อนจะกระจายออกจากด้านในเสียงะเิดังตูมม!... ประกายไฟสว่างจ้าออกจากปากของหมาป่าั์สวมเกราะสีครามเศษเนื้อกับ อวัยวะภายในกระจัดกระจายออกมาเป็จำนวนมากถึงแม้ว่าหมาป่าั์สวมเกราะสีครามนั้นค่อนข้างจะแข็งแกร่งแต่มันก็ไม่สามารถรักษาอาการาเ็ได้ ก่อนที่มันจะถูกสังหารในทันทีเป็เื่ที่น่ากลัวมากเวลาที่ผู้หญิงโกรธและสามารถจัดการกับมอนสเตอร์ที่ระดับเลเวลสูงกว่าได้ด้วยการยิงธนูเพียงครั้งเดียวไม่ว่าจะเป็เื่บังเอิญหรือไม่ก็ตาม
"ทักษะโคลนดูด"
เมจธาตุดินพยายามอย่างสุดชีวิตก่อนจะโยนม้วนคัมภีร์เวทออกไป ทันทีที่ม้วนคัมภีร์เวทส่องแสง พื้นดินโดยรอบราว 10ตารางเมตร ก็กลายเป็อ่อนนุ่มและกลายเป็ของเหลวทำให้หมาป่าั์สวมเกราะสีครามกว่า 20 ตัว จมลงไปด้วยกันผ่านไปชั่วครู่พื้นดินก็เริ่มแข็งตัวอีกครั้งหมาป่าั์สวมเกราะสีครามกว่ายี่สิบตัวก็ถูกอัดแน่นเป็เนื้อเดียวกับโคลนและไม่มีตัวไหนรอดชีวิตเลย
ทักษะโคลนดูดนั้นเป็เวทที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียงเท่าไรนักแต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่ทรงพลังเวทมนตร์ทุกชนิดสามารถแสดงความแข็งแกร่งออกมาได้ ถ้าเราใช้มันอย่างถูกที่ถูกเวลา
หลังจากเมจธาตุดินได้จัดการหมาป่าั์ไปได้มากกว่า20 ตัว แต่ก็ยังมีหมาป่าั์อีกมากที่กำลังตรงเข้ามาหาเขาไม่มีม้วนทักษะเวทเหลือแล้ว จึงใช้เวทดินโจมตีอย่างบ้าคลั่ง ''หนามดิน'' ''งูดิน''''พายุทราย'' แต่ทั้งหมดก็ยังไม่สามารถสร้างความเสียหายร้ายแรงให้กับกลุ่มหมาป่าั์สวมเกราะสีครามได้แค่ชั่วพริบตาพวกมันก็มาปรากฏอยู่ต่อหน้าเขาแล้วเมจธาตุดินนั้นไม่มีความว่องไวเหมือนขโมย เขารู้ดีว่าไม่สามารถหลบหนีได้แล้วจึงได้แต่หลับตาเตรียมพร้อมที่จะตาย ในใจคิดไว้ว่าถ้าระดับลดลง 1 เลเวลเขาจะต้องเสียเวลาไปอีกราว 3-4 วันเป็อย่างน้อย
"หมอบลง"
นักรบะโด้วยเสียงอันดังใส่เมจธาตุดินเนื่องจากเขาต่อสู้ได้อย่างกล้าหาญ ห้าวินาทีผ่านไปแล้วขาของเขาก็ฟื้นคืนสภาพเรียบร้อย คนที่เหลือต่างพากันวิ่งออกมาข้างหน้าในขณะที่ยังไปไม่ถึง ''ผ่าครึ่งจันทรา'' ก็ถูกยิงออกไปเป็อันดับแรกถากศีรษะของเมจธาตุดินไปก่อนจะพุ่งเข้าใส่หมาป่าั์สวมเกราะสีครามรอยแผลยาวสามเมตร แผลลึกเข้าไปราวสามฉื่อ เืสาดกระเซ็นเกราะสีครามของหมาป่าั์ดูเหมือนว่าจะสูญเสียพลังป้องกันเมื่อถูก ''ผ่าครึ่งจันทรา'' โจมตีเข้า
"ปังง..."
ขณะที่นักรบพุ่งเข้าชนหมาป่าั์สวมเกราะสีครามปรากฏว่าคู่ต่อสู้ของนักรบนั้นหายไปทันใดนั้นเขาก็ถูกเหวี่ยงไปด้วยแรงมหาศาลราวกับั์ จนกระเด็นออกไปไกลราวสามเมตรร่างของหมาป่าั์สวมเกราะสีครามไม่ได้เป็อะไรเลย นอกจากมีแผลบนหัวเล็กน้อยก่อนมันจะเอาอุ้งเท้าตบเข้าไปที่เมจธาตุดิน เขากระเด็นไปไกลราวห้าเมตรซึ่งไกลกว่านักรบอยู่เล็กน้อย นักบวชเองก็รีบร่ายเวทวงแหวนรักษาชีพแต่ก็ไม่ทันการเสียแล้ว
ถึงแม้จะเป็เพียงแค่การโจมตีด้วยอุ้งเท้าของหมาป่าั์สวมเกราะสีครามแต่พลังชีวิตของเมจนั้นค่อนข้างจะเปราะบางเป็อย่างมาก ซึ่งเขาไม่สามารถจะทนไหวพลังชีวิตหมดเกลี้ยงในทันที ก่อนจะกลายเป็สีเทาเมื่อร่างตกถึงพื้นและกลับไปเกิดใหม่ที่จุดเซฟ นักบวชเมื่อได้เห็นภาพนั้นก็รู้สึกเสียใจเป็อย่างมากถ้าในจังหวะที่หมาป่าั์สวมเกราะสีครามเข้าโจมตี สามารถใช้ทักษะ ''รักษาชีพ'' ได้ทันในเสี้ยววินาทีบางทีเมจธาตุดินก็อาจจะยังไม่ตาย ในเวลาที่เธอใช้ทักษะรักษาชีพใส่ให้นักรบระยะเวลาในการใช้ทักษะครั้งถัดไปนั้นยังมาไม่ถึง ทำให้ไม่สามารถช่วยได้ทันเธอเองก็รู้สึกเกลียดตัวเองที่อ่อนแอเกินไป ถ้าสามารถทำได้ในชั่วพริบตาสถานการณ์คงจะไม่เป็เช่นนี้ ถ้าในเวลาเดียวกันนั้นการมองภาพรวมผิดพลาดไปหรือไม่อย่างนั้นเราไม่ควรจะใช้ทักษะให้นักรบเพราะว่านักรบมีพลังชีวิตที่สูงอยู่แล้วและเขาเองก็ไม่ตายภายใต้การโจมตีเพียงครั้งเดียวแต่สำหรับเมจธาตุดินเขาไม่สามารถทนได้แม้เพียงครั้งเดียว
โชคยังดีที่นี่เป็แค่เกมยังมีโอกาสที่จะช่วยได้ภายหลังอีก
เมื่อนักธนูสาวยิงลูกธนูดอกที่หกออกไปเธอก็พบว่าการล้อมกรอบเป็วงกลมนั้นเสร็จสมบูรณ์แล้วหมาป่าก็เข้ามาอยู่ในระยะที่ห่างออกไปเพียงแค่สามเมตรเท่านั้นซึ่งในระยะคันธนูและลูกนั้นแทบไม่มีความหมาย ไม่ต่างอะไรกับเครื่องประดับนักรบก็รีบวิ่งเข้ามา เมื่อพบว่าบางอย่างผิดปกติก่อนจะยืนป้องกันนักบวชและนักธนูสาวเอาไว้เื้ัในเวลานี้ทั้งสามคนก็มีสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก
เสียงร้องของหมาป่าดังขึ้นดวงตาสีเขียวของหมาป่าั์สวมเกราะสีครามเริ่มมีเืกระจายขึ้นมาให้เห็นเป็สัญญาณแสดงให้รู้ถึงการโจมตี
"โจมตีได้"
ทันทีที่ฉินโจ้วออกคำสั่งอัศวินปฐีก็กู่ร้องและพุ่งทะยานออกไป เงาของหอกกระจายออกไปโดยเคลื่อนไหวรวดเร็วราวกับสายฟ้า ความรุนแรงดั่งฟ้าผ่าเมื่อเผชิญหน้ากันตัวต่อตัว หมาป่าั์สวมเกราะสีครามทั้งสี่ตัวก็ล้มลงหอกยาวถูกดึงออกมา เืไหลพุ่งตามออกมาดั่งน้ำพุ อัศวินปฐีนั้นไม่มองสิ่งใดภายในดวงตานั้นมีเพียงแค่ศัตรูเท่านั้นก่อนจะพุ่งเข้าใส่ฝูงหมาป่าั์อย่างฉุดไม่อยู่ หมาป่าั์สวมเกราะสีครามค่อยๆล้มลงทีละตัวๆ
เงาสีขาวส่องประกายมีอัศวินปฐีหลายตัวยืนอยู่ตรงนั้น ซึ่งล้อมรอบผู้เล่นทั้งสามเอาไว้
มีอัศวินปฐีทั้งหมดหกตัวซึ่งไม่เพียงป้องกันการโจมตีของฝูงหมาป่าเท่านั้นแต่ก็เริ่มที่จะไล่สังหารพวกมันกลับ ในเวลาเพียง 7-8 วินาทีก็มีซากศพของหมาป่าั์สวมเกราะสีครามไม่ต่ำกว่า 30 ศพ ที่นอนอยู่บนพื้นขณะนั้นม่านฟ้าิญญาก็ถูกใช้ออกมาโดยรอบ ในเวลาไม่นานป่าทั้งป่าก็ถูกปกคลุมด้วยความมืดยกเว้นแต่กับฉินโจ้วเท่านั้น ส่วนสายตาของผู้คนทั่วไปจะสูญเสียการมองเห็นมีเพียงแค่เสียงของการต่อสู้ให้ได้ยิน ซึ่งค่อนข้างชัดเจนเป็พิเศษ
นักสู้ทั้งสามคนต่างยืนเบียดใกล้ชิดกันและรู้สึกได้ว่ากำลังจะมีบางสิ่งเกิดขึ้นกับพวกเขา
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้