"ฉันไม่ใช่คุณหนูของพวกคุณหรอก พวกคุณจำคนผิดแล้ว" เยว่ไป๋ลู่พยายามอธิบาย ก่อนที่คนพวกนั้นจะหันมองหน้ากัน แล้วหันกลับมามองเธออีกครั้ง
"หน้าตาเช่นนี้ รูปร่างเช่นนี้ หากไม่ใช่คุณหนูสกุลจ้าว จ้าวอี้หนิง จะเป็ผู้ใดได้อีก คุณหนูรีบกลับจวนเถอะนะเ้าคะ ตอนนี้นายท่านกับนายหญิงเป็ห่วงคุณหนูมาก ที่หายตัวไปหลายวัน"
"อ่อ เมื่อครู่ ฉันเห็นผู้หญิงคนหนึ่งะโลงจากหน้าผาไป อาจเป็คุณหนูของพวกคุณก็ได้ แต่ฉันชื่อเยว่ไป๋ลู่ ไม่ใช่จ้าวอี้หนิง พวกคุณจำคนผิดแล้วจริง ๆ" หญิงสาวกล่าว พร้อมเตรียมจะเบี่ยงตัวเดินจากไป แต่ทันใดนั้น กลุ่มคนพวกนั้นก็วิ่งเข้ามาดักหน้า แล้วกล่าวเสียงเข้ม...
“หากคุณหนูยังดื้อดึง พวกเราต้องใช้กำลังจับคุณหนูกลับจวนแล้วจริง ๆ” เยว่ไป๋ลู่อึ้งเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยเสียงสั่นคลอน
“พวกคุณพูดอะไรฉันไม่เข้าใจ ภาษาก็แปลก ๆ ชุดพวกคุณก็แปลก ๆ ยังจะกล่าวหาว่าฉันคือคุณหนูจ้าวอะไรนั่นอีก ตกลงที่นี่ที่ไหนกันแน่”
“นี่ที่คือหนานจิง เหตุใดคุณหนูจึงถามแปลก ๆ”
“พวกคุณน่ะสิแปลก หนานจิงไม่มีสถานที่แบบนี้สักหน่อย” สิ้นเสียงของเยว่ไป๋ลู่ หญิงตัวเล็กผิวขาวก็เดินเข้ามาแล้วเอ่ยขึ้น
“คุณหนูเ้าคะ ระยะเวลาเพียงสองวัน คุณหนูคิดว่าจะหนีออกมาจากจวนได้ไกลเพียงใด ตอนนี้พวกเรายังยืนอยู่ในเมืองหนานจิงแห่งราชวงศ์ิ!” สิ้นเสียงของหญิงผู้นั้นทำให้ความรู้สึกของเยว่ไป๋ลู่หล่นวูบในทันที
‘ราชวงศ์ิงั้นเหรอ’ เธอทบทวนในใจ แล้วหันมองไปรอบ ๆ เป็ทุ่งหญ้าสีเขียวโล่งกว้าง ไม่มีแม้แต่ตึกสักหลัง ไม่มีสถานที่ราชการใด ๆ ในระยะที่สายตามองเห็น ขณะที่เธอกำลังตกอยู่ในความสับสน หญิงสาวผิวขาวคนเดิมก็กล่าวขึ้น
“คุณหนูหนีพวกเราไม่พ้นหรอกเ้าค่ะ เว้นแต่จะะโลงไปในนั้น” นางพูดพลางชี้มือไปยังทะเลสาบลึกที่อยู่เบื้องหน้าก่อนเยว่ไป๋ลู่จะสัดส่ายศีรษะไปมาด้วยความสับสน และความรู้สึกก็ดับวูบไปในที่สุด
ภายในจวนสกุลจ้าว ขุนนางระดับสองของราชวงศ์ิ ภายใต้การปกครองของจักรพรรดิจวิ้นเทียน บ่าวรับใช้วิ่งขวักไขว่อยู่ทั่วจวน พยายามหายาและอาหารมาเตรียมไว้เพื่อดูแลคุณหนูจ้าว ที่หมดสติไปหลังจากพบตัว
“ท่านพี่ เราตามใจนางมากเกินไปหรือไม่?” จ้าวฮูหยินหันมายังสามี พร้อมทำสีหน้ากังวล ขณะที่สายตาของเธอมองไปยังร่างของบุตรสาวที่นอนหมดสติอยู่บนเตียงไม้ขนาดใหญ่ในห้องพักของนาง โดยมีบ่าวรับใช้คอยเฝ้าดูแลใกล้ชิด
ใต้เท้าจ้าวจื่อเฉิง ผู้มีตำแหน่งเป็หัวหน้าผู้ตรวจการฝ่ายซ้าย ได้แต่ถอนหายใจแล้วเอ่ยขึ้น
“ข้าพยายามเต็มที่แล้วให้นางได้แต่งกับคนที่รักนาง ในเมื่อหวังดีแล้วไม่ยอมเชื่อฟัง ก็ให้นางได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง” จ้าวฮูหยินน้ำตารื้นขึ้นมาแล้วเอ่ยขึ้น
“ท่านพี่ตอบรับราชโองการของฮ่องเต้แล้วใช่หรือไม่” ชายกลางคนพยักหน้าเบา ๆ พลันหันมายังภรรยาแล้วยิ้มให้กำลังใจ
“น้องหญิง เราเลี้ยงลูกสาวคนนี้มาอย่างดี ที่ตามใจก็เพราะรักทั้งนั้น เวลานี้นางโตพอที่จะออกเรือนได้ ข้าพยายามแล้วที่จะหาสามีดี ๆ สักคนให้นาง แต่เมื่อหัวใจนางมั่นคงต่อจวิ้นเทียนฮ่องเต้ ก็สุดแล้วแต่นาง” มือบางของจ้าวฮูหยินเอื้อมมาแตะแขนสามีเบา ๆ
“อี้หนิงเป็เด็กเอาแต่ใจ และใคร ๆ ก็รู้ว่าฮ่องเต้ทรงรักจือซินกุ้ยเฟยมากเพียงใด ยังไม่นับพระสนมคนอื่นอีก หากลูกสาวเราคิดอยากเอาชนะขึ้นมา วังหลวงไม่ปั่นป่วนไปหมดเหรอเ้าคะ”
"เ้าวางใจเถิด ตำแหน่งของอี้หนิงเป็เพียงกุ้ยเหริน ย่อมมิอาจเทียบเคียงกับกุ้ยเฟยได้ ไม่ว่านางจะเอาแต่ใจเพียงใด สุดท้ายนางก็ต้องอยู่ในที่ของนาง เพราะนางเป็รองพระสนมทุกคนในวังหลวง" เมื่อสิ้นคำพูดของสามี สีหน้าของจ้าวฮูหยินก็กลับมาสงบนิ่ง
“เช่นนี้ลูกสาวเราจะมีความสุขได้เช่นใด”
“เ้าก็เห็นแล้ว ว่าพวกเราพยายามช่วยนางให้มีชีวิตครอบครัวที่ดี แต่นางเลือกเส้นทางเดินของนางเอง ให้ทุกอย่างเป็บทเรียนก็แล้วกัน” เมื่อกล่าวจบ จ้าวจื่อเฉิงก็หันไปมองยังบุตรสาวด้วยสายตาสั่นไหว แม้จะปกปิดความเ็ปไว้ แต่ลึกลงไปในดวงตานั้นกลับเต็มไปด้วยความห่วงใย
“หลังจากนี้ชะตาชีวิตจะเป็เช่นไร ก็สุดแล้วแต่นางจะกำหนด หมดหน้าที่เราสองคนคอยชี้แนะแล้ว” พูดจบ ชายกลางคนจึงค่อย ๆ เบี่ยงตัวเดินออกจากห้องไป
ท่ามกลางแสงตะเกียงที่ส่องไสว สะท้อนผนังห้องนอนของจ้าวอี้หนิง บรรยากาศอบอวลไปด้วยความเงียบสงบ ข้างกายของนางมีบ่าวรับใช้ผิวขาวเนียน ใบหน้าจิ้มลิ้มนั่งอยู่ใกล้ ๆ คอยดูแลด้วยความใส่ใจ ทั้งคอยพัดเบา ๆ และขยับผ้าห่มให้เข้าที่ทุกครั้งเมื่อนางพลิกกาย
ไม่นานนัก เยว่ไป๋ลู่ที่หมดสติไปเริ่มค่อย ๆ ลืมตาขึ้น ดวงตาของเธอสั่นระริก ความไม่คุ้นเคยกับสิ่งรอบกาย ทำให้เธอรีบเด้งตัวลุกขึ้น หันมองรอบ ๆ อย่างหวาดระแวง
‘ฉันยังไม่ตื่นจากฝันอีกงั้นเหรอ?’ เยว่ไป๋ลู่คิดในใจด้วยความสับสน ดวงตากลมโตเหลือบมองบ่าวรับใช้คนเดิมที่ยังคงนั่งพัดอยู่ข้างกาย
“ฝันซ้อนฝัน” เธออุทานขึ้นเบา ๆ ด้วยความใ ก่อนจะตัดสินใจหยิกแขนตัวเองอย่างแรงเพื่อเรียกสติ ความเจ็บแปลบที่แล่นผ่านผิวทำให้เธอเผลอร้องออกมาก
“อ๊า!”
“คุณหนูเ้าคะ หยิกแขนตัวเองทำไมเ้าคะ”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้