“ผู้มีพระคุณ เสี่ยวโหรวเจ็บ!” เสียงของอสรพิษน้อยเต็มไปด้วยความเ็ป
เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของกู่ไห่ก็เปลี่ยนไป คิ้วขมวดแน่นทันที
บริเวณโดยรอบ ไม่มีผู้ใดกล้าโจมตีแล้ว หากเข้าไปในยามนี้ ก็ไม่ต่างจากการรนหาที่ตาย
เห็นได้ชัด ว่าจักรพรรดิเซียนต้าิ ไม่คิดที่จะจัดการกับชายหนุ่มอีกแล้ว อีกทั้งอรหันต์เหลียนเซิงยังได้ปรากฏตัวออกมาด้วย แม้จะไม่รู้จัก แต่ก็พอได้ยินข่าวมาจากผู้อื่นอยู่บ้าง
ตอนนี้ ผู้ใดก็ตามที่กล้าพุ่งไปข้างหน้า และทำให้พวกเขาโกรธ ก็เท่ากับหาเื่ใส่ตัว
“อรหันต์เหลียนเซิง ท่านหมายความว่าอย่างไร? ช่วยนางได้หรือไม่?” กู่ไห่ถามอย่างกังวล
ภิกษุชราลอยตัวขึ้นสูง
ชายถือคทามองดูอีกฝ่าย พลางกล่าว “เหลียนเซิง? ท่านก็อยู่ที่นี่ด้วยหรือ?”
“อมิตาพุทธ จักรพรรดิเซียนต้าิ ไม่พบกันนาน ท่านเป็อย่างไรบ้าง?” ผู้ทรงศีลประนมมือทั้งสองข้างเข้าหากัน พร้อมกล่าว
“หึ! เหตุใดไม่อธิบายให้เขาเข้าใจชัดเจนเล่า ลูกท้อร้อยปีหกลูกนั่น มันมากเกินไป ขืนยังให้นางกินอีก จิตปฐีของจักรพรรดินีหนี่วาก็จะเสียหายแล้ว!” บุรุษชุดดำกล่าว น้ำเสียงเ็า
“อรหันต์เหลียนเซิง โปรดดูทีเถิด ท่านสามารถช่วยให้นางฟื้นได้หรือไม่?” ชายหนุ่มเอ่ยอย่างร้อนใจ
ภิกษุชรามองดูอสรพิษน้อย ก่อนขมวดคิ้ว
“เนื่องจากจิตทั้งสามยังไม่กระจัดกระจาย การคืนชีพของนางจึงมิใช่เื่ยาก ขอเพียงมีสมุนไพริญญาที่ทรงพลังเท่านั้น
ทว่า ลูกท้อร้อยปีของท่านเหล่านี้ แม้จะมีพลังมากกว่าสมุนไพริญญาอื่นๆ แต่ก็เป็ยาอายุวัฒนะ หาใช่สมุนไพร สรรพคุณจึงรุนแรงเกินไป
ดังนั้น ไม่เพียงไร้ประโยชน์ในการฟื้นพลังชีวิตของเสี่ยวโหรว แต่ยังเป็อันตรายต่อนางด้วย
ท่านหัวหน้ากู่ จิตปฐีของเสี่ยวโหรวนั้นเป็ของจักรพรรดินีหนี่วา ไม่ช้าก็เร็ว ย่อมต้องกลับคืนสู่เ้าของ มิสู้ใช้โอกาสนี้ ทำให้นางฟื้นคืนชีพ ไม่ดีกว่าหรือ?” ผู้ทรงศีลแนะ
กู่ไห่จ้องอีกฝ่ายเขม็ง กำหมัดแน่น สูดหายใจเข้าออกเพื่อระงับโทสะ
แม้ว่าภิกษุชราจะอธิบายเพียงครั้งเดียว แต่ด้วยสติปัญญาของชายหนุ่ม มีหรือจะไม่เข้าใจ? อรหันต์เหลียนเซิงสามารถช่วยนางได้ แต่ไม่ยอมช่วย!
“จิตปฐี? จิตปฐีที่กลับชาติมาเกิด? หากจิตปฐีกลับคืนสู่จักรพรรดินีหนี่วา นางจะยังคงเป็เสี่ยวโหรวอยู่หรือไม่? แล้วจิตแห่งฟ้า และจิตแห่งิญญาของนางล่ะ?” ชายหนุ่มถาม น้ำเสียงกรุ่นโกรธ
“จิตแห่งฟ้าและจิตแห่งิญญาของนาง จะหลอมรวมเข้ากับจิตทั้งสองของจักรพรรดินีหนี่วา แม้จิตส่วนใหญ่จะเป็ของจักรพรรดินีหนี่วา แต่จิตปฐีจะไม่เปลี่ยนแปลง” จักรพรรดิเซียนต้าิที่อยู่ไม่ไกลอธิบาย
ผู้ทรงศีลประนมสองมือ พยักหน้ายืนยัน
“จิตปฐีไม่เปลี่ยนแปลง เช่นนั้น เสี่ยวโหรวจะยังจำทุกอย่างก่อนหน้านี้ได้ ใช่หรือไม่?” ชายหนุ่มมองอรหันต์เหลียนเซิง
ภิกษุชราพยักหน้า “ย่อมจำได้ ความทรงจำของเสี่ยวโหรวก็คือความทรงจำของจักรพรรดินีหนี่วา นางมีหรือจะลืม? เพียงแต่จิตส่วนใหญ่เป็ของนาง ความทรงจำทั้งหมดที่เป็เสี่ยวโหรว จะกลายเป็เพียงส่วนหนึ่งในความทรงจำของจักรพรรดินีหนี่วาเท่านั้น!”
กู่ไห่กอดอสรพิษน้อยในอ้อมแขน มองดูทุกคน ดวงตาปรากฏแววไม่เต็มใจ
“ผู้มีพระคุณ เสี่ยวโหรวทนไม่ไหวแล้วเ้าค่ะ!” นางกล่าวด้วยน้ำเสียงเ็ป
ชายหนุ่มไม่ชอบความรู้สึก ที่ไม่อาจช่วยชีวิตคนข้างตัวได้ เห็นได้ชัดว่าผู้อื่นช่วยได้ แต่กลับไม่ช่วย เขารู้สึกเหมือนย้อนกลับไปเมื่อปีนั้น ที่ตนเองไม่สามารถช่วยภรรยา เฉินเซียนเอ๋อร์เอาไว้ได้... อีกแล้ว? เป็เช่นนี้อีกแล้ว?
“เร็วเข้า! จิตปฐีของจักรพรรดินีหนี่วากำลังจะเสียหาย” ชายถือคทากล่าวเร่ง
กู่ไห่ไม่สนใจอีกฝ่าย แต่มองอสรพิษน้อยที่กำลังอ่อนแอแทน “เสี่ยวโหรว ที่พวกเขากล่าวมา ได้ยินหรือไม่? เ้ายินดีจะเปลี่ยนเป็คนอื่นหรือไม่? ความทรงจำยังคงอยู่ แต่ตัวตนของเ้าจะเปลี่ยนไป”
“เื่เช่นนี้ เหตุใดถึงได้ถามนาง?” จักรพรรดิเซียนต้าิกล่าว
“ถ้าเต็มใจ ข้าจะส่งเ้าไป! แต่หากไม่เต็มใจ ข้าจะช่วยให้เ้าหลุดพ้นจากความเ็ปนี้!” เขากัดฟันกล่าว
“เ้ากล้าหรือ!” ชายชุดดำคำราม
ตูม!
ทันใดนั้น ขนนกยูงจำนวนนับไม่ถ้วนก็ปรากฏขึ้นรอบๆ ราวกับว่าหากอีกฝ่ายกล้าสังหารอสรพิษน้อย เขาก็พร้อมจะลงมือทันที
ฮึ่ม!
แม่ทัพผู้กล้าที่อยู่ใต้ร่างกู่ไห่ ชี้ทวนวงเดือน์ไปยังจักรพรรดิเซียนต้าิ ด้วยท่าทีพร้อมต่อสู้
ชายหนุ่มมองดูบุรุษชุดดำด้วยสายตาเยียบเย็น แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายแข็งแกร่งมาก แต่ก็หาได้เกรงกลัวไม่
เสี่ยวโหรวตัวสั่นน้อยๆ “เปลี่ยนเป็คนอื่น? เสี่ยวโหรวยังเจอผู้มีพระคุณได้อีก และสามารถคิดถึงท่านได้... ข้าเต็มใจ! ข้าเต็มใจเปลี่ยนเ้าค่ะ!”
ฟู่!
ชายถือคทาถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก
ดวงตากู่ไห่ที่มองอสรพิษน้อยในอ้อมแขน เต็มไปด้วยอารมณ์ซับซ้อน เขาหันหน้าไปมองผู้ทรงศีล และกล่าวว่า “อรหันต์เหลียนเซิง ข้าหวังว่าท่านจะไม่โป้ปด”
“อมิตาพุทธ ทุกคำที่อาตมากล่าวมา ล้วนเป็ความสัตย์จริง!” ภิกษุชรายืนยัน พลางประนมมือ
“นำทางไป!” เขาร้องบอกจักรพรรดิเซียนต้าิ
“หึ!” บุรุษชุดดำแค่นหัวเราะ ก่อนจะหมุนตัว และเหาะไปยังยอดเขาที่อยู่ห่างออกไป
กุบกับๆ!
กู่ไห่ควบคุมกองทัพ ให้ทะยานไปยังยอดเขาที่อยู่ห่างไปทันที
ผู้ทรงศีลยืนกลางเวหา และมองดูเงาหลังของชายหนุ่ม ก่อนทอดถอนใจ “กู่ไห่ ที่อาตมาทำไปก็เพื่อตัวท่านเอง หากวันนี้จักรพรรดินีหนี่วาไม่คืนชีพ สิ่งที่ท่านต้องเผชิญ ย่อมมิใช่แค่จักรพรรดิเซียนต้าิเพียงผู้เดียว แต่จะถูกตามล่า จนใต้หล้านี้ไม่มีที่ให้หลบซ่อน!”
แม้ว่ากองทัพอาชาจะจากไป และเปิดทางเข้าสู่ต้นท้อร้อยปีแล้ว แต่อรหันต์เหลียนเซิงก็ยังคงอยู่ในบริเวณใกล้ๆ นั้น
ผู้ฝึกตนนับไม่ถ้วนที่อยู่รายรอบ ต่างมีแววตาลังเล
“บางที... ตอนนี้เราอาจจะชิงมันมาได้สำเร็จก็เป็ได้” ในใจของผู้คนมากมาย ต่างเต็มไปด้วยความหวัง
อย่างไรก็ตาม ผู้ฝึกตนส่วนใหญ่ก็ยังไม่กล้าผลีผลาม จากนั้นไม่นาน ก็มีคนที่หักห้ามใจตัวเองไม่ได้
ฟิ้ว!
ชายผู้นั้นทะยานไปยังต้นท้อร้อยปี ด้วยท่าทางตื่นเต้น
“แย่แล้ว!” สีหน้าของผู้ฝึกตนจำนวนมาก เปลี่ยนไปทันที พากันร้องะโด้วยความโกรธเคือง
ฟิ้ว!
ทันใดนั้น ขนนกยูงก็บินเข้ามา
ปัง!
ชายผู้นั้นและอสูรเมฆาของเขาถูกผ่าครึ่ง ก่อนจะร่วงหล่นพื้น
เฮือก!
ผู้คนต่างสูดหายใจด้วยความหวาดกลัว
จักรพรรดิเซียนต้าิซึ่งกำลังเหินลงไปด้านล่าง หันหน้ากลับไปมองท้องฟ้าอย่างเยือกเย็น และเอ่ยว่า “ตราบใดที่ข้ายังอยู่ ผู้ใดกล้าขยับ ข้าจะสังหารมันผู้นั้นเสีย!”
เขาพูดด้วยน้ำเสียงแ่เบา แต่กลับดังก้องในหูผู้คน ทำให้แทบทุกคน ณ ที่แห่งนั้น รู้สึกหวาดผวา
ไม่มีผู้ใดกล้าเข้าใกล้ต้นท้ออีก แม้แต่คุณชายเก้า ที่เวลานี้มีสีหน้าไม่น่าดูนัก
กู่ไห่และพวกเกือบมาถึงยอดเขาแล้ว บนนั้นมีชายชุดดำซึ่งมีตราพระอาทิตย์จำนวนมากนั่งคุกเข่าทำความเคารพอยู่
“ยินดีต้อนรับการกลับมาของจักรพรรดินีหนี่วา!” กลุ่มชายชุดดำกล่าว พร้อมก้มศีรษะคารวะ
“เปิดโลง!” ชายถือคทาะโสั่ง
“ขอรับ!”
ปัง!
ชายชุดดำกลุ่มหนึ่ง ค่อยๆ เปิดฝาโลงศพขนาดสิบจั้งออก
ในโลง เต็มไปด้วยหมอกสีขาวจำนวนมาก เมื่อฝาโลงถูกเปิดออก คลื่นพลังชี่ก็พุ่งปะทะใบหน้าผู้คน เห็นได้ชัดว่าหมอกเ่าั้ คือพลังชี่จำนวนมากที่ถูกกักเก็บเอาไว้
ตอนนี้ภายในโลงศพ เต็มไปด้วยหมอกสีขาวที่กำลังปั่นป่วน บริเวณปลายด้านหนึ่งของโลงศพ สามารถมองเห็นศีรษะ ที่ติดอยู่กับร่างงูของหญิงสาวผู้หนึ่ง ซึ่งงดงามยิ่ง
เธอผู้นั้นมีใบหน้าคล้ายคลึงกับอสรพิษน้อยจนน่าใ แต่ดูเจริญวัยกว่ามาก
หญิงสาวเบิกตาขึ้นเล็กน้อย มองดูเสี่ยวโหรว ด้วยท่าทางโรยแรง
เสี่ยวโหรวก็มองอีกฝ่ายอย่างอ่อนล้าเช่นกัน
วิ้ง!
ร่างของอสรพิษน้อยสั่นเทา
“เสี่ยวโหรวเป็อย่างไรบ้าง?” ชายหนุ่มถามอย่างเป็ห่วง
“ผู้มีพระคุณ ข้ารู้สึกคุ้นเคยกับนางมาก ดูเหมือนว่าหญิงสาวในโลงศพนั่น คือข้าจริงๆ!” นางตอบเสียงสั่นเครือ
“อืม!” กู่ไห่พยักหน้า
ภายในโลง หญิงสาวค่อยๆ เปิดริมฝีปากกล่าวว่า “เข้ามาในปากข้า รวมกันเป็หนึ่งเดียว”
พูดพลาง ศีรษะของหญิงสาวก็เปลี่ยนเป็ศีรษะงูขนาดใหญ่ ขากรรไกรของงูตัวนั้นเปิดกว้าง ราวกับกำลังรอจะกลืนเสี่ยวโหรวลงไป
เมื่อมองดูปากนั้น อสรพิษน้อยก็เริ่มร้องไห้อีกครั้ง
“ผู้มีพระคุณ!” นางมองชายหนุ่มด้วยแววตาเศร้าหมอง
“เสี่ยวโหรว ข้าขอโทษ ครานี้ ข้าไร้ความสามารถที่จะช่วยเ้า” กู่ไห่ก็โศกเศร้ามากเช่นกัน
“ผู้มีพระคุณ ใส่ข้าเข้าไปในปากของนางเถอะเ้าค่ะ!” อสรพิษน้อยกล่าว พร้อมสะอื้นไห้
นางยังคงจ้องมองกู่ไห่ไม่ละสายตา รู้ว่านี่อาจเป็ครั้งสุดท้ายที่จะได้มองอีกฝ่ายเช่นนี้
ชายหนุ่มพยักหน้า นำเสี่ยวโหรวใส่เข้าไปในปากอสรพิษั์อย่างระมัดระวัง
ขากรรไกรของงูใหญ่ค่อยๆ หุบลง
ในปากที่ค่อยๆ ปิดลงนั้น เสี่ยวโหรวร่ำไห้ พลางร้องเรียก “ผู้มีพระคุณ!”
“เสี่ยวโหรว กล่าวมา!” กู่ไห่มองอสรพิษน้อย
“หาก... หากมีวันใด ที่ข้ากลายเป็คนไม่ดี ท่านต้องเตือนข้านะเ้าคะ ว่าในอดีตข้าเคยเป็คนดีเพียงใด” เสี่ยวโหรวเอ่ยเสียงดัง
ขากรรไกรของงูั์ปิดสนิทแล้ว
อสรพิษน้อยถูกความมืดมิดปกคลุมสิ้น ่เวลาที่นางถูกความมืดกลืนกินนั้น นางพูดอีกประโยคหนึ่งออกมา “เคยรักท่านเพียงใด!”
แต่น่าเสียดาย ที่ขากรรไกรงูใหญ่ปิดลงแล้ว จึงไม่มีผู้ใดได้ยินคำพูดสุดท้ายของนาง บางทีเสียงแ่เบานั้น คงมีแต่ตัวนางเท่านั้นที่ได้ยิน
เสี่ยวโหรวอยากกล่าวคำนี้ออกมานานแล้ว ั้แ่ตอนที่กู่ไห่ช่วยเหลือนางจากผางเทียนหลง หัวใจของนางก็ได้มอบให้เขาไปแล้ว
ใน่เวลาที่สิ้นหวังและโศกเศร้านั้น ไม่มีผู้ใดรับฟังเสียงของข้า ทุกคนล้วนเฝ้ามองดูข้าตายอย่างเืเย็น มีเพียงผู้มีพระคุณเท่านั้น... มีเพียงเขา ที่ปรากฏตัวออกมาช่วยเหลือนาง ราวกับวีรบุรุษ
ไม่มีผู้ใดรู้ว่าอสรพิษน้อยรู้สึกอย่างไรในตอนนั้น เหมือนได้ฟื้นคืนจากความตาย ผู้มีพระคุณได้ให้ชีวิตใหม่ และช่วยนางเอาไว้จากเงื้อมมือยมทูต
เสี่ยวโหรวอยากจะบอกความในใจกับผู้มีพระคุณ แต่กังวลว่าเขาจะไล่ตัวเองไป จึงได้แต่แอบซ่อนถ้อยคำนี้ไว้ในใจ
ผู้มีพระคุณไม่จำเป็ต้องทำสิ่งใด ขอเพียงได้อยู่เคียงข้างเขาทุกวัน ได้เจอกันบ่อยๆ แค่นั้น หากท่านยิ้มให้ข้าบ้าง ชีวิตนี้ข้าก็พอใจแล้ว
อสรพิษน้อยรู้สึกว่าตัวเองมีความสุขมาก ขอแค่สามารถอยู่กับผู้มีพระคุณได้ ก็ดีใจยิ่ง
คำพูดเ่าั้แค่เก็บไว้ในใจ ให้ตัวเองรู้ก็พอ ไม่จำเป็ต้องให้ผู้มีพระคุณทราบ ขอแค่สามารถอยู่ในสายตาเขาได้ก็เพียงพอ
ทว่า เหตุใด์จึงมิให้ข้าสมปรารถนา? เพราะเหตุใดกัน?
ผู้มีพระคุณ ข้าชอบท่าน! อีกไม่นานข้าจะเปลี่ยนไปเป็คนอื่น…
… อีกไม่นาน ก็ไม่อาจรักท่านได้!
ในปากงูั์ เสี่ยวโหรวร้องไห้ด้วยความเสียใจ เกลียดความขี้ขลาดของตัวเอง เกลียดความอ่อนแอของตน ที่แม้กำลังจะตาย... ก็ไม่อาจกล่าวคำพูดเหล่านี้ได้
วูบ!
ร่างของอสรพิษน้อยค่อยๆ ละลายหายไปในปากงูั์พร้อมกับน้ำตาแห่งความเศร้าโศก รู้สึกว่าตัวเองอ่อนกำลังลงเรื่อยๆ ก่อนสติจะค่อยๆ ดับไป
เสี่ยวโหรวเหมือนกำลังฝัน ในความฝันนั้น นางได้กลายเป็มนุษย์ และกำลังเดินจับมือกู่ไห่ เดินไปในทุ่งสมุนไพร ทั้งสองพูดคุยกันอย่างมีความสุข บอกเล่าเื่ราวให้แก่กัน
หากวันใดข้าเปลี่ยนเป็คนไม่ดี! ผู้มีพระคุณต้องจดจำเอาไว้
ว่าข้าเคยเป็คนดีเพียงใด...
... และครั้งหนึ่ง ข้าเคยรักท่านเพียงใด!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้