สตรีชุดดำในหุบเขานางนี้งดงามยิ่งนัก ทันทีที่ลมกระโชกแรงพัดผ่านเส้นผมของนาง แสงอัสนีสีม่วงดำก็แปรเปลี่ยนเป็ัสายฟ้าทะยานขึ้นสู่ท้องนภา
หลายคนตื่นใกับภาพตรงหน้าอย่างยิ่ง ทักษะนี้คืออะไร? ทุกคนล้วนไม่เคยได้ยินมาก่อน อีกทั้งภายใต้แสงจันทราสีดำสนิทยังมีร่างที่มืดมนนั่งแกว่งขาบนพระจันทร์เสี้ยวด้วยท่าทางไร้เดียงสาและมีชีวิตชีวา
ด้านนอกหุบเขา ดวงตาทั้งสามบนใบหน้าขนาดใหญ่โชติ่ดุจดวงอาทิตย์ที่แผดเผา พร้อมปลดปล่อยแสงแห่งการทำลายล้างที่น่าสะพรึงกลัว พลังโดยรอบราวกับเสาเพลิงหมุนซึ่งมีการก่อตัวของยันต์ที่ซับซ้อนและเต็มไปด้วยพลังลึกลับแสนโกลาหล ทั้งยังสามารถทำลายห้วงมิติเวลาได้โดยตรง
สตรีชุดดำมีดวงตาเฉียบคมและมีจิติญญาแห่งการต่อสู้ที่สูงส่ง นางเปลี่ยนอิริยาบถโดยวางมือไว้บนหน้าอก พลันฝ่ามือมีลำแสงส่องสว่างซึ่งเปี่ยมด้วยพลังอันน่าสะพรึงกลัวเสมือนัที่ทะยานสู่ท้องนภาและพยายามจะะเิ์
ทันใดนั้นก็มีเสียงกรีดร้องแหลมคมราวกับใบมีดดังขึ้นจนหนังศีรษะของผู้คนเหน็บชา ทั้งยังเกิดคลื่นแห่งหายนะที่สั่นะเืผู้คนตามมาอย่างต่อเนื่อง
ม้วนภาพ หมากรุก และคัมภีร์ล้วนเบ่งบานด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์และต่อต้านการรุกรานของพลังทำลายล้าง ทว่าเถาวัลย์หัวผีพันิญญาก็ยังใช้โอกาสนี้ในการลอบสังหาร
คราวนี้ศิษย์จื๋อซิวที่ไม่ทันตั้งตัวคนหนึ่งก็จบชีวิตด้วยน้ำมือของเถาวัลย์หัวผีพันิญญา ศพที่สองกลืนหายไปในค่ายกลโลหิตและกลายเป็เครื่องสังเวย
ยามนั้นหนิงเทียนค้นพบโดยบังเอิญว่า ยันต์กระดาษในร่างของเถาวัลย์หัวผีพันิญญาเกิดการเปลี่ยนแปลงด้วยการดูดซับพลังจากค่ายกลโลหิต
เงาสีแดงสามตาขู่คำรามแล้วพุ่งหาเถาวัลย์หัวผีพันิญญาในทันที ทว่าพลังของมันกลับทะลุผ่านไปราวกับทั้งสองฝ่ายอยู่ในพื้นที่ที่ทับซ้อนแต่เชื่อมโยงอยู่ในห้วงมิติเวลาเดียวกัน แม้เงาจะซ้อนทับกัน แต่ร่างกายกลับไม่อาจัักันได้
การก่อตัวของค่ายกลโลหิตเก้าวงแหวนก่อให้เกิดเปลวเพลิงอันท่วมท้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อเงาสีแดงสามตาและมีประโยชน์ต่อเงาปีศาจสองปีกมากขึ้นเรื่อยๆ
ร่างกายของหนิงเทียนเจิดจ้าไปด้วยแสงสว่างไสว หินิญญาจำนวนมากถูกดูดกลืน เป็เหตุให้เขาทะลวงเข้าสู่่กลางของขอบเขตจิตหยั่งลึกขั้นหกได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งเนตรกลั่นกรองซึ่งเป็ทักษะเก้าเนตร์ระดับแรกก็กำลังเข้าสู่่สมบูรณ์อันยิ่งใหญ่
ศิษย์แต่ละสำนักพยายามอย่างเต็มที่เพื่อปกป้องตนเอง พวกเขารวมตัวกันสร้างค่ายกลเพื่อป้องกันการโจมตีของเถาวัลย์หัวผีพันิญญา
ซูอวิ๋นกลอกตาไปมา นางกำลังคิดหาหนทางยืมมีดฆ่าคนเพื่อกำจัดหนิงเทียน ส่วนชิวซานอวิ๋นแม้จะลงเรือลำเดียวกับนางแล้ว แต่สิ่งที่เขากำลังคิดอยู่ตอนนี้ไม่ใช่การกำจัดหนิงเทียน แต่เป็วิธีหนีออกจากสถานที่บ้าๆ แห่งนี้
โลงศพลายเพลิง แดนลับนี้ช่างหลอกลวงยิ่งนัก ในที่ซึ่งมีการปราบปรามโลงศพไม้สีดำ ทว่ากลับให้ศิษย์จากทุกสำนักเข้ามาด้านใน
หากออกไปไม่ได้ ทุกคนจะต้องตาย แล้วในเวลาเช่นนี้ใครยังอยากสนใจหนิงเทียนอีกเล่า?
ในสถานที่แสนชุลมุนและอันตรายนี้ นอกจากหนิงเทียนแล้วยังมีอีกคนหนึ่งที่ถือโอกาสฝึกฝนอยู่ ซึ่งก็คือสตรีชุดม่วงผู้สวมผ้าคลุมหน้าจากตำหนักดาวเหนือ และยามนี้ตะเกียงสำริดโบราณก็ตกอยู่ในมือของนางแล้ว
สมบัติล้ำค่าชิ้นนี้ประกอบด้วยชุดทักษะพิเศษซึ่งต้องใช้ความสามารถระดับสูงและเงื่อนไขที่เข้มงวดในการฝึกฝน จากนั้นจึงจะสามารถใช้พลังของตะเกียงสำริดโบราณได้อย่างเหมาะสม
หินิญญารอบกายหนิงเทียนะเิออกทีละก้อน พลังิญญาที่อุดมสมบูรณ์ซึ่งได้รับการชี้นำจากยุทธศาสตร์ครอง์และทักษะดวงเนตร ก็ช่วยเสริมความแข็งแกร่งของเขาให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
หนิงเทียนใช้เลขเก้าหลักไขความลึกลับของทักษะดวงเนตร แล้วใช้ยุทธศาสตร์ครอง์เป็แรงผลักดัน เมื่อรวมกับความช่วยเหลือจากพลังิญญาที่มีมากเพียงพอ เขาจึงสามารถฝึกฝนทักษะเก้าเนตร์ระดับแรกจนสมบูรณ์ได้ในคราวเดียวและมีทัศนวิสัยดีขึ้นร้อยเท่า นั่นเพราะยามนี้ม่านตาของเขาผ่านการเสริมความแข็งแกร่งแล้ว
“ระดับสองของทักษะเก้าเนตร์คือม่านตาคู่”
ทักษะดวงเนตรใหม่ปรากฏขึ้นในใจของหนิงเทียน ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้แก่เขา
ระดับแรกของเก้าเนตร์คือเนตรกลั่นกรอง เหตุใดระดับสองจึงกลายเป็ม่านตาคู่?
หนิงเทียนพยายามทำความเข้าใจเื่นี้อย่างถี่ถ้วน ในไม่ช้าเขาก็เข้าใจพื้นฐานของทักษะเก้าเนตร์
เก้าเนตร์เป็ทักษะดวงเนตรที่ลึกลับอย่างยิ่ง โดยมีสามทัศนวิสัย สามดวงเนตร และสามม่านตา รวมเป็เก้าระดับ
สามวิสัยทัศน์ ได้แก่ เนตรกลั่นกรอง ญาณทิพย์ และนิมิต
สามดวงเนตร ได้แก่ เนตรเสน่ห์ เนตรเชื่อมจิต และเนตรเทวัญ
ส่วนสามม่านตา ได้แก่ ม่านตาคู่ ม่านตามายา และม่านตา์
แต่ละระดับมีหน้าที่แตกต่างกันและมีความลึกลับของตนเอง โดยจุดสำคัญของเนตรกลั่นกรอง คือ การมองระยะไกลและการมองเห็นที่คมชัดในยามวิกาล
ม่านตาคู่ประกอบด้วยม่านตาเพลิงและม่านตาสุวรรณ ม่านตาเพลิงเป็ดวงตาที่ลุกเป็ไฟ สามารถมองเห็นไฟได้ด้วยญาณ ส่วนม่านตาสุวรรณนั้นแฝงพลังแห่งดวงอาทิตย์ สามารถแยกท้องนภาด้วยพลังงานอันเฉียบแหลมและสามารถทำลายความคิดชั่วร้ายทั้งปวงได้
ม่านตาสุวรรณมีไว้ป้องกัน ขณะที่ม่านตาเพลิงมีไว้โจมตี เมื่อม่านตาทั้งสองประสานกันเป็หนึ่ง ก็เป็การเสริมความสามารถในการมองทะลุภาพมายาและปกป้องจิตใจ
ศาสตร์ม่านตาคู่นั้นลึกลับกว่าศาสตร์เนตรกลั่นกรอง และการฝึกฝนก็ยากกว่าเช่นกัน
หนิงเทียนจดจ่ออยู่กับการจำลองด้วยเลขเก้าหลัก เพื่ออนุมานโครงสร้างและหลักการทำงานของม่านตาคู่ ในไม่ช้าเขาก็เข้าใจมันได้อย่างแท้จริง
ในเวลาต่อมา เถาวัลย์หัวผีพันิญญายังคงพยายามทุกวิถีทางที่จะลอบสังหาร ขณะที่ศิษย์แต่ละฝ่ายก็พยายามอย่างยิ่งที่จะปกป้องตนเอง สตรีชุดดำต่อสู้กับั์สามตาอย่างดุเดือด ส่วนเงาปีศาจสองปีกและเงาสีแดงสามตาก็ห้ำหั่นกันในศึกนองเื
ทุกเสียงกรีดร้องมักมาพร้อมกับเสียงคำรามเสมอ และผู้ที่ได้รับาเ็มากที่สุดก็คือเหล่าจื๋อซิวอย่างไม่ต้องสงสัย
ขณะที่ค่ายกลโลหิตเก้าวงแหวนค่อยๆ เปิดใช้งาน หุบเขาแห่งนี้ก็นองไปด้วยเื พลังปราบปรามเข้าระงับเงาสีแดงสามตา ทันใดนั้นแผ่นดินก็สั่นะเืและเกิดเป็รอยแตกร้าว
ใบหน้าขนาดใหญ่กลางอากาศแผดเสียงคำรามลั่นเพื่อพยายามทำลายหุบเขา แต่ก็ถูกสตรีชุดดำหยุดยั้งไว้
ยามนี้ม่านตาคู่ของหนิงเทียนสมบูรณ์แล้ว รูม่านตาทั้งสองปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา รูหนึ่งสีแดง รูหนึ่งสีทอง ซึ่งมาพร้อมกับพลังการโจมตีและป้องกัน
ด้วยความสามารถของม่านตาเพลิงและม่านตาสุวรรณ เขามองเห็นอย่างชัดเจนว่ายันต์กระดาษในร่างเถาวัลย์หัวผีพันิญญาได้รวมพลังลึกลับแปดจุดเข้าด้วยกัน และเชื่อมโยงด้วยรอยเืทั้งแปด โดยขาดเพียงเหยื่อคนสุดท้ายเท่านั้น แล้วค่ายกลโลหิตเก้าวงแหวนของเถาวัลย์หัวผีพันิญญาก็จะสามารถเปิดใช้ได้อย่างสมบูรณ์
พลันเปลวเพลิงข้างกายหนิงเทียนเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่อาจคาดเดาได้ ภายในมีเก้าสีผสมกันแต่กลับมีเพียงสีแดงและสีทองเท่านั้นที่โดดเด่น ขณะที่เจ็ดสีที่เหลือนั้นมีแสงสลัวและหมองคล้ำ ซึ่งดูสอดคล้องกับเก้าเนตร์ของเขา
เมื่อใช้ทักษะดวงเนตร หนิงเทียนจึงเห็นได้อย่างชัดเจนว่าภายในห้วงอากาศที่เผาไหม้เต็มไปด้วยวัตถุลึกลับที่ซ่อนอยู่ในหมอกทมิฬ เช่นเดียวกับสิ่งชั่วร้ายที่ยังหลบซ่อนอยู่ในแสงและกลุ่มหมอก
เมื่อหนิงเทียนเงยหน้ามองใบหน้าขนาดใหญ่นอกหุบเขา สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
ใบหน้านั้นอยู่ในหมอกแห่งความโกลาหลและสร้างขึ้นจากอักขระจำนวนมาก ทั้งยังมีความตระหนักรู้ในตนเองอย่างสมบูรณ์ หลังจากััได้ถึงการจ้องมองของหนิงเทียน มันก็ปลดปล่อยพลังทำลายล้างใส่เขาทันที
พลันม่านตาสุวรรณเจิดจรัสด้วยแสงสีทอง และต้านทานกระแสคลื่นพลังที่บุกรุกทางจิต ทำให้จิตใจของหนิงเทียนมั่นคง แต่เขาก็ยังไม่อาจต้านทานพลังอันน่าสะพรึงกลัวของใบหน้าั์ได้
“หลบเร็วเข้า!” หนิงเทียนะโเสียงดังพร้อมถอยหนีอย่างรวดเร็ว
ทว่าสายเกินไปแล้ว ยามนี้รัศมีสีดำแผ่กระจายออกไปราวกับนกสยายปีก เสียงกัมปนาททำลายห้วงอากาศจนแตกเป็เสี่ยง และวิกฤตของหนิงเทียนก็ได้รับการแก้ไขแล้ว
หลังจากเห็นผู้คนเคลื่อนไหว หนิงเทียนก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง ฉากตรงหน้าของเขากลายเป็สตรีชุดดำที่ออกมาจากโลงศพไม้สีดำ และยามนี้ในปากของใบหน้าั์ก็มีิญญาต่างแดนติดอยู่
หนิงเทียนขยับริมฝีปากเล็กน้อยด้วยความสงสัย ทว่าสตรีชุดดำกำลังเหลือบมองมาด้วยสีหน้ากึ่งยิ้ม และมุมปากที่ยกขึ้นเล็กน้อยก็ดูเหมือนจะซ่อนบางอย่างไว้
เสียงคำรามที่น่าพรั่นพรึงทำให้ผู้คนหวาดหวั่น ศิษย์หลักจื๋อซิวคนหนึ่งกรีดร้องขึ้นมาอย่างไม่ยินยอม เขาถูกเถาวัลย์หัวผีพันิญญาโจมตีก่อนจะโยนเข้าไปในค่ายกลโลหิตเก้าวงแหวนจุดสุดท้าย
ใบหน้าขนาดใหญ่แผดเสียงคำรามอย่างเกรี้ยวกราด เห็นได้ชัดว่ามันััได้ถึงการตื่นขึ้นของค่ายกลโลหิตเก้าวงแหวน
ในขณะเดียวกัน เถาวัลย์หัวผีพันิญญาก็ปล่อยคลื่นพลังอันน่าเกรงขามซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากยันต์กระดาษ ก่อนที่แผนที่จิติญญาในนั้นจะเริ่มส่องประกาย
“กุญแจทั้งเก้าดอกรวมตัวสร้างสรรค์โลก เหตุใดถึงไม่กลับไปยังที่ของตนเล่า?”
บรรดาซิงซิวและจื๋อซิวเกลียดมันเข้ากระดูกดำ พวกเขาไม่สนใจคำสั่งของเถาวัลย์หัวผีพันิญญาแม้แต่น้อย ทว่าหลังจากค่ายกลโลหิตเก้าวงแหวนถูกเปิดใช้อย่างสมบูรณ์ ทั้งหุบเขาก็พังทลายลง พลังอันรุนแรงทำให้เกิดกฎเกณฑ์ที่ยากจะโต้แย้ง อีกทั้งพลังนั้นยังดึงดูดให้ม้วนภาพ กระดานหมากรุก ตัวหมาก และคัมภีร์เคลื่อนหาการก่อตัวของค่ายกลโลหิตเก้าวงแหวนโดยอัตโนมัติ
หนิงเทียนจับร่างของซิ่งอวี่เจวียนเอาไว้ คัมภีร์หลิงฮวงเหนือศีรษะเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง ก่อให้เกิดเสียงหวีดหวิวน่าพิศวงราวัคำราม ก่อนจะสร้างความเชื่อมโยงที่ละเอียดอ่อนกับม้วนภาพ กระดานหมากรุก และตัวหมาก
หนิงเทียนสับสนอย่างยิ่ง ในการต่อสู้กับซูอวิ๋นและหลิวจินอวิ๋นก่อนหน้านี้ คัมภีร์หลิงฮวงปฏิเสธภาพพันทิวเขาเหมันต์และธาราทักษิณในวสันตฤดูอย่างชัดเจน เช่นนั้นเหตุใดยามนี้พวกมันถึงร่วมมือกันได้?
เสียงฉินแ่เบาสั่นคลอนห้วงอากาศด้วยความไพเราะและเรียบง่าย ในที่สุดสมบัติจากหอฉินที่ไม่เคยปรากฏขึ้นก็เผยตัวออกมาแล้ว
ใบหน้าั์ยังคงคำรามอยู่ด้านนอกหุบเขา ส่วนเงาสีแดงสามตาที่กำลังสู้รบก็ถอยกลับอย่างรวดเร็ว สตรีชุดดำก็กลับมาที่หุบเขาเช่นกัน
การก่อตัวของค่ายกลโลหิตเก้าวงแหวนกลืนกินพลังฟ้าดิน กัดกร่อนทุกสิ่ง และสร้างพื้นที่ทำลายล้างซึ่งฉีกกระชากแม้กระทั่งห้วงอากาศ
เสียงฉีกขาดมาพร้อมรอยแตกมากมายของมวลอากาศโดยรอบ สายอัสนีจำนวนนับไม่ถ้วนฟาดลงมาทุกทิศทางด้วยพลังที่ท่วมท้น
แม้ทักษะม่านตาคู่ของหนิงเทียนจะถูกแทรกแซง แต่เขายังคงมองเห็นด้วยม่านตาเพลิงว่าใต้แผ่นดินกำลังถูกทำลาย อีกทั้งนอกหุบเขายังมีเส้นจิติญญาที่แตกสลายทอดยาวออกไปจำนวนมาก จนเผยประตูมิติที่บิดเบี้ยวกลางห้วงอากาศ
ยามนี้ทั่วทั้งหุบเขาเหลือผู้รอดชีวิตเพียงสิบแปดคน ในหมู่พวกเขามีซิงซิวซึ่งมีกุญแจสี่ดอก จื๋อซิวแปดคนกับกุญแจสามดอก และหยวนซิวสามคนซึ่งมีกุญแจสองดอก โดยกุญแจทุกดอกล้วนอยู่ในค่ายกลโลหิตเก้าวงแหวนที่แปลกประหลาด
เปลวเพลิงลุกโชนไปทั่วเวหา การสู้รบอย่างดุเดือดภายใต้สายหมอกแห่งความโกลาหลซึ่งเกิดขึ้นในโลงศพลายเพลิงทำให้เกิดภาพอันน่าสยดสยอง เงาสีแดงสามตาจำนวนมากกระโจนเข้ามาพยายามหยุดสิ่งที่เกิดขึ้น แต่กลับถูกทำลายลงในชั่วพริบตา
ค่ายกลโลหิตเก้าวงแหวนของเถาวัลย์หัวผีพันิญญานั้นชั่วร้ายมาก มันสามารถทำลายข้อจำกัดของโลงศพลายเพลิงได้ ซึ่งเป็สิ่งยืนยันได้ว่านี่เป็วิชาเหนือธรรมชาติ ซึ่งสตรีชุดดำกำลังมองดูมันด้วยความสนใจ
การต่อสู้ยังดำเนินไปเรื่อยๆ หุบเขาแตกเป็เสี่ยง เปลวเพลิงพุ่งขึ้นสูง ความวุ่นวายมากมายถาโถมเข้ามาและก่อให้เกิดพลังบดขยี้ที่สลายห้วงมิติโดยรอบ และพลังแห่งความขัดแย้งก็ฉีกอากาศออกจากกันจนก่อให้เกิดความปั่นป่วน
เสียงน่าหวาดกลัวดังก้องไปทั่วบริเวณ มิติเวลาโดยรอบที่พังทลายกลับกลายเป็รูปลักษณ์ที่แท้จริงของค่ายกล
หุบเขาหายไป ไร้ร่องรอยของความโกลาหล ทันใดนั้นประตูมิติเก้าแห่งก็เปิดขึ้นบนวงล้ออักขระขนาดมโหฬาร
หนิงเทียนสร้างการเชื่อมต่อกับประตูมิติแห่งหนึ่งผ่านคัมภีร์หลิงฮวง และเ้าของกุญแจดอกอื่นก็กระทำสิ่งที่คล้ายกัน
ภายในวงล้ออักขระขนาดใหญ่และเรียบง่ายมีอักขระแปลกประหลาดสลักไว้บนพื้น และเชื่อมต่อกับประตูมิติทั้งเก้า
สตรีชุดดำยืนอยู่เพียงลำพังโดยไร้ร่องรอยของเงาปีศาจสองปีก ผมของนางเปล่งประกายราวสายฟ้า และดวงตาที่เต็มไปด้วยเปลวเพลิงก็กำลังจ้องมองวงล้ออักขระตรงหน้า
“วงล้อมิติลี้ลับ ประตูทั้งเก้าบานเชื่อม์ ที่แท้ก็เป็เช่นนี้”
หนิงเทียนและคนอื่นๆ ไม่เข้าใจสถานการณ์นี้เลย แต่เถาวัลย์หัวผีพันิญญากลับรู้อะไรบางอย่าง ก่อนจะใช้ใบเถาทั้งเก้าโจมตีประตูทั้งหมดตามลำดับ
หนิงเทียนสะบัดนิ้วไปตามสัญชาตญาณ พลันต้นหญ้าข้างกายเขาก็สั่นไหว ปราณกระบี่ทำให้ห้วงอากาศแตกเป็เสี่ยงและทำลายใบเถาจนขาดวิ่น
สตรีชุดม่วงจากตำหนักดาวเหนือก็มีปฏิกิริยาแบบเดียวกัน นางทำลายใบเถาที่พุ่งไปทางประตูมิติจนย่อยยับ และเมื่อคนอื่นๆ เห็นเช่นนี้พวกเขาก็รีบลงมือตาม ทว่าส่วนใหญ่ก็สายเกินไป
“อ๊ะ! ช่วยจับข้าไว้เร็ว!” กระดานหมากรุกลอยมาแบกผู้เป็เ้าของ ก่อนจะพาพุ่งเข้าไปในประตูมิติและหายไปอย่างไร้ร่องรอย
ทันใดนั้นภาพไตรดาราเคียงจันทรา ห้าพยัคฆ์ลงเขา อินทรีสยายปีก ธาราทักษิณในวสันตฤดู และตัวหมากต่างก็รวบรวมศิษย์แต่ละสำนักลอยเข้าไปในประตูมิติเช่นกัน
นอกจากสตรีชุดดำและเถาวัลย์หัวผีพันิญญาแล้ว ยามนี้ก็เหลือเพียงหนิงเทียน ซิ่งอวี่เจวียน ซูอวิ๋น ชิวซานอวิ๋น และสตรีชุดม่วงผู้สวมผ้าคลุมหน้าซึ่งยังคงยืนอยู่บนวงล้อ
