เส้นทางของสตรีสูงศักดิ์

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

จวนหลินกั๋วกง


แสงแดดอ่อนยามสายส่องผ่านซุ้มไม้เลื้อยในสวนหลังจวน ตกต้องลงบนร่างระหงในชุดผ้าไหมเนื้อดี ลวดลายนกน้อยและบุปผาน้อยอ่อนช้อยประหนึ่งมีชีวิต เมื่อสายลมพัดผ่าน ผืนผ้าเบาบางก็พลิ้วไหวราวละอองบุปผาในฤดูใบไม้ผลิ


หลินซีอวี่ คุณหนูรองแห่งตระกูลหลิน ขยับกายลุกจากเก้าอี้ม้านั่งไม้ทรงกลมอย่างอ่อนช้อย ดวงหน้ารูปไข่แต่งแต้มด้วยรอยยิ้มสดใส แววตากลมโตทอประกายยินดีอย่างไม่ปิดบัง เมื่อสาวใช้คนสนิทเร่งฝีเท้ามาแจ้งข่าว


“คุณหนูเ๽้าคะ! ท่านกั๋วกง... ท่านกลับมาแล้วเ๽้าค่ะ! เพิ่งมาถึงเมื่อครู่นี้!”


ทันใดนั้น หัวใจของคุณหนูรองก็เต้นระรัว ความห่วงใยที่เฝ้ารอเกือบครึ่งปีแปรเปลี่ยนเป็๲ความปลื้มปีติอย่างยากจะกลั้น


"จริงหรือ?" เสียงของนางนุ่มนวลแต่สั่นไหวเล็กน้อย น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความดีใจจนแทบกลั้นไว้ไม่อยู่


ฝีเท้าเล็ก ๆ ก้าวพ้นลานหินไปอย่างเร่งรีบ กลิ่นหอมอ่อนจากดอกโบตั๋นยังไม่ทันจาง หลินซีอวี่ก็หายลับไปทางเรือนหน้า ดวงตาใสคู่นั้นมุ่งมั่นเพียงจะได้เห็นใบหน้าอันคุ้นเคยของบิดาอีกครา...


“ท่านพ่อเ๽้าคะ” หลินซวีอวี่เอ่ยเสียงใส พลางย่อตัวลงคำนับอย่างอ่อนช้อย ใบหน้าหวานละมุนมีรอยยิ้มเจืออยู่ในแววตา


หลินหง ก้าวเข้าสู่ลานเรือนด้วยอากัปกิริยาสมฐานะขุนนาง๵า๥ุโ๼แห่งราชสำนัก สายตาเขาอ่อนลงทันทีเมื่อเห็นบุตรสาวคนรองที่ไม่ได้พบหน้ากันนาน


“อวี่เอ๋อร์ของพ่อ...” เขาคลี่ยิ้มพลางโอบลูกสาวแน่นเบาๆ แสดงความคิดถึงจากก้นบึ้งของหัวใจ


ยังไม่ทันได้พูดสิ่งใดต่อ ก็มีเสียงหนึ่งแทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเหน็บแนม


“เหตุใดท่านพ่อจึงกอดแต่น้องหญิงเล่า?”


หลินเจิ้ง บุตรชายคนโต กล่าวด้วยน้ำเสียงน้อยใจ ทว่าใบหน้ากลับเปื้อนยิ้มขี้เล่น


“ดูเ๽้าสิ เ๽้าโตเป็๲หนุ่มแล้ว หรือยังเด็กอยู่กันแน่?” จินเย่ผู้เป็๲มารดากล่าวพลางหัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันไปสบตากับสามี ทั้งสองต่างพากันอมยิ้ม


“เอาเถิด เข้าบ้านกันเถิด” หลินหงกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มทว่าเปี่ยมอำนาจ จากนั้นทุกคนก็พากันเดินเข้าไปในเรือนใหญ่ เสียงหัวเราะจาง ๆ ดังแว่วมาท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่นหลังการพบหน้ากันอีกครั้งในรอบหลายเดือน


เมื่อพูดคุยกันพอหายคิดถึงแล้ว แต่ละคนก็ทยอยแยกย้าย ปล่อยให้จวนหลินกั๋วกงกลับคืนสู่ความสงบอีกครั้ง


จินเยว่แยกตัวออกมาจากกลุ่มผู้คน นางมุ่งหน้าไปยังห้องเครื่อง เพื่อจัดเตรียมสำรับสำหรับงานเลี้ยงเล็ก ๆ ในค่ำคืนนี้ เป็๲มื้อพิเศษต้อนรับการกลับมาของสามีผู้จากบ้านไปนานหลายเดือน


ด้านหลินซวีอวี่ คุณหนูรองของจวน นั่งอยู่ที่เรือนชมบุปผาอย่างสงบ นางหลงใหลการปลูกดอกไม้ และจัดแจกันมา๻ั้๹แ๻่วัยเยาว์ หากปล่อยให้นางอยู่ท่ามกลางมวลบุปผาแล้วไซร้ ต่อให้นั่งอยู่จนตะวันลับฟ้า นางก็หาได้เบื่อหน่ายไม่


ยามพลบค่ำ ดวงตะวันตกดินแสงสุดท้าย หลินซือเหยียน คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลหลินก็เดินทางมาถึงจวนพร้อมด้วยอ๋องเหยียน องค์อนุชาของอดีตฮ่องเต้ ผู้เป็๲สามีของนาง


เมื่อรถม้าประจำองค์อ๋องจอดเทียบบริเวณหน้าจวน เหล่าคนในเรือนต่างรีบออกมาต้อนรับ


“ท่านอ๋องเสด็จถึงแล้วเ๽้าค่ะ!” บ่าวสาวเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น


หลินกั๋วกง หลินหง และสมาชิกคนอื่นในจวนต่างลุกขึ้น ย่อตัวทำความเคารพตามธรรมเนียมเป๊ะทุกระเบียบนิ้ว


“ท่านพ่อตา ท่านแม่ยาย ไม่ต้องมากพิธีถึงเพียงนี้” อ๋องเหยียนตรัสพลางโบกมือเบา ๆ น้ำเสียงของพระองค์นั้นเปี่ยมด้วยไมตรี แม้ในยามไม่แย้มยิ้มก็ยังน่าเกรงขามอยู่ดี


จากนั้นพระองค์จึงเสด็จไปนั่งยังที่นั่งหัวโต๊ะที่ทางสกุลหลินจัดเตรียมไว้สำหรับงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้


“ชื่อเสียงจากการออกศึกครั้งนี้ของท่านพ่อตานับว่าน่ายกย่องยิ่ง ขุนนางทั้งหลายต่างกล่าวขาน ชาวประชาก็ชื่นชมไม่หยุด” บุตรเขยเอ่ยชมด้วยรอยยิ้มอย่างยินดีจริงใจ


หลินกั๋วกงเพียงคลี่ยิ้มบาง ๆ ทว่าดวงตากลับปรากฏแววอึดอัดเจือจางคล้ายมีบางสิ่งอยู่ในใจ


“ยินดีด้วยกับท่านกั๋วกงที่คว้าชัยชนะในศึกใหญ่ครานี้” เสียงทุ้มนุ่มของบุรุษอีกผู้หนึ่งดังขึ้น จ้าวหยางหลง จ้าวโหวผู้มีศักดิ์สูง เดินตามหลังอ๋องเหยียนเข้ามา เขาโค้งตัวเคารพอย่างนอบน้อม


“พอดีข้ามีธุระต้องพูดคุยกับจ้าวโหว จึงชวนมาด้วยกันเสียเลย” อ๋องเหยียนอธิบายพลางหัวเราะเบา ๆ น้ำเสียงชวนผ่อนคลาย


การที่จ้าวโหวจ้าวหยางหลงมาร่วมโต๊ะในงานเลี้ยงครอบครัวครั้งนี้ นับว่าเกินความคาดหมายของหลินหงอยู่ไม่น้อย จึงรีบหันไปสั่งให้บ่าวจัดโต๊ะเพิ่มทันที


“ไป จัดสำรับเพิ่มให้จ้าวโหว อย่าให้ขาดตกบกพร่องเด็ดขาด” เสียงของหลินหงแฝงความเด็ดขาด ขณะหันไปกวาดตามองบ่าวไพร่ที่ต่างรีบร้อนเคลื่อนไหวตามคำสั่ง

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้